เรื่องย่อละคร สาวน้อยร้อยล้าน
น้อย (นนธวรรณ ณรรวนธร) หญิงสาวจากเมืองสุรินทร์ มีพรสวรรค์ทางด้านการร้องเพลง มีความใฝ่ฝันอยากเป็นนักร้องชื่อดังเหมือน ดวงยิหวา พาฝัน (เมทินี จันทร์สร้อย) น้อยอาศัยอยู่กับยายคำ (ทัศน์วรรณ เสนีย์วงศ์ ณ อยุธยา) และเพ็ญ (ดารัณ ฐิตะกวิน) ป้าสะใภ้ รวมทั้ง มะลิ (พิมพ์นิชกุล บำรุงกิจ) ลูกพี่ลูกน้องที่ตั้งตนเป็นศัตรูกับน้อย น้อยกำพร้าพ่อแม่มาตั้งแต่เด็ก น้อยจึงเคารพและรักป้าเพ็ญเหมือนกับแม่แท้ๆ ที่คิดจะยกน้อยให้ เสี่ยเข้ม (ประกาศิต โบสุวรรณ) ผู้มีอิทธิพลในหมู่บ้านเพื่อปลดหนี้
มะลิเกลียดน้อยมากขึ้นเพราะว่าน้อยได้ใจ นะโม (ทฤษฎี สหวงษ์) หนุ่มหล่อเด็กวัดคนที่มะลิรักสุดหัวใจ และอยากได้เป็นสามี นะโมรักน้อยมาตั้งแต่เด็ก ส่วนมะลิเป็นได้แค่น้องสาว จึงทำให้มะลิแค้นใจ และคิดแผนทำลายความรักของทั้งคู่
น้อยอยากเดินตามรอยดวงยิหวา นะโมสนับสนุนและเป็นกำลังใจให้น้อยเสมอมา เขาเก็บเงินจากการรับจ้างทำงานในศูนย์ฝึกช้างและจากการพาพลายกุดจี่ไปออกงานโชว์ ซื้อเครื่องเล่นซีดีให้น้อยไว้ฟังและฝึกร้องเพลง น้อยสัญญาว่าจะไม่ทำให้นะโมผิดหวัง นะโมพาน้อยตระเวนประกวดร้องเพลง ยิ่งทำให้ความรักของทั้งคู่ดูลึกซึ้งมากขึ้น งานประจำจังหวัดได้จัดให้มีการประกวดร้องเพลงชิงเงินหมื่น น้อยเข้าประกวด เมื่อน้อยขึ้นโชว์เสียงบนเวที น้ำเสียงของน้อยไปสะดุดหู คัมภีร์ (เปรมณัช สุวรรณานนท์) ลูกชายของ เจ๊พร (สาวิตรี สามิภักดิ์) เจ้าของค่ายเพลงเสียงทองโปรโมชั่นที่มาเป็นกรรมการ คัมภีร์หลงในน้ำเสียงและความสวยของน้อย สนใจจะทาบทามให้ไปเทสต์เสียงที่บริษัท แต่ยังไม่ทันพบก็มีเหตุทำให้ไม้ได้เจอกัน
บ้านกำลังจะโดนเสี่ยเข้มยึด เพ็ญจึงแอบไปขายน้อยให้เสี่ยเข้มเพื่อล้างหนี้ เสี่ยเข้มขังน้อยไว้ในห้องเพื่อรอเวลาส่งเธอเข้ากรุงเทพฯ นะโมแอบได้ยินเสี่ยคุยเรื่องจะขายน้อยก็รีบไปช่วย และได้พาน้อยหนีไปตั้งหลักที่กรุงเทพฯ ความโชคร้ายก็มาตกอยู่ที่มะลิ เมื่อเสี่ยเข้มส่งคนมาฉุดมะลิเพื่อเอาไปทำเมียและส่งขายซ่องแทน ยิ่งจุดชนวนให้มะลิเจ็บแค้นและเกลียดชังน้อยมากขึ้น
น้อยและนะโมต้องดิ้นรนปากกัดตีนถีบต่อสู้ชีวิตในกรุงเทพฯ ทั้งสองได้รู้จักกับ เต๋อ (จิราวัฒน์ ลีลาสุวณิชย์) เพื่อนเก่าของนะโม และ เขียว (พุทธชาด พงศ์สุชาติ) สาวใต้ที่มาโดนฉกกระเป๋าที่สถานีขนส่ง น้อยและนะโมช่วยเอาไว้ ทั้งสี่จึงกลายเป็นเพื่อนรักกัน
น้อย นะโมและเพื่อนๆ ตะลอนร้องเพลงเปิดหมวกตามที่ต่างๆ โดยมี นะโมเล่นแคน เพื่อนทั้งสองเป็นหางเครื่อง เรียกความสนใจจากผู้คนที่ผ่านไปมาได้ไม่น้อย ส่วนมะลิหนีออกจากซ่องของเสี่ยเข้มสำเร็จแล้วมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ เพื่อหนีและตามล่าล้างแค้นน้อย มาเจอกับ เสี่ยวินัย (ปิยะ วิมุกดายน) เจ้าของคาเฟ่และธุรกิจเถื่อนร่วมค้าอยู่กัยเสี่ยเข้ม โดยมะลิไม่รู้ว่าเขาไม่ใข่คนดี และกลายเป็นเมียเก็บของเขา มะลิดิ้นรนจนได้ทำงานเป็นแดนเซอร์ในวงดวงยี่หวา
เสี่ยวินัยเจอน้อยที่กำลังร้องเพลงเปิดหมวก จึงชวนน้อยไปเป็นนักร้องที่ร้านอาหาร แต่น้อยก็เป็นได้แค่เด็กล้างจานอยู่หลังร้าน เพราะจริงๆ แล้วเสี่ยวินัยอยากได้น้อยเป็นนางบำเรอ เมื่อสบโอกาสเสี่ยวินัยจึงใช้กำลังปลุกปล้ำน้อย แต่นะโมมาช่วยไว้ได้ทัน สุดท้ายน้อยก็ต้องกลับมาทำงานเป็นเด็กปั๊มอยู่กับเขียว แต่น้อยก็ไม่เคยลืมความฝันที่อยากเป็นนักร้อง น้อยตัดสินใจใช้ความกล้าเข้าไปสมัครเป็นนักร้องที่บริษัทเสียงทองโปรโมชั่น อาทิตย์ (กีรติ ศิวะเกื้อ) สไตลิสต์รับไว้แต่ให้น้อยไปทำงานเป็นแดนเซอร์ก่อน เพราะดวงยิหวาไม่ยอมให้น้อยเป็นนักร้องแข่งกับตน เจ๊พรยอมเพราะดวงยิหวาเป็นนักร้องเบอร์หนึ่งของค่าย ทำให้มะลิได้เจอกับน้อย
ระยะหลังดวงยิหวาชอบท้าทายเจ๊พร เกเรไม่มาขึ้นแสดงคอนเสิร์ต และในคอนเสิร์ตครั้งต่อมาดวงยิหวาไปดื่มกับเพื่อนจนเมาไม่ได้สติทำให้มาขึ้นคอนเสิร์ตไม่ได้ อาทิตย์และเจ๊พรจึงแก้ปัญหาโดยการให้น้อยร้องเพลงแทนดวงยิหวา น้อยก็ไม่ทำให้คนดูผิดหวัง หลังจากนั้นน้อยก็ถูกปั้นให้เป็นนักร้องหน้าใหม่ในนาม สาวน้อยร้อยล้าน และน้อยก็ได้ดังในชั่วข้ามคืน ดวงยิหวาโกรธจัดที่น้อยกำลังจะมาแย่งตำแหน่ง และยังได้ใจคัมภีร์ แฟนหนุ่มเธอไปด้วย
ดวงยี่หวาใช้มะลิและ โจโจ้ (ณปภัช ผิวอ่อน) ผู้จัดการส่วนตัวของเธอ คอยหาเรื่องกลั่นแกล้งและให้ใส่ร้ายน้อยตลอดเวลา กว่าน้อยจะขึ้นมาเป็นนักร้องดัง เธอจึงต้องผ่านอุปสรรคมากมาย ดวงยี่หวาอยากแก้แค้นเจ๊พร จึงลาออกไปอยู่กับค่ายเชนโปรโมชั่นของ เสี่ยเชน ค่ายคู่แข่ง ดวงยี่หวาให้มะลิไปขโมยชุดของน้อยมา และหาคนหน้าเหมือนน้อยมาหลับนอนกับเสี่ยวินัย ให้มะลิอัดคลิปเอาไว้เอามาลงในสื่อออนไลน์ ทำให้น้อยเสียชื่อเสียงมาก
นะโมได้มาทำงานกับน้อยในฐานะคนเป่าแคนและเล่นพิณ เขารู้ว่าคนในข่างไม่ใช่น้อย จึงสืบเรื่องราวจนได้มือดีตัดต่อคลิป และเอาตัวคนหน้าเหมือนน้อยมาแฉในรายการ ทำให้น้อยรอดข้อหาไป แต่ไม่นานก็มีข่าว “น้อยซุกผู้ชายไว้ที่บ้าน” ซึ่งก็คือนะโม น้อยถูกเจ๊พรเรียกตัวไปพบแล้วต่อว่าอย่างรุนแรง คัมภีร์เรียกให้นะโมไปพบ และบอกว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะทำให้น้อยเสียชื่อเสียง คัมภีร์บีบให้นะโมลาออกจากวง นะโมยอมออกจากวงเพื่อรักษาชื่อเสียงของน้อยไว้ คัมภีร์ให้น้อยให้สัมภาษณ์ว่าเธอกับนะโมไม่ได้เป็นอะไรกัน เป็นแค่ญาติกันเท่านั้น นะโมเห็นข่าวนี้แล้วเสียใจมาก
นะโมเสียใจกลับไปพักใจอยู่ที่อยู่บ้าน ในขณะที่นะโมต้องเดินผ่านต้นไม้ใหญ่ที่น้อยกับเขาเคยพลอดรักกัน เสียงเพลงที่เคยแต่งให้น้อยยังแต่งไม่จบ นะโมก็แต่งเพลงนี้จนเสร็จ และไม่รอช้าเอาเพลงที่แต่งมาให้น้อยโดยฝากคัมภีร์เอาไปให้น้อยร้อง คัมภีร์รับปากแต่ลับหลังก็วางทิ้งบนโต๊ะอย่างไม่ใส่ใจ มะลิแอบเห็น และมองเห็นทางทำร้ายน้อย จึงแอบถ่ายเนื้อเพลงไปให้ดวงยี่หวา ดวงยี่หวาร่วมมือกับมะลิวางแผนเล่นงานน้อย ทำให้นะโมเข้าใจผิดว่าน้อยไม่ยอมร้องเพลงและไม่ต้องการเห็นหน้าเขาอีกต่อไป จึงยกเพลงนี้ให้ ดวงยี่หวา และยินยอมเซ็นขายลิขสิทธิ์ให้เสี่ยเชน
เจ๊พรเห็นเนื้อเพลงของนะโมที่วางอยู่บนโต๊ะก็รู้สึกชอบ ถามหาว่าใครเป็นคนแต่ง คัมภีร์แอบอ้างว่าเป็นเพลงของตัวเอง เจ๊พรเอาเพลงใหม่ไปให้น้อยฟัง เมื่อน้อยได้ยินรู้สึกทันทีว่าเป็นเพลงของนะโม น้อยไม่บอกใครว่าตัวเองรู้จักเพลงนี้ดี น้อยรู้ว่าคัมภีร์โกหกแต่เก็บความรู้สึกไว้ ถึงแม้จะรู้ความจริงว่าใครเป็นคนแต่ง แต่ชีวิตก็ต้องก้าวหน้าไป น้อยมาไกลจนเกินกว่าจะหันหลังกลับ เวลาต่อมาซิงเกิลเพลงที่นะโมแต่งเนื้อร้องถูกนักร้องทั้งสองคนมาขับร้อง และเปิดตัวในวันเดียวกัน น้อยและค่ายเพลงของเจ๊พรถูกฟ้องร้องโทษฐานก๊อปปี้เพลงบริษัทคู่แข่ง เรื่องนี้ทำให้น้อยและเจ๊พรเสียหายอย่างใหญ่หลวง ดวงยี่หวาแถลงข่าวว่าคนที่แต่งเพลงนี้คือ นะโม และบอกว่านะโมเอาเพลงนี้มาขายให้ตน แต่ถูกค่ายเจ๊พรขโมยไป น้อยเสียใจมากไม่คิดว่า นะโมจะทำกับตนเองได้ขนาดนี้
ดวงยี่หวาเรียกร้องค่าเสียหายเป็นเงิน 100 ล้าน และให้น้อยมากราบขอโทษ แต่เจ๊พรก็งัดความลับสุดยอดของดวงยี่หวามาขู่ ทำให้เธอต้องยกเลิกข้อกล่าวหา นะโมเสียใจที่ตกเป็นเครื่องมือให้ดวงยี่หวาหลอกใช้ คิดหาทางช่วยเอาลิขสิทธิ์เพลงคืนมาให้ได้ นะโมได้เป็นนักแต่งเพลงเต็มตัว แอบแต่งเพลงให้น้อยเงียบๆ น้อยรู้สึกท้อแท้ เจ๊พรได้พูดให้กำลังใจน้อยว่าคนเราจะขึ้นสูงหรือลงต่ำเพียงใดขออย่างเดียวอย่าลืมที่มาและอย่าลืมที่ไป เจ๊พรได้เพลงใหม่มาให้น้อยร้อง เมื่อดีเจเปิดเพลง “นักร้องบ้านนอก” ให้แฟนเพลง ต่างก็พากันชื่นชอบ ทำให้น้อยกลับมาดังอีกครั้ง
มะลิท้องกับเสี่ยวินัย แต่เสี่ยไม่รับผิดชอบ ให้เงินมะลิไปทำแท้ง ดวงยี่หวากำลังขาลง มาขอให้เสี่ยวินัยช่วยเรื่องคอนเสิร์ต เสี่ยจึงลวนลามเธอ มะลิมาเห็น และถ่ายคลิปเอาไว้ ก่อนจะดั้นด้นไปขอความช่วยเหลือจากนะโม นะโมสงสารจึงรับเป็นพ่อของลูกมะลิให้ น้อยได้ข่าวมะลิท้องกับนะโมก็เสียใจ คัมภีร์ใช้โอกาสที่น้อยอ่อนแออ้อนขอแต่งงาน ดวงยี่หวาแค้นน้อย มีเรื่องทะเลาะกับคัมภีร์ จนพลั้งมือทำคัมภีร์บาดเจ็บจนเข้าโรงพยาบาล ดวงยี่หวาเสียใจ แต่ไม่หายแค้นน้อย ขอให้เสี่ยวินัยช่วยกำจัดน้อย
วันที่น้อยเดินทางไปร้องเพลงที่สุรินทร์ รถตู้ที่เธอนั่งไปก็ประสบอุบัติเหตุจนทำให้เธอตาบอด ทุกคนเสียใจและเปป็นห่วงน้อยมาก ขณะที่น้อยรักษาตัวที่โรงพยาบาล นะโมได้เข้ามาพูดขอโทษน้อยที่ไม่รักษาสัญญาที่จะดูแลน้อยให้ดี น้อยบอกให้นะโมกลับไปดูแลมะลิและลูก มะลิสำนึกผิดเลยมาพูดความจริงกับน้อย บอกว่าลูกในท้องไม่ใช่ลูกของนะโม นะโมและน้อยเข้าใจกัน เจ๊พรได้รับแจ้งจากตำรวจว่า รู้ตัวคนบงการที่มำให้เกิดเหตุการณ์ครั้งนี้ ซึ่งกคือเสี่ยวินัยกับดวงยี่หวา อนาคตของดวงยี่หวาต้องจบลงเพราะถูกตำรวจจับไปเข้าคุก
ไม่นานก็มีผู้บริจาคดวงตาให้น้อย ซึ่งก็คือยายคำ ที่ตาบอดมองไม่เห็นเช่นกันมีผู้บริจาคดวงตาให้ แต่ยายคำยกให้หลานสาวที่กำลังจะมีอนาคตไกล น้อยกลับมามองเห็นอีกครั้ง ไม่นานเธอก็กลบมาร้องเพลงให้ เจ๊พร โดยขอให้นะโมมาเป็นผู้จัดการวง เจ๊พรยังคงเดินหน้าโปรโมทน้อยต่อไป จนเธอได้รับรางวัลมากมาย และใช้ชีวิตอย่างมีความสุขอยู่กับนะโมที่หมู่บ้านบ้างนั่นเอง
น้อย รับบทโดย นนธวรรณ ณรรวนธร
“คาแรกเตอร์ของ น้อย เป็นคนร่าเริง เป็นสาวที่มีความฝัน เป็นคนที่สู้คนแต่รู้กาละเทศะ ตอนที่อยู่ต่างจังหวัดใครก็ทำอะไรเราไม่ได้ แต่พอเข้ามาอยู่กรุงเทพฯ ด้วยความที่ไม่ใช่ถิ่นเรา เราก็จะซอฟต์เรื่องการสู้คน แต่ใครก็มาดูถูกเค้าไม่ได้นะ ฮึดสู้เหมือนกัน ความฝันของน้อยคือการได้เป็นนักร้อง เหมือนเราจะได้เป็นนักร้องละ แต่โดนขัดวางตลอด ไม่ประสบความสำเร็จสักที ก็ได้ พี่นะโม ก็คือ พี่ปอ (ทฤษฎี สหวงษ์) เป็นคนคอยซัพพอร์ต ดูแลสนับสนุนเรามาตลอด ทั้งๆที่เค้าไม่ได้ร่ำรวยอะไร แต่เค้าดูแลเราด้วยใจ เหมือนเป็นการเริ่มต้นความรักแบบพี่น้องกันก่อน แล้วก็มาพัฒนาเป็นแบบความรักทีหลัง ชีวิตครอบครัวของน้อยกับนะโมเรียกว่าลำบากเลยก็ว่าได้ แล้วก็เป็นเด็กกำพร้าเหมือนกัน แต่โชคดีที่น้อยยังมียาย มีป้า พี่นะโมก็อยู่ที่วัดมาตั้งแต่เด็ก เป็นความรักในรูปแบบของความเข้าใจกัน
ในเรื่องนี้หนูได้โชว์เต็มที่เลยค่ะ ในเรื่องของการร้องเพลงหนูเข้าใจอยู่แล้ว มาสายลูกทุ่งตั้งแต่เด็กแล้ว เพลงที่ใช้ในละครเค้าก็แต่เพลงใหม่ทั้งหมด เป็นการแต่งเพลงตามอารมณ์ของตัวละคร แล้วก็มีเพลง(ตรงนี้หนูอ่านไม่ออก) รู้สึกว่าในเรื่องจะมีเพลงที่คุณแม่ของ เมญ่า แต่งไว้ด้วยหนึ่งเพลง มันเป็นเพลงที่แม่แต่งไว้ให้เมญ่าตั้งแต่สิบปีที่แล้ว เป็นลูกทุ่งแท้ๆเลยต้อง(อันนี้ก็มองไม่ออก) ละครเต็มตัวเรื่องแรกของเมญ่าด้วย ตั้งใจมากๆ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกคนจะชอบ แล้วนักแสดงแต่ละคน ทีมงานทุกๆคนก็เต็มที่เช่นกันค่ะ”
ชื่อ-สกุล : นนธวรรณ ณรรวนธร
ชื่อเล่น : เมย่า
วันเกิด : 27 เมยษายน 2535
ส่วนสูง : 176 ซม.
น้ำหนัก : 53 กก.
การศึกษา : มหาวิทยาลัยนานาชาติแสตมป์ฟอร์ต
คณะบริหารธุรกิจการบิน
ผลงานที่ผ่านมา : ประกวดร้องเพลงลูกทุ่ง(รายการเวทีไทย) รางวัลถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตน์ราชสุดาฯ ปี 2546 ,ประกวด KPN Award & Popular Vote รางวัลถ้วยพระราชทานสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนารถ ปี 2547 (สาขานักร้องยอดเยี่ยม ประเภทเพลงไทยลูกทุ่ง) , ประกวด YAMAHA ลูกทุ่งคอนเทสต์ ปี 2548 รางวัลถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตน์ราชสุดาฯ , มิสไทยแลนด์เวิร์ล 2014 , รับเชิญในละคร “ขอเป็นเจ้าสาวสักครั้งให้ชื่นใจ” , ร้องเพลงประกอบละคร “ทรายสีเพลิง” และ “ไฟล้างไฟ”
นะโม รับบทโดย ทฤษฎี สหวงษ์
“รับบทเป็น นะโม เป็นเด็กกำพร้าอยู่บ้านนอกซึ่งมีความฝันว่าจะทำให่ชีวิตของ น้อย ประสบความสำเร็จในสิ่งที่เขาหวังเอาไว้ เหมือนสื่อให้คนดูเห็นถึงเรื่องการให้โดยไม่หวังผลตอบแทน แค่ได้เห็นคนที่เราให้เค้ามีความสุข สำหรับบทนี้ก็ถือว่ายากนะครับ เพราะมันมีการเปลี่ยนความรู้สึกตลอดเวลา เราเริ่มจากรักกันมา พอเข้ามาอยู่กรุงเทพฯ มีเหตุการณ์หลายๆอย่างเข้ามา มีอุปสรรคที่เราต้องต่อสู้ทำให้อะไรมันเปลี่ยนด้านความรู้สึก คือเรารักกันแต่ด้วยสถานการณ์บางอย่าง ผมว่ามันเป็นความเผลอมากว่าที่เราจะต้องเป็นตามสังคมที่เราอยู่ ตัวเราเป็นคนนิ่งๆไม่ว่าจะผิดหรือไม่ คือยอมหมดกับผู้หญิงที่ชื่อน้อยครับ ทำได้ทุกอย่างเพื่อเค้าเลย มันจะยากตรงที่ตัวละครนี้ต้องเก็บอารมณ์ค่อนข้างเยอะครับ
ในเรื่องนี้ไม่ได้ร้องเพลงเลย จะเป็นคนแต่งเพลงมากกว่า แล้วก็มีเล่นดนตรีบ้าง เป็นคนที่อยู่เบื้องหลัง อย่างเวลาที่น้อยเค้าขึ้นโชว์ เราก็เล่นดนตรีเป็นวงอยู่ข้างหลังเค้าประมาณนี้ครับ ร่วมงานกับ เมญ่า(นนธวรรณ ณรรวนธร) เรื่องนี้เป็นเรื่องแรกเลย ตัวจริงเค้าก็เหมือนนางงามเลย เป็นคนที่มีจิตใจดี มีน้ำใจ ดีใจที่ได้ร่วมงานกับคนแบบนี้ เรื่องการแสดงน้องเค้าเก่งอยู่แล้วนะ ร้องเพลงก็เก่ง โห ร้องเพลงเพราะมาก ก็จะมีช่วยเค้าบ้างเรื่องเทคนิคเล็กๆน้อย ที่เราพอรู้บ้าง แต่โดยรวมแล้วคือเค้าโอเคอยู่แล้ว กับทาง ทีวีธันเดอร์ ก็เป็นครั้งแรกที่ได้ร่วมงาน ก็ถือเป็นประสบการณ์ใหม่ๆที่เข้ามา ถ้ามีโอกาสก็อยากร่วมงานอีกครับ”
ดวงยี่หวา รับบทโดย เมทินี จันทร์สร้อย
“ก่อนจะมาเล่นเรื่องนี้ เมย์ ได้ไปออกรายการ ตีสิบ ค่ะ ช่วง ดันดารา ไปร้องประกวดช่วงสี่สาวซัมเมอร์ ซึ่งทาง ทีวีธันเดอร์ ได้เห็นแล้วก็เห็นว่าเราเหมาะ เพราะเราร้องเพลงด้วย หน้าตาก็คงพอใช้ได้ ก็เลยเรียกเข้ามาคุย ลองแคสติ้งดู ก็ได้แบบงงๆ ว่าเรามาถึงตรงนี้ได้ยังไง เมย์เองก็ชอบการแสดงอยู่แล้ว แต่ตอนนั้นคิดว่ามันอยู่ไกลเกินฝัน เราไม่เคยเดินสายนี้ ไม่รู้ว่าจะเข้ามายังไงไม่มีประสบการณ์ด้วย พอผู้ใหญ่ติดต่อมา เราก็เลยสนใจเข้ามาลองดู แล้วก็ได้มาเป็น ดวงยี่หวา พาฝัน เป็นบทร้าย ซึ่งยากมากๆ รับบท เมย์ ระหว่างที่รอเปิดกล้องก็ได้ไปเรียนการแสดงมาบ้างเรียนเต้นเพิ่ม แต่เรื่องร้องเพลงเมย์มีพื้นฐานมาอยู่แล้ว ในเรื่องต้องมาปะทะกับ เมญ่า งานหนักเลยค่ะ เค้ามีความสามารถเยอะ เต้นเก่งด้วย ร้องเพลงก็ระดับถ้วยพระราชทาน แต่ตอนประกวดไม่เคยเจอกันนะคะ มาเจอกันในละครนี่แหละ
คาแรกเตอร์ของ ดวงยี่หวา จะเป็นนักร้องที่เซ็กซี่หน่อย มีความทะเยอทะยาน มั่นใจในตัวเอง ขี้เหวี่ยง ขี้วีน แต่ก่อนเคยเป็นนางเอกละครมาก่อน แต่เกิดตกอับ เจ๊พร เจ้าของค่ายเพลงก็เลยดึงมาเป็นนักร้อง แต่ดวงยี่หวาเค้าก็มีความรักในเพลงอยู่แล้ว พอมาเป็นนักร้องก็ดังมาเป็นซุป’ตาร์เลย ยากนะคะ ทั้งเรื่องเซ็กซี่ ยั่วยวน สำหรับเมย์มันยากมาก เรื่องอามรณ์ ความดราม่าก็ยากเหมือนกัน ต้องขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ สำหรับนักแสดงหน้าใหม่อย่างเมย์ กับละคร “สาวน้อยร้อยล้าน” ทางช่อง 3 ค่ะ”
ชื่อ-สกุล : เมทินี จันทร์สร้อย
ชื่อเล่น : เมย์
วันเกิด : 17 มกราคม 2531
ส่วนสูง : 165 ซม. น้ำหนัก : 48 กก.
ความสามารถพิเศษ : ร้องเพลง(ลูกทุ่ง-สตริง),เต้น
ศิลปินที่ชอบ : ก็อต จักรพันธ์
ผลงานที่ผ่านมา : ซิงเกิลเพลง “แอบชอบเธอ”,เพลง “สังหรณ์”
คัมภีร์ รับบทโดย เปรมมนัช สุวรรณานนท์
“คัมภีร์ เป็นลูกชายของ พี่ต่อง (สาวิตรี สามิภักดิ์) ที่เพลงเจ้าของค่ายเพลงแล้วก็เคยเป็นลูกทุ่งเสียงทองมาก่อน ทำให้เราได้รับสายเลือดตรงนี้มาบ้าง มีความรักในเสียงเพลงบ้าง คาแรกเตอร์เป็นลูกที่รักแม่ ตามใจแม่ เรียนจบจากเมืองนอก มีความเจ้าเสน่ห์นิดนึง เสเพลหน่อยๆ พอได้มาเจอกับ ดวงยี่หวา ที่เป็นนักร้องในสังกัดก็เลยเหมือนสมภารกินไก่วัด โดนเค้าอ้อนไปอ้อนมาเราก็เลยต้องยอมเค้า แต่สุกท้ายเราก็ยังยืนหยัดที่จะกตัญญูต่อแม่เราอยู่ เมื่อดวงยี่หวาเค้าถึงจุดที่เลยเถิดไปแล้ว จนเรามาปั้นเด็กใหม่ก็คือ น้อย เราเห็นเค้าเป็นเด็กบ้านๆ จนวันนึงเค้าสวยขึ้นมา แล้วก็แพ้ในความดีของเค้า เรามองในมุมมองของเจ้าของบริษัทที่คิดผลระโยชน์เพื่อบริษัท ตัวละครตัวนี้เอาจริงๆ จะมองในมุมร้ายก็ได้นะ แต่ในตอนหลังเค้าก็คิดได้ ความยากของบทนี้คืออารมณ์ของตัวละครที่ขึ้นๆลงๆ มีความสับสนในตัวเองอยู่บ้างครับ แล้วก้มีฉากเลิฟซีนกับ เมย์ (เมทินี จันทร์สร้อย) ที่ตอนแรกๆจะเยอะหน่อย ผมก็เคยผ่านบทแบบนี้มาบ้าง แต่มาเล่นอีกทีก็เขินนะครับ”
อาทิตย์ รับบทโดย กีรติ ศิวะเกื้อ
“บทในเรื่องนี้เล่นเป็นกะเทยเจ๊ๆคนนึงในค่ายเพลงของ พี่ต่อง หรือว่า เจ๊พร ในเรื่องจริงๆชื่อ อาทิตย์ แต่เรียกตัวเองว่า อารยา ตอนหลังเปลี่ยนมาใช้ชื่อ ซันนี่ แล้วก็จะโดนคนนู้นคนนี้เรียกชื่อเก่าที่ดูแมนๆ เวลาใครเรียกเราก็จะเคืองเค้า บอกให้เรียกซันนี่ๆ ก็ไม่จำ บทเค้าเป็นคนดีนะ ตั้งใจทำงาน ฝ่าฟันอุปสรรคมากับเจ๊พรตั้งแต่เริ่มค่ายเลย เห้นความลำบากมาด้วยกัน เป็นคนที่เทิดทูนเจ๊พรมาก เค้าเหมือนเป็นแม่ที่ให้โอกาสเรา นอกจากตัวเองจะเป็นสไตลิสต์แล้วยังเป็นมือขวาของเจ๊พร คอยดูแลจัดการศิลปินในค่าย เหมือนเราเนเจ๊ใหญ่ แล้วก็ชอบไปเต๊าะ พี่ปอ (ทฤษฎี สหวงษ์) ที่เล่นเป็น นะโม เพราะเค้าหล่อ หน้าตาดี
หลังๆมานี่เล่นแต่บทสาวแตก ซึ่งเราก็ต้องพยายามทำให้มันต่างจากเรื่องก่อนๆ ต่างกันในเรื่องของท่าทาง วิธีพูด แอบปวดหัวกับบทเหมือนกัน แต่เราก็สนุกกับการครีเอตบทนะ แล้วก็ต้องขอบคุณผู้จัดฯในทุกๆเรื่อง ที่ให้แต่บทดีๆ แต่ก่อนเราเคยเป็นนักแสดงสมทบ เป็นตัวประกอบ กว่าจะมาถึงตรงนี้ได้ผ่านอะไรมาเยอะมาก ทุกวันนี้ยังคอยเตือนตัวเองตลอดว่า อ่านบทหรือยัง ทำการบ้านหรือยัง เมื่อมาถึงตรงนี้ได้เราต้องรักษาคุณภาพไว้ให้ได้ด้วยครับ”
ผู้กำกับการแสดง สรัญญา น้อยไทย
“สาวน้อยร้อยล้าน” เป็นผลงานของ พี่คิง(สมจริง ศรีสุภาพ) ซึ่งส่วนตัวก็ชื่นชอบผลงานของพี่คิงอยู่แล้ว ตอนที่อ่านเรื่องย่อก็รู้สึกว่าน่าสนใจ เพราะคนเราทุกคนมีความฝัน ไม่ว่าจะอยู่ในชนชั้นใดก็ต้องดิ้นรนกันทั้งนั้น พอได้อ่านเรื่องราวยังบอกกับ เมญ่า อยู่เลยว่า น้อย คือตัวแทนของทุกคนที่มีความฝัน ซึ่งกว่าจะผ่านมาได้ก็ต้องเจออุปสรรคหลายๆอย่าง โดยเนื้อละครเราสามารถตีความได้หลายๆอย่าง แต่ที่แน่นอนเลยคือเราอยากให้ละครเรื่องนี้มีทั้งความบันเทิง ทั้งเรื่องเพลง ความเป็นลูกทุ่ง แล้วก็มีความติดดิน ความเป็นมนุษย์ของตัวละครที่เราสัมผัสได้จากตัวละครต่างๆ ดราม่า แน่นอนว่าต้องมี แต่เราก็จะนำเสนอให้ดราม่าหลากหลายรูปแบบ ความเป็นคนต่างจังหวัด คนเมือง ให้คนดูรู้สึกอินกับตัวละคร ความแตกต่างจากเวอร์ชั่นที่แล้ว แน่นอนว่ายุคสมัยต้องเปลี่ยนไปอยู่แล้ว เราคงเนื้อเรื่องเดิมไว้ แต่ในมุมมองของตัวผู้กำกับ ผู้จัดฯ โปรดิวเซอร์เราก็มีสไตล์ที่อยากจะนำเสนอ มิติ แบล็กกราวน์ของตัวละครที่อาจถูกบิดบ้างเพื่อความเหมาะสม
สำหรับพระ-นางของเรา ต้องชมผู้ใหญ่เลยเพราะเลือกได้เหมาะสมมาก ทั้งคู่มีความเป็นธรรมชาติมาก พี่ปอ ก็ขึ้นชื่ออยู่แล้ว รับรองว่าเซอร์ไพร์สคนดูแน่กับความเป็นธรรมชาติของเมญ่า แล้วบทเค้าก็ไม่ได้ง่าย ทั้งการแสดง และการร้องเพลง ครบเครื่องจริงๆ ใครที่รักลูกทุ่ง รัเสียงเพลง รักละครครบรส และยินดีที่จะให้โอกาสน้องๆหน้าใหม่ ที่มากำกับละครเรื่องแรก เราก็พยายามและตั้งใจกันเต็ที่เพื่อให้คนดูประทับใจกับละคร ”สาวน้อยร้อยล้าน”
บทความแนะนำ