ทั่วไปของว่านนี้ อยู่ในสกุลเปราะ หัวเหมือนเปราะแต่กลมโตกว่า สีของผิวหัวมี เขียวปนน้ําตาล ใบดังเปราะที่ใช้กินกับปลาร้า แต่สีของหน้าใบเขียวจัดเป็นมัน ใบกลมและโตกว่าเปราะ สีของหลังใบขาวมีสีแดงปนม่วงตามขอบใบและปลายใบ หยิกดมมีกลิ่นหอมเย็นทั้งใบทั้งหัวมากดอกสีขาวตรงกลางปะแต้มสีแดงปนม่วง ลักษณะเดียวกับว่านเสน่ห์จันทน์หอมจะผิดกันตรงหน้าใบเขียวอ่อน ว่านกระแจะจันทร์เขียวจัดและมัน
ประโยชน์
เป็นที่นิยม 1 ในกระบวนการหุงน้ํามันว่านหอม ใช้เป็นเสน่ห์มหานิยมดีนัก ถ้าปลูก ไว้ในบ้านหรือร้านค้าทําให้มหานิยมผู้คนเข้าร้านมิได้ขาด ช่วยให้เกิดลาภเนื่อง ๆ หัวของว่านกระแจะจันทน์เดิมที่มาจากหงสาวดี จึงมีชื่ออีกว่า ว่านกระแจะจันทน์หงสา ก่อนจะใช้หัวแช่น้ํามันจันทน์หรือหุงน้ํามัน ให้เสกด้วยคาถา “มะอะอุ พุทธสังมิ จิเจรุนิ นะชาลีติ ปิยังมะมะ มหาลาโภ โหตุ ภะวันตุเม” 3 จบเสมอ แม้แต่ใช้หัวพกพาติดตัวก็ได้วิเศษยิ่งนัก ได้ผลมามากแล้ว
การปลูก
ใช้ดินสะอาดปนทรายหยาบที่สะอาดดี กระถางปลูกควรเป็นปากบาน ใส่ดินที่เตรียม ไว้ให้เต็มเอาหัวว่านวางตรงกลาง กลบดินพอให้หัวโผล่นิดหน่อย ก่อนรดน้ําเสก ด้วยคาถา “นะชาลีติ” 3 จบเสมอ รดแต่พอเปียกทั่วตอนแรก เมื่อใบโตคลุมกระถาง ต้องใช้ขันรดตรงกลาง น้ําที่รดจะได้ถึงดินได้ ควรปลูกในวันจันทร์หรือวันศุกร์ ข้างขึ้นดี