google.com, pub-6663105814926378, DIRECT, f08c47fec0942fa0 Mega topic | จัดอันดับ | 10 อันดับ| เรื่องผี| เรื่องสยองขวัญ| ที่สุดในโลก| ดูดวง| ประวัติศาสตร์

ถามตอบปัญหาริ้วรอยใต้ดวงตากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

ถามตอบปัญหาริ้วรอยใต้ดวงตากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

     

Anti-Aging and Aesthetic นพ.มาศ ไม้ประเสริฐ
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านศาสตร์ชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพ ผู้บริหาร S-Mart Clinic Anti-Aging& Aesthetic Center


Q: เป็นคนที่มีริ้วรอยใต้ดวงตาเยอะมาก ยิ่งอายุมากก็ยิ่งเห็นชัด ซื้อครีมทาตามาหลากหลายยี่ห้อ ก็ไม่เห็นจะได้ผลที่พึงพอใจสักที ไปปรึกษาแพทย์และทำการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตามาแล้ว ก็ยังมีริ้วรอยอยู่ เป็นเพราะอะไรคะ และมีทางแก้ไขไหมคะ

A: ดวงตาไม่ได้เป็นเพียงแค่หน้าต่างของหัวใจนะครับ ยังเป็นบริเวณที่ฟ้องอายุของเราได้อย่างชัดเจนเลยทีเดียว ซึ่งริ้วรอยรอบดวงตานี้ก็เป็นปัญหาของใครหลายต่อหลายคน ซึ่งสาเหตุนั้นก็เกิดขึ้นแตกต่างกันไปตามแต่ละชั้นของผิว โดยที่พบส่วนใหญ่นั้นมักจะเป็นจากชั้นไขมันใต้ผิวหนังของบริเวณนี้ลดน้อยลง และประกอบกับผิวบริเวณนี้มีความบางอยู่แล้ว ยิ่งอายุมากขึ้นก็จะยิ่งเห็นริ้วรอยเด่นชัด ริ้วรอยนี้จะมีลักษณะเป็นเส้นครึ่งวงกลมคล้ายวงเสี้ยวพระจันทร์ อยู่บริเวณใต้ขอบตาล่าง และมีความลึกชัดเจน จนทำให้พื้นผิวปกติที่อยู่ระหว่างเส้นขอบตาล่างและร่องนี้ดูเสมือนโป่งพองออกมา จนทำให้หลายคนหลงผิดคิดว่าเป็นถุงใต้ตาห้อย และไปตัดไขมันในบริเวณผิวใต้ตาที่คิดว่าเป็นถุงนั้น เลยยิ่งทำให้ตาดูลึกโบ๋ลงไปอีก ซึ่งปัญหานี้สามารถแก้ไขได้ด้วยการเติมฟิลเลอร์จะทำให้ริ้วรอยนั้นแลดูตื้นขึ้น และบริเวณที่คิดว่าเป็นถุงใต้ตานั้นหายไปโดยไม่ต้องผ่าตัด (เพราะไม่ใช่ถุงใต้ตาจริงนั่นเอง) แต่การเติมฟิลเลอร์นี้ไม่ครอบคลุมถึงริ้วรอยอีกจำพวกหนึ่งซึ่งเกิดระหว่างร่องใต้ตานี้กับเส้นขอบตาล่างซึ่งมักจะเห็นเป็นขีดเส้นเล็กๆ หลายเส้นวิ่งจากมุมตาด้านใน ขนานกับแนวขอบตาดำออกไปทางด้านนอก ริ้วรอยจำพวกนี้ เวลาเรายิ้มก็จะแลดูเป็นเส้นยาวยืดออกไปตามแรงกล้ามเนื้อ (ซึ่งต่างจากร่องใต้ตา ก็คือ ร่องจะแลดูลึกขึ้นเมื่อเรายิ้ม) ริ้วรอยชนิดนี้เกิดจากการเสื่อมของผิวหนังในชั้นหนังแท้ มีการเสื่อมสลายของเส้นใยอิลาสตินและคอลลาเจน ทำให้ความยืดหยุ่นของผิวเสียไป การแก้ไขด้วยฟิลเลอร์จึงอาจจะไม่ใช่คำตอบ เพราะต้องแก้ไขด้วยการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว อาจจะโดยการฉีดเดอร์โมท็อกซิน (Dermotoxin) หรือทำเดอร์มาพ้อยนท์ (Dermapoint) หรือเลเซอร์ในกลุ่มแฟร็กชั่นนัล (Fraxional Laser) ก็จะทำให้ผิวหนังแลดูหนาตัวขึ้น ริ้วรอยจางลง โดยอาจใช้ร่วมกับการฉีดโบท็อกซ์บริเวณหางตาด้วยก็ได้ ส่วนครีมบำรุงผิวรอบดวงตานั้นไม่อาจช่วยแก้ไขปัญหาข้างต้นได้ เพราะปัญหานั้นเกิดในชั้นลึกนั่นเอง แต่ก็ยังมีความจำเป็นอยู่ เพราะผิวหนังชั้นตื้นหรือชั้นหนังกำพร้าก็ยังคงต้องการการปกป้องอยู่ดี และเป็นการชะลอความเสื่อมของผิวบริเวณนี้อีกด้วย


ดูบทความเมนูอาหารทั้งหมด ดูบทความภัยอันตรายทั้งหมด ดูบทความสุขภาพทั้งหมด ดูบทความวิทยาศาสตร์ทั้งหมด ดูบทความสยองขวัญทั้งหมด ดูบทความชีวิตสัตว์ทั้งหมด ดูบทความประวัติศาสตร์ทั้งหมด ดูบทความจัดอันดับทั้งหมด สารบัญบทความ

Mesotherapy นวัตกรรมทางการแพทย์เพื่อรูปร่างสวยสมส่วน

Mesotherapy นวัตกรรมทางการแพทย์เพื่อรูปร่างสวยสมส่วน

     

Mesotherapy เป็นอีกวิธีการที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ โดยในการสลายไขมันส่วนเกิน สารที่ออกฤทธิ์ เช่น Phosphatidylcholine, Deoxycholic Acid ซึ่งตัวยาทำให้ผนังเซลล์ไขมันแตกตัวออก ทำให้ไขมันที่เป็นก้อนๆ สลายออกเป็นไขมันเหลว แล้วถูกขับออกทางปัสสาวะและอุจจาระ จากรายงานการศึกษาในต่างประเทศ พบว่าสาร Phosphatidylcholine และ Deoxycholic Acid ถูกนำมาใช้สลายไขมันเฉพาะที่ อย่างแพร่หลาย ทั้งในยุโรปและสหรัฐอเมริกา ส่วนเซลลูไลท์นั้นคือส่วนหนึ่งของไขมันที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นอยู่ในชั้นเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน (Connective Tissue) ใต้ชั้นหนังแท้ ที่กิดขึ้นเนื่องจากระบบไหลเวียนของหลอดเลือดดำและน้ำเหลืองทำงานลดลง โดยนิยมใช้ตัวยาสลายเซลลูไลท์ เช่น L - Carnitine, Caffeine ที่ช่วยเผาผลาญไขมันและช่วยในการขัดขวางการสร้างไขมัน อีกทั้งยังมีสารอื่นๆ เช่น Artichoke, Centella Asiatica, Ruscus Aculeatus และ Silicium ที่ช่วยให้ระบบไหลเวียนโลหิตและน้ำเหลืองดีขึ้น ขับสารพิษ และช่วยฟื้นฟูผิวให้กระชับอีกด้วย


ตำแหน่งที่นิยมทำการสลายไขมันและเซลลูไลท์ด้วยวิธีนี้ได้แก่ ไขมันที่แก้ม ไขมันส่วนเกินที่คาง ต้นแขน ต้นขา สะโพก หน้าท้อง และไขมันที่น่อง แต่อย่างไรก็ตามการรักษาจะไม่หายขาดหากยังไม่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการดำเนินชีวิตแบบเดิมๆ สิ่งสำคัญคือ การเลือกตัวยาที่ได้รับการยอมรับจากสถาบันแพทย์ผิวหนังที่ได้มาตรฐานจากยุโรป นอกจากนี้ควรเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน สะอาดปลอดภัย มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในการรักษา เอาใจใส่ผิวพรรณและรูปร่าง เพื่อผิวสวยแลดูอ่อนเยาว์ราวกับหยุดเวลาให้กับผิว


ดูบทความเมนูอาหารทั้งหมด ดูบทความภัยอันตรายทั้งหมด ดูบทความสุขภาพทั้งหมด ดูบทความวิทยาศาสตร์ทั้งหมด ดูบทความสยองขวัญทั้งหมด ดูบทความชีวิตสัตว์ทั้งหมด ดูบทความประวัติศาสตร์ทั้งหมด ดูบทความจัดอันดับทั้งหมด สารบัญบทความ

ขลิบปลายอวัยวะเพศชายแบบไม่เจ็บด้วย Prepex

ขลิบปลายอวัยวะเพศชายแบบไม่เจ็บด้วย Prepex

     

การขลิบปลายอวัยวะเพศชาย คือแนวทางที่ช่วยลดการติดเชื้อเอชไอวีที่เป็นสาเหตุของโรคเอดส์ได้ แต่การขลิบปลายอวัยวะเพศชายยังคงเป็นเรื่องน่ากลัวและอาจสร้างความเจ็บปวดไม่น้อย ล่าสุด องค์การอนามัยโลกหรือ WHO กำลังพิจารณาเครื่องมือแบบใหม่ที่เรียกว่า Prepex ในการขลิบปลายอวัยวะเพศชายซึ่งใช้มาแล้วกับผู้ชายในแอฟริกามากกว่าหนึ่งพันคน โดยนายแพทย์ Steven Kaplan แห่งศูนย์การแพทย์ Weil Cornell ในนิวยอร์ค ผู้ร่วมศึกษาตรวจสอบเรื่องมือดังกล่าว อธิบายว่า Prepex ออกแบบมาเพื่อใช้บีบอัดหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศชายโดยใช้วงแหวน 2 อัน เพื่อให้เลือดไม่สามารถผ่านเข้าไปเลี้ยงหนังหุ้มปลายส่วนนั้นได้จนใยประสาทที่ผิวหนังบริเวณนั้นชาด้านหมดความรู้สึก จากนั้นทิ้งไว้ราวหนึ่งสัปดาห์ให้หนังหุ้มปลายแห้งกรัง แล้วจึงใช้เครื่องมือตัดออกโดยไม่ต้องเสียเลือดและไม่ต้องผ่าตัด


คุณหมอบอกว่าข้อดีของวิธีขลิบแบบนี้คือสามารถกระทำได้ทุกสภาวะแวดล้อม ไม่จำเป็นต้องเป็นห้องผ่าตัดหรือเขตปลอดเชื้อ  คุณหมอยังบอกด้วยว่าการขลิบปลายอวัยวะเพศชายนั้นนอกจากช่วยลดความเสี่ยงของการติดเชื้อเอชไอวีแล้ว ยังลดการถ่ายทอดเชื้อโรคอื่นๆ ที่มักสะสมอยู่ด้านในหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศชายได้ด้วย ทางด้าน Dr. Agnes Binagwaho รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขประเทศรวันด้า กล่าวยกย่องความสำเร็จของการทดสอบเครื่องมือ Prepex ในรวันด้า ซึ่งพิสูจน์แล้วว่าปลอดภัย ประหยัดและดีกว่าการใช้วิธีผ่าตัด โดยเครื่องมือขลิบปลายอวัยวะเพศชายแบบใหม่หรือ Prepex นี้ พัฒนาขึ้นโดยบริษัท CircMedTech


ดูบทความเมนูอาหารทั้งหมด ดูบทความภัยอันตรายทั้งหมด ดูบทความสุขภาพทั้งหมด ดูบทความวิทยาศาสตร์ทั้งหมด ดูบทความสยองขวัญทั้งหมด ดูบทความชีวิตสัตว์ทั้งหมด ดูบทความประวัติศาสตร์ทั้งหมด ดูบทความจัดอันดับทั้งหมด สารบัญบทความ

เรื่องลับๆ กับชาเขียว

เรื่องลับๆ กับชาเขียว

     

ชาเขียวไม่ได้มีดีแค่เพียงชงดื่มเท่านั้น ครีเอตสักหน่อย พลิกแพลงสักนิด แล้วคุณจะได้ประโยชน์จากชาเขียวอย่างคาดไม่ถึงเชียวล่ะ ถ้าชาเขียวที่คุณคุ้นเคยมีแค่บรรดาขวดที่วางเรียงในตู้แช่ตามร้านสะดวกซื้อหรือแก้วจิ๋วร้อนจี๋ที่เสิร์ฟกันในร้านอาหารญี่ปุ่นแล้วล่ะก็ ชีวิตคุณพลาดอะไรไปอีกเยอะเชียว "ชาเขียวทั้งหลายทั้งมวลมีที่มาเดียวกันคือ จากต้น Camellia Sinensis แต่รสชาติและกลิ่นนั้นขึ้นอยู่กับว่าปลูกที่ไหน และใช้กรรมวิธีอะไรในการผลิต" แมรี่ ลูว์ เฮสส์ (Mary Lou Heiss) หนึ่งในผู้เขียนหนังสือ The Tea Enthusiast's Handbook : A Guide to World's Best Teas กล่าวเอาไว้


ชาวเอเชียอย่างเราๆ สุดแสนจะโชคดี เพราะชาเขียวเป็นของหาง่ายในซีกโลกตะวันออก ดังนั้น การเพิ่มหรือผสมชาเขียวเข้าไปในเมนูอาหารแต่ละวันคงไม่ยุ่งยากเกินไป ยิ่งถ้าเทียบกับประโยชน์มหาศาลที่จะตามมา เราจึงรวบรวมชาเขียวดังๆ คุณภาพคับแก้ว 6 ชนิด พร้อมวิธีดัดแปลงปรุงกับอาหารจานต่างๆ ไว้ที่นี่แล้ว คุณล่ะพร้อมหรือยัง?

*****ทำไมต้องชาเขียว*****
ชาเขียวไม่ได้ผ่านกรรมวิธีการหมักเหมือนชาดำหรือชาอู่หลง จึงมีสารต้านอนุมูลอิสระที่เรียกว่า คาเตชิน อยู่มาก โดยเฉพาะอนุพันธุ์ EGCG ซึ่งสามารถลดภาวะเป็นพิษของสารก่อมะเร็งได้

มัชฉะ
ใบชาจะถูกบดจนเป็นผงเหมาะแก่การชงดื่ม และการดื่มใบชาโดยตรงนี้เอง คุณจะได้รับสารต้านอนุมูลอิสระมากกว่าชาเขียวชนิดอื่นๆ
รสชาติ เข้ม และได้รสใบชาแบบเน้นๆ
เมนูพลิกแพลง ละลายชาเขียว  1 ช้อนชาในสมูธตี้ หรือลองโรยผงชาบนไอศครีมวานิลลา หรือบนดาร์กช็อคโกแลตแท่ง รสชาติดิบๆ ของผงชาจะตัดกับความหวานได้อย่างน่าทึ่ง

ดราก้อน เวลล์
ชาเขียวดราก้อน เวลล์ มีสีอมเหลือง ลักษณะเป็นใบแบนๆ และเป็นชาที่คนจีนนิยมดื่มมากที่สุด
รสชาติ นุ่มนวล คล้ายเกาลัด
เมนูพลิกแพลง ซอยใบชาเป็นชิ้นเล็กๆ ผสมกับสมุนไพรชนิดต่างๆ ใช้ทาไก่หรือเนื้อให้ทั่วก่อนนำไปอบ ย่าง หรือปรุงอาหารด้วยวิธีอื่นๆ

กันพาวเวอร์
ชาเขียวจากจีนชนิดนี้ใช้วิธีทอดในกระทะ ก่อนจะนำมาม้วนให้แน่นๆ เป็นลูกกลมๆ เล็กๆ
รสชาติ เข้มข้น แต่หวานที่ปลายลิ้น
เมนูพลิกแพลง แทนที่จะดื่มชาเขียวกันพาวเวอร์เพียวๆ ลองจิบน้ำซุปที่ได้จากการต้มผัก เติมชาเขียวกันพาวเวอร์หั่นลงไปในระหว่างเคี่ยว จะได้ความแปลกใหม่ที่น่าลิ้มลองเอามากๆ

เซนฉะ
เซนฉะเป็นชาเขียวที่คนญี่ปุ่นนิยมดื่มมากที่สุด กรรมวิธีการทำใบชาเขียวเซนฉะคือนึ่งใบชาจึงคงสีเขียวสดใสไว้ แล้วก็ม้วนกลมเหมือนเข็มเย็บผ้า
รสชาติ กลางๆ ออกไปทางหวานเล็กน้อย
เมนูพลิกแพลง หลังนวดแป้งเพื่อทำคุ๊กกี้ มัฟฟินหรือขนมปังเสร็จแล้ว ผสมใบชาเขียวเซนฉะแห้งลงไป 2 ช้อนโต๊ะ แล้วนำเข้าเตาอบตามปกติ

กูกิชา
กูกิชา เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า "ชาก้าน" เพราะทำจากก้านชาเซนฉะกิ่งเล็กๆ นำมาหั่นฝอยผสมกับใบเคียวกุโร
รสชาติ เบา นุ่ม กรุ่นกลิ่นกิ่งไม้อบ
เมนูพลิกแพลง ใส่กูกิชาผสมน้ำที่ใช้หมักปลาหรือหอย กูกิชาจะปรับสมดุลความหวานของเนื้อปลาได้ดี โดยเฉพาะปลาแฮลลิบัท และหอยแครง

โฮจิชา
โฮจิชาทำจากใบชาเขียวที่อบจนเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเข้ม ชาเขียวชนิดนี้มักเก็บเกี่ยวกันช่วงปลายฤดู และอบในอุณหภูมิที่สูงกว่าชาเขียวชนิดอื่นๆ จึงมีกาเฟอีนน้อยกว่าชาทั่วไป
รสชาติ ได้โสตสัมผัสของถั่วและการอบ
เมนูพลิกแพลง ราดชาเขียวโฮจิชาเข้มข้นบนข้าวซ้อมมือ แบ้วนำไปอบกับผักชนิดต่างๆ โรยหน้าด้วยเกาลัดหั่นชิ้นเล็กๆ

สุดยอดคุณประโยชน์ของชาเขียว
ชาเขียวได้รับการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์แล้วว่าให้ผลดีต่อร่างกายมากมาย
สลายไขมันหน้าท้อง
คนอ้วนจะเผาผลาญไขมันบริเวณหน้าท้องจากการออกกำลังกายได้มากขึ้น 7% ถ้าดื่มชาเขียวผสมกาเฟอีนเมื่อเทียบกับเครื่องดื่มกาเฟอีนชนิดอื่นๆ จากผลการวิจัยที่ตีพิมพ์ใน The Journal of Nutrition
ทำให้ฟันแข็งแรง
ดื่มชาเขียวสองแก้วต่อวัน หรือมากกว่านี้ต่อวัน ฟันจะแข็งแรง ไม่โยกหรือหลุดได้ง่ายๆ จากผลการวิจัยชิ้นใหม่ที่ตีพิมพ์ใน Preventative Medicine
ลดค่า BMI
คนที่ดื่มชาเขียว 2-3 แก้วต่อวัน มีแนวโน้มที่จะมีค่า BMI รวมถึงน้ำหนักตัวลดลง จากผลการวิจัยของ University of Connecticut
ลดอัตราเสี่ยงการเกิดมะเร็งผิวหนัง
ชาเขียวสามารถซ่อมแซมดีเอ็นเอที่เสื่อมจากรังสียูวีบีได้ นอกจากนี้ยังลดอัตราการเสี่ยงที่จะเกิดมะเร็งของเซลล์สร้างเม็ดสีได้อีกด้วย จากการทดลองกับสัตว์ที่ตีพิมพ์ใน Cancer Prevention Research
ป้องกันการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง
ดื่มชาเขียว 3 แก้วต่อวันช่วยลดอัตราเสี่ยงการเกิดโรคหลอดเลือดดสมองได้ 21 เปอร์เซ็นต์ จากผลการวิจัยในปี 2009
ลดความเสี่ยงการเกิดมะเร็งปอด
จากผลการวิจัยที่ยังไม่ได้ตีพิมพ์ของนักวิชาการชาวไต้หวัน ค้นพบว่าการดื่มชาเขียวมากกว่า 1 แก้วต่อวัน ช่วยลดปัจจัยการเกิดมะเร็งปอดได้ โดยไม่ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการสูบบุหรี่หรือไม่ จริงๆ แล้วคนที่ไม่สูบบุหรี่ แต่ดื่มชาเขียวทุกวัน มีอัตรเสี่ยงน้อยกว่าผู้ที่ไม่ดื่มชาเขียวถึง 5 เท่าด้วยกัน


ดูบทความเมนูอาหารทั้งหมด ดูบทความภัยอันตรายทั้งหมด ดูบทความสุขภาพทั้งหมด ดูบทความวิทยาศาสตร์ทั้งหมด ดูบทความสยองขวัญทั้งหมด ดูบทความชีวิตสัตว์ทั้งหมด ดูบทความประวัติศาสตร์ทั้งหมด ดูบทความจัดอันดับทั้งหมด สารบัญบทความ

สัมภาษณ์นักแสดงและผู้กำกับละคร สุดแค้นแสนรัก

สัมภาษณ์นักแสดงและผู้กำกับละคร สุดแค้นแสนรัก

     

ประยงค์ รับบทโดย พัชฏะ นามปาน
"รับบทเป็น ประยงค์ ครับ เป็นผู้ชายที่ขยัน รักครอบครัว แล้วก็รักภรรยามาก แต่ว่าแม่เราไม่ชอบ โดนัท เรียกว่าเกลียดเลยดีกว่า เพราะเค้าเป็นลูกของคนที่ฆ่าพ่อเรา ตอนแรกก็ไม่ชอบอยู่แล้ว พอพ่อเค้ามาฆ่าพ่อเราก็เลยกลายเป็นปัญหาครอบครัว เราก็ต้องเป็นตัวกลางระหว่างแม่กับเมีย ซึ่งเป็นอะไรที่หนักมาก เพราะเลือกยากมาก แต่ก็ต้องเลือกแม่ เนื้อเรื่องดราม่ามากครับ เป็นปัญหาแม่สามีกับลูกสะใภ้ เวลาเค้าทะเลาะกันเราก็ทำอะไรไม่ได้ เราเองเป็นคนที่ลำบากใจเพราะนั่นก็แม่ นี่ก็เมีย ต้องติดตามดูครับผลสรุปจะเป็นอย่างไร เล่นเรื่องนี้ได้ทำหลายอย่างเลย เป็นละครพีเรียดด้วย ได้ทำนา จูงควาย ทำกับข้าว อุ้มเด็ก สนุกดีครับ สถานที่ก็สวย เป็นทุ่งนา บ้านแบบไทยๆ อยากฝากให้ติดตามชม "สุดแค้นแสนรัก" ดูสนุก แล้วก็ได้ข้อคิดหลายอย่างด้วยครับ

อัมพร รับบทโดย มนัสนันท์ พันเลิศวงศ์สกุล
"โดนัท รับบทเป็น อัมพร ค่ะ ในเรื่องนี้มีสามี 2 คน คนแรกคือ พี่โฬม เรารักกับเค้าแต่แม่สามีเกลียด จนเราท้องแม่ก็มาแย่งลูกไปเลี้ยงเอง เราก็เลยไม่มีโอกาสได้อยู่กับลูก ลูกก็เข้าใจว่าเราทิ้งเค้าไป เพราะย่าเป็นคนบอก สามีคนที่สองคือ พี่มอส เค้าเป็นตำรวจที่มาช่วยเรื่องระหว่างสองตระกูล แล้วก็มาชอบทั้งพี่ทั้งน้อง สุดท้ายก็มาแต่งงานกับเรา มีลูกกัน เรื่องนี้ยอมรับว่ายากมากค่ะ ตัวละครอัมพรมีความเป็นมนุษย์สูงมาก คือไม่ได้ดี ไม่ได้ร้าย ยอมได้ก็ยอม แต่พอคิดจะไม่ยอมก็สู้คนเหมือนกัน เป็นตัวละครที่มีมิติ แล้วก็ยากครงที่ต้องเล่นเป็นแม่ด้วย เล่นตั้งแต่สาวจนมีลูก ตอนท้องเราก็จินตนาการไม่ออกว่ามันเป็นยังไง แต่ผู้กำกับฯ ก็ช่วยบอก ช่วยแนะนำได้มากค่ะ

ร.ต.ต. ทวี รับบทโดย ปฏิภาณ ปฐวีกานต์
"เรื่องนี้รับบทเป็น ร้อยตำรวจตรีทวี ครับ เป็นตำรวจใจดี หน้าตาดีด้วย ในบทเป็นผู้ชายที่ดีมาก เราเป็นตำรวจก็จะคอยเข้ามาไกล่เกลี่ยให้สองครอบครัว จนมาพัวพันกับ เบ๊นซ์ โดนัท แล้วก็รู้สึกดีๆ กับทั้งสองคนเลย ตอนแรกเหมือนจะจีบเบ๊นซ์ แต่เค้าไม่เล่นด้วย ก็เลยมาจีบโดนัทจนได้แต่งงานมีลูกกัน ตัวทวีเป็นตัวแทนของพ่อที่ไม่บังคับลูก ไม่ใช่ว่าตามใจลูก แต่เป็นพ่อที่สนับสนุนในสิ่งที่ลูกชอบ อยากเรียนอะไรก็เรียน เราเป็นตำรวจก็ไม่ได้บังคับว่าลูกจะต้องเรียนตำรวจ ทำอะไรก็ได้ขอแค่เป็นคนดีก็พอ ซึ่งถ้าคนดูได้ดูตรงนี้อาจจะได้ข้อคิดดีๆ กลับไปด้วย ส่วนตัวโดนัทเค้าก็จะดราม่าเรื่องลูกที่เกิดกับ ประยงค์ เรามาทีหลังเราก็คอยให้กำลังใจเค้า เป็นคนที่ดีมากๆ เลยครับ

อุไร รับบทโดย พรชิตา ณ สงขลา
"คาแรกเตอร์ของ อุไร คือไม่ยอมคน เป็นคนที่แข็งแกร่ง แล้วก็รักครอบครัว เป็นคนที่ออกหน้ากับบ้านนั้นตลอด เพราะฝั่งเราไม่มีใครสู้ เราเลยต้องสู้แทน ตอนแรกอุไรรักกับ ลือพงษ์ ก็คือ พี่น็อต แต่ก็มีเรื่องราวทำให้เข้าใจผิดกัน จนสุดท้ายกลายเป็นว่าเราท้อง เราก็ต้องเลี้ยงลูกด้วยตัวเอง ก็เลยต้องทำตัวให้แกร่งกว่าเดิม เก็บความรู้สึกเอาไว้ข้างในแต่ไม่ร้องไห้ พอมีลูกเราก็เอาความกดดันไปลงที่ลูก เพื่อที่จะให้ชนะคนบ้านนั้น เหมือนเราเอาความแค้นความเกลียดไปปลูกฝังให้ลูกด้วย เล่นเรื่องนี้ใช้พลังเยอะมากค่ะ ต้องแรงกับ พี่ต๊งเหน่ง ตลอด เค้าแรงมา เราก็แรงกลับ เพราะไม่ยอม เรื่องนี้ เบ๊นซ์ ว่าให้แง่คิดเยอะมาก เป็นเรื่องของครอบครัว สอนทั้งลูก สอนทั้งตัวเราเองได้ด้วยค่ะ"

ลือพงษ์ รับบทโดย วรฤทธิ์ เฟื่องอารมณ์
"รับบทเป็น ลือพงษ์ ครับ คาแรกเตอร์เป็นลูกในครอบครัวคนจีน ฐานะดี แต่เจ้าชู้และใจร้อนครับ ตัวลือพงษ์มีคนรักอยู่แล้วคือ เบ๊นซ์ แต่เราถูกให้ไปแต่งงานกับผู้หญิงอีกคน คือ พะยอม ที่เราไม่ได้รัก ซึ่งพ่อแม่เราก็ไม่ได้ชอบเบ๊นซ์อยู่แล้ว พอแต่งงานไปเราก็เลยไม่มีความสุขเหมือนมีปมในชีวิต จริงๆ แล้วตัวนี้ไม่ใช่คนไม่ดีนะ แต่เค้าเป็นคนใจร้อน เวลาโมโหก็เลยขาดสติ ทำให้ทำหลายๆ อย่างพลาดไปเพราะความขาดสติเนี่ยแหละ สำหรับผมบทไม่ยากเท่าไหร่ แล้วนักแสดงก็เก่งกันทุกคน รวมถึงน้องๆ ที่เป็นนักแสดงใหม่ด้วย อยากฝากละครเรื่องนี้ไว้ด้วยครับ ตัวละครทุกตัวให้ข้อคิดได้หมด แล้วเนื้อเรื่องก็น่าติดตามเพราะปมของตัวละครครับ"

สุดา รับบทโดย รฐา โพธิ์งาม
"หญิง รับบทเป็น สุดา ค่ะ ดูจากเสื้อผ้า หน้าผม ก็รู้แล้วว่าไม่ใช่คนดี คาแรกเตอร์เป็นผู้หญิงที่ทะเยอทะยาน อยากรวย อยากสบาย แล้วก็เป็นผู้หญิงที่แรงสุดในสมัยนั้น ผ้าถุงยังนุ่งสั้นเลย ในเรื่องตอนแรก เราแอบชอบพี่โฬม ทำทุกทางเพื่อที่จะได้เค้าแต่ก็ไม่สำเร็จ ก็เลยมาได้กับพี่บอย ที่เป็นน้องชายเค้าแทน เรื่องนี้ได้เล่น 3 รุ่นเลย 3 ยุค ยุคแรกใสๆ ยุคที่สองคือสวย ยุคที่สามนี่โดนแซวว่าเหมือน แม่น้อย มาก (หัวเราะ) หญิงก็แอบเอาคาแรคเตอร์แม่มาใส่ด้วยเหมือนกัน หญิงมองว่าละครเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ทุกครอบครัว ทั้งอิจฉา โกรธแค้น มันอยู่ที่ว่าเราจะจัดการยังไง ซึ่งละครเรื่องนี้มีข้อคิดดีๆ สอดแทรกไว้เยอะมากค่ะ"

ยงยุทธ รับบทโดย คณิน ชอบประดิถ
"รับบทเป็น ยงยุทธ ครับ คาแรกเตอร์เป็นคนเงียบๆ ไม่ค่อยพูด ไม่ค่อยยิ้ม มีปมเรื่องแม่ เพราะย่าบอกเราตลอดว่าแม่เป็นคนไม่ดี แล้วก็ทิ้งเราไปตั้งแต่เด็กๆ จนทำให้พ่อตรอมใจตาย เราก็เชื่อฟังแต่ย่า เป็นบทที่ยากมากเลยครับ เพราะค่อนข้างตรงข้ามกับตัวผมเลย ไกลตัวมาก บทดราม่า ร้องไห้เยอะเหมือนกัน ต้องใช้เวลาปรับตัวสักพัก ต้องทำสมาธิเยอะๆ ด้วยครับ เข้าฉากกับนักแสดงรุ่นใหญ่ๆ ก็มีเกร็งบ้างครับ แต่พี่ๆ เขาก็ชวนคุยทำให้เราผ่อนคลายมากขึ้น แต่ดีใจนะครับได้ร่วมงานกับนักแสดงรุ่นพี่หลายคนที่เราชื่นชอบอยู่แล้วด้วย

ธนา รับบทโดย ณัฐวิญญ์ วัฒนกิติพัฒน์
"ธนา เป็นลูกของ พี่มอส กับ พี่โดนัท ครับ คาแรกเตอร์เป็นคนร่าเริงครับ เป็นนักร้องที่ชอบเอ็นเตอร์เทน ร้องเพลง เล่นกีตาร์ ต้องเล่นเอง ร้องเอง ก็มีไปเรียนมาครับ บทผมมีดราม่าเหมือนกัน เป็นความรักที่ไม่สมหวัง เพราะพี่กับน้องชอบผู้หญิงคนเดียวกัน ก็คือ ชิปปี้ แล้วแม่เราก็รักลูกอีกบ้านนึงมากกว่า เป็นลูกคนละพ่อ เราเลยไม่ยอมรับตัวพี่ชาย เค้าก็เกลียดเราเหมือนกัน ต้องมีปะทะกันบ้าง เพราะแม่เราคิดถึงเค้า เราก็เลยเป็นคนที่เอาความรู้สึกนั้นไปบอกเค้า เรื่องนี้เป็นการเล่นเต็มตัวเรื่องแรกเลยต้องทำการบ้านเยอะครับ เพราะบทค่อนข้างยาก อ่านบทซ้ำๆ เพื่อให้เข้าใจตัวละครมากๆ

หทัยรัตน์
"รับบทเป็น หทัยรัตน์ค่ะ คาแรกเตอร์เป็นคุณหมอที่เก่ง ฉลาด มั่นใจ แล้วก็เป็นคนที่กล้าแสดงออกในความรู้สึกตัวเอง มั่นคงในความรัก ตอนแรกรักอยู่กับ ยงยุทธ คบกันมาเป็น 10 ปี แต่ก็มี ธนา คอยตามจีบตลอด แต่เราปฏิเสธเพราะคบกับคนนี้อยู่ บทนี้ค่อนข้างห่างไกลจากตัวหนู ต้องเป็นหมอด้วว ต้องดูภูมิฐานนิดนึง ซึ่งตัวจริงหนูไม่ใช่เลย การเข้าฉากกับ พี่เพื่อน อาโป เราสามคนยังใหม่กันมากๆ ต้องไปเวิร์กช็อปกัน ต้องใช้สมาธิเยอะค่ะ ก็ต้องช่วยกันทั้งสามคนเลย เวลาเข้าฉากกับนักแสดงรุ่นพี่ทุกคนส่งอารมณ์ให้เราได้ดีมาก เราพยายามเก็บประสบการณ์ตรงนั้นมาปรับใช้ด้วยค่ะ

ปวริศ รับบทโดย เศรษฐพงศ์ เพียงพอ
"ปวริศ เป็นตำรวจที่โรแมนติกมาก รักเดียวใจเดียว คิดว่าความดีจะชนะใจผู้หญิงได้ เพราะเราโดนกีดกันจาก พี่เบ๊นซ์ ที่เป็นแม่ของ ระพีพรรณ ที่เป็นความแค้นกันมาตั้งแต่รุ่นพ่อรุ่นแม่ แม่ของผู้หญิงเค้าก็เลยไม่อยากให้ลูกมาได้กับคนบ้านนี้ แต่แม่เค้าสั่งให้ทำให้เรารัก แล้วก็หักอกเรา ทำยังไงก็ได้ให้เราเสียใจ บทตำรวจ ฟิตดีครับ ชุดนะ (หัวเราะ) มีบู๊นิดหน่อยไปจับผู้ร้าย บทนี้ยากนะครับ ไม่ใช่ตัวผมเลย ปกติจะเล่นแต่คอมเมดี้ เฮฮา เรื่องนี้แสนดี ดราม่าด้วย เป็นพีเรียดด้วย แล้วผมเองก็ต้องเล่นให้เชื่อมกับคนที่มาเล่นเป็นเราตอนเด็กด้วย ก็ต้องไปดูน้องเค้าเล่น ต้องไม่ให้คาแรกเตอร์หลุดจากกัน ยากตรงนี้แหละครับ"

ระพีพรรณ รับบทโดย อนุธิดา อิ่มทรัพย์
"ระพีพรรณ เป็นคุณหมอค่ะ เป็นเพื่อนสนิทของ หทัยรัตน์ คาแรกเตอร์เป็นคนเรียบร้อย นิ่ง เข้มแข็ง มั่นคง แต่แอบอ่อนไหวนิดนึง เราถูกแม่กดดันเรื่องการเรียน เรื่องความรัก เพราะแม่ให้เราไปหลอก ปวริศ ที่เป็นลูกบ้านศัตรูให้เค้ารัก แล้วก็ต้องหักอกเค้า บทยากนะคะ ไกลตัวมาก แล้วก็เป็นพีเรียด การพูดการจาดูโตเป็นผู้ใหญ่ด้วย ซึ่งตรงข้ามกับหนูที่เป็นเด็ก ก็ต้องทำการบ้านหนักมากค่ะ อ่านบทหลายๆ รอบ เพราะเป็นเรื่องที่ค่อนข้างละเอียด พี่ๆ นักแสดงทุกคนก็เล่นกันสุดยอดมาก หนูก็ต้องพยายามทำให้ดี เพราะไม่ทำพลาด กลัวเค้าเสียเวลาค่ะ ร่วมงานกับพี่ๆ นักแสดงกดดันนิดนึงค่ะ แต่ก็ดีใจที่ได้มาเล่นเรื่องนี้ค่ะ"

แย้ม รับบทโดย รัดเกล้า อามระดิษ
"บทของ แย้ม เป็นอะไรที่ท้าทายมาก ลองอ่านบทแล้วก็รับเล่นเลย พอมาเล่นจริงๆ ก็เหนื่อยมาก ใช้พลังเยอะ เพราะตัวแย้มเก็บความแค้นสะสมไว้เป็นสิบๆ ปี ใช้พลังของความแค้นเป็นตัวขับเคลื่อนให้ชีวิตเพื่อรอวันแก้แค้น พี่เล่นบทนี้แล้วอยากเข้าถึงตัวละคร สีหน้า น้ำเสียง ท่าทางออกมาหมดเลย พอสั่งคัตปุ๊บเราต้องรีบปลดปล่อยทันที ไม่อย่างนั้นเราจะเครียด เป็นบทที่ยากและเครียดมาก แต่ก็สนุกมาก การร่วมงานกับ เมกเกอร์ นี่เป็นครั้งแรกเลย สนุกค่ะ มาทำงานอย่างมีความสุข ผู้กำกับฯ เองก็เปิดรับความคิดเห็นก็เลยทำให้งานไหลไปได้เร็ว สำหรับละคร "สุดแค้นแสนรัก" คนเขียนสอดแทรกข้อคิดไว้เยอะค่ะ อยากให้คุณผู้ชมได้ดู ดูแล้วย้อนกลับมาดูตัวเองค่ะ"

ผู้จัดละคร และผู้กำกับละคร กฤษณ์ ศุกระมงคล
"สุดแค้นแสนรัก ไม่ได้เป็นละครพีเรียดมาก แต่เป็นเรื่องชาวบ้าน เรื่องสังคมของคน แล้วก็มีปัญหาเกิดขึ้นจนเกิดเป็นความแค้นในรุ่นพ่อแม่ จนมาถึงรุ่นลูกหลาน ซึ่งมีการดำเนินเรื่องต่อกันสามยุค ตั้งแต่ พ.ศ. 2515-2544 เรื่องมันก็จะสอนว่าการมีความแค้นมันไม่ได้ทำให้เรามีความสุข เนื้อเรื่องมันไม่มีอะไรซับซ้อนเลย  ไม่มีเรื่องชู้สาว เป็นเรื่องของความแค้น ที่พอมารุ่นลูกรักกัน ก็รักกันไม่ได้เพราะความแค้นที่รุ่นพ่อแม่สร้างกันมา ด้วยความที่เรื่องนี้นักแสดงเยอะ พี่ก็เลยชวน พี่ดุลย์ ที่เค้าเป็นสวิตชิ่งอยู่มาช่วยกำกับด้วย เราก็ได้อีกมุมมองที่มีผู้กำกับภาพมากำกับการแสดงด้วย ความยาก พี่ก็ว่ายากทุกเรื่องนะ พอเริ่มเรื่องใหม่ เราก็ตั้งโจทย์ใหม่ นับหนึ่งใหม่หมด ไม่มีอะไรที่ง่ายแล้ว คนดูเยอะขึ้นหลากหลายขึ้น เราก็ต้องคิดให้เยอะขึ้น"


อ่านเรื่องอื่นๆ

เรื่องย่อละครเพื่อนแพง

6 APP แจ่แดมแจ่มว้าววว!

เรื่องย่อละครเพลงรักเพลงลำ

30 โคตรมาเฟียตลอดกาล

บ้านหลอนแดนนรก


10 พฤติกรรมเมื่อคุณเบื่อแฟน10 อันดับลายสักยันต์ยอดนิยมของคนไทย10 อันดับหมอที่รวยที่สุดในโลกไฮดี้ คลุม ปิดฉากความรักกับเจ้าชายอสูรการทรมานในยุคโบราณ10 อันดับข่าวต่างประเทศ ปี 2014โจโจ้ซัง แม้เป็นเพียงเกอิชาก็ขอมีรักแท้10 อันดับสัตว์แปลกที่คนไทยนิยมเลี้ยงมากที่สุด กระต่าย




ดูบทความเมนูอาหารทั้งหมด ดูบทความภัยอันตรายทั้งหมด ดูบทความสุขภาพทั้งหมด ดูบทความวิทยาศาสตร์ทั้งหมด ดูบทความสยองขวัญทั้งหมด ดูบทความชีวิตสัตว์ทั้งหมด ดูบทความประวัติศาสตร์ทั้งหมด ดูบทความจัดอันดับทั้งหมด สารบัญบทความ

Popular Posts