หนุ่มเยอรมันไอเดียแปลก จ้างเพื่อนบ้านปั๊มลูกให้เมีย
คนบางคนเชื่อว่าชีวิตคู่จะสมบูรณ์ได้ก็ต่อมเมื่อมีลูกเป็นโซ่ทองคล้องใจ แต่จะทำอย่างไรเมื่อโซ่ทองเส้นนั้นไม่ได้มีขายตามร้านทอง ในขณะที่เจ้าตัวก็ไม่มีสมรรถภาพพอจะผลิตลูกได้เองเสียด้วย เรื่องของเดเมเทรียส เซาโปลอส นักการตลาดชาวเยอรมันอาจดูไม่เข้าท่านัก แต่ก็น่าจะเป็นอุทาหรณ์สอนใจสามีภรรยาคู่อื่นได้บ้างว่าบางทีการมีลูกก็ไม่จำเป็นอย่างที่คิดเดเมเทรียส เซาโปลอส แต่งงานอยู่กินกับทรูต ภรรยาคนสวยมาถึง 4 ปีเต็ม สองปีแรกชีวิตคู่เป็นไปอย่างราบรื่น แต่พอย่างเข้าปีที่สาม เดเมเทรียสก็เริ่มรู้สึกว่าบ้านที่วางเปล่า ไร้เสียงหัวเราะของเด็กๆ นั้นช่างเงียบเหงาสิ้นดี ผิดกับบ้านของแฟรงค์ มอส เพื่อนบ้านคุณพ่อลูกสองที่อบอุ่นรื่นเริงสมกับเป็นครอบครัวจริงๆ ทรูตเองก็มีความรู้สึกไม่ต่างจากสามี สองผัวเมียจึงร่วมแรงร่วมใจพยายามมีลูกกันสุดความสามารถ แต่ขนาดว่าขยันทำการบ้านแถมโอทีรอบดึกกันถี่ยิบ ผ่านไปเกือบปีทรูตก็ยังไม่มีท่าทีว่าจะท้อง เดเมเทรียสจึงตัดสินใจพาเมียไปปรึกษาสูตินารีแพทย์ แล้วก็พบว่าโปรเจ็คต์ผลิตทายาทของทั้งคู่ต้องจบลงเพียงเท่านี้ เนื่องจากคุณสามีเดเมเทรียสนั้นเป็นหมัน
ความจริงที่ได้รู้ทำให้สองผัวเมียเศร้าไปพักใหญ่ แต่เดเมเทรียสยังไม่ยอมถอดใจง่ายๆ เพราะผลการตรวจบอกว่าร่างกายของทรูตปกติดีสามารถมีลูกได้ตลอดเวลา เขาจึงเชื่อว่าแค่ใช้เทคนิคพลิกแพลงนิดๆ หน่อยๆ อย่างไรเสียโซ่ทองคล้องใจตัวน้อยก็ต้องมาเกิดให้เชยชมแน่นอน เทคนิคพลิกแพลงที่ว่านี้คงมีที่นี่ที่เดียว นั่นคือเดเมเทรียสตั้งใจจะหาผู้ชายสักคนมาทำหน้าที่สามีผลิตลูกกับทรูตเป็นการชั่วคราว และคนที่เขามองเอาไว้ได้แก่ แฟรงค์ มอส เพื่อนบ้านหนุ่มหุ่นกำยำ ที่เขาและทรูตสนิทสนมเป็นอย่างดี
ที่เดเมเทรียสเลือกแฟรงค์ไม่เพียงเพราะฝ่ายหลังเป็นคนแข็งแรง น่าจะมีโอกาสมีลูกได้ง่าย แต่ยังเพราะลูกสาวสองคนของแฟรงค์หน้าตาสวยน่ารักกันทั้งคู่ เดเมเทรียสจึงเชื่อว่าถ้าภรรยามีลูกกับแฟรงค์บ้าง ทายาทที่ได้ก็จะต้องน่ารักน่าชังเช่นเดียวกัน หลังจากเกลี้ยกล่อมทรูตจนเธอยอมทำตามแผนแล้ว เดเมเทรียสก็ไปติดต่อแฟรงค์พร้อมกับเสนอเงินค่าจ้างให้ 75,000 บาท แลกกับการให้เขามีเพศสัมพันธ์กับทรูตสัปดาห์ละ 3 ครั้ง เป็นเวลา 6 เดือน
ถ้าแฟรงค์ไม่ได้ยินเองกับหู ก็คงไม่เชื่อว่าจะมีข้อเสนอพิสดารและสามีที่ใจกว้างขนาดนี้ แต่เมื่อเดเมเทรียสยืนยันเป็นมั่นเป็นเหมาะ เพื่อนบ้านหนุ่มก็โอเค เซย์เยสทันทีโดยไม่อิดออด นับจากวันนั้นทรูตและแฟรงค์จึงบังเอิญ มีธุระต้องไปต่างเมืองเป็นประจำทุกอาทิตย์ ซ้ำยังจำเพาะต้องไปในวันและเวลาเดียวกันด้วย ตลอดเวลาที่เมียรักแต่งตัวสวยขับรถออกจากบ้านเพื่อไปนอนกับชายอื่น เดเมเทรียสไม่เคยปริปากห้าม แต่ในใจของเขาก็อดที่จะหึงไม่ได้ หลายครั้งที่เขาแกล้งพาลใส่ทรูต บางครั้งก็หาเรื่องทะเลาะเพื่อให้เธอไปสายกว่าเวลานัด แม้จะรู้ว่าทั้งหมดนี้ไม่ใช่ความผิดของทรูตเลย แต่เดเมเทรียสก็อดระแวงไม่ได้ว่าเมียรักอาจพอใจที่จะมีความสัมพันธ์กับแฟรงค์ ซึ่งหล่อเหลากว่าเขาหลายขุม
"บางครั้งผมอยากเจาะยางรถหรือปล่อยน้ำมันออกจากถัง อะไรก็ได้ที่จะทำให้เธอต้องอยู่บ้าน" เดเมเทรียสสารภาพ
เดเมเทรียสเฝ้าภาวนาทุกวันให้ทรูตตั้งท้องเร็วๆ ความทุกข์ที่สุมอยู่ในหัวใจเขาจะได้จบสิ้นลงเสียที แต่ดูเหมือนพระเจ้าจะไม่ได้ยินเสียงอ้อนวอนของคนอยากมีลูกคนนี้ เพราะผ่านไปถึงครึ่งปี รูปร่างของทรูตก็ยังบอบบางเหมือนเดิม ไม่ได้ใกล้เคียงกับลักษณะของคนท้องเลยแม้แต่กระผีกริ้น พออดรนทนหึงไม่ไหว เดเมเทรียสก็ตัดสินใจลากเพื่อนบ้านไปตรวจร่างกายให้รู้ดำรู้แดง แล้วเขากับแฟรงค์ก้ได้คำตอบที่เหมือนกับฟ้าผ่าลงมากลางวันแสกๆ ว่า พ่อเจ้าประคุณแฟรงค์ มอส นักรับจ้างปั๊มลูกที่เดเมเทรียสอุตส่าห์ไว้ใจให้เชยชมเมียรักเป็นหมัน มีลูกไม่ได้เช่นกัน
ผลการตรวจทำเอาสองหนุ่มตะลึงงัน แต่พอตั้งสติได้เดเมเทรียสก็โวยวายลั่น เขาเชื่อว่าผลการตรวจจะต้องมีปัญหาอย่างแน่นอน ประจักษ์พยานก็คือแฟรงค์นั้นมีลูกถึงสองคน ถ้าเขาบ่มีไก๊ไร้น้ำยาอย่างที่หมอว่า มีหรือจะไม่มีปัญญาผลิตเด็กหญิงสองคนออกมาดูโลกได้ ฝ่ายหมอก็ยืนยันหนักแน่นเช่นกันว่าเครื่องมือแพทย์ทันสมัยราคาหลายล้านของโรงพยาบาลไม่มีทางทำงานพลาด ส่วนลูกของหนุ่มแฟรงค์จะมาได้อย่างไร เป็นลูกเขาจริงหรือมีนกกาเหว่ามาไขาทิ้งไว้ หมอไม่ขอออกความเห็นให้เสียจรรยาบรรณ
ตลอดทางกลับบ้าน เดเมเทรียสและแฟรงค์พยายามช่วยกันหาเหตุผลมาหลอกตัวเองให้เชื่อว่าสิ่งที่เพิ่งรู้มาไม่เป็นความจริง แต่ยิ่งคิดทั้งคู่ก็ยิ่งจนด้วยเกล้า เพราะถ้าแฟรงค์ไม่ได้เป็นหมัน ทรูตก็น่าจะตั้งท้องนานแล้ว เนื่องจากครึ่งปีที่ป่านมานี้ ทั้งเธอและเพื่อนบ้านหนุ่มพยายามดูแลสุขภาพอย่างดี มีเพศสัมพันธ์ไม่ขาดระยะ และคำนวณวันเวลาไข่สุกตามที่หมอแนะนำทุกอย่าง คำตอบของปริศนาดำมืดนี้จึงเหลือความน่าจะเป็นเพียงประการเดียว และเป็นความน่าจะเป็นที่แฟรงค์ไม่อยากให้เกิดขึ้นเลย
เย็นวันนั้นแฟรงค์กับภรรยาจับเข่าคุยกันอยู่หลายชั่วโมง แต่ไม่ว่าจะถูกต้อนอย่างไร เอมิลี่ภรรยาของเขาก็ยืนกรานไม่รู้ไม่เห็นกับสิ่งที่เขาพูด เอ็มโกรธมาก เธอตะโกนใส่หน้าผมว่า "นี่เธอกำลังบอกว่าฉันมีชู้ใช่มั้ย นั่นใช่มั้ยที่เธอคิด" แฟรงค์เล่า "เธอยืนยันหนักแน่นมากจนผมเกือยจะเชื่อว่าผมแค่เข้าใจผิดไป พระเจ้า! ผมอยากให้ตัวเองเข้าใจผิดจริงๆ นะ"
แต่แล้วผู้ร้ายปากแข็งก็ยอมจำนน เมื่อแฟรงค์บอกว่าจะพาลูกๆ ไปตรวจดีเอ็นเอ และถ้าผลการตรวจไม่ออกมาอย่างที่ควรจะเป็น เขาก็จะฟ้องหย่ากับเธอทันที
"ตอนแรกเธอแทบจะฆ่าผมเลยล่ะ แต่พอผมขู่ว่าจะเอาผลตรวจไปยื่นต่อศาล แล้วเธอจะต้องออกไปมือเปล่า ไม่ได้เงินค่าเลี้ยงดูแม้แต่เก๊เดียว เอ็มก็เริ่มร้องไห้ แล้วสารภาพว่าเธอแอบมีความสัมพันธ์กับเพื่อนชายคนหนึ่งมาหลายปีแล้ว มันเหมือนฝันร้ายจริงๆ"
ชู้รักของเอมิลี่เป็นเพื่อนร่วมงานของเธอนั่นเอง หลังจากเธอมีผลผลิตของชู้อยู่ในท้องจนต้องลาออกจากงานมาเป็นแม่บ้าน ทั้งสองก็ยังลักลอบขโมยกินกันเรื่อยมา จนกระทั่งเอมิลี่ได้ลูกสาวคนที่สอง เธอกับชู้รักถึงได้เลิกรากันไป
"ผมเคยสงสัยเหมือนกันว่าทำไมลูกๆ หน้าตาไม่คล้ายผมเลย แต่พวกเธอยังเด็ก ผมเลยคิดว่าเดี๋ยวพอโตขึ้นหน้าตาก็คงเปลี่ยนไปเอง ผมเชื่อใจเอ็มมาตลอด ไม่เคยคิดแม้แต่นิดว่าเธอจะทำอย่างนี้ ครอบครัวของเราไม่มีวันจะเป็นเหมือนเดิมอีกแล้ว" แฟรงค์บอกเศร้าๆ
คำสารภาพจากปากเอมิลี่เปรียบเหมือนเครื่องหมายรับรองคุรภาพของแฟรงค์ และทำลายความหวังของเดเมเทรียสกับทรูตจนไม่เหลือชิ้นดี สองผัวเมียรู้สึกตรงกันว่าพวกเขาถูกโลกทั้งใบเล่นตลก ถูกหลอกให้เป็นคนโง่ ถูกทรยศหักหลังอย่างเลือดเย็น ทั้งคู่จึงตัดสินใจฟ้องเรียกค่าจ้าง 75,000 บาทคืนจากแฟรงค์โดยไม่รอช้า ในฐานะที่รับเงินไปแล้วแต่ทำงานไม่สำเร็จตามเป้า
แต่เมื่ออ้อยเข้าปากช้างแล้ว มีหรือช้างงาหักที่ชื่อแฟรงค์จะยอมคืนให้ง่ายๆ ขนาดกำลังมึนชีวิต พ่อเจ้าประคุณก็ยังมีแก่ใจเซย์โนทันควัน พร้อมอ้างว่าเขาไม่เค้ย...ไม่เคยบอกเลยว่าการปั่มปั๊มของตัวเองจะได้ผล
ทนายของแฟรงค์ให้สัมภาษณ์ว่า "แฟรงค์อาจจะรับเงินค่าจ้างก็จริง แต่พวกเขาสัญญากันปากเปล่า ไม่มีเอกสารยืนยัน และแฟรงค์ก็ไม่เคยรับประกันด้วยว่า หลังจากมีเพศสัมพันธ์กับทรูตแล้ว เธอจะต้องท้องร้อยเปอร์เซ็นต์ เขาบอกได้แต่เพียงว่าได้พยายามทำงานตามที่ได้รับการว่าจ้างอย่างเต็มความสามารถ และไม่เคยบ่ายเบี่ยงข้อเรียกร้องของทรูตซึ่งเป็นนายจ้างเลย ตลอดเวลาที่พวกเขามีอะไรกันทั้ง 72 ครั้ง
ถึงแม้ว่าเรื่องราวสี่คนอลเวงยังเป็นคดีคาราคาซังอยู่ในชั้นศาล แต่มันก็ช่วยเตือนใจคนอยากมีลูกคู่อื่นๆได้อีกมากมาย รวมทั้งให้บทเรียนกับเดเมเทรียสและทรูตว่า ชีวิตเงียบเหงาแบบเก่าก็ไม่ได้เลวร้ายเกินไปนัก เมื่อเทียบกับความวุ่นวายที่กำลังเผชิญอยู่