เครื่องทรมานในอดีต
จากรายการสุดยอดนวัตกรรมยุคพันปี ตอน เครื่องทรมานเครื่องทรมานเป็นความลับด้านมืดของมนุษย์มาหลายพันปีแล้ว เครื่องมือน่าขนลุกที่สร้างมาเพื่อบีบ ยืด เผา และสร้างความเจ็บถึงขีดสุด อะไรคือเครื่องทรมานที่แปลกที่สุดตลอดกาล และมันทำงานได้อย่างไร เรามาสืบสวนประวัติศาสตร์ของเครื่องมือเหล่านี้เพื่อสำรวจวิธีการทรมานที่พิสดาร จักรพรรดิโรมันจอมโหดสวมชุดติดไฟให้เหยื่อจริงหรือ นักทรมานสมัยก่อนได้ประดิษฐ์เครื่องมือที่แยกกระดูกออกจากกันจริงหรือ และท่านเคานท์แดรกคูล่าตัวจริงสร้างความเจ็บปวดให้เชลยให้ตายอย่างช้าๆ ด้วยการใช้หลาวเสียบผ่านร่างด้วยความแม่นยำดุจศัลยแพทย์ นี่คือเรื่องราวของอุปกรณ์แห่งความตายที่โหดเหี้ยมที่สุดในประวัติศาสตร์
เครื่องยืดกระดูก เครื่องฉีกแข้งฉีกขา
ในบันทึกโบราณมีการอธิบายถึงการทำให้บาดเจ็บ การทำให้พิการ และการฆ่าโดยใช้เครื่องทรมาน และบันทึกเหล่านี้กล่าวได้ถูกต้องหรือไม่ ทางรายการจะทดสอบอุปกรณ์ที่ซับซ้อน พิสดารเหล่านี้เพื่อค้นหาคำตอบว่ามันทำงานอย่างไร เรามาเริ่มกันที่เครื่องยืดกระดูก การยืดลำตัวเพื่อสร้างความเจ็บปวดเป็นวิธีทรมานของหลายพันปีก่อน มันถูกกระทำด้วยวิธีการที่ต่างกันแต่มันก็ได้ผลบนหลักการเดียวกัน การยืดลำตัวจนร่างกายฉีกขาดบนจุดที่อ่อนแอที่สุด มีบันทึกทางประวัติศาสตร์อันหนึ่งที่เล่าว่าแรงดึงจะส่งผลต่อร่างกายอย่างไร แต่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์สนับสนุนน้อยมากจนกระทั่งตอนนี้
โดยปกติเรามองว่าข้อต่อคือส่วนที่อ่อนแอที่สุดของร่างกาย เพราะมันไม่มีกระดูกยึดระหว่างข้อต่อ กระดูกเป็นส่วนที่แข็งแรงมากและต้านทานได้ดีมากต่อแรงดึง โดยทั่วไปถ้าจะมีสิ่งใดฉีกขาดจากกัน สิ่งนั้นก็น่าจะเป็นข้อต่อ แต่สมมติฐานนี้อาจจะไม่จริงเสมอไป เพราะนักทรมานสมัยก่อนได้ออกแบบเครื่องจักรที่สามารถสร้างแรงดึงแก่ร่างกายด้วยวิธีที่ไม่ทำให้ข้อต่อเสียหายแต่ทำให้กระดูกแยกขาดออกจากกัน ห้องทรมานนักโทษจะไม่สมบูรณ์แบบเลยถ้าขาดเครื่องฉีกแข้งฉีกขา มันเป็นเครื่องมือที่มีอยู่ดาษดื่นและพบเห็นได้ทั่วไป
เครื่องฉีกแข้งฉีกขานิยมมากอยู่หลายพันปี ถูกใช้ครั้งแรกในกรีกโบราณ การทรมานเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ในระบบกฎหมายในกรีกโบราณ คุณจะทรมานพลเมืองกรีกไม่ได้แต่คุณสามารถทรมานทาสของคุณได้ ทาสในกรีกโบราณถูกมองว่าแทบจะไม่ใช่มนุษย์ พวกทาสถูกมองว่าเป็นแค่เครื่องมือ นักเขียนคนหนึ่งเปรียบว่าทาสเป็นเหมือนกับเท้าของมนุษย์ และในบันทึกทางประวัติศาสตร์ให้ข้อมูลที่น่าสนใจว่าเครื่องฉีกแข้งฉีกขามีผลกับร่างกายอย่างไร พวกเขาใช้รอกค่อยๆ ดึงอย่างเหี้ยมโหดจนข้อต่อของแขนขาหลุดออกจากกัน และสุดท้ายถ้าเพิ่มแรงดึงขึ้นเรื่อยๆ ทีละน้อย จะสามารถดึงกระดูกแยกจากกันได้เลย
สวมเสื้อติดไฟ
และในช่วงเวลาเดียวกันห่างออกไป 600 ไมล์ ในโรมโบราณ จักรพรรดิได้ออกแบบวิธีทรมานที่สร้างความบันเทิงแก่คนดูในโคลอสเซียม มันเรียกว่า "ทูนิคา โมเลสต้า" (Tunica Molesta) มันคือการเผาทั้งเป็นที่เปลี่ยนคนให้เป็นลูกไฟที่มีชีวิต ในโลกโบราณ ความทรมานและความตายถูกนำมาแสดงเพื่อสร้างความบันเทิงแก่คนดูและโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเกมของโรมัน เกมที่มีผู้เข้าชมล้นหลามเต็มอัฒจรรย์ทั่วทั้งพื้นที่อาณาจักรโรมัน
เราเคยได้ยินเรื่องราวที่น่าขนลุกและก็น่าสยดสยองมากๆ ของการแสดงความทรมานโดยการจับเอาคนมาตายอย่างทนทุกข์ทรมานต่อหน้าสายตาของเรา ชายคนหนึ่งซึ่งชื่นชอบการดูผู้คนทรมานอย่างมาก เขาก็คือจักรพรรดิเนโร ในบรรดาจักรพรรดิชาวโรมัน เนโรมีชื่อเสียงที่ฉาวโฉ่ในเรื่องการใช้เครื่องทรมานต่อหน้าสาธารณชน เขาจัดงานเทศกาลเพื่อแสดงความเจ็บปวดอย่างอลังกาลขึ้นมาเลยทีเดียว และการทรมานที่เปลี่ยนคนให้กลายเป็นมนุษย์ติดไฟ บันทึกที่เขียนโดยนักกวีในศตวรรษที่หนึ่งได้อธิบายถึงการทรมานที่ออกแบบขึ้นมาตามคำสั่งของจักรพรรดิเนโร มันมีชื่อว่า "ทูนิคา โมเลสต้า"
ทูนิคา โมเลสต้าคือการนำความตายแห่งตำนานของเฮอร์คิวลิสมาทำตาม เฮอร์คิวลิสนั้นเคยถูกล่อลวงให้ใส่เสื้อคลุมอาบยาพิษ ยาพิษนั้นเผาไหม้เนื้อของเขาจนถึงกระดูก ความเจ็บปวดเกินกว่าจะทนได้นี้ก็เหมือนกับการถูกเผาทั้งเป็น ชาวโรมันจัดฉากการทรมานนี้โดยนำเอานักโทษมาบังคับให้ใส่เสื้อคลุมที่ถูกชโลมด้วยสารติดไฟแล้วก็...จุดไฟเผาชุดนั้น การทรมานวิธีนี้จะเพิ่มความตื่นเต้นสูงสุดแก่ผู้ชมได้อย่างไร มันเป็นการสร้างระเบิดกับลูกไฟที่ลุกไหม้อยู่นานที่เผาคนทั้งเป็น พร้อมกับเสียงกรีดร้องของคนที่โดนเผา
โบยด้วยแส้แมงป่อง
การลงโทษต่อหน้าสาธารณชนจำนวนมากเป็นที่นิยมมากในโลกโบราณ โดยเฉพาะการแสดงความทรมานของคนที่ถูกลงโทษ การโบยเป็นหนึ่งในวิธีลงโทษที่นิยมมากที่สุดในโลกโบราณ แส้เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพอยู่เสมอในการสร้างความเจ็บปวดเพื่อลงโทษหรือทรมาน ความเรียบง่ายคือคุณสมบัติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของมัน แส้เป็นอุปกรณ์ที่นิยมมากในอาณาจักรโรมัน คนโรมันดูเหมือนจะชอบการลโทษด้วยการโบย ตัวอย่างที่รู้จักกันดีคือพระเยซูคริสต์ที่ถูกโบยอยู่บนไม้กางเขน การโบยเป็นวิธีการลงโทษที่นิยมใช้กันมากๆ ความนิยมนี้นำไปสู่การพัฒนาเทคโนโยีของแส้ และแส้ที่น่ากลัวที่สุดคือแส้แมงป่อง แส้แมงป่องจะติดตะขอเหล็กแหลมไว้ตรงปลาย ตะขอพวกนี้แหลมคมมาก มันเป็นอุปกรณ์การทรมานที่โหดเหี้ยมมากจริงๆ เมื่อฟาดแส้ออกไปแล้ว ตะขอพวกนี้ก็จะถูกกระชากกลับมาให้ตะขอเกี่ยวหนังจนเกิดบาดแผลที่เจ็บปวดมากทีเดียว ตะขอนี้จะเกี่ยวเนื้อบนหลังมนุษย์หรือจะฉีกเข้าไปจนถึงกระดูกเลยทีเดียว
ลูกแพร์สุดทรมานยัดปาก
อีกรูปแบบหนึ่งของการลงโทษที่ใช้เมื่อหลายพันปีต่อมาในยุโรปยุคกลาง ในยุคนั้นเชื่อว่าการลงโทษต้องสาสมกับความผิด ถ้าคนผิดโกหกหรือดูหมิ่นศาสนา พวกเขาจะถูกยัดปากด้วยลูกแพร์สุดทรมาน มันคืออุปกรณ์ที่หลอมจากเหล็กและประกอบไปด้วยกลีบ 4 กลีบล้อมรอบเกลียวตรงแกนกลาง เมื่อมันปิดมันจะมีขนาดและรูปร่างเหมือนกับลูกแพร์ แต่ถ้าใช้มือบิดที่ก้านจับกลีบทั้ง 4 กลีบนี้จะขยายออกอย่างช้าๆ มันจะค่อยๆ บานออกจนมากกว่าเดิมสามเท่า ฟันกรามจะหลุดออกจากเหงือก กรามจะหลุดแยกออก เนื้อเยื่อหลังช่องปากบวมและจะเป็นไปได้ที่จะบวมจนปิดกั้นทางเดินหายใจจนหายใจได้ลำบาก จนทำให้เกิดภาวะที่ออกซิเจนในเลือดน้อยลง อวัยวะสำคัญอย่างสมองก็จะหยุดทำงาน หัวใจก็จะหยุดเต้น
เผาทั้งเป็น
ในยุโรปยุคกลาง คนผิดหลายแสนคนถูกเผาทั้งเป็น เหยื่อเหล่านี้ตายเพราะถูกเผาหรือตายเพราะสูดหายใจเอาเปลวไฟเข้าไปกันแน่ เมื่อ 700 ปีก่อน การไต่สวนอย่างทารุณมีอยู่ทั่วยุโรปยุคกลาง มันถูกก่อตั้งขึ้นโดยโบสถ์โรมันคาทอลิคเพื่อลงโทษผู้ที่ถูกพิจารณาว่ามีความผิด หนึ่งในความผิดเหล่านั้นคือการขาดความศรัทธาในศาสนาหรือต่อต้านคาทอลิคจะถูกเชื่อว่าเป็นผู้ทำบาปต่อพระเจ้าและโบสถ์ ผู้คนหลายแสนคนถูกตัดสินประหารชีวิต การเผาทั้งเป็นถูกมองว่าเป็นความปราณีและเป็นการช่วยให้พ้นบาป ความร้อนของไฟจะเผาผิวหนังชั้นนอกจนเกรียม และผู้ที่ถูกเผาจะหายใจเอาเปลวไฟเข้าไปทำให้มันบวมจนทางเดินหายใจปิด ของเหลวจะไหลท่วมปอด จนหายใจไม่ออกเพราะสารคัดหลั่งในร่างกาย ทั้งนี้ความทรมานจะขึ้นอยู่กับระดับความสูงของเปลวไฟ ถ้าเปลวไฟมีระดับความสูงไม่มากพอก็จะต้องทรมานกับเปลวไฟที่เผาอวัยวะส่วนล่างก่อนจนกว่าที่จะจะหายใจเอาเปลวไฟเข้าไปทำลายปอดจนหายใจไม่ออกตาย
เสียบทั้งเป็น
ผู้ที่คิดวิธีทรมานแบบนี้และชื่นชอบที่จะเห็นเหยื่อของเขาทรมานด้วยการเสียบทั้งเป็นก็คือ "วลาด แดร็กคิวล่า" การเสียบทั้งเป็นถูกใช้เมื่อประมาณสามพันปีที่แล้ว แต่ วลาด แดร็กคิวล่าพัฒนาวิธีการเสียบทั้งเป็นให้เหยื่อค่อยๆ ตายอย่างช้าๆ ร็กประชาชนเรียกเขาว่า วลาดจอมเสียบ
เขาเป็นชายที่โหดเหี้ยมที่สุด ความโหดของเขาเป็นแรงบันดาลใจของนิยายสยองขวัญ "ท่านเคานท์แดร็กคิวล่า" ของบราม สโตรกเกอร์ คนรุ่นใหม่นั้นรู้จักชื่อแดร็กคิวล่าว่าเป็นผีดิบดูดเลือด แต่ตัวต้นแบบที่แท้จริงนั้นโหดร้ายกว่าในนิยายหรือในหนังฮอลลีวู้ดทั้งหมดเสียอีก วิธีเสียบทั้งเป็นของวลาดน่ากลัวมาก เขาเสียบเหยื่อในแนวตั้ง เขาเสียบหลาวจากทางทวารไปทะลุออกที่ปาก สิ่งที่น่ากลัวของมันก็คือมันกินเวลานานมากก่อนที่เหยื่อจะตาย บันทึกทางประวัติศาสตร์นั้นอธิบายว่าเหยื่อยังมีชีวิตอยู่อีกหลายชั่วโมงหรือหลายวันก่อนที่จะตาย