เหตุการณ์ลอบสังหารอุกอาจ กลางสนามบินใกล้บ้านเรานี้เป็นข่าว ช็อกไปทั่วโลก ซึ่งประเด็นหนึ่งที่น่าห่วง ก็คือการลอบแทรกซึมเข้ามาของ “จารชน” ที่อาจไม่ใช้ฝีมือคนต่างชาติ เสมอไปเพราะเขา (หลอก) ใช้ "คน ท้องถิ่น" ให้ร่วมมือโดยแสร้งทําว่า เป็นการถ่ายทํารายการโทรทัศน์สนุกๆ ดังเช่นที่เป็นข่าวว่า มีหญิง 2 คน สารภาพว่าได้รับเงินค่าจ้างคนละ 400 ริงกิต หรือประมาณ3,000 บาท ให้ร่วม รายการแกล้งคนโดยการฉีดสเปรย์ซึ่ง คงจะเป็นน้ําเปล่าใส่คนที่ห้างมาก่อน แล้วต่อมาก็ถูกหลอกให้มาฉีดสารพิษ กับ "คิม จอง นัม" พี่ชายของ "คิม จอง อึน" ผู้นําเกาหลีเหนือ ที่สนามบิน จนเสียชีวิต ดังที่เป็นข่าว เมืองไทยเราก็มีคนชอบทําคลิป แกล้งคนประเภทนี้ออกมาเยอะ จึงต้อง ระวังไว้ให้มาก ต่อไปคงไม่รู้ว่าแกล้งจริงหรือเป็นการ “เอาถึงตาย” เพราะยากต่อการ ตรวจสอบ ณ เวลานั้นแต่ง่ายต่อการ ยืมมือของมัจจุราชชาวต่างชาติ
กลับมาถึงเหตุการณ์ฆาตกรรม เขย่าขวัญในครั้งนี้ว่าเหตุที่ดังขึ้นมา เพราะผู้ตายเป็นคนธรรมดา ทว่ามีสาย เลือดส่วนหนึ่งร่วมกับผู้นําเกาหลีเหนือ ซึ่งเหตุที่บอกว่าเหยื่อเป็นคนธรรมดา ก็เพราะเขาพยายามที่จะใช้ชีวิตอย่าง สามัญเพื่อจะได้ไม่ไป “ขวาง” ผู้ยิ่งใหญ่ แห่งเกาหลีเหนือเข้า ถึงขนาดว่าเคย ขอร้องน้องชายเป็นการส่วนตัวกันว่าให้ ไว้ชีวิตเขาด้วย ทว่าคําขอร้องของสายเลือดโสมแดงคงไม่เป็นผล เลยทําให้คน โจษจันสงสัยกันมากว่ามีอะไรแอบแฝง ที่ทําให้เลือดแดงเหมือนกันแต่กลับไม่ ข้นกว่าน้ําทั้งที่เกาหลีเหนือก็ได้ออกมาปฏิเสธเรียบร้อยแล้ว โดยเฉพาะรูปแบบ กรสังหารโหดนั้นใช้สารพิษที่อันตราย สุดๆ เรียกว่าโดนเพียงนิดก็ไม่รอด แล้ว แต่นี่ใช้ในปริมาณที่ชาวบ้านเรียก ยิ่งกว่า “ล้มช้าง” เลยกลายเป็นเรื่องใหญ่ ที่ใคร ๆ ก็สงสัยว่าอะไรคือ “อาวุธเคมี” ที่ว่า
“วีเอ็กซ์” (X) อาวุธเคมีที่ใช้สังหาร
แค่สัมผัสก็ตายได้ (ไม่เว้นแม้มือสังหาร)
ในอดีตโลกของเราเคยมีการใช้ สารพิษเพื่อสังหารศัตรูหรือแม้แต่ตัวเอง ยามจนตรอกขึ้นมา ซึ่งล่าสุดในประวัติ ศาสตร์คือยุคของ "นาซี" แล้วต่อมามี สงครามเย็น โดยผู้นํานาซีเยอรมันคือ อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ได้อนุมัติการใช้ สารพิษที่มี “ฤทธิ์เร็ว และแรง)" ในการ สังหารตัวเองในกรณีที่ถูกฝ่ายตรงข้าม จับกุม นั่นคือการใช้สาร "ไซยาไนค์" (Cyanide) ในรูปของสารประกอบเกลือ ที่ถูกแจกจ่ายเป็นเม็ดแคปซูลให้กับ นายทหารชั้นผู้ใหญ่ใส่ปากแล้วขบให้แตก เพื่อจะได้ตายทันที
นายพลคนสําคัญของฮิตเลอร์ ล้วนมีแคปซูลไซยาไนด์ไว้พร้อมทําอัตวินิบาตกรรม
มายุคนี้การลอบสังหารนายคิม จอง นัม ผู้เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของอดีต ประธานาธิบดีคิม จอง อึน ก็ใช้สารพิษ ที่ทั่วโลกถือเป็น “อาวุธเคมี" อย่างหนึ่ง ที่ร้ายแรง มีชื่อสําลองว่า “วีเอ็กซ์ (X) ที่มีชื่อเต็มแบบยาวเหยียดคือ “O-ethyl ({2- [bis(propan-2-yl)amino)ethyl} sulfanyl/methyl) phosphinate"
แค่อ่านก็เหนื่อยแล้วนะฮะ
ที่ยกชื่อ มาเล่าเพราะมันมี เหตุนิดหนึ่งครับ ด้วยชื่อทางอังกฤษ ของมันนี้ช่วยบอกให้เรารู้ว่ามันเป็นสาร เคมีที่เรียกว่า "สารประกอบ” ซึ่งแปลตรง ตัวว่ามันถูกสร้างมาจากสารเคมีลูกอื่น ๆ ที่เมื่อสืบลงไปก็พบว่ามันสามารถเกิดขึ้น ได้จากสารอินทรีย์ฟอสฟอรัสมาผสมกับ ธาตุกํามะถันก็ได้เป็นสารวีเอ็กซ์แล้ว
ในวันเกิดเหตุร้ายนั้นมีผู้ต้อง สงสัยที่เข้าไปก่อการอยู่ 2 ราย
มันจะหมายความว่าอย่างไรได้?
นับแต่วันที่ 13 กุมภาพันธ์ก่อน วันวาเลนไทน์ไม่นานอันเป็นวันตายของ นายคิม จอง นัมนั้น โลกก็จับจ้องไปยัง เกาหลีเหนือว่าเกิดอะไรขึ้นด้วยเมื่อ วิเคราะห์แล้วพบว่าพี่ชายของคิม จอง อื่น
นั้นตายจากพิษที่ชื่อว่า วีเอ็กซ์ ที่สามารถ สังเคราะห์ขึ้นได้จากห้องแล็บอาวุธเคมี
จากนั้นไม่นานก็มีรายงานเรื่อง วีเอ็กซ์จากสื่อต่าง ๆ ที่สร้างความตื่น ตะลึงไปทั่วโลก เพราะ “วีเอ็กซ์” ถูก จัดอยู่ในกลุ่ม “อาวุธมหาประลัย” (Weapon of mass destruction) ใช้ประทัตประหารคนหมู่มาก เรียกว่า ให้สูญสิ้นเผ่าพันธุ์กันก็ได้ จึงมีสนธิ์ สัญญาห้ามใช้แต่เกาหลีเหนือไม่ได้อยู่ใน ข่ายนี้เช่นเดียวกับอีก 6 ประเทศที่ไม่ ลงนามในการประชุมว่าด้วยอาวุธเคมี โดยวีเอ็กซ์นี้มีอีกชื่อหนึ่งว่าเป็น "เคมี ทําลายประสาท" เช่นเดียวกับเพื่อนของ มันคือ "พิษซาริน" ที่ใช้ก่อการร้าย ในญี่ปุ่นเมื่อปี 2538 ชั่วแต่เจ้าวีเอ็กซ์นี้แรงที่สุด
หน่วยงานป้องกันโรคของ สหรัฐฯ จัดให้วีเอ็กซ์เป็นพิษทําลาย ประสาทที่ร้ายสุด!
ในบรรดาพิษแบบเดียวกันนี้การ ใช้วีเอ็กซิในการฆ่ากันจึงหมายความถึงว่า “าไม่แคร์คนอื่นด้วย เพราะคนรอบช้างก็มีสิทธิ์ได้รับพิษนี้เข้าไปเช่นเดียวกับ คนใช้ที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่เพราะถูกเขาหลอก ว่ากําลังเล่นเกมในรายการโทรทัศน์อยู่ ก็จะได้รับพิษเข้าไปด้วย ซึ่งถ้าใช้ในสถานที่ สาธารณะที่มีคนพลุกพล่านก็ต้องระวัง จะกลายเป็นโศกนาฏกรรมได้ง่าย ๆ เพราะมีโอกาสที่คนอื่น ๆ จะสัมผัสกันได้ อีกนอกจากเป้าหมายที่ถูกสั่งตายแล้ว เพราะพิษวีเอ็กซ์ที่ว่าตกค้างอยู่ได้ใน เสื้อผ้าและนานในสถานที่เกิดเหตุครับ
อาจเปลี่ยนเรื่องเป็น “สังหาร หมู่" ได้ง่ายๆ ตายสยองในไม่กี่นาที เพียงแตะหรือแค่สูดดม
ทางการมาเลเซียได้เริ่มกระบวน การ “กําจัดสิ่งปนเปื้อน” ออกจากสนาม บินทันทีหลังทราบเรื่องเคมีพิษนี้ ซึ่ง เรื่องนี้ไม่อยากให้ท่านที่รักเห็นเป็นเรื่อง ไกลตัว ในขณะเดียวกันก็ไม่ประสงค์ให้ กลัวจนเกินไป แต่ให้คอยระแวดระวัง รอบคอบไว้ เช่น ถ้าใครมาขอให้ร่วม กิจกรรมถ่ายทําอะไรที่ดู “แผลง” พิสดาร น่าเอะใจก็ไม่ควรไปร่วมครับ เพราะไม่ว่า จะให้เงินเท่าไรเป็นค่าตอบแทนแต่แสน เล็กน้อยเมื่อเทียบกับสวัสดิภาพของเรา ที่กําลังเอาชีวิตไปแขวนกับมฤตยูที่มา แบบเนียน ๆ
เหตุที่ว่าพิษมรณะ “วีเอ็กซ์" นี้ เป็นความตายเงียบเชียบก็เพราะมันเป็น เคมีที่ไร้กลิ่นไร้รสชาติที่อาจผลิตมา ในรูปของของเหลวในขวดเล็กๆ ครีม ในตลับจิ๋ว หรืออัดใส่กระป๋องสเปรย์ ลวงตาว่าเป็นเครื่องสําอางได้แต่ต้อง ผลิตในห้องปฏิบัติการที่ทันสมัยไม่อาจ หาซื้อได้ง่ายๆ
อย่างไรก็ดี เรียกว่าวีเอ็กซ์นี้มี คุณสมบัติที่เป็น “พิษที่ผู้ก่อการร้ายชอบ” รวมถึงจารชนขอบใช้เพราะไม่ทําให้เหยื่อ กระโตกกระตาก ซึ่งเรื่องนี้ผู้เขียนเองเห็น ว่ายังมีพิษอีกอย่างที่ในอนาคตต้องระวัง ให้ดีคือ “กัมมันตภาพรังสี” ที่ไม่มีสี ไม่มี กลิ่นแถมยังมองไม่เห็นอีกต่างหาก น่า เป็นห่วงว่าจะเป็นพิษตัวต่อไปที่คนร้ายนํา มาใช้รังควานโลก
- ทีนี้ลองมาดูภัยอันน่าขนพอง ของพิษวีเอ็กซ์นี้บ้าง ซึ่งมีการรายงานไว้ ทั้งจากนักวิทยาศาสตร์และฝ่ายสํานักข่าว
ที่บางที่ให้รายละเอียดไว้เยอะจนเหมือน พาผู้อ่านกลับไปเป็นนิสิตนั่งเรียนวิชา เคมี 101 อีกครั้ง ผู้เขียนเลยขอสรุปมา ให้ฟังเป็นข้อ ๆ ที่ควรทราบดังต่อไปนี้
1) เพียงนิดก็ถึงตาย
พิษนี้ถูกดูดซึมเข้าร่างกายง่าย ๆ ผ่านทางการหาที่ตัวหรือแค่แตะ ก็ถือว่า ได้รับพิษเข้าไปแล้ว รวมถึงการสูดดมด้วย ครับ (มันมีแบบสเปรย์ด้วย) เพราะ ปริมาณของมันแค่เพียง 0.1 มิลลิกรัม ต่อน้ําหนักตัวหนึ่งกิโลกรัมก็เกิดอันตราย ได้ (หรือเอาง่าย ๆ แค่ราว 10 มิลลิกรัม หรือเล็กกว่าปลายเล็บก็สังหารชีวิตได้) ส่วนการสูดนั้นยิ่งน้อยใหญ่ แค่เพียง 5 ไมโครกรัมคือน้อยกว่ามิลลิกรัม นับพันเท่าก็มีผลต่อชีวิตคนแล้ว
ยุคนี้ตายไม่ยาก เห็นไหมครับ
2) วายปราณไม่กี่นาที
ภาพจากกล้องวงจรปิดฉายให้ เห็นวินาทีก่อนตายของนายคิม จอง นัม ว่าถูกสตรี 2 รายบุกเข้าประชิดตัวแล้วเอา มือจับที่ใบหน้าของเขา จากนั้นไม่นาน ชายผู้น่าสงสารก็ซมซานไปขอความช่วย เหลือหลังจากที่มันออกฤทธิ์เพียงไม่กี่ นาที แล้วจากนั้นไม่นานเขาก็เกิดอาการ ชักเกร็งแล้วเสียชีวิตไปภายในเวลาเพียง 15-20 นาทีเท่านั้น ซึ่งพิษของวีเอ็กซ์ ต่อระบบประสาทนี้เกิดได้ในชั่วอึดใจไป จนถึง 18 ชั่วโมงก็ยังได้ครับ
2) มียาแก้ แต่ต้องทันเวลา
อย่าลืมว่าพิษวีเอ็กซ์นี้ทํางานเร็ว สังหารเหยื่อได้ในชั่วครู่ ดังนั้นยาที่จะ เข้าไปแก้นี้ก็ต้องอาศัยความว่องไวเช่น กันเพราะยาที่ว่าต้องเข้าไปช่วยเป็นเกระ กันเส้นประสาทก่อนที่สารพิษวีเอ็กซ์จะ เข้าไปรบกวนเอนไซม์ (acetylcholinesterase inhibitor) ทําให้จนทําให้เกิด อาการพิษต่อระบบประสาทอย่างรุนแรง ซึ่งยาแก้พิษที่ว่ามีใช้กันมานานแล้วชื่อว่า “อะโทรพี่น” ครับ
4) แย่ถึงคนใช้
ไม่ระวังให้ดีหรือไม่มียาต้านพิษ ติดตัวไว้ก็อาจตายได้เช่นเดียวกับเหยื่อ เพราะดังที่เล่าให้ฟังว่าวีเอ็กซ์เป็นพิษที่ติด ได้เพียงสัมผัสหรือสูดดม แม้แต่กระเด็น เข้าตาก็อันตรายได้ในปริมาณเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ดังในยุคแรกที่มันถูกคิดค้น ขึ้นในอังกฤษเพื่อเป็นยาฆ่าแมลงนั้น นักวิทยาศาสตร์ผู้พบก็ยังตกตะลึงกับพิษ อันมหาศาลในปริมาณเท่าปลายเล็บของมันเลย
5) ทําลายประสาท
รบกวนสารสื่อประสาททําให้เกิด อาการที่น่าตกใจไปจนถึง “ตายอนาถ” ได้ โดยมีอาการที่ชวนสงสัยว่าโดนพิษ วีเอ็กซ์ดังต่อไปนี้ เช่น น้ําตาไหล, น้ําลาย ฟมปาก, แน่นหน้าอก, หายใจไม่ออก, มีนงงสับสน, คลื่นไส้อาเจียน, หัวใจเต้น ผิดปกติ, ความดันเปลี่ยน
ถ้าได้รับในปริมาณสูงขนาดเอา ชีวิตก็จะทําให้ ผู้ป่วยชัก, หมดสติ, เป็นอัมพาตและการหายใจล้มเหลวที่สามารถเกิดขึ้นได้ก่อนที่จะถึงมือหมอเสียอีก
เรื่องการสังหารด้วยสารพิษที่ว่านี้ มีข้อชวนสะกิดใจอยู่นิดหนึ่งซึ่งเราควร ทราบกันไว้คือคนที่ถูกยืมมือมาใช้สังหาร นายคิมนี้ไม่ตายไปด้วย ผู้เขียนเองเลยได้ ไปค้นจนเจอว่ามีผู้เชี่ยวชาญชาวอเมริกัน เขาก็สนใจประเด็นนี้เหมือนเราโดยที่ ท่านเป็นผู้รู้ด้านพิษวิทยาโดยตรงชื่อ ดร.บรูซ โกลด์เบอเกอร์ จากมหาวิทยาลัยฟลอริดา ที่เชื่อว่า มือสังหารที่ ใช้สารพิษนี้ “น่าจะ" ได้รับยาต้านพิษเอา ไว้ก่อนล่วงหน้าแล้ว จึงไม่เสียชีวิตไปด้วย ทั้งที่เป็นผู้ใช้
- อย่างไรก็ดี เมื่อมีผู้ตกเป็นเหยื่อ แล้วก็ต้องระมัดระวังกันให้มั่นเหมาะ เพราะสารพิษที่ว่านี้ไม่เข้าใครออกใคร - ผู้ใช้ก็ต้องระวังพิษนั้นคืนสนองเช่นกัน
นพ.กฤษดา ศิรามพุช