30 อันดับเมนูจากหูฉลาม
จากรายการโกโกริโกะเกมกึ๋ยภารกิจกินเมนูหูฉลามในท้องถิ่นต่างๆ ของประเทศญี่ปุ่น 30 เมนู จากโพลการสำรวจคน 1,000 คน โดยให้ดาราประจำรายการมาทาน
อันดับที่ 30 ชุดบะหมี่ที่มาพร้อมกับซุปหูฉลาม
ปรุงรสด้วยซอสหอยนางรม โชยุ และเครื่องปรุงต่างๆ ส่วนหูฉลามที่ใช้ก็มาจากฉลามที่มีอยู่เกือบทุกพื้นที่ทั่วโลกอย่างฉลามโยชิคิริซาเมะ และส่วนที่ใช้คือส่วนครีบด้านล่างที่อยู่กลางลำตัว เส้นใยอ่อนนุ่มแทบละลาย
อันดับที่ 29 ฟุกาฮิเรโนะซาชิมิฟุเรไซ
จากร้านอาหารจีนเก่าแก่ที่เปิดมานาน 40 ปี ร้านชินเคียว สาขาโฮงาว่า เป็นซาชิมิเนื้อหูฉลามที่ผ่านการนึ่งมาแล้วแล้วรับประทานคู่กับซอสสูตรเด็ด เมนูนี้ก็ใช้หูฉลามจากฉลามโยชิคิริซาเมะเช่นเดียวกัน แต่ส่วนที่ใช้เป็นส่วนครีบด้านบนที่มีเส้นใยอยู่เยอะ นำมาจิ้มกับน้ำซอสที่หอมพริกไทยซังโชและอาโออิโนริ มีรสชาติกลมกล่อม
อันดับที่ 28 ข้าวหน้าหูฉลาม
หูฉลามที่ถูกหมักกับคอมบุและน้ำสต็อกของวัวพันธุ์ยามากาตะเป็นเวลาสามวันก่อนจะนำไปนึ่ง เสร็จแล้วปรุงรสด้วยโชยุ เหล้าสาเก และมิรินที่เป็นสูตรลับของทางร้าน เสร็จแล้วก็ตักราดข้าวที่มีสาหร่ายและไข่ สุดท้ายก็ท็อปปิ้งด้วยหอยเม่นและเนื้อปูที่เข้ากันดีกับหูฉลามก็เป็นอันเสร็จ นี่เป็นอีกหนึ่งเมนูหูฉลามที่มีรสชาติเข้มข้นไม่แพ้จานอื่นเลย ได้รสชาติของอาหารทะเลสดๆ อย่างนี้คงไม่มีที่อื่นอีกแล้ว
อันดับที่ 27 ไอศครีมหูฉลาม
ที่ร้าน U-meness แห่งนี้ เป็นร้านยอดฮิตที่มีเมนูที่ใช้หูฉลามและเนื้อฉลามมาทำเมนูต่างๆ มากมาย และหนึ่งในนั้นที่ติดอันดับที่ 27 ของเราก็คือ "ไอศครีมหูฉลาม" นั่นเอง จุดสำคัญก็คือการนำหูฉลามไปจุ่มน้ำเชื่อมกลิ่นวานิลลา เมื่อกดไอศครีมลงบนโคนแล้วก็ท็อปปิ้งด้วยเนื้อหูฉลามเชื่อม
อันดับที่ 26 ข้าวราดหูฉลามที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรักของคุณแม่
เรามากันที่ร้าน โอสึมิยะ บนเกาะโอชิม่า ตั้งอยู่ในอ่าวของเมืองเคะเซ็นนุมะที่จัดเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ บนข้าวที่คลุกกับหอยเม่นกับอาวาบิชามนี้ก็มีเนื้อหูฉลามอยู่ด้วย ฉลามที่ใช้ก็เป็นฉลามพันธุ์โยชิคิริซาเมะที่จัดว่ามีมากที่สุดในบริเวณแถบนี้ และใช้ส่วนครีบหางมาทำเมนูข้าวราดนี้ เป็นเมนูข้าวราดที่อัดแน่นไปด้วยความอร่อยของเกาะโอชิม่าเอาไว้
อันดับที่ 25 ไข่ออมเล็ตสอดไส้หูฉลาม
จากร้านอิปปายะฟุคุโร่ที่มีอาหารท้องถิ่นไว้บริการมากมาย ที่นี่มีทั้งเมนูแกงกะหรี่ พิซซ่า และเมนูอาหารทั่วไปต่างๆ ที่ใช้หูฉลามเป็นส่วนประกอบซึ่งเลื่องชื่อไปทั่ว สำหรับเมนูที่ติดอันดับนี้โดดเด่นด้วยไข่ที่ฟูนุ่มราดมาด้วยซอสพริกออกรสหวานเล็กน้อย ส้วนไส้ด้านในก็อัดแน่นด้วยหูฉลามที่ใสเป็นประกาย ดูแล้วน่าทานจริงๆ
อันดับที่ 24 ฟุกะฟุกะมากุมากุสเต็ก
เรามากันที่ร้านยูซูชิที่เปิดมาตั้งแต่ปีโชวะที่ 35 สาขาหน้าตลาดปลา ซึ่งอยู่ที่เมืองเคะเซ็นนุมะที่มีชื่อเรื่องหูฉลาม และรองลงมาก็ยังมีปลามากุโร่ที่ขึ้นชื่ออีกด้วย การจับปลามากุโร่ก็จับด้วยการใช้เบ็ดที่ติดเหยื่อเป็นช่วงๆ มาหย่อนลงในทะเลเพื่อล่อให้ปลาว่ายตามมาจากทางด้านหลัง ซึ่งเรียกวิธีจับปลานี้ว่า "มากุโร่ฮาเอนาวะเรียว" วิธีนี้นอกจากจะได้ปลามากุโร่แล้วยังได้ปลาฉลามมาด้วย ส่วนเมนูนี้นั้นก็เริ่มจากนำชิ้นปลามากุโร่มาปรุงรสแล้วนำไปผัดกับน้ำมันมะกอกในกระทะ ใส่ไวน์ขาวเพื่อเพิ่มกลิ่นให้หอมขึ้น เมื่อเนื้อปลาเกรียมได้ที่ก็นำมาจัดใส่จาน ราดด้วยน้ำราดหูฉลาม
อันดับที่ 23 อาวายุคิชิตาเตะ
นี่เป็นเมนูอาหารที่ฟูฟ่องและนุ่มราวกับหิมะ เริ่มจากนำหูฉลามกับเนื้อปูมาผัดด้วยไฟแรงก่อน พอสุกก็เติมน้ำซุปแบบจีนสูตรพิเศษ เพิ่มความข้นด้วยแป้งมัน จากนั้นก็เติมไข่ขาวที่ตีขึ้นฟองใส่ลงไปคนสักสองสามทีพอสุกก็เป็นอันเสร็จ มีรสชาติอ่อนละมุนกลมกล่อม ตักตรงไหนก็เจอแต่หูฉลาม เป็นเมนูที่ช่างหรูหราจริงๆ พอได้ตักเข้าปากก็ละลายหายลงท้องไปเลย
อันดับที่ 22 เต้าหู้มาโบ้หูฉลาม
เป็นเมนูที่เปี่ยมด้วยไอเดียโดยนำน้ำราดหูฉลามรสเผ็ดมาราดบนเต้าแบบโฮมเมดทำเองที่ร้าน เป็นเมนูเลิศหรูที่เลือกใช้หูฉลามแทนวุ้นเส้น เป็นเมนูที่เหมือนกับทำทานเองที่บ้านยังไงยังงั้น
อันดับที่ 21 ข้าวหน้าหูฉลามชุบแป้งทอด
จากร้านฟุกาฮเรยะที่จำหน่ายอาหารที่ทำจากหูฉลามในราคาแสนถูก มีทั้งเกี๊ยวหูฉลาม ขนมจีบหูฉลาม และอื่นๆ รวมแล้วกว่าสิบเมนูที่มีบริการไว้ตลอดเวลา สำหรับเมนูนี้ก็เริ่มจากการนำหูฉลามทั้งชิ้นมาชุบกับแป้งแล้วก็นำไปทอดจนเหลืองกรอบ และเพราะหูฉลามทรความร้อนได้ไม่นานดังนั้นจังหวะที่จะต้องตักขึ้นจากน้ำมันนั้นจึงต้องกะเวลาให้ดี เสิร์ฟพร้อมกับผักทอดราดด้วยซอสแบบราดเทมปุระคือออกรสหวานเล็กน้อย
อันดับที่ 20 เทมปุระหูฉลาม
จากร้านฮามาโนยะ นี่คือหูฉลามในแบบเทมปุระ ด้วยลำตัวที่ยาวเกือบสองเมตรและมีครีบเหมือนพระจันทร์เสี้ยวและนี่คือฉลามพันธุ์เมจิโรซาเมะ มีลำตัวเพรียวและกล้ามเนื้อแข็งแรงและว่ากันว่าฉลามพันธุ์นี้เป็นพันธุ์ที่ว่ายน้ำเร็วที่สุดด้วย เนื่องจากไม่ค่อยมีใครจับฉลามพันธุ์นี้ได้จำนวนมากนัก ครีบของมันจึงจัดว่าราคาแพง คอลลาเจนที่อัดแน่นเมื่อนำไปทำเป็นเทมปุระแล้วจึงมีความนุ่มและกรอบ นอกจากนี้ที่ร้านนี้เขายังมีเมนูแบบชาบูชาบูไว้คอยบริการด้วย ซึ่งจะทานกับน้ำจิ้มงารสเด็ดที่ช่วยเสริมรสชาติหูฉลามให้กลมกล่อมยิ่งขึ้น
อันดับที่ 19 ฟุคาฮิเระคามะเมชิ
ที่ร้านเทมปุระมารุโกะ เราก็นึกว่าจะมาแบบชุบแป้งทอดแต่กลับกลายเป็น "ข้าวอบหูฉลาม" ซะนี่ เป็นเมนูข้าวอบที่อัดแน่นไปด้วยของทะเลและมีหูฉลามชิ้นใหญ่แผ่โปะมาที่ด้านบนของชาม วิธีทำก็เริ่มจากต้มน้ำซุปปลาคาสึโอะบุชิกับสาหร่ายคอมบุ หุงข้าวด้วยน้ำซุปนี้ในหม้ออบ พอข้าวสุกก็จัดเรียงผักอย่างหน่อไม้ซอย รากโกโบซอย เห็ดหอมซอย ตามด้วยของทะเลอย่างหอยเป๋าฮื้อ หอยเม่น เนื้อปู สุดท้ายโปะด้วยหูฉลามชิ้นใหญ่ที่ปรุงรสแบบญี่ปุ่น เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จ เป็นเมนูที่ใช้แต่วัตถุดิบขึ้นชื่อในท้องถิ่น เวลาทานก็คลุกเครื่องต่างๆ ให้เข้ากับข้าว
อันดับที่ 18 โซเม็งหูฉลาม
นี่เป็นการนำเอาหูฉลามของฉลามพันธุ์อาโอซาเมะมายีเป็นเส้นๆ ให้เหมือนโซเม็งที่ช่างดูดีซะเหลือเกิน มีน้ำซอสให้จิ้มสามแแบบคือ น้ำซอสงา เมนสึยุ และแบบเปรี้ยว
อันดับที่ 17 ราเม็งหูฉลาม
เป็นเมนูจากร้านเนื้อย่างชื่อดังอย่างร้านจังจัง เส้นบะหมี่ราเม็งของที่นี่นวดด้วยมืออย่างพิถีพิถัน เส้นที่ลวกเสร็จใหม่ๆ จะถูกนำไปลวกทันที ซึ่งนี่จะทำให้เส้นมีความเหนียวนุ่มมากยิ่งขึ้น นำเส้นที่ลวกแล้วมาพักแล้วแช่เย็นไว้ จัดใส่ชามแล้วราดด้วยน้ำซุป เอาเครื่องต่างๆ มาวางเรียงลงบนชามมีทั้งไข่ต้ม หูฉลามที่ปรุงรสออกหวานเล็กน้อย สุดท้ายก็โรยด้วยต้นหอมซอย เส้นที่นวดมาอย่างดีเข้ากันได้กับน้ำซุป อัดแน่นด้วยคอลลาเจนจึงเป็นเมนูที่ฮิตในหมู่สุภาพสตรี
อันดับที่ 16 หูฉลามอบกรอบราดซอส
เป็นหูฉลามทั้งชิ้นที่นำมาอบจนหอมน่าทาน หูฉลามจากฉลามพันธุ์ "เมสึมิซาเมะ" ความยาวลำตัวประมาณสามเมตร และที่มาของชื่อของมันก็มาจากหน้าตาที่เหมือนหมูนั่นเอง ลักษณะนิสัยมีความดุร้าย มีกล้ามเนื้อที่แข็งและหนาในบริเวณส่วนกลาง ยังนิยมนำเครื่องในมาทำเป็นซาชิมิที่เรียกว่า "โมคาโนะโบชิ" ทานกับน้ำจิ้มมิโสะผสมน้ำส้ม วิธีการทำก็คือเริ่มจากนำหูฉลามไปต้มกับผักต่างๆ ปรุงรสด้วยน้ำซอสโชยุปิดด้วยกระดาษฟอยล์แล้วนำไปนึ่งเป็นเวลาสามชั่วโมง นำหูฉลามที่นึ่งในน้ำซุปมาวางให้สะเด็ดน้ำแล้วคลุกแป้งสาลี นำไปทอดในกะทะ จากนั้นก็นำไปอบต่ออีกหนึ่งชัวโมงเพื่อให้สุกถึงเนื้อใน สุดท้ายราดด้วยน้ำซอสข้นที่ปรุงจากกุ้งแห้ง เอ็นหอยลงไป ทานแล้วกรอบนอกนุ่มในอร่อยน่าทานจริงๆ
อันดับที่ 15 ยากิโซบะหูฉลาม
เมนูอาหารจีนสุดอร่อยปริมาณคับจาน วัตถุดิบก็มี เส้นยากิโซบะ หูฉลาม เนื้อปู และผักต่างๆ ห้าชนิด เริ่มจากการนำเครื่องต่างๆ มาผัดกับน้ำซุปสูตรพิเศษ เติมแป้งมันเพื่อเพิ่มความข้นให้กับน้ำซุป เสร็จแล้วก็นำไปราดเส้นยากิโซบะที่ลวกเตรียมไว้แล้ว เพียงเท่านี้ก็เป็นอันเสร็จ เครื่องเยอะมากๆ จนแทบมองเส้นไม่เห็น
อันดับที่ 14 ปอเปี๊ยะสดหูฉลาม
หูฉลามที่ผ่านการปรุงรสด้วยซอสสูตรพิเศษทำเป็นไส้ปอเปี๊ยะสด เป็นเมนูที่ทานแล้วไม่เลี่ยนเพราะมีผักสดอย่างแตงกวาที่ทานแล้วสดชื่นมีน้ำชุ่มฉ่ำ
อันดับที่ 13 ข้าวหน้าไข่หอยเม่นกับหูฉลาม
หอยเม่นที่ใช้นี้เป็นของเคะเซ็นนุมะพันธุ์มุราซากิอุนิ มีความหวานที่กลมกล่อมและเข้ากันได้ดีกับหูฉลาม วิธีการทำเริ่มจากแกะเปลือกหอยเม่นแล้วใช้ช้อนค่อยๆ คว้านเนื้อสีเหลืองออกมาเพื่อไม่ให้เสียรูปทรง เพื่อคงความสดใหม่เอาไว้จึงแข่ไว้ในน้ำทะเล ตักข้าวใส่ชามวางชิโอะอุนิ (หอยเม่นดองเกลือ) เรียงลงไปบนข้าวเสร็จแล้วก็เติมข้าวโปะไปด้านบนอีก วางหอยเม่นที่แช่น้ำทะเลเอาไว้บนข้าวชั้นที่สอง และตรงช่องว่างที่เหลือก็จัดวางหูฉลามปรุงรสลงไปก็เป็นอันเสร็จ เวลาทานก็ทานคู่กันในคำเดียวอร่อยเลิศจริงๆ
อันดับที่ 12 ซูชิหน้าหูฉลาม
จากร้านฮิเระโทโร่ซูชิ วัตถุดิบที่ใช้จากปลาฉลามพันธุ์ที่จับได้มากที่สุดในเคะเซ็นนุมะ ฉลามพันธุ์โยชิคิริซาเมะ ใช้ครีบด้านล่างลำตัวที่มีเส้นใยเยอะและเหนียวนุ่มกว่าส่วนอื่น เมื่อนำไปต้มแล้วก็จะได้เนื้อหูฉลามที่นุ่มเหมือนเจลาติน ปรุงรสด้วยน้ำซุปคอมบุดาชิในสไตล์ญี่ปุ่น นุ่มน่าทานอย่างนี้คงไม่มีอะไรมาแทนที่ได้แน่ๆ
อันดับที่ 11 ซูเฟล่หูฉลาม
ซุปหูฉลามที่ตุ๋นอย่างดีเทลงในถ้วย ปิดด้านบนปากถ้วยด้วยแป้งพาย ทาเนยที่ด้านบนแป้ง นำไปอบจนแป้งพองและเหลืองกรอบก็เป็นอันเสร็จ ซุปหูฉลามร้อนๆ ที่กินกับแป้งพายที่กรอบนอกนุ่มใน ใจละลายไปเลย
อันดับที่ 10 ข้าวหน้าหูฉลาม
ที่ร้านเอบิสึฟุรุมัย มีเมนูหูฉลามให้ลิ้มลองอยู่หลากหลายเมนู มีทั้งแบบซุปต่างๆ หรือเป็นแบบกะทะร้อน มาที่นี่แล้วจะได้ทานเมนูหูฉลามในรูปแบบที่ไม่เหมือนใครแน่นอน เมนูนี้เริ่มจากต้มหูฉลาม เนื้อปู และผักลงในน้ำซุปรสเด็ด เมื่อน้ำซุปเริ่มเข้าเนื้อก็เติมแป้งมันลงไปเพื่อความข้น พอได้ที่ก็ราดไปลงบนข้าว ข้าวราดหน้าร้อนๆ ในแบบอาหารจีน ช่างน่ากินซะเหลือเกิน
อันดับที่ 9 ข้าวตังหน้าหูฉลาม
ที่โรงแรมที่มีชื่อว่าอิเคคาคุ กับเมนูร้านอาหารประจำโรงแรมแห่งนี้นั่นก็คือชุดหูฉลามที่ถูกใจคุณผู้หญิงมากๆ มีทั้งซุป เทมปุระ ข้าวที่ทานได้เต็มอิ่มอย่างแน่นอน ส่วนเมนูที่ติดอันดับนั้นเริ่มจากนำข้าวฮิโตเมะโบเระมาแผ่เป็นแผ่นบางๆ ผึ่งแดดไว้สามวัน จากนั้นก็นำไปทอดในน้ำมันร้อนจัด ได้เป็นข้าวเกรียบโอโคเกะร้อนๆ กรอบๆ ส่วนน้ำราดข้าวเกรียบก็เป็นซุปหูฉลามที่เคี่ยวไว้ครึ่งวันก่อนเสิร์ฟก็ปรุงน้ำราดแล้วเติมแป้งมันจนเหนียวข้น ราดไปบนข้าวเกรียบโอโคเกะ เสียงข้าวเกรียบที่โดนน้ำราดแตกดังเปรียะๆ น่าทานเป็นที่สุด
อันดับที่ 8 สึงาตะซูชิหูฉลาม
นี่เป็นของขึ้นชื่อของเคะเซ็นนุมะ ใช้หูฉลามจากฉลามโยชิคิริซาเมะ โดยส่วนที่ใข้เป็นจุดที่มีความเหนียวนุ่มเป็นพิเศษก็คือส่วนครีบบน เมนูซูชินี้ก็นำหูฉลามทั้งชิ้นมาปั้นเป็นหนึ่งคำ หูฉลามกับข้าวซูชิเปรี้ยวๆ เข้ากันได้อย่างไม่น่าเชื่อเลย
อันดับที่ 7 ข้าวผัดไข่ราดซุปหูฉลาม
เรามากันที่ร้านอาหารจีนที่มีชื่อเสียงของเคะเซ็นนุมะ ร้านไคกะ เมนูแนะนำของทางร้านก็คือเนื้อปลาฉลามอาโอซาเมะผัด เนื้อของปลาฉลามนั้นมีคุณค่าทางอาหารสูงและมีรสชาติที่ใกล้เคียงกับเนื้อไก่อีกด้วย ส่วนเมนูที่ติดอันดับนั้นเริ่มจากเทน้ำมันต้นหอม ทามาริโชยุ และน้ำซุปสูตรพิเศษลงในกระทะ เมื่อส่วนผสมเข้ากันดีก็ใส่ก้อนคอลลาเจนที่สกัดจากฉลาม จากนั้นก็ใส่เนื้อหูฉลามปริมาณมากตามลงไป เคี่ยวไฟสักครู่ให้น้ำซุปซึมเข้าเนื้อหูฉลาม เติมแป้งมันให้น้ำซุปมีความข้น เสร็จแล้วนำมาราดใส่ชามที่ใส่ข้าวผัดไข่ไว้ตรงกลาง
อันดับที่ 6 ซุปเย็นหูฉลาม
เรามากันที่ร้านซูชิที่ขึ้นชื่อของเคะเซ็นนุมะ เมนูนี้ทำจากเนื้อหูฉลามที่ผ่านการต้มหนึ่งชั่วโมงในน้ำซุปปลาคาสึโอะตากแห้ง เสร็จแล้วก็นำไปแช่เย็น เสริ์ฟตอนที่น้ำซุปเซ็ตตัวเป็นวุ้นใส รสชาติหวานหอมคล้ายคัสตาร์ด
อันดับที่ 5 สเต๊กหูฉลามราดด้วยซอสพริกไทยจีน
เมนูนี้อย่างกับอาหารฝรั่งเศสไม่มีผิด เริ่มจากนำหูฉลามทั้งแผ่นขนาดกำลังดีมาคลุกแป้ง จากนั้นก็นำไปทอดในกระทะจนเหลืองกรอบน่าทาน นำไปวางเรียงบนจานที่มีเห็ดชิเมจิที่เตรียมไว้ ตกแต่งด้วยชิ้นพริกหวานสามสี ราดด้วยซอสพริกไทยดำจีน ก็เป็นอันเสร็จ เป็นสเต๊กที่มีสีสันสวยงาม เห็ดชิเมจิก็เหนียวนุ่มเข้ากันได้ดีกับเนื้อสเต็กหูฉลาม
อันดับที่ 4 ราเม็งราดหน้าซุปหูฉลาม
เป็นเมนูที่ขึ้นชื่อจากร้านราเม็ง "อิจิบังคัง" เริ่มจากน้ำซุปราเม็งสูตรพิเศษที่เคี่ยวจากกระดูกไก่ ลวกเส้นบะหมี่แบบเส้นเล็กผึ่งให้สะเด็ดน้ำแล้วใส่ลงในชามน้ำซุป ผัดน้ำราดหน้าราเม็งที่มีส่วนผสมของผัก เหล้า หูฉลาม พอได้ที่ก็ราดบนราเม็งที่เตรียมไว้ เป็นเมนูราเม็งที่คิดค้นขึ้นโดยชาวประมง น้ำราดข้นๆ ช่างเข้ากันได้ดีกับเส้นบะหมี่จริงๆ
อันดับที่ 3 ซูชิหูฉลามสามรส
จากร้านซูชิที่มีชื่อของเมืองร้านอาซาฮิซูชิ แถมลูกชายของเจ้าของร้านนี้ยังเป็นนักเขียนการ์ตูนที่เขียนการ์ตูนเกี่ยวกับซูชิเรื่องสูตรอร่อยสาวซูชิอีกด้วย โดยใช้ที่ร้านเป็นสถานที่หลักในเรื่องที่เขียนอีกด้วย ส่วนเมนูที่ติดอันดับนั้นประกอบด้วยซูชิสามชิ้น ชิ้นแรกเป็นแบบสึงาตะซูชิที่เป็นหูฉลามทั้งชิ้น ชิ้นที่สองเป็นแบบเส้นที่ออกรสหวานเล็กน้อย ชิ้นที่สามเป็นแบบต้มเนื้อแน่นนุ่มน่าทาน ทั้งสามชนิดมีรสชาติและรสสัมผัสต่างกัน สมกับเป็นชุดซูชิชั้นเลิศจริงๆ
อันดับที่ 2 ข้าวผัดสีทองราดซุปหูฉลาม
จุดสำคัญของเมนูนี้อยู่ที่ซอสสูตรพิเศษ เริ่มจากผัดไข่กับข้าวให้เข้ากัน เสร็จแล้วก็ใส่ในภาชนะหม้อดินที่เตรียมไว้ เอาหม้อดินนี้ย่างบนไฟเพื่ออบข้าวในหม้อ ใส่หูฉลามชิ้นใหญ่กับผัก สุดท้ายก็ราดด้วยน้ำซอสสูตรพิเศษที่หอมหอยนางรมลงไปก็เป็นอันเสร็จ น้ำราดข้นๆ กับข้าวผัดร้อนๆ เข้ากันได้อย่างดีทีเดียว และเพราะเป็นหม้อดินจึงทำให้สามารถกินได้ร้อนๆ ตลอดเวลา
อันดับที่ 1 หูฉลามต้มแบบสุงาตานิ
เป็นการใช้หูฉลามทั้งชิ้นที่มีขนาดใหญ่ เหนียว นุ่ม น่าทาน ตุ๋นแบบหูฉลามน้ำแดง อร่อยเลิศสมกับเป็นอันดับหนึ่งจริงๆ
ดูบทความเกี่ยวกับอาหารอื่นๆ