เมื่อแม่น้ำเคนเนเบคแข็งตัว ฝังชายคนหนึ่งไว้ในน้ำแข็ง มาร์ธา บัลลาร์ดจึงถูกเรียกตัวไปตรวจสอบศพและหาสาเหตุการตาย ในฐานะหมอตำแยและผู้รักษา เธอจึงรับรู้เรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นเบื้องหลังห้องปิดในฮัลโลเวลล์ได้อย่างกว้างขวาง บันทึกประจำวันของเธอคือบันทึกการเกิด การตาย อาชญากรรม และความล้มเหลวที่เกิดขึ้นในชุมชนที่ใกล้ชิดกัน หลายเดือนก่อนหน้านี้ มาร์ธาได้บันทึกรายละเอียดของการข่มขืนที่ถูกกล่าวหาว่ากระทำโดยสุภาพบุรุษที่ได้รับการยกย่องมากที่สุดสองคนของเมือง ซึ่งขณะนี้พบศพหนึ่งในนั้นอยู่ในน้ำแข็ง แต่เมื่อแพทย์ประจำท้องถิ่นบิดเบือนข้อสรุปของเธอ โดยประกาศว่าการเสียชีวิตเป็นอุบัติเหตุ มาร์ธาจึงถูกบังคับให้สืบสวนคดีฆาตกรรมอันน่าตกใจนี้ด้วยตนเองตลอดฤดูหนาวหนึ่ง ขณะที่การพิจารณาคดีใกล้เข้ามา เสียงกระซิบและอคติทวีความรุนแรงขึ้น มาร์ธาก็พยายามค้นหาความจริงอย่างไม่ลดละ บันทึกประจำวันของเธอกลายเป็นศูนย์กลางของเรื่องอื้อฉาวในไม่ช้า เชื่อมโยงคนที่เธอรักเข้ากับเรื่องราว และบีบบังคับให้มาร์ธาต้องตัดสินใจว่าจะภักดีต่อใคร ผลงานชิ้นล่าสุดของแอเรียล ลอว์ฮอน เต็มไปด้วยความเฉียบแหลม ซับซ้อน และแหวกแนว นำเสนอเรื่องราวของวีรสตรีผู้ไม่ได้รับการยกย่อง ผู้ปฏิเสธที่จะยอมรับสิ่งใดที่น้อยกว่าความยุติธรรมในยุคที่ผู้หญิงถูกมองว่าดีที่สุดที่จะมองเห็นแต่ไม่ควรได้ยินThe Frozen River คือเรื่องราวอันน่าตื่นเต้น ตึงเครียด และอ่อนโยน เกี่ยวกับหญิงสาวผู้โดดเด่น ผู้ซึ่งได้ทิ้งมรดกอันหาที่เปรียบมิได้ แต่กลับถูกลืมเลือนไปจนทุกวันนี้
Remain
เมื่อเทต โดโนแวน สถาปนิกชาวนิวยอร์กเดินทางมาถึงเคปคอดเพื่อออกแบบบ้านพักตากอากาศให้เพื่อนสนิท เขาหวังที่จะเริ่มต้นชีวิตใหม่ เขาเพิ่งออกจากโรงพยาบาลจิตเวชสุดหรูที่ซึ่งเขาเข้ารับการบำบัดอาการซึมเศร้าเฉียบพลัน และยังคงต่อสู้กับความเจ็บปวดจากการสูญเสียน้องสาวสุดที่รัก การเปิดเผยของซิลเวียก่อนเสียชีวิต ว่าเธอสามารถมองเห็นวิญญาณที่ยังคงผูกพันกับโลกมนุษย์ ซึ่งเป็นพรสวรรค์ที่สืบทอดกันมาในครอบครัว ทำให้เทตรู้สึกไม่สบายใจ เขาพยายามอย่างหนักที่จะเชื่อในสิ่งต่างๆ มากกว่าที่เหตุผลจะอธิบายได้ แต่เมื่อเขาย้ายไปพักอาศัยที่เบดแอนด์เบรคฟาสต์เก่าแก่ริมชายฝั่งเคป เขาได้พบกับหญิงสาวสวยนามเรน ผู้ซึ่งจะท้าทายทุกสมมติฐานที่เขามีเกี่ยวกับโลกที่มีเหตุผลและถูกควบคุมของเขาเทตและเรนพบว่าพวกเขากำลังสร้างสายสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกันในทันที ซึ่งเป็นสิ่งที่ทั้งคู่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน แต่เทตค่อยๆ ค้นพบว่าภายใต้ชีวิตในเมืองเล็กๆ อันแสนสุขของเรนนั้น ความเกลียดชัง ความอิจฉาริษยา และความโลภกำลังกัดกร่อน คุกคามความสัมพันธ์อันเปราะบางของพวกเขาในขณะที่มันกำลังเบ่งบาน เทตตระหนักว่าเพื่อปลดปล่อยเรนจากชะตากรรมที่สิ้นหวังมากขึ้นเรื่อยๆ เขาจะต้องขุดคุ้ยความจริงเกี่ยวกับอดีตของเธอก่อนที่เวลาจะหมดลง... การแสวงหาที่จะทำให้เขาสงสัยว่าเราจะเชื่อเรื่องราวที่เราเล่าเกี่ยวกับตัวเราเองและกฎเกณฑ์ที่ควบคุมการดำรงอยู่ของเราได้หรือไม่ ความรัก—แม้สามารถเปลี่ยนแปลง—บางครั้งก็อาจน่ากลัวเรื่องราวเกี่ยวกับพลังของอารมณ์ที่เหนือธรรมชาติRemain ถามเราทุกคนว่า: ความรักสามารถปลดปล่อยเราไม่เพียงแต่จากความโศกเศร้าที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเราเท่านั้น แต่ยังรวมถึงขอบเขตของชีวิตและความตายด้วยหรือไม่
Wild Dark Shore
ครอบครัวหนึ่งบนเกาะห่างไกล หญิงสาวลึกลับถูกคลื่นซัดขึ้นฝั่ง พายุที่กำลังโหมกระหน่ำบนขอบฟ้าDominic Salt และลูกๆ สามคนของเขาเป็นผู้ดูแล Shearwater เกาะเล็กๆ ไม่ไกลจากแอนตาร์กติกา ชีร์วอเตอร์ ซึ่งเคยเป็นธนาคารเมล็ดพันธุ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ครั้งหนึ่งเคยเต็มไปด้วยนักวิจัย แต่เมื่อระดับน้ำทะเลสูงขึ้น ชาวซอลท์สจึงกลายเป็นผู้อาศัยรายสุดท้าย จนกระทั่งในพายุที่รุนแรงที่สุดเท่าที่เกาะเคยเผชิญ หญิงสาวคนหนึ่งถูกซัดขึ้นฝั่งอย่างลึกลับ ความโดดเดี่ยวส่งผลกระทบต่อชาวซอลท์ส แต่ขณะที่พวกเขาดูแลโรวัน หญิงสาวผู้นี้ให้กลับมาแข็งแรงอีกครั้ง พวกเขาก็เริ่มรู้สึกเหมือนว่าเธออาจเป็นสิ่งที่พวกเขาต้องการ โรวันซึ่งคุ้นเคยกับการปกป้องตัวเองมานาน เริ่มจินตนาการถึงอนาคตที่เธออาจได้เป็นของใครสักคนอีกครั้งแต่โรวันไม่ได้บอกความจริงทั้งหมดเกี่ยวกับเหตุผลที่เธอเลือกชีร์วอเตอร์ และเมื่อเธอค้นพบวิทยุที่ถูกทำลายและหลุมศพที่เพิ่งขุดขึ้นใหม่ เธอก็ตระหนักว่าโดมินิกกำลังเก็บงำความลับของตัวเองไว้ เมื่อพายุบนชีร์วอเตอร์ทวีกำลังแรงขึ้น พวกเขาทั้งหมดต้องตัดสินใจว่าจะไว้ใจกันมากพอที่จะปกป้องเมล็ดพันธุ์อันล้ำค่าที่พวกเขาดูแลอยู่ก่อนที่จะสายเกินไปหรือไม่ และในที่สุดพวกเขาจะสามารถทิ้งโศกนาฏกรรมในอดีตไว้เบื้องหลังเพื่อสร้างสรรค์สิ่งใหม่ร่วมกันได้หรือไม่นวนิยายที่เต็มไปด้วยความพลิกผันอันน่าทึ่ง ความงดงามอันน่าพิศวง และความรักอันดุเดือดWild Dark Shore เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับทางเลือกที่เป็นไปไม่ได้ที่เราต้องตัดสินใจเพื่อปกป้องคนที่เรารัก แม้ว่าโลกที่อยู่รอบตัวเราจะหายไปก็ตาม
We Are All Guilty Here
ยินดีต้อนรับสู่นอร์ธฟอลส์ เมืองเล็กๆ ที่ทุกคนรู้จักกันหมด หรืออย่างน้อยก็คิดแบบนั้น
จนกระทั่งถึงคืนแห่งดอกไม้ไฟ เมื่อเด็กสาววัยรุ่นสองคนหายตัวไป และเมืองก็ลุกเป็นไฟ
สำหรับเจ้าหน้าที่เอ็มมี่ คลิฟตัน มันเป็นเรื่องส่วนตัว เธอปฏิเสธเมื่อลูกสาวของเพื่อนสนิทต้องการความช่วยเหลือ และตอนนี้เธอต้องพาลูกสาวกลับบ้าน
แต่ขณะที่เอ็มมี่ค้นหาปริศนาที่เด็กสาวทิ้งไว้ เธอกลับพบว่าเธอไม่เคยรู้จักพวกเธอเลย ไม่มีใครรู้จักพวกเธอเลย
เด็กสาววัยรุ่นทุกคนล้วนมีความลับ แต่ใครจะฆ่าเพื่อมันได้ล่ะ? แล้วเมืองนี้ยังมีความลับอะไรซ่อนอยู่อีก
Framed in Death
แมนฮัตตันเต็มไปด้วยแกลเลอรีและนักสะสมกระเป๋าหนักที่สามารถสร้างอาชีพศิลปินได้เพียงแค่โบกมือ แต่ชายคนหนึ่งกลับทำงานอย่างยากลำบาก พรสวรรค์ของเขาไม่มีใครรู้จัก ขณะที่ศิลปินฝีมือด้อยกว่ากลับอาบแสงแห่งความรุ่งโรจน์ที่เขาเชื่อว่าควรจะเป็นของเขา พรุ่งนี้ เขาสาบานว่าเมืองจะคึกคักไปด้วยผลงานของเขาแท้จริงแล้ว ก่อนรุ่งสาง ร้อยโทอีฟ ดัลลัสกำลังรีบมุ่งหน้าไปยังบ้านของเจ้าของแกลเลอรีสองคน ซึ่งประตูทางเข้าของพวกเขาถูกเปลี่ยนเป็นสถานที่เกิดเหตุอาชญากรรมอันน่าสะพรึงกลัวในชั่วข้ามคืน หญิงสาวผู้ไร้ชีวิตคนหนึ่งถูกแต่งกายอย่างประณีตบรรจงและจัดท่าทางให้เหมือนกับต้นแบบของปรมาจารย์ชาวดัตช์เมื่อนานมาแล้ว และดัลลัสก็พุ่งเข้าไปสู่การสืบสวนของเธอ
Boleyn Traitor
เจน โบลีนเฝ้าดูจากเงาของราชสำนักทิวดอร์ ซึ่งความลับมีความสำคัญ ทางเลือกทุกอย่างล้วนอันตราย และแม้แต่เสียงกระซิบแผ่วเบาที่สุดก็สามารถผนึกชะตากรรมของราชินีได้ สำหรับเจน การเอาชีวิตรอดต้องอาศัยทุกบทบาทที่เธอได้รับมอบหมาย ไม่ว่าจะเป็นภรรยาผู้เปี่ยมด้วยความรักที่ปกปิดความสงสัย น้องสาวผู้ภักดีต่อแอนน์ โบลีนในช่วงที่อำนาจสูงสุด และสายลับผู้เชื่อฟังผู้ระมัดระวังคำพูด แต่ในศาลที่ปกครองด้วยความทะเยอทะยานและดาบทรราช เจนต้องอาศัยไหวพริบอันเฉียบคมและไหวพริบอันชาญฉลาดเพื่อเอาชนะคนรอบข้าง โดยรู้ดีว่าการผิดพลาดเพียงครั้งเดียวอาจทำให้เธอสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่าง ฟิลิปปา เกรกอรี นำเสนอเรื่องราวอันไม่เคยเปิดเผยของเจน โบลีนอย่างเชี่ยวชาญ เปิดเผยตำนานอันซับซ้อนของสตรีผู้กล้าที่จะมีชีวิตรอดไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไรก็ตาม Boleyn Traitor เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบละครประวัติศาสตร์อันน่าตื่นเต้นและผู้อ่านที่หลงใหลในความซับซ้อนของยุคทิวดอร์ หนังสือเล่มนี้ เป็นหนังสือที่ไม่ควรพลาด
The Great Alone
ปี 1974 Ernt Allbright กลับบ้านจากสงครามเวียดนามในฐานะชายที่เปลี่ยนไปและแปรปรวน เมื่อเขาตกงานอีกครั้ง เขาจึงตัดสินใจอย่างหุนหันพลันแล่นที่จะย้ายภรรยาและลูกสาวขึ้นเหนือไปอยู่ที่ชายแดนที่แท้จริงของอเมริกาCora จะทำทุกอย่างเพื่อชายที่เธอรัก แม้ว่าหมายถึงการตามเขาไปสู่สิ่งที่ไม่รู้จักก็ตาม เลนี วัยสิบสามปี ติดอยู่ในความสัมพันธ์ที่เร่าร้อนและเต็มไปด้วยความขัดแย้งของพ่อแม่ เธอแทบไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องยอมเดินต่อไป กล้าที่จะหวังว่าดินแดนใหม่นี้จะทำให้ครอบครัวของเธอมีอนาคตที่ดีกว่าในมุมหนึ่งอันห่างไกลและดิบเถื่อนของอลาสกา ครอบครัวออลไบรท์ได้พบกับชุมชนที่เป็นอิสระอย่างแข็งแกร่ง ประกอบด้วยชายผู้แข็งแกร่งและหญิงผู้แข็งแกร่งยิ่งกว่า วันเวลาอันยาวนานที่แดดส่องถึงและความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ของชาวท้องถิ่นช่วยชดเชยการขาดการเตรียมตัวและทรัพยากรที่ร่อยหรอของผู้มาใหม่แต่เมื่อฤดูหนาวใกล้เข้ามาและความมืดคืบคลานเข้ามา สภาพจิตใจที่เปราะบางของเอิร์นท์ก็ทรุดโทรมลง ในไม่ช้าอันตรายภายนอกก็ดูจืดชืดเมื่อเทียบกับภัยคุกคามจากภายใน ในกระท่อมเล็กๆ ของพวกเขาที่ปกคลุมไปด้วยหิมะและถูกปกคลุมไปด้วยราตรีกาลสิบแปดชั่วโมง เลนีและแม่ของเธอได้เรียนรู้ความจริงอันน่าสะพรึงกลัว: พวกเขาต้องพึ่งพาตนเอง
The Briar Club
วอชิงตัน ดี.ซี. ปี 1950 ทุกคนต่างเก็บตัวอยู่ในไบรเออร์วูดเฮาส์ หอพักหญิงล้วนทรุดโทรมใจกลางเมืองหลวงของประเทศ ที่ซึ่งความลับซ่อนเร้นอยู่เบื้องหลังรั้วไม้สีขาว แต่เมื่อเกรซ มาร์ช แม่ม่ายผู้แสนสวยและลึกลับย้ายเข้ามาอยู่ในห้องใต้หลังคา เธอได้ดึงเพื่อนบ้านแปลกๆ ของเธอให้มาเป็นเพื่อนกันอย่างคาดไม่ถึง ได้แก่ ฟลิสส์ สาวสวยชาวอังกฤษผู้สง่างาม ผู้ซึ่งภาพลักษณ์ภรรยาและแม่ที่สมบูรณ์แบบปกปิดบาดแผลลึกๆ ในใจ นอร่า ลูกสาวตำรวจผู้พบว่าตัวเองพัวพันกับแก๊งสเตอร์ลึกลับ เบียทริซ นักเบสบอลผู้ผิดหวัง ซึ่งอาชีพของเธอสิ้นสุดลงพร้อมกับลีกเบสบอลหญิงในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 และอาร์ลีนผู้มีพิษมีภัยและมุ่งมั่น ผู้ซึ่งพุ่งเข้าใส่ความหวาดกลัวสีแดงของแม็คคาร์ธี งานเลี้ยงอาหารค่ำในห้องใต้หลังคาประจำสัปดาห์และชายามบ่ายที่ชงจากหน้าต่างของเกรซกลายเป็นเหมือนยาหอมเยียวยาชีวิตของพวกเขา แต่เธอกลับซ่อนความลับอันน่าสะพรึงกลัวของเธอไว้ เมื่อเหตุการณ์รุนแรงอันน่าตกตะลึงทำให้บ้านพังทลายลง เหล่าสาวๆ จากไบรเออร์คลับต้องตัดสินใจให้เด็ดขาดว่า ใครคือศัตรูที่แท้จริงในหมู่พวกเธอ The Briar Club เป็นนวนิยายที่ถ่ายทอดความหวาดระแวงในยุคแม็คคาร์ธีและสะท้อนถึงบทบาทที่เปลี่ยนไปของผู้หญิงในอเมริกาหลังสงครามนับเป็นนวนิยายที่ใกล้ชิดและน่าตื่นเต้นเกี่ยวกับความลับและความภักดีที่ถูกทดสอบ
Inheritance
ปี 1806: แอสทริด พูล นั่งในชุดเจ้าสาว เปี่ยมล้นไปด้วยความสุข แต่ก่อนที่ชีวิตสมรสของเธอจะสมบูรณ์ เธอถูกฆาตกรรม และแหวนทองคำถูกฉีกออกจากนิ้ว คำพูดสุดท้ายของเธอคือคำสัญญากับคอลลินว่าจะไม่ทิ้งเขาไป... ซอนยา แมคทาวิช นักออกแบบกราฟิก ตกตะลึงเมื่อรู้ว่าพ่อผู้ล่วงลับของเธอมีฝาแฝดที่เขาไม่เคยรู้จักมาก่อน และคอลลิน พูล ลุงที่เพิ่งค้นพบ ได้ยกทรัพย์สินเกือบทั้งหมดของเขาให้เธอ รวมถึงบ้านสไตล์วิกตอเรียนอันโอ่อ่าบนชายฝั่งรัฐเมน ซึ่งพินัยกรรมระบุว่าเธอต้องอาศัยอยู่ที่นั่นอย่างน้อยสามปี เมื่อการหมั้นหมายของเธอถูกยกเลิกไป เธอจึงออกเดินทางเพื่อค้นหาสาเหตุที่ลูกชายทั้งสองถูกแยกจากกันตั้งแต่แรกเกิด และเหตุใดเรื่องราวทั้งหมดจึงถูกเก็บเป็นความลับจนกระทั่งเว็บไซต์ลำดับวงศ์ตระกูลเปิดเผยเรื่องนี้เทรย์ ทนายความสาวที่ทักทายเธอที่คฤหาสน์บนหน้าผาอันกว้างใหญ่ สังเกตเห็นความไม่สบายใจของโซเนีย และยอมรับว่าใช่ สถานที่แห่งนี้มีผีสิง...แต่ก็เพียงเล็กน้อยเท่านั้น โซเนียพบสิ่งของถูกเคลื่อนย้ายและมีเสียงเพลงดังมาจากที่ไหนก็ไม่รู้ เธอเห็นภาพวาดของพ่อแขวนอยู่ในห้องทำงานของลุงผู้ล่วงลับอย่างอธิบายไม่ถูก และภาพเหมือนของผู้หญิงชื่อแอสทริด ซึ่งทนายความเรียกเธอว่า "เจ้าสาวที่สาบสูญคนแรก" เห็นได้ชัดว่าโซเนียได้รับมรดกมากกว่าแค่บ้าน เธอได้รับมรดกคำสาปเก่าแก่หลายศตวรรษ และปริศนาที่ต้องไข หากยังมีความหวังที่จะไขมันได้
The Mirror
เมื่อซอนย่า แม็คทาวิช ได้รับมรดกเป็นคฤหาสน์วิคตอเรียหลังใหญ่ริมชายฝั่งรัฐเมน เธอไม่รู้เลยว่าบ้านหลังนี้มีผีสิง เสียงฝีเท้าที่เธอได้ยินในยามค่ำคืน เสียงประตูปิดดังปัง และเสียงดนตรีที่บรรเลง ไม่ใช่เพียงจินตนาการของเธอ ในความฝัน เธอเห็นภาพอดีตแวบ หนึ่ง แต่ในปัจจุบัน เธอพบภาพเหมือนของ เจ้าสาว และเมื่อเธอเห็นภาพกระจกโบราณ เธอก็รู้สึกดึงดูดใจ เพราะสัมผัสได้ว่ากระจกนั้นซ่อนความลับดำมืดของครอบครัวเอาไว้ จนกระทั่งคืนหนึ่ง กระจกก็ปรากฏขึ้น และซอนย่าก็ล่องลอยผ่านกระจกเงา สู่อดีต และเห็นเจ้าสาวถูกฆาตกรรมในวันแต่งงาน วงแหวนทองคำถูกฉีกออกจากนิ้วของเธอ นี่คือฉากที่จะเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า คำสาปเก่าแก่หลายศตวรรษที่ต้องถูกทำลาย และเป็นปริศนาที่เธอต้องไข หากยังมีความหวังที่จะทำลายคำสาปได้
ขายการ์ตูน pdf Princess หมึกจีน เล่มละ 20 บาท ดูรายละเอียดคลิกรูป
