เล่าเรื่องสยองขวัญ ตายอย่างไก่
เรื่องนี้เพื่อนผมเล่าให้ฟังครับ สมัยก่อนบ้านเพื่อนผมอยู่ใกล้กับบ้านคนจีนคนหนึ่ง แกมีอาชีพเลี้ยงไก่ส่งไก่ไปขายในตลาดวันละเป็นร้อยตัวเพื่อนผมเองยังเคยไปหารายได้พิเศษโดยการเอาไก่ที่แกชำแหละแล้วเข้าไปส่งให้พ่อค้าแม่ค้าในตลาด แล้วเพื่อนผมก็ได้เห็นการทารุณไก่ซึ่งไม่คิดว่าจะได้เจอจริงๆ การฆ่าไก่ที่เราเคยเห็นก็จะเป็นการเชือดคอเพื่อให้เลือดมันไหลรินออกมา แล้วนำเลือดไก่ไปทำเป็นก้อนส่งขายได้อีก แต่ที่เพื่อนผมเห็นและเอามาเล่าให้ฟังนั้นมันไม่ธรรมดาเพราะเจ้าของบ้านที่เป็นคนฆ่าไก่นั้น แกมีอารมณ์ไม่ค่อยปกติเป็นคนอารมณ์ร้อนมากแกตบตีลูกเมียเป็นประจำเรียกได้ว่าลูกเมียของแกนั้นเป็นกระสอบทรายให้แกตบเตะเล่น เป็นไม่ว่างเว้น บางทีมีอาการไม่กล้าออกจากบ้านไปหลายวันแต่เพื่อนผมมันรู้เพราะมันไปที่บ้านเขา เห็นหน้าเมียแกบวมช้ำ และแตกหลายแห่งเมียแกเล่าให้ฟังว่าถูกซ้อมบ่อยๆเข้า เพื่อนผมก็เลยเห็นภาพที่บอบช้ำของเมียแกเป็นเรื่องปกติ ถ้าไม่เห็นเลยนี่สิเพื่อนมันว่าเป็นเรื่องแปลกและมันได้เห็นสิ่งที่โหดเหี้ยมขึ้นไปอีก
แกมักจะมีอารมณ์โหดร้ายกับไก่ที่แกเชือดแกซ้อมลูกเมียมากๆทุกวันบ่อยๆเมียแกก็เลยหอบลูกไปอยู่ที่อื่นคราวนี้เพราะไม่มีคู่ซ้อมให้ แกก็เลยหงุดหงิดหันมาระบายกับไก่ที่แกเลี้ยงบางทีแกก็เชือดไก่แบบทรมาน คือเชือดแบบไม่ให้ตายทีเดียวเวลาที่แกเชือดคอไก่แกไม่ทำให้ตายในทันทีเชือดไปที่คอให้เป็นแผล แล้วปล่อยให้ไก่ดิ้นพลาดพลาดนับ 10 10 ตัวดิ้นกันเต็มลานบ้านไปหมดเลือดไก่เลือดไก่สาดกระเซ็น เหม็นคละคลุ้งกลิ่นเลือดข่าวไปทั่วบางตัวดิ้นเป็นชั่วโมงกว่าจะตาย แก้ทำอย่างนี้มาเป็นเวลานาน ไก่เป็นพันตัวตายลักษณะทรมานอย่างนี้ทุกตัวจากวันเป็นเดือนเป็นปีแก้ทำอย่างสะใจปากก็ต้องตะโกนไปด้วยว่ามันต้องเป็นอย่างนี้มันต้องเป็นอย่างนี้อยากหนีกูไป คงหมายความถึงลูกเมียที่หนีแกไป เพื่อนผมมันก็แปลกกับชอบดูภาพนั้น ไม่ใช่ว่าไม่ได้รู้สึกสงสารไก่ที่ดิ้นพล่านดีที่ว่ามันไม่ได้ลงมือช่วยทำทารุณไก่ด้วย
แล้วในที่สุดกรรมก็ตามทันแก แกล้มในห้องน้ำเส้นเลือดในสมองแตกเป็นอัมพฤกษ์ แล้วแกก็เป็นลมบ้าหมูด้วยเวลาที่แกชักนั้นเพื่อนมันก็เห็นมันก็ตกใจมาก เพราะมันเหมือนกับไก่ที่แกเชื่อด้วยความทารุณ ดิ้นไปชักไปตาเหลือกตาตั้ง ดิ้นทุรนทุรายเห็นแล้วน่าสมเพชที่สุด เพื่อนผมเห็นบ่อยครับ แต่มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรกับสมน้ำหน้าด้วยซ้ำ เพื่อนผมคนนี้ ดูแล้วมันก็น่าจะเป็นโรคจิตนะครับ เห็นอะไรก็นิ่งเฉยลูกเดียว แก้ชักแล้วชักอีกชักจากวันละครั้งเป็นวันละหลายครั้งบางทีวันหยุดยังมีชักรอบพิเศษด้วย แกรักษาเนื้อรักษาตัวเวียนเข้าเวียนออกที่โรงพยาบาลจนหมดตัวหมอและพยาบาลจำหน้าได้ดี
แต่ที่พวกหมอและพยาบาลจำได้แม่นก็เพราะโรคที่แกเป็นอยู่นั้นไม่มีทางแก้ไขให้ดีขึ้นและที่แปลกยิ่งกว่านั้นไม่มีใครหาสาเหตุที่แกเป็นได้ขนาดหมอใหญ่ยังบอกเลยว่าหมดหนทางแก้และไม่ใช่สาเหตุมาจากลมชักลมบ้าหมูด้วย เมื่อไปชักที่โรงพยาบาลก็ไม่มีใครสนใจแกก็เลยต้องกลับมาชักที่บ้านคนเดียว แล้วสุดท้ายแกก็ชักอย่างน่ากลัว เป็นการชักครั้งสุดท้ายของแก ตาเหลือกโปนจนเห็นแต่ตาขาวอย่างเดียว มีเลือดออกจากปาก ออกจากจมูก ไหลเลื่อนไปทั้งใบหน้า มือแกก็กำแน่นไปไปไปมาบริเวณลำคอด้วยความที่เล็บแกยาวจึงควรเอาที่หน้าที่ลำคอจนมีเลือดออกมาจากน้อยจนกระทั่งเป็นแผลใหญ่ เลือดยิ่งออกมากเพื่อนผมไปพอดีมันก็ตกใจ แต่ด้วยนิสัยมันก็ยืนดูเฉยๆไม่กล้าเข้าไปช่วยอะไร มันคงกลัวด้วย ได้แต่โทรไปบอกที่โรงพยาบาลให้ส่งรถมารับ แต่แกก็ยังคงชักชัก และดิ้นไปเรื่อยๆ เลือดก็ยิ่งออกมามากขึ้น จนเลอะไปทั่วใบหน้าลำคอและตามร่างกาย เพื่อนมันบอกว่าก็เหมือนกับไก่ที่แกเชือดนั่นแหละ แล้วปล่อยให้มันดิ้นทรมานจนมันตายแกก็เหมือนอย่างนั้น แถมยังร้องเหมือนเสียงไก่ที่แกเคยเชือด
เพื่อนมันบอกว่าถ้าหลับตาไม่มองดูแกจะไม่รู้เลยว่าคนที่กำลังดิ้นพลาดพลาดนั่นน่ะเป็นคน เพราะเสียงร้องเหมือนไก่ที่กำลังถูกเชือดจริงๆ ชวนเพื่อนมันก็ยืนดูจนกระทั่งแกดิ้นพลาดพลาดแล้วแน่นิ่งไปเพื่อนผมยืนดูจนกระทั่งรถพยาบาลมา พยาบาลบอกว่า ขาดใจตายไปแล้วตายเหมือนไก่ที่แกเชื่อด้วยความโหดเหี้ยม นี่คือผลของกรรมที่แกทำเอาไว้พอจะจบเรื่องนี้หลายคนอาจสงสัยว่าแล้วเพื่อนผมล่ะครับได้รับกรรมหรือเปล่าที่ได้แต่ยืนดูไม่ช่วยเหลือ
ทั้งที่ไก่ที่ถูกเชือดหรือทั้งเจ้าของไก่ที่ดิ้นพลาดพลาด มันเล่าให้ฟังว่า เวลาที่มันเดือดร้อนเรื่องอะไร ไม่มีใครช่วยเหลือเลย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กน้อย ก็ไม่มีใครสนใจที่จะดูแล เป็นธุระให้หรือช่วยเหลืออะไรเลย ขอความช่วยเหลือใครก็ไม่เคยได้รับความช่วยเหลือเลยสักครั้ง ขนาดโดนรถชน กลิ้งกระเด็นกระดอนไปนอนชักกลางถนนเลือดท่วมตัวก็ไม่มีใครสนใจดีที่ตำรวจผ่านมา เอาตัวไปโรงพยาบาลได้ทัน ปากก็ร้องตะโกนไปตลอดทางในรถพยาบาลว่า ผมไม่ดีเอง ผมน่าจะช่วยไก่ ผมน่าจะช่วยเถ้าแก่ ผมมันไม่ดี ผมมันไม่ดี ตอนหลังเพื่อนมันเล่าให้ฟังว่า ตอนที่ถูกรถชนนั้น หลับหลับตื่นๆมองเห็นไก่ที่เถ้าแก่เคยเชื่อ และเห็นเถ้าแก่ชัก ปนกันไปปนกันมา แล้วเพ้อออกมาอย่างนั้น พยาบาลเป็นคนเล่าให้ฟัง เพราะตอนนั้นมันไม่มีสติแล้ว
บทความแนะนำ