30 โคตรมาเฟียตลอดกาล
"เดอะก๊อดฟาเธอร์" หรือ "ม๊อบเสตอร์" หรือ "เจ้าพ่อมาเฟีย" ไม่ว่าคุณจะเรียกพวกเขาว่าอะไร สุดท้ายพวกเขาก็คือ บุคคลผู้ทรงอิทธิพลที่นำองค์กรอาชญากรรมเข้าสู่ความยิ่งใหญ่ในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา และยังคงดำเนินต่อไปอย่างไม่มีวันสิ้นสุด เรามาทำความรู้จักกับพวกเขากัน30. Hisayuki Machii (1923-2002)
หัวหน้าแก๊งค์มาเฟียชาวเกาหลีที่มาตั้งรกรากในญี่ปุ่นหลังสงครามโลกครั้งที่สอง มีชื่อเสียงเรียงนามว่า "Ginza Tiger" เขาได้ก่อตั้งแก๊งค์ชื่อ "Tosei-Kai" (Voice of the East Gang) มีสมาชิกกว่า 1,500 คน ซึ่งเป็นแก๊งค์ยากูซ่าที่มีอิทธิพลและมีชื่อเสียงฉาวโฉ่ที่สุดในญี่ปุ่นแก๊งค์หนึ่งเลยทีเดียว องค์กรของเขาครอบคลุมธุรกิจทุกอย่างในญี่ปุ่น ตั้งแต่การท่องเที่ยว การส่งออกน้ำมัน สถานบันเทิง ร้านอาหาร และการค้าโสเภณี
29. Giuseeppe Morello (1867-1930)
ผู้บุกเบิกแก๊งค์ Morello Crime Family เขาถูกจับกุมตัวในปี 1909 พร้อมกับสมาชิกแก๊งค์คนอื่นๆ หลังได้รับการปล่อยตัวในปี 1920 Morello ได้กลายเป็นเจ้าพ่อมาเฟียผู้ทรงอิทธิพล เขาสร้างความมั่งคั่ง ความร่ำรวย ให้กับตัวเอง ด้วยการฉ้อโกง ต้มตุ๋น และปลอมแปลงบัญชีเอกสาร โดย Morello เป็นคนที่ค่อนข้างยึดถือตามแบบฉบับของตัวเอง และหัวโบราณ ก่อนจะถูกลอบสังหารในปี 1930
28. Charles Floyd (1904-1934)
รู้จักกันในอีกชื่อ "Pretty Boy" เพราะเขามีใบหน้าคล้ายผลแอ๊ปเปิ้ล Floyd เติบโตในโอคลาโฮมา เขาถูกจับกุมครั้งแรกตอนอายุ 18 ข้อหาขโมยเงินในที่ทำการไปรษณีย์ท้องถิ่น อีกสามปีต่อมา เขาก็ถูกจับกุมอีกครั้งในข้อหาเดิม คราวนี้เลยติดคุกเป็นเวลา 5 ปี หลังได้รับการปล่อยตัว เขาได้ร่วมมือกับแก๊งค์อาชญากรรมออกปล้นธนาคารหลายแห่งจนกลายเป็นศัตรูอันดับหนึ่งของตำรวจ และเป็นที่นิยมของประชาชน เพราะได้ทำลายเอกสารของลูกหนี้ธนาคาร ในปี 1934 Floyd ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจยิงตายระหว่างพยายามหลบหนีการจับกุม
27. Giuseppe Bonanno (1905 - 2002)
Bonanno เป็นชาวซิซิเลียนที่เติบโตในอเมริกา เขาเป็นหัวหน้าแก๊งค์ Bonanno Crime Family และยังเป็นหนึ่งในสมาชิกคณะกรรมการสภาแก๊งค์มาเฟียที่คอยดูแลภาพรวมต่างๆ กิจกรรมทุกอย่างของแก๊งค์ และเป็นตัวกลางเพื่อลดความขัดแย้งของสมาชิกแก๊งค์
26. Liborio "Barney" Bellome (1975 - ปัจจุบัน)
ในปี 1990 เขาขึ้นมาเป็นหัวหน้าของ Geenovese crime family แทนที่ Gigante หัวหน้าคนก่อนที่ถูกจับคดีฉ้อโกง ต้มตุ๋น ขู่กรรโชก ฆาตกรรม และถูกตัดสินจำคุก 10 ปี จนมาในปี 2008 เขาถูกฟ้องร้องอีกครั้งในข้อหาเดิมๆ ฉ้อโกง ขู่กรรโชก ฟอกเงิน รวมถึงมีส่วนร่วมในคดีฆาตกรรมเมื่อปี 1998 เขายอมรับสารภาพผิด และได้ลดหย่อนโทษให้จำคุกเป็นเวลาปีเศษๆ จนกระทั่งปี 2009 เขาก็ได้รับการปล่อยตัวออกสู่อิสรภาพ
25. Giuseppe Falsone (1970 - ปัจจุบัน)
อาชญากรที่รัฐบาลอิตาลีต้องการตัวมากที่สุด Falsone ขึ้นมาเป็นหัวหน้าแก๊งค์ Cosa Nostra ในวัยเพียง 20 ปี หลังจากพ่อและพี่ชายถูกฆ่า เขาตามล้างแค้นคนที่สังหารครอบครัวของเขา และศัลยกรรมใบหน้าเพื่อหลีกหนีความผิด แต่ในปี 2010 เขาถูกจับกุม และถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิต
24. Ignazio Lupo (1877-1947)
อาชญากรตัวฉกาจที่ทรงอิทธิพลคนหนึ่งก่อนยุค 90 เขากับ Giuseeppe Morello ได้รวบรวมแก๊งค์มาเฟียต่างๆ จนกลายมาเป็น Morello crome family โดยมีชื่อเสียงด้านการฉกชิงวิ่งราว ต้มตุ๋นและฆาตกรรม แต่เขาก็ต้องสูญเสียอำนาจ และหมดความน่าเชื่อถือ หลังจากโดนดำเนินคดีข้อหาปลอมแปลงดอกสารตัวเลขในบัญชีค่าใช้จ่าย
23. Dutch Schultz (1902 - 1935)
มาเฟียหนุ่มเลือดร้อนที่มีชื่อเสียงตีคู่มากับ Lucky Luciano ในช่วงทศวรรษที่ 20 ซึ่งในยุคนั้นเป็นช่วงที่สหรัฐอเมริกากำลังรุ่งเรือง Schulz เป็นอาชญากรที่มีอิทธิพลมากคนหนึ่งในเมืองนิวยอร์ค องค์กรของเขาทำธุรกิจเหล้าเถื่อน การพนัน และการแทงหวยแบบผิดกฎหมาย และด้วยการขัดผลประโยชน์ทางธุรกิจกับแก๊งค์อื่น จึงทำให้เขาถูกลอบสังหารพร้อมกับสมาชิกในกลุ่ม
22. Paul Castellano (1915 - 1985)
หลังจากที่ C.Gambino ตาย เขาก็ขึ้นมาเป็นหัวหน้าแก๊งค์ของ Gambino crime family ในปี 1993 เจ้าหน้าที่เอฟบีไอได้ทำการแอบดักฟังโทรศัพท์ที่บ้านของเขา ซึ่งข้อมูลในเทปทำให้เขาโดนจับ พร้อมทั้งหัวหน้าแก๊งค์อีกหลายคน ในปี 1985 เขาถูกสั่งเก็บด้วยน้ำมือของ John Gotti
21. Salvatore Riina (1930 - ปัจจุบัน)
"Toto Riina" สมาชิกที่ทรงอิทธิพลของแก๊งค์มาเฟียซิซิเลียน เขาก่อคดีอาชญากรรมด้วยการสังหารคนไปกว่า 40 ศพ และจ้างวานฆ่ามากกว่า 100 ศพ ในยุค 80 แก๊งค์ของ Riina ได้ฆ่าศัตรูด้วยความโหดเหี้ยม ทำให้ตำรวจต้องออกกวาดล้างแก๊งค์มาเฟีย ส่วน Riina ถูกจำคุกตลอดชีวิต
20. Carlo "Don Carlo" Gambino (1902 - 1976)
หัวหน้าแก๊งค์มาเฟียชาวซิซิเลียน Gambino crime family เขามีฉายาว่า "The Boss of Bosses" โดยเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายรายหนึ่งได้ออกมาบอกว่า Gambino เป็นบุคคลที่ทรงอิทธิพล มีชื่อเสียงกว้างขวาง ร่ำรวย และเป็นแก๊งค์ที่แข็งแกร่งที่สุดแก๊งค์หนึ่งในอเมริกา
19. James J. Bulger (1929 - ปัจจุบัน)
อาชญากรตัวฉกาจที่ FBI พยายามล่าตัวมาเกือบทศวรรษ แต่ยังไม่เป็นผลสำเร็จ เขาเป็นลูกครึ่งไอริช - อเมริกัน รู้จักกันในนาม While Bulger เป็นผู้นำของ Winter Hill ซึ่งเป็นแก๊งค์ค้ายาเสพติด และขู่กรรโชกทรัพย์ในเมืองบอสตัน Bulger กระทำการผิดกฎหมาย และฆาตกรรมหลายครั้ง รวมทั้งยังมีส่วนร่วมกับองค์กรอาชญากรรมขนาดใหญ่ในทวีปอเมริกาเหนือและยุโรป เช่น กองทัพสาธารณรัฐไอริช
18. John Joseph Gotti (1940 - 2002)
เจ้าพ่อมาเฟียชาวอเมริกันที่ผันตัวเองขึ้นมาเป็นหัวหน้าแก๊งค์ Gambino crime family ในนครเมืองนิวยอร์ค ซึ่งเขาก่ออาชญากรรมครบทุกรูปแบบ ไล่ตั้งแต่การาตกรรม หลีกเลี่ยงการจ่ายภาษี ปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยโหด ธุรกิจการพนันครบวงจร ในปี 1992 Gotti ถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิต และเสียชีวิตในเวลาต่อมาด้วยโรคมะเร็ง
17. Vincent "The Chin" Gigante (1928 - 2005)
มาเฟียลูกครึ่งอิตาเลียน - อเมริกัน ที่ผันตัวเองมาจากนักมวยสากล เข้าสู่องค์กรอาชญากรรมอย่าง Genovese crime family ชีวิตของเขารุ่งเรืองอย่างสุดขีดในปี 1981 โดยได้ขึ้นมาเป็นหัวหน้าของ Genovese crime family ในระหว่างนี้เขาได้แกล้งป่วยทางจิต เพื่อหลีกหนีความผิดต่างๆ จนกระทั่ง ปี 1997 Gigante ถูกดำเนินคดีในข้อหาฉ้อโกง และสมรู้ร่วมคิด เขาถูกตัดสินจำคุกนานถึง 12 ปี และเสียชีวิตในปี 2005
16. Alimzhan Tokhtakhunov (1949 - ปัจจุบัน)
จากนักเตะฟุตบอลโนเนมกลายมาเป็นหัวหน้าองค์กรอาชญากรรมที่มีชื่อเสียงของรัสเซีย Tokhtakhunov เป็นชาวอุซเบกิซสถาน มีฉายาว่า "Taiwanchik" เพราะมีใบหน้าคล้ายคนเอเชีย เขาเป็นอาชญากรคนสำคัญที่สหรัฐฯ ต้องการตัวเพราะมีส่วนร่วมในการค้ายาเสพติด ค้าอาวุธสงคราม และธุรกิจขโมยรถยนต์ ในปี 2002 เขากลายเป้นผู้ต้องหาในกรณีติดสินบนกรรมการตัดสินการแจ่งขันสเก็ตน้ำแข็งในมหกรรมกีฬาโอลิมปิคฤดูหนาว ที่เมืองยูทาห์ ประเทศสหรัฐอเมริกา
15. Dawood Ibrahim (1956 - ปัจจุบัน)
ผู้นำองค์กรอาชญากรรม D - Company ในประเทศอินเดีย เป็นองค์กรที่มีส่วนพัวพันตั้งแต่ค้ายาเสพติดไปจนถึงรับจ้างวานฆ่า เขาเป็นบุคคลที่รัฐบาลอินเดียต้องการจับกุมตัวมากที่สุด ซึ่งรัฐบาลสหรัฐฯ อ้างว่า Ibrahim ใช้เส้นทางลักลอบขนยาเสพติดร่วมกับกลุ่มก่อการร้ายโจมตีเมืองมุมไบเมื่อปี 2008 ทำให้ Ibrahim เป็นบุคคลติด 1 ใน 10 ที่นิตยสารฟอร์บจัดอันดับให้เป็นอาชญากรที่น่ากลัวที่สุดประจำปี 2008
14. Tony Accardo (1906 - 1992)
Accardo เป็นสมาชิกแก๊งค์ของ Al Capone เขาได้รับฉายาว่า "Joe Batters" ซึ่งเป็นฉายาที่ Capone เป็นคนตั้งให้ และ "Big Tuna" หลังจากที่ Capone ตาย Accardo ก็ได้ก้าวขึ้นมาเป็นหัวหน้าของ Chicago Outfit ระหว่างที่เขาดำรงตำแหน่ง เขาได้จัดการองค์กรเสียใหม่ ด้วยการขยายอาณาเขต แผ่อิทธิพล และเพิ่มความมั่งคั่ง
13. William "Dint" Colbeck (1890 - 1943)
Colbeck มีส่วนพัวพันกับองค์กรอาชญากรรมมากมาย ซึ่งเกี่ยวข้องกับธุรกิจการขายของเถื่อน ค้าโสเภณี และการพนันทุกรูปแบบ ในปี 1918 เขาได้เข้าร่วมแก๊งค์ Egan's Rats ของ Willie Egan ต่อมาในปี 1921 เขาได้ขึ้นเป็นหัวหน้าแก๊งค์ Egan's Rats อย่างเต็มตัว เพราะ Egan ถูกยิงตายด้วยน้ำมือของคู่อริ ถือได้ว่าเป็นแก๊งค์ที่มีอิทธิพลสูงสุดแก๊งค์หนึ่งเลยทีเดียว
12. Joaquin Guzman Loera (1957 - ปัจจุบัน)
เจ้าพ่อมาเฟียที่มีชื่อเสียงฉาวโฉ่ที่สุดในโลก รู้จักกันในนาม เอล ชาโป (El Chapo) เขาแผ่อิทธิพลเข้าควบคุมเส้นทางลำเลียงโคเคน เฮโรอีน และกัญชาจากเม็กซิโกเข้าสู่สหรัฐอเมริกา ในปี 1993 เขาถูกจับกุมตัว แต่ระหว่างการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน เขาได้ติดสินบนเจ้าหน้าที่หลายคนจนสามารถหลบหนีไปได้ ปัจจุบันรัฐบาลสหรัฐฯ ฟ้องร้องดำเนินคดีกับ Guzman และตั้งค่าหัวไว้ที่ 5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งหลังจากการตายของบินลาดิน Guzman ก็กลายเป็นบุคคลที่องค์การตำรวจสากลต้องการตัวมากที่สุดคนหนึ่ง
11. Benjamin "Bugsy" Siegel (1906 - 1947)
เขามีความเกี่ยวข้องกับกลุ่ม Genovese crime family ซึ่งเป็นผู้อยู่เบื้องหลังในการผลักดันเมืองลาสเวกัสให้เข้าสู่ความเจริญ ในช่วงวัยรุ่น Siegel เป็นเพื่อนสนิทกับ Meyer Lansky ทั้งสองได้ตั้งแก๊งค์ "Bug and Meyer" ทำธุรกิจค้าเหล้าเถื่อน บ่อนการพนัน โจรกรรมรถ และฆาตกรรม ในปี 1937 Siegel สนุกกับชีวิตด้วยการใช้จ่ายฟุ่มเฟือย เขาได้ลงทุนทำอสังหาฯ โดยสร้างโรมแรม บ่อนคาสิโน ในเวกัส ซึ่งยืมเงินจากแก๊งค์ และนี่เป็นสาเหตุทำให้เขาต้องพบจุดจบเพราะไม่สามารถหาเงินมาคืนได้
10. Pablo Escobar Gaviria (1949 - 1993)
ปาโบล เอสโคบาร์ ราชาแห่งยาเสพติดชาวโคลัมเบีย ที่ชอบพูดว่า "การทำผิดกฎหมาย คือสิ่งที่ดีที่สุดในโลก" เขาเริ่มต้นทำธุรกิจโคเคนในปี 1970 เรื่อยมาจนถึงยุค 80 Escobar ได้ควบคุมการส่งออกโคเคนในสหรัฐฯ มากกว่า 80% ซึ่งนั่นทำให้เขากลายเป็นหนึ่งในอาชญากรที่ร่ำรวยและประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์โลก และถูกจัดอยู่ในอันดับ 7 บุคคลที่รวยที่สุดในโลกประจำปี 1989 ของนิตยสารฟอร์บส์ โดยในปี 1986 Escobar ได้จ่ายเงิน 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อปลดหนี้ให้กับประเทศชาติ
9. Meyer Lansky (1902 - 1983)
บุคคลสำคัญขององค์กรอาชญากรรม Lansky เขาทำงานเคียงคู่กับ Lucky Luciano โดยเป็นหนึ่งในคณะกรรมการของสภา คอยดูแลกิจกรรมต่างๆ ของแก๊งค์ และยังเป็นผู้ยกระดับธุรกิจการพนันให้กว้างขวาง ตั้งแต่ นิวยอร์ค ไมอามี รวมถึง ลาสเวกัส และดูแลสัมปทานบ่อนพนันในคิวบาอีกด้วย ในช่วงวัยรุ่นเขามีเพื่อนสนิทชื่อ Benjamin Siegel ทั้งสองตั้งแก๊งค์ร่วมกันโดย Siegel ได้ช่วยชีวิตเขาเอาไว้หลายครั้ง
8. Luciano Leggio (1925 - 1993)
เจ้าพ่อมาเฟียชาวอิตาเลียน และผู้นำคนสำคัญของแกีงค์มาเฟียซิซิเลียน ซึ่งเขาเป็นหัวหน้าแก๊งค์ของตระกูล Corleonesi ไม่เพียงแต่เส้นทางของ Corleonesi จะกลายเป็นมาเฟียที่มีอำนาจครอบครองในเมืองซิซิลี ทำให้ Leggio เป็นบุคคลที่หวาดกลัวของประชาชน เพราะเขาทั้งก่ออาชญากรรมหลากหลายรูปแบบ รวมถึงก่อคดีฆาตกรรมมากมาย ในปี 1974 Leggio ถูกศาลตัดสินให้จำคุกตลอดชีวิต และในปี 1993 เขาก็ได้เสียชีวิตด้วยอาการหัวใจล้มเหลว
7. Vito Genovese (1897 - 1969)
หัวหน้าแก๊งค์มาเฟียชาวอิตาเลียนผู้ทรงอิทธิพลที่อยู่ในยุครุ่งเรืองของอเมริกา Vito เป็นผู้นำของ Genovese crime family ซึ่งเขามีความสัมพันธ์อันดีกับ Lucky Luciano และยังคอยให้คำปรึกษาแก่ Vincent "The Chin" Gigante อาชญากรที่ขึ้นมาเป็นผู้นำคนใหม่ของแก๊งค์ในเวลาต่อมา
6. Matteo Denaro (1962 - ปัจจุบัน)
หัวหน้าแก๊งค์มาเฟียชาวอิตาเลียนที่มีชื่อเสียงโด่งดัง หนึ่งในผู้นำคนใหม่ของ Cosa Nostra หลังจากที่ Bemardo Provenzano หัวหน้าแก๊งค์คนเก่าถูกจับกุมตัว Denaro เป็นคนมีนิสัยเจ้าสำราญ ใช้ชีวิตหรูหรา คฤหาสน์หลังโต ขับรถปอร์เช่ สวมนาฬิกาโรเล็กซ์ เชื่อกันว่าแก๊งค์มาเฟียของเขายังคงดำเนินธุรกิจไปได้ด้วยดี ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจขาลงของประเทศอิตาลี จนถูกเรียกว่าเป็นองค์กรที่ทรงพลังที่สุดของอิตาลี
5. Semion Mogilevich (1946 - ปัจจุบัน)
อาชญากรชาวรัสเซียที่ถูกตราหน้าว่าเป็นหนึ่งในอาชญากรที่อันตรายที่สุดในโลกคนหนึ่ง สหรัฐฯ พยายามร้องขอตัว Mogilevich เนื่องจากเขามีส่วนพัวพันกับการฉ้อโกงหุ้นในตลากหลักทรัพย์เป็นมูลค่าถึง 150 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดย Michael Dixon เจ้าหน้าที่ของ FBI เชื่อว่าไม่ได้มีการฉ้อโกงทางการเงินเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีอีกหลายกิจกรรมที่ Mogilevich เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง ตั้งแต่รับจ้างฆ่าไปจนถึงค้าอาวุธ ซึ่งเป็นไปได้ว่าคือส่วนประกอบของอาวุธนิวเคลียร์
4. Frank Costello (1891 - 1973)
"Prime Minister of the Underworld) หนึ่งในเจ้าพ่อมาเฟียที่มีอิทธิพลสูงสุดในประวัติศาสตร์ของแก๊งค์มาเฟีย เขาเป็นผู้นำของ Luciano crime family (ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น Genovese crime family) เขาควบคุมกิจการทุกอย่างโดยเฉพาะธุรกิจการพนัน และการค้าเหล้าเถื่อน เพราะได้รับการหนุนหลังจากอิทธิพลทางการเมือง
3. John "Papa Johnny" Torrio (1882 - 1957)
เจ้าพ่อมาเฟียที่ทรงอิทธิพลในยุค 20 เขาคือหนึ่งในผู้สร้างจักรวรรดิองค์กรอาชญากรรมอันยิ่งใหญ่อย่าง Chichaco Outfit ในช่วงบั้นปลายของ Torrio เขาได้วางมือ และกลับไปใช้ชีวิตในบ้านเกิด ก่อนจะมอบอำนาจทั้งหมดให้กับ Capone
2. Charlie "Lucky" Luciano (1897 - 1962)
โคตรเจ้าพ่อมาเฟียชาวอิตาเลียนที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้ริเริ่มการเปลี่ยนแปลงรูปแบบแก๊งค์มาเฟียด้วยการสร้างเครือข่ายองค์กรอาชญากรรมที่ทรงอิทธิพลขึ้นในเมืองนิวยอร์ค ประกอบไปด้วย 5 ตระกูลใหญ่ ได้แก่ Genovese crime family, Philadelphia crime family, Buffalo crime family, Los Angeles crime family และ Chicaco Outfit และยังเป็นผู้ก่อตั้งสภาคณะกรรมการ ซึ่งเป็นองค์กรที่คอยดูแลปกครองแก๊งค์มาเฟียในสหรัฐฯ ร่วมกับ Meyer Lansky ซึ่งเขาได้รับการยกย่องจากนิตยสาร TIME ให้เป็นหนึ่งในยี่สิบ บุคคลที่มีอิทธิพล (ด้านลบ) แห่งศตวรรษที่ 20 เลยทีเดียว
1. Alphonse Capone (1899 - 1947)
ตำนานเจ้าพ่อเหนือเจ้าพ่อผู้โด่งดังตลอดกาล อัล คาโปน (Al Capone) "ไอ้หน้าบาก" (Scarface) เส้นทางการเป้นเจ้าพ่อของ Capone เริ่มจากเข้าร่วมกับแก๊งค์ Chicaco Outfit ของ Johnny Torrio ซึ่งในตอนนั้นเป็นแก๊งค์มาเฟียที่มีอิทธิพลกว้างขวางหลังจากได้รับอำนาจจาก Torrio เขาก็เริ่มต้นขยายธุรกิจการพนัน แข่งม้า และที่ท้าทายอำนาจรัฐที่สุดในยุคนั้นคือ ธุรกิจเหล้าเถื่อน โดยคดีที่เป็นตำนานกล่าวขวัญไปทั่วโลกของ Capone คือ การสังหารหมู่ในวันเซนต์ วาเลนไทน์ ปี 1926 เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้ไม่มีแก๊งค์ไหนกล้าต่อกรกับเขาอีกเลย อิทธิพลและผลประโยชน์ต่างๆ จึงผูกขาดโดยกลุ่มของ Capone แต่เพียงผู้เดียว ในปี 1931 Capone ถูกจำคุก 11 ปี ในคดีเลี่ยงภาษี แต่ก็ได้รับการปล่อยตัวในปี 1939 ซึ่งระหว่างอยู่ในคุกเขาได้ติดเชื้อซิฟิลิส ก่อนที่จะสิ้นลมหายใจในแ 1947 ปิดตำนานเจ้าพ่อเหนือเจ้าพ่อในที่สุด
ที่มา แม็กซิมไทยแลนด์
ประวัติพระเจ้าเฮนรี่ที่ 8
เจ้าพระยาวิชเยนทร์ หรือจะเป็นรักร่วมเพศในราชสำนักสยาม
ผู้หญิงสองคนในชีวิต อับราฮัม ลินคอล์น
พระเจ้าซุกจง แห่งเกาหลี เมื่อผู้หญิงเป็นหมากการเมือง
รักบนบัลลังก์เลือดของกษัตริย์เกาหลีองค์สุดท้าย
รักจำพรากหลังวังมังกร
อู๋ซันกุ้ย ยามจอมทัพมีความรัก ชาติก็ล่มสลาย
จักรพรรดิปูยี มังกรไร้บัลลังค์
อโดนิส ตำนานดอกไม้แห่งความรัก
มาตาฮารี ยอดจารชนหญิงของโลก
เจ้าฟ้าหญิงบุญรอด ต้นกำเนิดกาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน
ขุนศึกหญิงแดนมังกร มู่กุ้ยอิง หวางชิงเอ๋อ และฮัวมู่หลาน
ตำนานธอร์ (Thor) เทพสายฟ้า
สารคดีสงครามเย็น บทบาทของผู้นำโซเวียต นิกิต้า ครุสชอฟ (Nikita Khrushchev)
การพบเห็นมนุษย์ต่างดาวในประวัติศาสตร์
ความขัดแย้งในคาบสมุทรเกาหลี
ประวัติศาสตร์กำแพงเมืองจีน (The Great Wall of China)
รักต่างวัยของพระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 และ แคทเธอรีน โฮเวิร์ด
ฮาเร็ม สวรรค์ของหนึ่งบุรุษหรือทุกข์ของอิสตรี
โจน ออฟ อาร์ค วีรสตรีที่โลกไม่เคยลืม
เปิดแฟ้มลับชีวิตรัก อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ (Adolf Hitler)
จักรพรรดิเนโร ที่โหดก็เพราะรัก
พระนางเลือดขาว ตำนานรักและคำสาปแห่งเกาะลังกาวี
10 อารยธรรมโบราณที่เก่าแก่ที่สุดที่เคยมีมา
10 อันดับโรคระบาดที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์
7 เหตุการณ์ที่สำคัญที่สุดในเปอร์เซียโบราณ
12 สุดยอดข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเจงกิสข่าน
18 สุดยอดสิ่งประดิษฐ์และการค้นพบของจีนโบราณ
10 ตำนานยอดนิยมและน่าสนใจในกรุงโรมโบราณ
ผู้ปกครองหญิง 9 อันดับแรกของโลกโบราณ
9 อันดับนักรบหญิงของโลกยุคโบราณ
8 อันดับผลงานของฮัมมูราบี
12 อันดับผลงานของโสกราตีส
บทความแนะนำ