เจ้าหญิงคาโรลีนกับเจ้าชายเอิร์นต์ ยุติชีวิตคู่สิบปี
นับตั้งแต่วันแรกที่ลืมตาดูโลกในราชอาณาจักรโมนาโก ชีวิตของเจ้าหญิงแคโรลีนแห่งโมนาโก ก็ก้าวไปบนพรมแดงนุ่มละมุนประดับเพชรงามหรูที่พ่อแม่จัดเตรียมไว้ให้ ขณะที่เด็กหญิงบางคนอาจจะต้องอดมื้อกินมื้อ แต่เจ้าหญิงแคโรลีน พระธิดาองค์โตในเจ้าชายเรนิเยร์ ที่ 3 แห่งโมนาโก ทรงใส่แต่เสื้อผ้าจากห้องเสื้อระดับโลก ใช้ของดีราคาแนสิบลิวยิ่งเมื่อทรงเจริญพระชันษาเข้าสู่วัยรุ่นก็ทรง - เป็นสาวน้อยแสนสวยดาวเด่นของวงสังคม ทร0มีรสนิยมดีเยี่ยม ฉลาดรอบรู้ มีเสน่ห์ มั่นใจในตัวเองสูง สมกับเป็นเจ้าหญิงผู้สูงศักดิ์ทุกกระเบียดนิ้ว
นี่คือฉากหน้าอันเลิศหรูที่สังคมมองเห็น แต่เบื้องหลังที่พสกนิกรไม่ได้รับรู้ก็คือ เจ้าหญิง คาโรลีนทรงถูกกดดันอย่างหนักภายใต้กรอบ มณเฑียรบาล และการเลี้ยงดูอย่างเข้มงวด ของพระบิดามารดา ทําให้ทรงกลายเป็นคน แข็งกร้าว เอาแต่พระทัย หัวแข็ง และหาเรื่อง งัดข้อกับพระบิดาได้สารพัด ทรงต้องการ ประกาศให้พระบิดารู้ว่า พระองค์จะไม่ยอมเดิน ไปบนเส้นทางที่ใครขีดให้ นอกจากตัวเอง
เป็นธรรมดาที่สาวเจ้าเสน่ห์จะต้องมีหนุ่มๆ มารุมหมายปอง ยิ่งสาวคนนั้นมีอิสริยยศเจ้า หญิงพ่วงท้ายมาด้วย จํานวนชายหนุ่มที่หวัง ไต่บันไดดาวขึ้นไปเป็นราชบุตรเขยก็ยิ่งมาก เป็นทวีคูณ แต่ในบรรดาคู่ควงทั้งหมด คนที่ทํา หัวใจเจ้าหญิงแคโรลีนไว้ได้ก็คือ ฟิลลิป ในต์ เพลย์บอยรูปงามชาวฝรั่งเศส ซึ่งแก่กว่าพระองค์ ถึง 17 ปี เสน่ห์ของเพลย์บอยหนุ่มใหญ่มัดใจ สาวน้อยแคโรลีนได้อยู่หมัด ยิ่งเมื่อทรงทราบ ว่าพระบิดาไม่โปรดประวัติเสเพลของคนรัก ก็ ยิ่งเป็นแรงท้าทายให้เจ้าหญิงดึงดันจะอภิเษก กับฟิลลิปให้จงได้ ในที่สุดงานอภิเษกครั้งแรกใน ชีวิตของเจ้าหญิงแห่งโมนาโกจึงมีขึ้นท่ามกลาง ความดีใจของพสกนิกรทั้งประเทศ และความ เสียพระทัยอย่างใหญ่หลวงของพระบิดามารดา ที่หวังจะได้เห็นลูกสาวแต่งงานกับผู้ชายที่ดี กว่านี้
แต่แล้วเพียง 2 ปี ชีวิตแต่งงานครั้งแรก ของเจ้าหญิงแคโรลีนก็ล้มคว่ําไม่เป็นท่า เพราะ ความเจ้าชู้ของพระสวามี นอกจากจะทรงเสีย พระทัยอย่างหนักแล้ว แคโรลีนยังเสียหน้า อย่างแรงที่ชีวิตแต่งงานกับฟิลลิปเป็นไปตามคํา ทํานายของพระบิดาทุกประการ เจ้าหญิงจึงรีบ โผเข้าหาคู่ควงคนใหม่เพื่อล้างอาย ทรงกลาย เป็นกระดังงาลนไฟออกใหม่ในวงสังคม ที่ส่ง กลิ่นหอมล่อแมลงในวงสังคมชั้นสูงให้บินมา ดอมดมตัวแล้วตัวเล่า โดยไม่สนใจว่าจะสร้าง ความด่างพร้อยให้ราช ตระกุลมากมายแค่ไหน
กระดังงาดอกนี้หอมหวนทวนลมอยู่นาน ปี ในที่สุดโชคชะตาก็พาให้ได้พบกับแมลง หนุ่มที่ทรงรอคอย เขาคือสเตฟาโน คาสิราก นักธุรกิจหนุ่มทายาทเจ้าของกิจการน้ํามันชาว อิตาเลียน ผู้สอนให้เจ้าหญิงแคโรลีนได้รู้เป็น ครั้งแรกว่า รักแท้มีอยู่จริง การแต่งงานครั้งนี้ เต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข สเตฟาโนคือคนที่ มองเห็นตัวตนที่แท้จริงของเจ้าหญิง ว่าลึกลงไป ภายใต้ยศศักดิ์และความหรูหราฟุ้งเฟ้อ แคโรลีน ก็ทรงเป็นเพียงผู้หญิงธรรมดาที่มีเลือดเนื้อ มี ความต้องการ โหยหาคนรักคนเข้าใจ ไม่ต่าง จากผู้หญิงสามัญชนคนอื่นๆ เลย ทว่าความ สุขอยู่กับพระองค์ได้ไม่นาน เพียง 7 ปีหลัง การแต่งงาน ผู้ชายที่เป็นรักแท้คนนี้ก็ประสบ อุบัติเหตุเสียชีวิต ทิ้งลูกชายหญิง 3 คน เอาไว้ ให้ภรรยาผู้สูงศักดิ์ที่ร้องไห้จนน้ําตาแทบจะเป็น สายเลือดเอาไว้ดูต่างหน้า
ดูเหมือนโชคชะตาจะลิขิตมาให้เจ้าหญิง แคโรลีนต้องไขว่คว้าหารักอย่างไม่สิ้นสุด ม่าย สาวคนสวยจึงต้องออกหว่านเสน่ห์ตามงาน สังคมอีกครั้ง แต่ไม่มีคนไหนมัดพระทัยพระองค์ ได้นานสักคน ในตอนนั้นคนที่ดูท่าทางว่าจะ มีภาษีได้เป็นพระสวามีคนที่ 3 มากกว่าใคร เห็นจะเป็น แวงซ็อง แลงด็อง นักแสดงหนุ่มชาว ฝรั่งเศส ซึ่งเจ้าหญิงทรงควงอยู่นานกว่าเพื่อน แต่แล้วก็เหมือนฟ้าผ่ากลางวันแสกๆ เพราะ จู่ๆ เจ้าหญิงแคโรลีนก็ประกาศว่า พระองค์จะ อภิเษกครั้งที่ 3 กับเจ้าชายเอิร์นต์ ออร์กุสต์ แห่งแฮนโนเวอร์ ประมุขราชวงศ์แฮนโนเวอร์ แห่งเยอรมัน
ถ้าเจ้าหญิงจะอภิเษกกับชายสามัญชน ยากจนเข็ญใจที่ไหนสักคน ชาวโมนาโกอาจจะ ทําใจรับได้มากกว่านี้ เพราะเจ้าชายเอิร์นต์แม้จะมีศักดิ์คู่ควรกันทุกประการ แต่ก็ทรงมีพระ ชายาแล้ว เรื่องเลยโอละพ่อว่า เจ้าหญิงที่ชาว โมนาโกแสนจะภูมิใจในความสวยความเก่งจะ ไปเป็นก๊กกับสามีชาวบ้าน งามหน้าไหมล่ะ! ที่ สําคัญ เจ้าชายหนุ่มแห่งราชวงศ์แฮนโนเวอร์
พระองค์นี้ ทรงขึ้นชื่อเรื่องความเพี้ยน บ้าระห่ํา เอาแต่พระทัย ชอบทําองค์ให้เป็นข่าวฉาวๆ ได้ ไม่เว้นแต่ละวัน จนพระบิดามารดายังระอา
ปกติเจ้านายชั้นสูงจะถูกอบรมมาให้เก็บ อารมณ์ ถึงจะไม่พอใจก็มักไม่แสดงออก แต่ สําหรับเจ้าชายเอิร์นต์ ถ้าทรงไม่พอใจก็จะด่า กราดใส่นักข่าวที่มารุมสัมภาษณ์ซะอย่างนั้น ซ้ําร้ายยังเคยถูกหนังสือพิมพ์ลงข่าวให้อับอาย มาแล้วว่า ทรงปัสสาวะในที่สาธารณะ ในงาน เอ็กซ์โปที่เยอรมัน ซึ่งเจ้านายชั้นสูงที่จิตปกติ ไม่มีใครกล้าทํา
แต่ถ้ามองในอีกมุมหนึ่ง เจ้าชายเอิร์นต์ก็คือ ผู้ชายที่เหมาะสมกับเจ้าหญิงแคโรลีนที่สุดแล้ว ทั้งชาติตระกูล ฐานันดร แม้แต่ประสบการณ์ ชีวิตที่ถูกบีบคั้นมาด้วยกรอบแห่งกฎมณเฑียร บาลมาเหมือนๆ กัน ต้องใช้ชีวิตแบบระวังจน ตัวลีบเพื่อให้เป็นแบบอย่างอันดีของไพร่ฟ้า ข้าแผ่นดิน และต้องหลบๆ ซ่อนๆ ชีวิตส่วนตัว จากสายตาของนักข่าวที่คอยจ้องจับผิดทุกย่าง ก้าว แม้แต่นิสัยแข็งกร้าวเอาแต่ใจของเจ้าหญิง เจ้าชายคู่นี้ ก็มาจากความกดดันซ้ําๆ ซากๆ ที่ ต้องทรงพบเจอมาเหมือนๆ กัน แทบจะเรียกได้ ว่าทั้งสองพระองค์เป็นคนๆ เดียวที่ฟ้าสร้างมา ให้อยู่กันคนละที่คนละเวลาเท่านั้นเอง
แม้แต่สมัยที่เจ้าหญิงเกรซ พระมารดาของ เจ้าหญิงแคโรลีนยังมีพระชนม์ชีพอยู่ ก็ยังเคย หมายตาเจ้าชายเอิร์นต์ให้เป็นคู่อภิเษกของเจ้า หญิงแคโรลีนมาแล้ว แต่ในตอนนั้นความคิด ขบฏแบบเด็กวัยรุ่น ทําให้เจ้าหญิงทรงปฏิเสธ ทุกอย่างที่พ่อแม่หยิบยื่นให้ ทั้งสององค์จึงต้อง แคล้วคลาดกันไป เมื่อคิดถึงจุดนี้ เจ้าชายเรน เยร์ที่ 3 พระบิดาผู้ห่วงใยลูกสาวคนนี้ยิ่งกว่า ใครก็ยอมไฟเขียว เปิดทางให้เจ้าหญิงคาโรลีน ได้ทําตามที่หัวใจต้องการ
หลังจากเจ้าชายเอิร์นต์ทรงหย่าขาดจาก พระชายา งานอภิเษกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดงานหนึ่งก็ ถูกจัดขึ้นอีกครั้ง จากนั้นเจ้าหญิงคาโรลีนทรง เปลี่ยนฐานะไปเป็นพระชายาแห่งแฮนโนเวอร์ อย่างเต็มภาคภูมิ ซึ่งก็ทรงปฏิบัติพระกรณียกิจ และวางพระองค์ได้ดีไม่มีที่ติ เพราะคือสิ่งที่ทรง คุ้นเคยมาตั้งแต่วันแรกที่ลืมตาดูโลก
อย่างไรก็ตาม ตลอดเวลาที่ครองรักกันนั้น คาโรลีนก็พบว่าความบ้าระห่ำของพระองค์นั้น เป็นเพียงนิสัยของเด็กดื้อ เมื่อเทียบกับความ เอาแต่ใจของพระสวามี ถึงแม้จะมีพระชันษา 50 กว่าเข้าแล้ว แต่เจ้าชายเอิร์นต์ก็ยังไม่เคย วางองค์ให้สมกับที่เป็นเจ้าเป็นนาย ถ้าใคร ทําสิ่งอะไรให้ไม่พอใจ จะทรงสบถค่าอย่าง หยาบคายออกมาทันทีโดยไม่เลือกเวล่ําเวลา หรือสถานที่ แม้แต่กับเจ้าหญิงเอง พระสวามี ก็ไม่ได้เว้นที่จะตะคอกใส่หน้าอยู่บ่อยๆ หาก ต้องออกงานสังคมด้วยกัน คาโรลีนจะต้องนั่ง เกร็งตลอดเวลา ด้วยความกลัวว่าพระสวามี จะทําอะไรห่ามๆ ฉีกหน้าเมียให้ขายหน้าผู้คน มิไยที่คาโรลีนจะพยายามขอร้องพระสวามีให้ เปลี่ยนแปลงตัวเอง แต่เจ้าชายเอิร์นต์ซึ่งยึด มั่นในความคิดของตัวเอง ก็ไม่สนใจรับฟัง
ความอดทนของเจ้า หญิงมาถึงขีดสุดเมื่อ พระสวามีไปมีเรื่องกับ เจ้าของโรงแรมแห่งหนึ่ง ในเคนยา และแทนที่จะ ระงับอารมณ์แบบคนที่ ได้รับการอบรมมาดี เจ้า ชายเอิร์นต์กลับตบหน้า เจ้าของโรงแรมรายนั้น เข้าไป 2 ฉาดใหญ่ จนถูกฟ้องร้องต้องขึ้นโรง ขึ้นศาลกันอย่างเอิกเกริก พาเอาคาโรลีนซึ่งเป็น พยานที่อยู่ในเหตุการณ์ต้องไปให้ปากคําในศาล ด้วย ซึ่งถือว่าเป็นการเสื่อมเสียพระเกียรติอย่าง ใหญ่หลวงที่สุด เท่าที่สมาชิกราชวงศ์โมนาโก เคยประสบมา
หลังคดีจบสิ้นเจ้าหญิงคาโรลีนจึงคิดว่า ถึงเวลาแล้วที่ชีวิตคู่ถึง 10 ปีเต็มของพระองค์ จะต้องจบลงสักที ไม่ใช่เพราะทรงหมดรักพระ สวามี แต่เป็นเพราะความรักจะดํารงอยู่ได้ก็เมื่อ คนสองคนปรับตัวเข้าหากัน ทว่าเจ้าชายเอิร์นต์ ไม่ทรงคิดจะเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อใคร หรือ เห็นแก่ความสุขของใครมากไปกว่าตัวเองเลย แล้วเรื่องอะไรที่พระองค์จะต้องทนเจ็บช้ํา อยู่เพียงผู้เดียว คาโรลีนจึงหย่ากับเจ้าชาย เอิร์นต์ แล้วเสด็จกลับไปประทับอยู่ที่โมนาโก บ้านเกิดเมืองนอนของพระองค์ พร้อมความ หวังว่า สักวันพระเจ้าจะพารักแท้ที่ดีพร้อม มาให้พระองค์เสียที