google.com, pub-6663105814926378, DIRECT, f08c47fec0942fa0 Mega topic | จัดอันดับ | 10 อันดับ| เรื่องผี| เรื่องสยองขวัญ| ที่สุดในโลก| ดูดวง| ประวัติศาสตร์

อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ สุดยอดอัจฉริยะตลอดกาล

อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ สุดยอดอัจฉริยะตลอดกาล




อัลเบิร์ตไอน์สไตน์เป็นนักวิทยาศาสตร์สาขาฟิสิกส์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดในศตวรรษที่ 20 เขาเป็นคนคิดค้นทฤษฎีสัมพัทธภาพที่เป็นที่มาของการสร้างระเบิดปรมาณูที่มีอานุภาพร้ายแรงในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 กองทัพสหรัฐอเมริกานำไปโจมตีที่เมืองฮิโรชิมา เมื่อวันที่ 6 สิงหาคมพ.ศ 2488 มีคนเสียชีวิตไปประมาณ 140000 คน และเมืองนางาซากิวันที่ 9 สิงหาคมพ.ศ 2488 มีคนเสียชีวิตประมาณ 80000 คน ในที่สุดประเทศญี่ปุ่นก็ต้องยอมแพ้ต่อกองทัพของพันธมิตรเมื่อวันที่ 15 สิงหาคมพ.ศ 2488

 เมื่อปีพ.ศ 2482  เอ็ดเวิร์ด เทลเลอร์ ยูเกน พอลวิกเนอร์ และ ลีโอ ซีลาร์ค ชาวฮังกาเรียนที่ทำงานเกี่ยวกับนิวเคลียร์ฟิสิกส์ ทั้ง 3 คนหลบหนีจากเยอรมนีมาอยู่อเมริกา และได้มาพบกับไอน์สไตน์ให้เขียนจดหมายถึงประธานาธิบดีรูสเวลท์ให้ทราบว่า มีความเป็นไปได้ที่ประเทศเยอรมนีจะสร้างระเบิดนิวเคลียร์ซึ่งจะเป็นภัยร้ายแรงมากแต่เรื่องก็เงียบหายไป

ต่อมาวันที่ 7 ธันวาคมพ. ศ. 2484 ที่เพิร์ลฮาเบอร์ฐานทัพเรือสหรัฐอเมริกาที่ฮาวายถูกกองทัพญี่ปุ่นโจมตีทำให้สหรัฐอเมริกาประกาศตัวเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 2 ทันทีและประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาได้อนุมัติโครงการแมนฮัตตันเพื่อผลิตระเบิดนิวเคลียร์ในที่สุดสหรัฐอเมริกาก็ได้นำระเบิดนิวเคลียร์ไปโจมตีที่เมืองฮิโรชิม่าและนางาซากิจนประเทศญี่ปุ่น ประกาศยอมแพ้ทำให้สงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลง เมื่อไอสไตน์ทราบข่าวความสูญเสียชีวิตผู้คนและอาคารบ้านเรือนที่ถูกทำลายอย่างย่อยยับจากพิษสงของระเบิดนิวเคลียร์ ที่เมืองฮิโรชิม่าและนางาซากิ เขาเสียใจมากและได้กล่าวกับผู้คนในตอนหลังว่า

"หากทราบว่าประเทศเยอรมนีไม่สามารถระเบิดนิวเคลียร์ได้ เขาจะไม่ลงนามในจดหมายถึงประธานาธิบดีรูสเวลท์ให้อนุมัติโครงการแมนฮัตตันอย่างแน่นอน"

หลังจากนั้นเป็นต้นมาไอสไตน์ได้ร่วมรณรงค์คัดค้าน ต่อต้านสงครามเรื่อยมา และมีคำพูดของเขาที่ถือเป็นคำคมที่มีผู้ยกไปอ้างอิงเกี่ยวกับเรื่องนี้เช่น

"ข้าพเจ้าขอเรียกร้องต่อหญิงชายทั้งหลายไม่ว่าท่านจะเป็นผู้ที่มีชื่อเสียงหรือไม่ก็ตามขอให้ท่านประกาศว่าท่านจะไม่เป็นผู้ให้การช่วยเหลือใดๆแก่การสงครามหรือเตรียมการให้เกิดสงคราม ในความเชื่อของข้าพเจ้าการนำสันติภาพมาสู่โลกบนพื้นฐานความเป็นอยู่ของชนชาติต่างๆก็โดยการนำวิธีการของมหาตมะคานธีคือการสู้โดยสงบ สันติ อหิงสา มาใช้อย่างกว้างขวาง ข้าพเจ้าไม่ทราบว่าถ้าหากเกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 มนุษย์จะใช้อาวุธอะไรประหัตประหารกันรู้แต่เพียงว่าหากเกิดสงครามโลกครั้งที่ 4 "

ไอสไตน์คงคิดว่าสงครามโลกครั้งที่ 3 นั้นมนุษย์จะใช้อาวุธนิวเคลียร์ประหัตประหารกันย่อยยับจนไม่มีอาวุธอะไรเหลืออยู่เลยเมื่อเกิดสงครามโลกครั้งที่ 4 จึงเหลือแต่ก้อนหินและกระบองไม้เป็นอาวุธ

"สันติภาพไม่สามารถรักษาไว้ได้โดยใช้กำลังแต่การรักษาสันติภาพจะสามารถบรรลุได้ด้วยการทำความเข้าใจกัน"

 เมื่อปี 2483 ไอสไตน์ได้เป็นพลเมืองของสหรัฐอเมริกาและได้รับคำเชิญเป็นศาสดาอาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยปริ๊นซ์ตันรัฐนิวเจอร์ซีย์ไอน์สไตน์กล่าวสุนทรพจน์ในการบรรยายหลายแห่งว่า

" ข้าพเจ้าไม่ใช่เป็นผู้ที่มีสติปัญญาเลิศแต่อย่างไรแต่ข้าพเจ้าเป็นผู้มีความกระหายอยากรู้อยู่เสมอมีความพากเพียรในการค้นหาสิ่งที่อยากรู้อย่างอดทนรวมทั้งวิจารณ์ตนเอง สิ่งเหล่านี้เป็นปัจจัยนำมาซึ่งความคิดของข้าพเจ้า"

คำพูดดังกล่าวได้แสดงให้เห็นว่าไอน์สไตน์เป็นผู้อ่อนน้อมถ่อมตนและเป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับผู้ที่มีความกระหายในความอยากรู้และค้นหาความรู้นอกจากนี้เขาได้ให้หลักในการสอนซึ่งครูอาจารย์น่าจะนำไปเป็นแบบอย่างในการสอนนักเรียน

" ผมไม่เคยสอนลูกศิษย์ของผมผมเป็นแต่เพียงผู้พยายามเต็มเงื่อนไขภาวะแวดล้อมให้เขาได้ศึกษาหาความรู้ด้วยตนเองเท่านั้น"

และอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ได้ให้ความสำคัญต่อการจินตนาการมาก ทฤษฎีทางฟิสิกส์ที่เขาคิดได้สำเร็จมาจากการจินตนาการทั้งนั้น เข้าได้ย้ำว่า จินตนาการมีความสำคัญมากกว่าความรู้



อัลเบิร์ต ไอสไตน์นั้นเคยแต่งงาน 3 ครั้งภรรยาคนแรกชื่อว่าคอช ซึ่งเป็นสาวใช้ในบ้าน ภรรยาคนที่ 2 ชื่อ มิเลว่า มาริค เธอมีลูกกับไอสไตล์ 2 คน ตอบมาได้หย่าขาดจากไอสไตล์และไอน์สไตน์ได้แต่งงานใหม่กับ เอลซ่า โรเวนธัล ซึ่งได้อยู่ด้วยกันตลอดชีวิต

เกี่ยวกับเรื่องความรักนั้นไอสไตน์ได้กล่าวเปรียบเปยเป็นคำคมที่มีผู้นำไปกล่าวอ้างอิงโดยนำหลักวิทยาศาสตร์มาประยุกต์กับความรัก อย่างเช่น

แรงโน้มถ่วงของโลกไม่รับผิดชอบในการที่บุคคลจะตกหลุมรักกัน

วางมือบนเตาไฟ 1 นาทีมันช่างยาวนานเหมือน 1 ชั่วโมงแต่ถ้านั่งคุยกับสาวงาม 1 ชั่วโมงเวลามันช่างหมดไปเร็วเหมือนเวลา 1 นาทีนี่แหละหลักสัมพัทธภาพ

มีเรื่องเล่าต่อๆกันมาว่าวันหนึ่งมาริลินมอนโร ดาราสาวเซ็กซี่สตาร์ของ Hollywood ได้พบกับไอน์สไตน์เธอจึงได้พูดสัพยอกทีเล่นทีจริงกับไอสไตน์ว่า

"ท่านศาสตราจารย์ท่านว่าไหมหากเราได้แต่งงานกันลูกชายที่เกิดมาคงจะมีใบหน้าเหมือนกับฉันและมีความเฉลียวฉลาดเหมือนกับท่าน"

ไอสไตน์ได้ฟังก็หัวเราะหึหึพร้อมกับตอบสวนกลับไปว่า

"ผมกลัวว่ามันจะตรงกันข้าม เกรงว่าเด็กคนนั้นจะมีใบหน้าเหมือนผมแต่โง่เหมือนคุณนะสิ"

คำตอบดังกล่าวทำเอามาริลีนมอนโรอายม้วนไปเลยทีเดียว

ปกติอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์เป็นคนอารมณ์เย็นสุภาพไม่มักใหญ่ใฝ่สูงไม่ยึดถือชื่อเสียงเงินทองและมีอารมณ์ขันอยู่เสมอเมื่อคราวที่อาศัยอยู่ในเยอรมันนีเป็นช่วงที่คิดเริ่มมีอำนาจ ไอสไตน์ถูกหมายหัวว่าเป็นศัตรูต่อประเทศเยอรมนีและทางการเยอรมนีได้ตั้งค่าหัวไอสไตน์ไว้ $5000 มีนักข่าวคนหนึ่งได้ถามไอน์สไตน์ว่า

รู้ไหมว่ารัฐบาลเยอรมันตั้งรางวัลค่าหัวท่านไว้ถึง 5000 ดอลลาร์สหรัฐ

ไอสไตน์ยิ้มและตอบว่า

ค่าหัวของผมแพงถึงขนาดนั้นเชียวหรือ

คนบางคนอาจจะเคยสงสัยว่าเคยเห็นภาพถ่ายของอัลเบิร์ต ไอสไตน์แลบลิ้นปรากฏอยู่ในหน้าหนังสือพิมพ์ไม่ทราบว่าทำไมไอสไตน์จึงทำเช่นนั้น

คำตอบก็คือไอสไตน์เป็นคนมีอารมณ์ขันเขาขี้เล่นและเป็นกันเองกับสื่อมวลชน ทราบว่าตอนนั้นมีนักหนังสือพิมพ์หลายคนไปสัมภาษณ์และขอถ่ายรูปและขอให้ยิ้มเพื่อให้ได้ภาพที่สวยงาม ไอสไตน์นึกสนุกขึ้นมาจึงแลบลิ้นให้สื่อมวลชนถ่ายภาพเสียเลย สิ่งที่ยืนยันว่าไอสไตน์เป็นผู้ไม่มักใหญ่ใฝ่สูง ก็คือเมื่อปีพ.ศ 2495 เดวิด เบนกูเรียน นายกรัฐมนตรีแห่งอิสราเอลได้เสนอให้ไอสไตน์ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีคนที่ 2 ของอิสราเอลต่อจากประธานาธิบดีไซม์ ไวซ์แมน ประธานาธิบดีคนแรกที่เสียชีวิต แต่ไอสไตน์ก็ปฏิเสธ โดยกล่าวว่า

"ข้าพเจ้าได้จากประเทศอิสราเอลมาเป็นเวลานานข้าพเจ้ามีความละอายและมีความเสียใจที่จะบอกว่าข้าพเจ้าไม่สามารถรับตำแหน่งนี้ได้เพราะข้าพเจ้าไม่มีความสามารถในการบริหารการปกครองและไม่มีประสบการณ์ในการทำงานที่เกี่ยวข้องกับความเป็นอยู่ของมนุษย์"

อัลเบิร์ต ไอสไตน์นั้นเกิดเมื่อวันที่ 14 มีนาคมพ. ศ. 2422 ที่เมืองอูล์มในเวือเทมเบิร์ก (Wurttemberg) ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศเยอรมนี และ เสียชีวิตเมื่อวันที่ 18 เมษายนพ. ศ. 2498 ที่โรงพยาบาลพรินซ์ตันรัฐนิวเจอร์ซี สหรัฐอเมริกา รวมอายุได้ 76 ปี

อัลเบิร์ต ไอสไตน์ได้รับรางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์เรื่องทฤษฎีการแผ่รังสีในปีพ. ศ. 2464

ด้วยความเป็นอัจฉริยะของไอน์สไตน์เมื่อปีพ.ศ 2542  นิตยสารไทม์ได้ยกย่องว่าไอน์สไตน์เป็นบุคคลแห่งศตวรรษ

และกัลลัพ โพล ได้บันทึกว่า
เขาเป็นบุคคลผู้ได้รับการยกย่องสูงสุดอันดับที่ 4 แห่งคริสต์ศตวรรษที่ 20 จากการจัดอันดับ 100 บุคคลผู้มีชื่อเสียงและมีอิทธิพลสูงในประวัติศาสตร์ไอน์สไตน์นั้นได้รับยกย่องให้เป็น นักวิทยาศาสตร์ผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งคริสต์ศตวรรษที่ 20 และเป็นหนึ่งในสุดยอดอัจฉริยะตลอดกาล

บทความแนะนำ

ประวัติของอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ เปิดแฟ้มลับชีวิตรัก อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ (Adolf Hitler) เกรซ มูกาเบ หญิงร้ายแห่งซิมบับเว โจน ออฟ อาร์ค วีรสตรีที่โลกไม่เคยลืม ลีโอ ตอลสตอย เมื่อความรักฆ่านักปราชญ์ อัจฉริยะจอมโฉดมือระเบิดต่อเนื่องยูนาบอมเบอร์ อาชญากรรมดำดิน เอล ชาโป กุซมัน หนทางที่สตีฟ จ๊อบส์ เปลี่ยนแปลงโลก

เมนูอาหาร ภัยอันตราย บทความสุขภาพ บทความวิทยาศาสตร์ เรื่องเล่าสยองขวัญ บทความชีวิตสัตว์ บทความประวัติศาสตร์ จัดอันดับ, สิบอันดับ, 10 อันดับ, ที่สุดในโลก จัดอันดับ, 10 อันดับ, เรื่องสยองขวัญ, เรื่องเล่าสยองขวัญ, ดูดวง, นิทาน, ภัยอันตราย, สมุนไพร, สุขภาพ


10 อันดับอาหารญี่ปุ่นยอดนิยมฮิตทั่วโลก

10 อันดับอาหารญี่ปุ่นยอดนิยมฮิตทั่วโลก




เอ่ยชื่อมาทุกคนก็ต้องรู้จัก มีรสชาติอร่อย ชวนน้ำลายสอ จะมีอะไรบ้าง มาดูกันจ้า

อันดับที่ 10 เทปันยากิ

10 อันดับอาหารญี่ปุ่นยอดนิยมฮิตทั่วโลก อันดับที่ 10 เทปันยากิ, อาหาร, เมนูอาหาร, เมนูขนมหวาน, อันดับอาหาร, รีวิวอาหาร, รีวิวขนม, ร้านอาหารอร่อย, 10 อันดับอาหาร, 5 อันดับอาหาร, อาหารญี่ปุ่น, รายการอาหารญี่ปุ่น, ซูชิ, อาหารไทย, อาหารจีน, อันดับร้านอาหาร, ร้านอาหารทั่วไทย, ร้านอาหารในกรุงเทพ, อาหารเกาหลี, อันดับอาหารเกาหลี, เมนูอาหารยอดนิยม, ร้านก๋วยเตี๋ยว, ร้านข้าวขาหมู, ร้านข้าวต้มปลา, ร้านต้มเลือดหมู, ร้านราดหน้า, ร้านโจ๊ก, ร้านกระเพาะปลา, ขนมหวาน, ขนมไทย, ขนมญี่ปุ่น, อาหารแปลก, อาหารจานเดียว, อาหารหม้อไฟ,

เทปันหรือเทปัง แปลว่ากระทะเหล็ก ส่วนยากิแปลว่าการทอดหรือการปิ้ง เมื่อเป็นเทปันยากิก็คืออาหารกะทะร้อนนั่นเอง เมนูนี้หลายคนอาจจะเคยทาน หลายคนก็อาจจะยังไม่เคยทาน แต่ถ้าพูดถึงร้าน สกายลักค์ ที่อยู่ใน Food Court หลายๆท่านก็เคยจะผ่านตากันมาบ้างแล้วใช่ไหม อาหารที่ร้านนั้นก็เป็นเทปันยากิอย่างนึงเลย โดยลักษณะการนั่งหน้าเตาที่เป็นเคาน์เตอร์บาร์ เชฟจะทำการปรุงผัดอาหารต่างๆ เช่น เส้น หมู ไก่ ปลา ผักต่างๆ อาหารทะเล และอีกวัตถุดิบ ที่นิยมนำมาปรุงแบบเทปันยากิก็คือ เนื้อวัววากิวนั่นเอง

500 เมนูอาหารทั่วโลก

อันดับที่ 9 อุด้ง

10 อันดับอาหารญี่ปุ่นยอดนิยมฮิตทั่วโลก อันดับที่ 9 อุด้ง, อาหาร, เมนูอาหาร, เมนูขนมหวาน, อันดับอาหาร, รีวิวอาหาร, รีวิวขนม, ร้านอาหารอร่อย, 10 อันดับอาหาร, 5 อันดับอาหาร, อาหารญี่ปุ่น, รายการอาหารญี่ปุ่น, ซูชิ, อาหารไทย, อาหารจีน, อันดับร้านอาหาร, ร้านอาหารทั่วไทย, ร้านอาหารในกรุงเทพ, อาหารเกาหลี, อันดับอาหารเกาหลี, เมนูอาหารยอดนิยม, ร้านก๋วยเตี๋ยว, ร้านข้าวขาหมู, ร้านข้าวต้มปลา, ร้านต้มเลือดหมู, ร้านราดหน้า, ร้านโจ๊ก, ร้านกระเพาะปลา, ขนมหวาน, ขนมไทย, ขนมญี่ปุ่น, อาหารแปลก, อาหารจานเดียว, อาหารหม้อไฟ,

เมนูนี้หลายคนอาจจะจำสับสนกับราเม็ง เพราะมีลักษณะเป็นเส้นก๋วยเตี๋ยวที่อยู่ในน้ำซุปเหมือนเหมือนกัน แต่จะต่างกันตรงที่ เส้นอุด้งนั้นจะมีความเหนียวนุ่มและมีเส้นที่ใหญ่อวบ กว่าเส้นราเมง เวลาเคี้ยวจะรู้สึกหนึบๆ หนับๆ ในส่วนของน้ำซุปนั้นจะเป็นน้ำซุปใสแนวเดียวกับโอเด้งนั่นเอง หรืออาจจะเป็นน้ำซุปโชยุก็ได้ ทานพร้อมกับหมูสับ ลูกชิ้นปลาญี่ปุ่น โรยด้วยต้นหอมซอย อยู่ในบางที่อาจจะกินแบบราดหน้าด้วยไข่ดิบ แล้วคลุกตอนที่เส้นยังมีความร้อนอยู่ เวลารับประทานไข่จะถึงสุกกึ่งดิบ

อันดับที่ 8 ซูชิ

10 อันดับอาหารญี่ปุ่นยอดนิยมฮิตทั่วโลก อันดับที่ 8 ซูชิ, อาหาร, เมนูอาหาร, เมนูขนมหวาน, อันดับอาหาร, รีวิวอาหาร, รีวิวขนม, ร้านอาหารอร่อย, 10 อันดับอาหาร, 5 อันดับอาหาร, อาหารญี่ปุ่น, รายการอาหารญี่ปุ่น, ซูชิ, อาหารไทย, อาหารจีน, อันดับร้านอาหาร, ร้านอาหารทั่วไทย, ร้านอาหารในกรุงเทพ, อาหารเกาหลี, อันดับอาหารเกาหลี, เมนูอาหารยอดนิยม, ร้านก๋วยเตี๋ยว, ร้านข้าวขาหมู, ร้านข้าวต้มปลา, ร้านต้มเลือดหมู, ร้านราดหน้า, ร้านโจ๊ก, ร้านกระเพาะปลา, ขนมหวาน, ขนมไทย, ขนมญี่ปุ่น, อาหารแปลก, อาหารจานเดียว, อาหารหม้อไฟ,

ซูชินั้นถือเป็นอาหารญี่ปุ่นยอดนิยมเลยก็ว่าได้ ด้วยคำเรียกง่ายๆเพียง 2 พยางค์ คำว่า Sushi คือการนำปลาดิบไปวางไว้บนข้าว จัดเรียงให้เป็นคำๆ มีทั้งแบบห่อด้วยสาหร่าย และไม่ได้ห่อด้วยสาหร่าย ข้าวที่นำมาทำซูชินั้น จะเป็นข้าวที่ทำมาโดยเฉพาะ จะมีการหุงแล้วใส่น้ำส้มสายชูและปรุงรสด้วยเกลือทำให้มีรสชาติกลมกล่อม ชิ้นของปลาดิบเมื่อนำมาวางบนข้าวซูชิจะมีการทาวาซาบิเล็กน้อยเพื่อดับกลิ่นคาวของปลา เวลาทานก็จิ้มกับโชยุ

อันดับที่ 7 ทาโกะยากิ

10 อันดับอาหารญี่ปุ่นยอดนิยมฮิตทั่วโลก อันดับที่ 7 ทาโกะยากิ, อาหาร, เมนูอาหาร, เมนูขนมหวาน, อันดับอาหาร, รีวิวอาหาร, รีวิวขนม, ร้านอาหารอร่อย, 10 อันดับอาหาร, 5 อันดับอาหาร, อาหารญี่ปุ่น, รายการอาหารญี่ปุ่น, ซูชิ, อาหารไทย, อาหารจีน, อันดับร้านอาหาร, ร้านอาหารทั่วไทย, ร้านอาหารในกรุงเทพ, อาหารเกาหลี, อันดับอาหารเกาหลี, เมนูอาหารยอดนิยม, ร้านก๋วยเตี๋ยว, ร้านข้าวขาหมู, ร้านข้าวต้มปลา, ร้านต้มเลือดหมู, ร้านราดหน้า, ร้านโจ๊ก, ร้านกระเพาะปลา, ขนมหวาน, ขนมไทย, ขนมญี่ปุ่น, อาหารแปลก, อาหารจานเดียว, อาหารหม้อไฟ,

ทาโกะยากิหรือขนมครกญี่ปุ่น ของดีจากย่านโอซาก้า ทำจากแป้งที่ทอดในหลุมขนมครก หมุนแป้งให้เป็นทรงกลม ใส่ไส้ชิ้นปลาหมึกยักษ์ไว้ตรงกลาง เวลาเสิร์ฟจะราดหน้าด้วยซอสทาโกะยากิ มายองเนส ปลาคัตสึโอะสไลด์บางๆ และสาหร่าย ทาโกะยากิถือเป็นขนมครกแบบคาวที่ได้รับความนิยมในทุกเพศทุกวัย

อันดับที่ 6 ราเม็ง

10 อันดับอาหารญี่ปุ่นยอดนิยมฮิตทั่วโลก อันดับที่ 6 ราเม็ง, อาหาร, เมนูอาหาร, เมนูขนมหวาน, อันดับอาหาร, รีวิวอาหาร, รีวิวขนม, ร้านอาหารอร่อย, 10 อันดับอาหาร, 5 อันดับอาหาร, อาหารญี่ปุ่น, รายการอาหารญี่ปุ่น, ซูชิ, อาหารไทย, อาหารจีน, อันดับร้านอาหาร, ร้านอาหารทั่วไทย, ร้านอาหารในกรุงเทพ, อาหารเกาหลี, อันดับอาหารเกาหลี, เมนูอาหารยอดนิยม, ร้านก๋วยเตี๋ยว, ร้านข้าวขาหมู, ร้านข้าวต้มปลา, ร้านต้มเลือดหมู, ร้านราดหน้า, ร้านโจ๊ก, ร้านกระเพาะปลา, ขนมหวาน, ขนมไทย, ขนมญี่ปุ่น, อาหารแปลก, อาหารจานเดียว, อาหารหม้อไฟ,

มันคือก๋วยเตี๋ยวในรูปแบบของญี่ปุ่นนั่นเอง ราเมงนั้นมีต้นกำเนิดมาจากประเทศจีน ราเมงแบบต้นตำรับนั้นจะมีความสำคัญอยู่ที่เส้น เส้นจะต้องมีความเหนียวนุ่ม และสามารถดูดซับน้ำซุปได้เป็นอย่างดี น้ำซุปของ shio Ramen หรือราเมงซุปเกลือ น้ำซุปจะต้องใสจนเห็นก้นชาม ราเมงนิยมทานพร้อมกับไข่ต้มยางมะตูม เนื้อหมูชาชูย่าง ลูกชิ้นปลา โรยหน้าด้วยต้นหอมซอย การทำราเม็งไม่ควรใช้ช้อนตักเข้าปาก แต่ให้ใช้ตะเกียบคีบเส้นแล้วสูดเข้าปากเสียงดังๆ การทำเสียงดังแบบนี้ถือเป็นมารยาทที่ดีในการทานราเมง เพราะว่าเป็นความรู้สึกที่อร่อย อยากกินมากๆ ไม่ได้ดูว่าเป็นการเสียมารยาทแต่อย่างใดรวมถึงการยกนํ้าซุปซดจนหมดชาม จะทำให้พ่อครัวที่ทำราเมงนั้นปลื้มใจเป็นอย่างมาก

อันดับที่ 5 เทมปุระ

10 อันดับอาหารญี่ปุ่นยอดนิยมฮิตทั่วโลก อันดับที่ 5 เทมปุระ, อาหาร, เมนูอาหาร, เมนูขนมหวาน, อันดับอาหาร, รีวิวอาหาร, รีวิวขนม, ร้านอาหารอร่อย, 10 อันดับอาหาร, 5 อันดับอาหาร, อาหารญี่ปุ่น, รายการอาหารญี่ปุ่น, ซูชิ, อาหารไทย, อาหารจีน, อันดับร้านอาหาร, ร้านอาหารทั่วไทย, ร้านอาหารในกรุงเทพ, อาหารเกาหลี, อันดับอาหารเกาหลี, เมนูอาหารยอดนิยม, ร้านก๋วยเตี๋ยว, ร้านข้าวขาหมู, ร้านข้าวต้มปลา, ร้านต้มเลือดหมู, ร้านราดหน้า, ร้านโจ๊ก, ร้านกระเพาะปลา, ขนมหวาน, ขนมไทย, ขนมญี่ปุ่น, อาหารแปลก, อาหารจานเดียว, อาหารหม้อไฟ,

เมื่อพูดถึงเทมปุระหลายคนอาจจะนึกถึงกุ้งชุบแป้งทอดหรือกุ้งเทมปุระ แต่จริงๆแล้วเทมปุระนั้นไม่ได้หมายถึงแค่กุ้งชุบแป้งทอด แต่หมายถึงวัตถุดิบอะไรก็ได้แล้วมาชุบแป้งเทมปุระแล้วนำไปทอด ได้ทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นแครอท มัน มะเขือ กระเจี๊ยบ กุ้ง ปลาหมึก หรือปลาชนิดต่างๆ เทมปุระนั้นจะทานคู่กับน้ำจิ้มแบบใสๆ ที่มีรสชาติเค็มนำแล้วก็หวานตาม ให้ความรู้สึกเบาแล้วก็สดชื่นไม่น้อยเลย

อันดับที่ 4 โอโคโนมิยากิ

10 อันดับอาหารญี่ปุ่นยอดนิยมฮิตทั่วโลก อันดับที่ 4 โอโคโนมิยากิ, อาหาร, เมนูอาหาร, เมนูขนมหวาน, อันดับอาหาร, รีวิวอาหาร, รีวิวขนม, ร้านอาหารอร่อย, 10 อันดับอาหาร, 5 อันดับอาหาร, อาหารญี่ปุ่น, รายการอาหารญี่ปุ่น, ซูชิ, อาหารไทย, อาหารจีน, อันดับร้านอาหาร, ร้านอาหารทั่วไทย, ร้านอาหารในกรุงเทพ, อาหารเกาหลี, อันดับอาหารเกาหลี, เมนูอาหารยอดนิยม, ร้านก๋วยเตี๋ยว, ร้านข้าวขาหมู, ร้านข้าวต้มปลา, ร้านต้มเลือดหมู, ร้านราดหน้า, ร้านโจ๊ก, ร้านกระเพาะปลา, ขนมหวาน, ขนมไทย, ขนมญี่ปุ่น, อาหารแปลก, อาหารจานเดียว, อาหารหม้อไฟ,

โอโคโนมิยากิหรือพิซซ่าญี่ปุ่น ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของเทปันยากินั่นเอง วิธีทำก็คือใส่แป้งชนิดเดียวกับที่ทําทาโกะยากิ แล้วก็ใส่เครื่องต่างๆ ทั้งเนื้อสัตว์ และผัก โดยจะเน้นไปที่กะหล่ำปลีซอย บางที่ก็อาจจะใส่มอสซาเรลล่าชีส เมื่อทอดเสร็จแล้วก็ราดด้วยน้ำซอสโอโคโนมิยากิ มายองเนส ปลาคัตสึโอะแห้ง ซอยเป็นฝอยฝอย สาหร่ายทะเล ป่น หอมซอย

อันดับที่ 3 นาเบะ

10 อันดับอาหารญี่ปุ่นยอดนิยมฮิตทั่วโลก อันดับที่ 3 นาเบะ, อาหาร, เมนูอาหาร, เมนูขนมหวาน, อันดับอาหาร, รีวิวอาหาร, รีวิวขนม, ร้านอาหารอร่อย, 10 อันดับอาหาร, 5 อันดับอาหาร, อาหารญี่ปุ่น, รายการอาหารญี่ปุ่น, ซูชิ, อาหารไทย, อาหารจีน, อันดับร้านอาหาร, ร้านอาหารทั่วไทย, ร้านอาหารในกรุงเทพ, อาหารเกาหลี, อันดับอาหารเกาหลี, เมนูอาหารยอดนิยม, ร้านก๋วยเตี๋ยว, ร้านข้าวขาหมู, ร้านข้าวต้มปลา, ร้านต้มเลือดหมู, ร้านราดหน้า, ร้านโจ๊ก, ร้านกระเพาะปลา, ขนมหวาน, ขนมไทย, ขนมญี่ปุ่น, อาหารแปลก, อาหารจานเดียว, อาหารหม้อไฟ,

นาเบะหรืออาหารหม้อไฟ ถ้าใครเคยดูชินจังจอมแก่นจะมีตอนที่พูดถึงนาเบะหม้อไฟด้วย นาเบะนั้นก็คล้ายๆกับสุกี้ญี่ปุ่นแบบหนึ่ง นิยมนำผักต่างๆ ใส่ลงในหม้อไฟ เนื้อสัตว์ต่างๆ เห็ดหลากหลายชนิด เต้าหู้ ลูกชิ้น ทานตอนร้อนๆ นิยมทำทานกันในฤดูหนาวเพื่อให้ร่างกายอบอุ่น

อันดับที่ 2 ดังโงะ

10 อันดับอาหารญี่ปุ่นยอดนิยมฮิตทั่วโลก อันดับที่ 2 ดังโงะ, อาหาร, เมนูอาหาร, เมนูขนมหวาน, อันดับอาหาร, รีวิวอาหาร, รีวิวขนม, ร้านอาหารอร่อย, 10 อันดับอาหาร, 5 อันดับอาหาร, อาหารญี่ปุ่น, รายการอาหารญี่ปุ่น, ซูชิ, อาหารไทย, อาหารจีน, อันดับร้านอาหาร, ร้านอาหารทั่วไทย, ร้านอาหารในกรุงเทพ, อาหารเกาหลี, อันดับอาหารเกาหลี, เมนูอาหารยอดนิยม, ร้านก๋วยเตี๋ยว, ร้านข้าวขาหมู, ร้านข้าวต้มปลา, ร้านต้มเลือดหมู, ร้านราดหน้า, ร้านโจ๊ก, ร้านกระเพาะปลา, ขนมหวาน, ขนมไทย, ขนมญี่ปุ่น, อาหารแปลก, อาหารจานเดียว, อาหารหม้อไฟ,

ดังโงะถือเป็นอาหารของหวานดั้งเดิมของประเทศญี่ปุ่น ทำมาจากแป้งข้าวเหนียว ซึ่งบางสูตรก็จะมีผสมแป้งข้าวเจ้าด้วย นำไปต้มจนแป้งขึ้นรูปเป็นรูปทรงกลม เสร็จแล้วก็นำไม้เสียบไม้ย่าง ราดด้วยซอสรสหวาน ดูผลเผินๆอาจจะเหมือนกับลูกชิ้นปิ้ง ราดด้วยน้ำจิ้ม แต่จริงๆแล้วมันคือขนมหวานทานแล้วหนึบหนับ

อันดับที่ 1 โยคัง

10 อันดับอาหารญี่ปุ่นยอดนิยมฮิตทั่วโลก อันดับที่ 1 โยคัง, อาหาร, เมนูอาหาร, เมนูขนมหวาน, อันดับอาหาร, รีวิวอาหาร, รีวิวขนม, ร้านอาหารอร่อย, 10 อันดับอาหาร, 5 อันดับอาหาร, อาหารญี่ปุ่น, รายการอาหารญี่ปุ่น, ซูชิ, อาหารไทย, อาหารจีน, อันดับร้านอาหาร, ร้านอาหารทั่วไทย, ร้านอาหารในกรุงเทพ, อาหารเกาหลี, อันดับอาหารเกาหลี, เมนูอาหารยอดนิยม, ร้านก๋วยเตี๋ยว, ร้านข้าวขาหมู, ร้านข้าวต้มปลา, ร้านต้มเลือดหมู, ร้านราดหน้า, ร้านโจ๊ก, ร้านกระเพาะปลา, ขนมหวาน, ขนมไทย, ขนมญี่ปุ่น, อาหารแปลก, อาหารจานเดียว, อาหารหม้อไฟ,

โยกังหรือวุ้นโยคัง ถือเป็นของฝากที่ขึ้นชื่อมากๆ ตามจุดแวะพักต่างๆหรือจุดท่องเที่ยวของประเทศญี่ปุ่นมักจะมีวุ้นโยคังจำหน่าย ราคามีตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักหลายพัน โยกังสามารถกินเปล่าๆ หรือกินแกล้มกับน้ำชา โยกังมีรสชาติหลากหลายตามแต่ผู้ผลิตจะผลิตออกมา โดยใส่ส่วนผสมต่างๆอย่างเช่น ถั่วแดง ชาเขียว ดอกซากุระ ลูกพลับ หรือผลไม้ต่างๆ ตามแต่ละท้องถิ่นนั้นๆ

500 เมนูอาหารทั่วโลก

บทความแนะนำ

อาหาร 100 อย่างตามทางรถไฟสายยามาโนเตะ, อาหาร, เมนูอาหาร, เมนูขนมหวาน, อันดับอาหาร, รีวิวอาหาร, รีวิวขนม, ร้านอาหารอร่อย, 10 อันดับอาหาร, 5 อันดับอาหาร, อาหารญี่ปุ่น, รายการอาหารญี่ปุ่น, ซูชิ, อาหารไทย, อาหารจีน, อันดับร้านอาหาร, ร้านอาหารทั่วไทย, ร้านอาหารในกรุงเทพ, อาหารเกาหลี, อันดับอาหารเกาหลี, เมนูอาหารยอดนิยม, ร้านก๋วยเตี๋ยว, ร้านข้าวขาหมู, ร้านข้าวต้มปลา, ร้านต้มเลือดหมู, ร้านราดหน้า, ร้านโจ๊ก, ร้านกระเพาะปลา, ขนมหวาน, ขนมไทย, ขนมญี่ปุ่น, อาหารแปลก, อาหารจานเดียว, อาหารหม้อไฟ, 50 อาหารแปลกแต่ขายดีของญี่ปุ่น, อาหาร, เมนูอาหาร, เมนูขนมหวาน, อันดับอาหาร, รีวิวอาหาร, รีวิวขนม, ร้านอาหารอร่อย, 10 อันดับอาหาร, 5 อันดับอาหาร, อาหารญี่ปุ่น, รายการอาหารญี่ปุ่น, ซูชิ, อาหารไทย, อาหารจีน, อันดับร้านอาหาร, ร้านอาหารทั่วไทย, ร้านอาหารในกรุงเทพ, อาหารเกาหลี, อันดับอาหารเกาหลี, เมนูอาหารยอดนิยม, ร้านก๋วยเตี๋ยว, ร้านข้าวขาหมู, ร้านข้าวต้มปลา, ร้านต้มเลือดหมู, ร้านราดหน้า, ร้านโจ๊ก, ร้านกระเพาะปลา, ขนมหวาน, ขนมไทย, ขนมญี่ปุ่น, อาหารแปลก, อาหารจานเดียว, อาหารหม้อไฟ, 101 เมนูซูชิ, อาหาร, เมนูอาหาร, เมนูขนมหวาน, อันดับอาหาร, รีวิวอาหาร, รีวิวขนม, ร้านอาหารอร่อย, 10 อันดับอาหาร, 5 อันดับอาหาร, อาหารญี่ปุ่น, รายการอาหารญี่ปุ่น, ซูชิ, อาหารไทย, อาหารจีน, อันดับร้านอาหาร, ร้านอาหารทั่วไทย, ร้านอาหารในกรุงเทพ, อาหารเกาหลี, อันดับอาหารเกาหลี, เมนูอาหารยอดนิยม, ร้านก๋วยเตี๋ยว, ร้านข้าวขาหมู, ร้านข้าวต้มปลา, ร้านต้มเลือดหมู, ร้านราดหน้า, ร้านโจ๊ก, ร้านกระเพาะปลา, ขนมหวาน, ขนมไทย, ขนมญี่ปุ่น, อาหารแปลก, อาหารจานเดียว, อาหารหม้อไฟ, 101 เมนูอาหารญี่ปุ่น, อาหาร, เมนูอาหาร, เมนูขนมหวาน, อันดับอาหาร, รีวิวอาหาร, รีวิวขนม, ร้านอาหารอร่อย, 10 อันดับอาหาร, 5 อันดับอาหาร, อาหารญี่ปุ่น, รายการอาหารญี่ปุ่น, ซูชิ, อาหารไทย, อาหารจีน, อันดับร้านอาหาร, ร้านอาหารทั่วไทย, ร้านอาหารในกรุงเทพ, อาหารเกาหลี, อันดับอาหารเกาหลี, เมนูอาหารยอดนิยม, ร้านก๋วยเตี๋ยว, ร้านข้าวขาหมู, ร้านข้าวต้มปลา, ร้านต้มเลือดหมู, ร้านราดหน้า, ร้านโจ๊ก, ร้านกระเพาะปลา, ขนมหวาน, ขนมไทย, ขนมญี่ปุ่น, อาหารแปลก, อาหารจานเดียว, อาหารหม้อไฟ, 50 เมนูอาหารญี่ปุ่นตามจุดแวะพักรถ, อาหาร, เมนูอาหาร, เมนูขนมหวาน, อันดับอาหาร, รีวิวอาหาร, รีวิวขนม, ร้านอาหารอร่อย, 10 อันดับอาหาร, 5 อันดับอาหาร, อาหารญี่ปุ่น, รายการอาหารญี่ปุ่น, ซูชิ, อาหารไทย, อาหารจีน, อันดับร้านอาหาร, ร้านอาหารทั่วไทย, ร้านอาหารในกรุงเทพ, อาหารเกาหลี, อันดับอาหารเกาหลี, เมนูอาหารยอดนิยม, ร้านก๋วยเตี๋ยว, ร้านข้าวขาหมู, ร้านข้าวต้มปลา, ร้านต้มเลือดหมู, ร้านราดหน้า, ร้านโจ๊ก, ร้านกระเพาะปลา, ขนมหวาน, ขนมไทย, ขนมญี่ปุ่น, อาหารแปลก, อาหารจานเดียว, อาหารหม้อไฟ, 30 อันดับขนมหวานเมืองคามาคูระประเทศญี่ปุ่น, อาหาร, เมนูอาหาร, เมนูขนมหวาน, อันดับอาหาร, รีวิวอาหาร, รีวิวขนม, ร้านอาหารอร่อย, 10 อันดับอาหาร, 5 อันดับอาหาร, อาหารญี่ปุ่น, รายการอาหารญี่ปุ่น, ซูชิ, อาหารไทย, อาหารจีน, อันดับร้านอาหาร, ร้านอาหารทั่วไทย, ร้านอาหารในกรุงเทพ, อาหารเกาหลี, อันดับอาหารเกาหลี, เมนูอาหารยอดนิยม, ร้านก๋วยเตี๋ยว, ร้านข้าวขาหมู, ร้านข้าวต้มปลา, ร้านต้มเลือดหมู, ร้านราดหน้า, ร้านโจ๊ก, ร้านกระเพาะปลา, ขนมหวาน, ขนมไทย, ขนมญี่ปุ่น, อาหารแปลก, อาหารจานเดียว, อาหารหม้อไฟ, 20 เมนูกับข้าวยอดนิยมของญี่ปุ่น ไข่ปลาสีเหลือง, อาหาร, เมนูอาหาร, เมนูขนมหวาน, อันดับอาหาร, รีวิวอาหาร, รีวิวขนม, ร้านอาหารอร่อย, 10 อันดับอาหาร, 5 อันดับอาหาร, อาหารญี่ปุ่น, รายการอาหารญี่ปุ่น, ซูชิ, อาหารไทย, อาหารจีน, อันดับร้านอาหาร, ร้านอาหารทั่วไทย, ร้านอาหารในกรุงเทพ, อาหารเกาหลี, อันดับอาหารเกาหลี, เมนูอาหารยอดนิยม, ร้านก๋วยเตี๋ยว, ร้านข้าวขาหมู, ร้านข้าวต้มปลา, ร้านต้มเลือดหมู, ร้านราดหน้า, ร้านโจ๊ก, ร้านกระเพาะปลา, ขนมหวาน, ขนมไทย, ขนมญี่ปุ่น, อาหารแปลก, อาหารจานเดียว, อาหารหม้อไฟ, 101เมนูอาหารญี่ปุ่น ขนมไทยากิ, อาหาร, เมนูอาหาร, เมนูขนมหวาน, อันดับอาหาร, รีวิวอาหาร, รีวิวขนม, ร้านอาหารอร่อย, 10 อันดับอาหาร, 5 อันดับอาหาร, อาหารญี่ปุ่น, รายการอาหารญี่ปุ่น, ซูชิ, อาหารไทย, อาหารจีน, อันดับร้านอาหาร, ร้านอาหารทั่วไทย, ร้านอาหารในกรุงเทพ, อาหารเกาหลี, อันดับอาหารเกาหลี, เมนูอาหารยอดนิยม, ร้านก๋วยเตี๋ยว, ร้านข้าวขาหมู, ร้านข้าวต้มปลา, ร้านต้มเลือดหมู, ร้านราดหน้า, ร้านโจ๊ก, ร้านกระเพาะปลา, ขนมหวาน, ขนมไทย, ขนมญี่ปุ่น, อาหารแปลก, อาหารจานเดียว, อาหารหม้อไฟ,

เมนูอาหาร ภัยอันตราย บทความสุขภาพ บทความวิทยาศาสตร์ เรื่องเล่าสยองขวัญ บทความชีวิตสัตว์ บทความประวัติศาสตร์ จัดอันดับ, สิบอันดับ, 10 อันดับ, ที่สุดในโลก จัดอันดับ, 10 อันดับ, เรื่องสยองขวัญ, เรื่องเล่าสยองขวัญ, ดูดวง, นิทาน, ภัยอันตราย, สมุนไพร, สุขภาพ


อาหารจีนต้นตำรับ หมูพะโล้ตระกูลสือ

อาหารจีนต้นตำรับ หมูพะโล้ตระกูลสือ


การกิน สำหรับชาวจีนแล้วเป็นศาสตร์ชนิดหนึ่ง เพราะความเป็นศาสตร์จึงทำให้เกิดความแตกต่างในแต่ละท้องถิ่น เพราะความเป็นศาสตร์จึงทำให้เกิดประเภทของอาหารนับไม่ถ้วน เพราะความเป็นศาสตร์จึงทำให้เกิดวัฒนธรรมที่สืบทอดต่อกันมา เพราะความเป็นศาสตร์จึงทำให้เกิดอาหารอร่อยที่เผยแพร่ไปทั่วโลก อาหารอร่อยอยู่แวดล้อมตัวเรา เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของเรา


อาหารจีนต้นตำรับ หมูพะโล้ตระกูลสือ
อำเภอมู่ตู้ เมืองซูโจว ร้านอาหารตระกูลสือ ร้านนี้มีประวัติไม่ธรรมดา จากภาพวาดความรุ่งเรืองของซูโจว สมัยจักรพรรดิเฉียนหลงปีที่ 24 แสดงให้เห็นความรุ่งเรืองดุจเมืองสวรรค์ของซูโจวในยุคนั้น 36 ปีต่อมา ปีเฉียนหลงที่ 55 ในภาพวาดเก่าแก่ก็ปรากฏร้านของสือฮั่น ตั้งอยู่ใกล้สะพานจอหงวน ตั้งชื่อว่าร้านสือซี่ซุ่น สือซี่ซุ่นเดิมเป็นร้านขายขนมของสามีภรรยาคู่หนึ่ง ดำเนินกิจการมาถึงสี่ชั่วอายุคน ถึงมือของสือเหลินที่เป็นเหลนของสือฮั่น สือซี่ซุ่นก็กลายมาเป็นร้านอาหารไท่หู่ที่เลื่องชื่อ อาหารในร้าน ถูกขนานนามจากผู้คนที่ชื่นชอบว่า อาหารตระกูลสือ ปี 1929 หลีเกิ่นหยวน ขุนนางปลดเกษียนได้กลับบ้าน และได้ช่วยตั้งชื่อให้ว่า ร้านอาหารตระกูลสือ

ปัจจุบัน ภัตตาคารตระกูลสือเปิดสาขามากมายในซูโจว แต่ร้านดั้งเดิมก็ยังคงดำเนินกิจการอยู่ เพราะว่าเตาถ่านหินของที่นี่ ใช้ทำอาหารพิเศษชนิดหนึ่ง อาหารที่มีชื่อควบคู่มากับร้านเก่าแก่หลายร้อยปีนี้ชื่อว่า หมูพะโล้ตระกูลสือ วัตถุดิบหลักก็คือหมูสามชั้น ซึ่งมีแหล่งมาจากริมทะเลสาบไท่หู่ข้างร้านนั่นเอง หมูสามชั้นหลังจากชำแหละมาแล้ว 1 วัน นำมาตัดเป็นสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ ใส่ลงไปในหม้อทรงกลมที่เต็มไปด้วยน้ำดื่ม ต้มด้วยไฟแรง ขั้นตอนนี้ใช้เวลาเพียงเล็กน้อย หลังจากน้ำเดือดพล่านก็ตักเนื้อหมูขึ้นมา ใส่น้ำซอสเฉพาะของตระกูลสือลงในหม้อทรงกลมอีกใบ ใส่เนื้อหมูลงไป ขอบหม้อวางผ้าที่ทำขึ้นเฉพาะ จากนั้นจึงใส่เกลือ ใบกระวาน โป๊ยกั๊ก อบเชย เปลือกส้มและน้ำตาลทราย จากนั้นจึงนำซึ้งมาวางลงบนผ้า เพื่อกดเนื้อหมูให้จมอยู่ในน้ำ จากนั้นจึงใส่เหล้า ซีอิ๊ว ต้มด้วยไฟอ่อน ใช้เวลาต้มประมาณ 3 ชั่วโมง หลังจากนั้นจึงนำเนื้อหมูขึ้นมาใส่ลงชาม แล้วนำไปนึ่งต่อใช้เวลานึ่งสิบห้านาที เป็นการป้องกันไม่ให้เนื้อหมูที่เพิ่งขึ้นจากเตา สัมผัสอากาศจนเปลี่ยนสี ทั้งยังทำให้เนื้อหมูคงรูปร่างสวยงาม สุดท้ายราดด้วยน้ำซอสเฉพาะของตระกูลสือ หมูพะโล้ตระกูลสือก็พร้อมรับประทาน เนื่องจากการต้มเป็นเวลานาน ไขมันในเนื้อหมูสามชั้นจึงละลาย ทำให้หนังนุ่มเนียนไม่เลี่ยนมัน กลิ่นหอมขึ้นจมูก ทั้งหมดนี้ได้มาเพราะไฟ

ในอาหารจานนี้ ไฟเหวินอู่ล้วนมีความสำคัญเท่าเทียมกัน อาหารต้องใช้แรงไฟในการเข้าถึงซึ่งรสชาติ ถึงจะทำให้อาหารชนิดนั้นเลิศรส ไฟแรงทำให้เนื้อหมูสุกอย่างรวดเร็ว เพื่อไล่เลือดและสิ่งสกปรกในเนื้อ ทั้งยังไม่ทำให้เนื้อเหนียวขึ้น ในขณะเดียวกันก็ทำให้เนื้ออยู่ตัว การใช้ซึ้งกดให้เนื้อจมลงในน้ำ ซึ่งเป็นการเพิ่มพื้นที่ว่าง ทั้งยังทำให้ไอของรสชาติต่างๆที่ผสมผสานกัน หมุนเวียนกลับไปมา และไฟอ่อนจะทำให้เนื้อนุ่ม ไม่ทำให้เสียรูปทรง ทั้งยังทำให้เนื้อหมูหอมนุ่มละมุนอีกด้วย การใช้ไฟเป็นเคล็ดลับที่มีมายาวนานของอาหารจีน เพราะเหตุนี้นักปราชญ์จีนจึงให้ความสนใจกันมาก ขงจื้อกล่าวว่าของไม่อร่อยไม่กิน สำหรับท่านแล้วอาหารที่ใช้ไฟไม่ถูกไม่ควรรับประทาน

บทความแนะนำ

10 อันดับอาหารหม้อไฟของญี่ปุ่น 101เมนูอาหารญี่ปุ่น หมูต้มพะโล้ 5 สุดยอดร้านกระเพาะปลาในกรุงเทพ 30 อันดับขนมหวานเมืองคามาคูระประเทศญี่ปุ่น 50 เมนูอาหารญี่ปุ่นตามจุดแวะพักรถ ขนมไทยโบราณที่น่าจดจำ และ ขนมไทยมงคล ๙ อย่าง 20 พืชผักพันธุ์แปลกเก่าแก่ อาหารประเทศอาเซียน

อาหารจีน

อาหารจีน


การกิน สำหรับชาวจีนแล้วเป็นศาสตร์ชนิดหนึ่ง เพราะความเป็นศาสตร์จึงทำให้เกิดความแตกต่างในแต่ละท้องถิ่น เพราะความเป็นศาสตร์จึงทำให้เกิดประเภทของอาหารนับไม่ถ้วน เพราะความเป็นศาสตร์จึงทำให้เกิดวัฒนธรรมที่สืบทอดต่อกันมา เพราะความเป็นศาสตร์จึงทำให้เกิดอาหารอร่อยที่เผยแพร่ไปทั่วโลก อาหารอร่อยอยู่แวดล้อมตัวเรา เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของเรา

อาหารจีนต้นตำรับ หอยเป๋าฮื้อ

อาหารจีนต้นตำรับ หมูพะโล้ตระกูลสือ



บทความแนะนำ

5 สุดยอดร้านโจ๊กในกรุงเทพ 30 อันดับเมนูจากหูฉลาม 30 อันดับอาหารจานยักษ์ทั่วประเทศญี่ปุ่น 5 สุดยอดร้านบะหมี่เกี๊ยวกุ้ง ปู หมูแดง 5 สุดยอดร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อ 5 สุดยอดร้านเกาเหลาเลือดหมู 20 เมนูกับข้าวยอดนิยมของญี่ปุ่น 50 อาหารแปลกแต่ขายดีของญี่ปุ่น


Popular Posts