google.com, pub-6663105814926378, DIRECT, f08c47fec0942fa0 Mega topic | จัดอันดับ | 10 อันดับ| เรื่องผี| เรื่องสยองขวัญ| ที่สุดในโลก| ดูดวง| ประวัติศาสตร์

ตำนานผีญี่ปุ่น เรื่องมนุษย์ภูเขา

ตำนานผีญี่ปุ่น เรื่องมนุษย์ภูเขา


เรื่องนี้เป็นเรื่องที่แต่งโดย สึสึกิ โบคุชิ ในสมัยเอโดะ มี เรื่องราวเกี่ยวกับชายหนุ่มคนหนึ่งชื่อ ทาเคสึเคะไปพบสัตว์ประหลาดที่ประเทศอิรึโกะ (จังหวัด นีงาตะในปัจจุบัน)ทาเคสึเคะหยุดพักกลางทาง เดินบนภูเขาเพื่อกินอาหาร ทันที ที่เขาเริ่มหยิบข้าวปั้นออกมาจะ กินเขาก็ได้ยินเสียงประหลาด ดังขึ้นมาจากพุ่มไม้ใกล้ ๆ พอ ทาเคสึเคะเงยหน้าขึ้นดูเห็นสัตว์ประหลาดโผล่ออกมาจากพุ่มไม้นั่น สัตว์ประหลาดตัวนั่นมีหน้าตาคล้ายลิง มีตาเป็นประกาย และตัวสูงกว่าคนธรรมดามาก ทีเดียว แต่ว่าสัตว์ประหลาดตัว นั่นไม่ได้ทำร้ายทาเคสึเคะเลย



และได้ชี้ไปที่ข้าวปั้นของเขาแสดง ท่าทางอยากกิน ทาเคสึเคะจึง โยนข้าวปั้นของเขาให้สัตว์ประหลาดตัวนั้นกิน มันกินข้าวนั้น ของเขาอย่างเอร็ดอร่อย เขาจึงบอกกับสัตว์ประหลาดตัวนั้นว่า “อ๋อ..แกชอบกินข้าวปั้นเหรอ.. ถ้าแกชอบล่ะก็คราวหน้าถ้าข้า มาที่นี้อีก จะเอามาให้แกกินด้วย”  พอทาเคสิเคะพูดจบเขาก็ก้มลง ไปหยิบของมาพาดบ่าเพื่อจะออก เดินทางต่อ ทันใดนั้นเองสัตว์ ประหลาดตัวนั้นก็เข้ามาใกล้ ๆ เขาและหยิบของจากบ่าของเขา ไปยกเองและเดินทางต่อไป ทาเคสึเคะนึกในใจว่า “อืม..ไอ้สัตว์ ประหลาดตัวนี้มันช่วยยกของ เพื่อขอบคุณพี่ให้มันกินข้าวปั้น” เมื่อเดินไปได้ประมาณ 1 ลี้ครึ่ง (ประมาณ 6 กิโลเมตร) สัตว์ประหลาดตัวนั้นก็วางของลง
แล้วหายตัวไปในพุ่มไม้ทันที สัตว์ประหลาดในเรื่องนี้ถ้าดูจาก รูปประกอบจะคล้าย ๆ กับมนุษย์หิมะที่เทือกเขาหิมาลัย มีอีกเรื่อง หนึ่งที่อยากจะแนะนำให้รู้จัก มีเรื่องราวดังนี้ ณ ภูเขาแห่งหนึ่ง ในอำเภออาเบะ ในจังหวัดชิลึโอกะ มีคนพบรอยเท้าขนาดใหญ่ ที่ยังหลงเหลืออยู่บนกองหิมะ.. ความใหญ่ของรอยเท้านั้นมีขนาด ยาวประมาณ 0.9 เมตร ระยะ ห่างแต่ละก้าวยาวถึง 2.7 เมตร รอยเท้านี้ปรากฏเรื่อยไปจนถึง ริมแม่น้ำแห่งหนึ่ง กินระยะทาง ถึง 12กิโลเมตร แล้วรอยเท้า ขนาดใหญ่นั้นก็หายไป ชายคนที่เจอนั้นจึงมองไปรอบ ๆ และเขาก็พบรอยเท้านั้นที่ฝั่งตรงกัน ข้ามอีก เจ้าของรอยเท้านั้นเดิน ข้ามแม่น้ำไปอีกฝั่งหนึ่ง เขาจึง เดินตามรอยเท้านั้นไปอีกแต่ต่อมาเขาก้หยุดเพราะเขานึกถึงข่าวลือที่ว่า แถว ๆ นี้มีมนุษย์ร่างใหญ่ ที่คนแถว ๆ นี้เรียกว่า “มนุษย์ภูเขา” อาศัยอยู่ มีคนเล่ากันว่า มีคนบางคนเคยเห็นมนุษย์ภูเขา นั่งอยู่กลางก่อไผ่เพราะว่าอาหารโปรดของมันคือใบไผ่

ตำนานผีญี่ปุ่น เรื่องสู้กับสัตว์ประหลาด

ตำนานผีญี่ปุ่น เรื่องสู้กับสัตว์ประหลาด


ในสมัยคันเอ มีนายทหาร คนหนึ่งชื่ออาชิสะเอะมงได้ไปพบสัตว์ประหลาดตัวหนึ่งนอนหลับ อยู่ข้าง ๆ สระบัว อาชิสะเอะมงรีบคว้าดาบฟันไปที่สัตว์ประหลาดตัวนั้น เมื่อฟันไปแล้ว มีเลือดติดที่ดาบด้วย แต่ซากศพ ของสัตว์ประหลาดหายไป



หลังจากนั้นต่อมาอีก 3 ปี  ในฤดูใบไม้ร่วง สัตว์ประหลาดตัวนั้นก็มาหาฮาชิสะเอะมงที่บ้านและตะโกนท้าทายว่า “แผลที่ข้าที่ถูกแกฟันสามปีก่อนหายแล้ว ข้าจะมาล้างแค้นแก รีบออกมาสู้กันดีกว่า..” เสียงท้าทาย นี้ทุกคนในบ้านของอาชิสะเอะมง ได้ยินกันหมดแต่ว่าไม่มีใครเห็น ตัวเจ้าสัตว์ประหลาดนั่นเลย ทุกคนเห็นแต่เพียงอาชิสะเอะถือ ดาบฟันไปรอบ ๆ เท่านั้น ทั้งคู่ สู้กันจนเหน็ดเหนื่อย สัตว์ประหลาดจึงพูดกับอาชิสะเอะมงว่า “เอาล่ะ คืนนี้หยุดสู้กันก่อน.. พรุ่งนี้ค่อยมาสู้กันใหม่" พูดจบ สัตว์ประหลาดก็หายตัวไป และ อาชิสะเอะมงก็เก็บดาบเข้าฝัก หลังจากนั้นทุกคนในบ้านวิ่งเข้า มาข้าง ๆ เขาและถามเรื่องราว ที่เกิดขึ้น
อาชิสะเอะมงเล่าเรื่องราวต่าง ๆ นี้เกิดขึ้นเมื่อสามปีก่อนให้ทุกคนฟังเรื่องนี้ไปเข้าหู เซ็นไดมิมง ขุนนางคนหนึ่งเขาเกิดความอยากดูการต่อสู้ครั้งนี้ วันรุ่งขึ้นจึงเดิน ทางที่บ้านของอาชิสะเอะมง แต่ว่ารอจนพระอาทิตย์ตกดิน สัตว์ประหลาดตัวนั้นก็ไม่ปรากฏตัวออกมา กลางดึกคืนนั้นสัตว์ ประหลาด ปรากฏตัวนี้ข้าง หนอนอาชิสะเอะมง และพูดว่า..‘ข้ามานี้นิเพื่อมาล้างแค้นเรื่องราวเมื่อสามปีนี้แล้ว แด่ข้าสู้กับแกต่อไปไม่ได้ เพราะขุนนาง รู้เรื่องและเดินทางมาดูด้วยพรุ่ง นี้ข้าจะกลับไปนี้ ที่สระบัวแล้ว" หลังจากนั้นสัตว์ประหลาด ไม่มาปรากฏตัวที่บ้านของอา ชิสะเอะมงอีกเลย
สัตว์ประหลาดตัวนี้ เป็น สัตว์ประหลาดนี้อาศัยอยู่ในน้ำมีหัวล้านแต่ว่าบนหัวนั้นมีเลือดอยู่และเลือดนี้เองเจนต้นกำเนิดของพลังงานของสัตว์ประหลาด  ถ้าเลือดแห้งเมื่อไรพลังของของสัตว์ประหลาดก็จะหายไป

ตำนานผีญี่ปุ่น เรื่องผู้หญิงดูดเลือด

คืนหนึ่งในฤดูร้อน ซาคุระชิโร่ พ่อค้าขายยา เดินเล่นอยู่ริมทะเลในจังหวัดนางาซาก เขาเดินทางมาจากจังหวัดฟุคุยามา มาที่นี้เพื่อมาขายยาคืนนี้เขาออกมาเดินเล่นที่ชายหาด แถว ๆ ที่พักทั้ง ๆ ที่เขาเหน็ดเหนื่อยจากการขายของในตอน กลางวัน ในระหว่างที่เขาเดินสูดอากาศยามค่ำคืนอยู่นั้น จู่ ๆ ก็มี ผู้หญิงคนหนึ่งเดินตามเขามาและ ร้องเรียกเขา.. ซาคุระอิชิโร่หันหลังกลับไปมองก็ต้องตกใจกลัว จนตัวสั่น เพราะผู้หญิงคนนั้น สวมชุดกิโมโนและตัวเปียกปอน ไปทั้งตัว



นอกจากนี้ที่แขนยังอุ้ม เด็กอีกด้วย เขาจึงคิดอยู่ในใจว่า ผู้หญิงคนนั้นคงจะตั้งใจที่จะโดดน้ำตายพร้อมกันทั้งแม่และลูก แต่ทำไม่สำเร็จ ครู่ต่อมา..
ผู้หญิงคนนั้นก็พูดออกมาด้วยเสียงอัน ไพเราะว่า “ขอโทษนะคะ ช่วยอุ้มลูกให้ฉันทีเถอะค่ะ..” เขาตอบ รับไปเหมือนกับถูกสะกดจิต และ รับเด็กทารกคนนั้นมาอุ้มเอาไว้ ถึงแม้เขาจะกลัวจนตัวแข็ง และ พยายามวิ่งหนี แต่ขาของเขาก็ก้าวไม่ออก ทันใดนั้นเองบหน้า ที่สวยงามของผู้หญิงก็เปลี่ยน เป็นใบหน้าที่น่าเกลียดเหมือน กับพวกผีปีศาจ และเดินเข้ามาหาเขาเอามือมาแตะที่บ่าทั้งสอง ข้างของเขาจนเขากระดุกกระดิก ไม่ได้รู้สึกเหมือนกับถูกงูรัดเอาไว้ ต่อมาผู้หญิงคนนั้นก็เอาปากเข้า ไปใกล้กับคอของซาคุระอิชิโร่ และกัดคอเขาจนสลบ ชาวบ้าน แถว ๆ นั้นได้ยินเสียงร้องของเขา จึงออกมาดู ผู้หญิงคนนั้นจึงหาย ตัวไปชาวบ้านแถว ๆ นั้นพาตัว เขากลับมายังบ้านพักและปฐม พยาบาลจนเขาฟื้น  เขาถามชาวบ้านว่าเกิดอะไรขี้น ชาวบ้าน จึงตอบเขาว่า “ท่านโชคดีมาก ถ้าพวกข้าไปไม่ทันตอนนั้นล่ะก็..ท่านคงถูก..องค์หญิงแห่งชายหาดดูดเลือดจนหมดตัวและตายแน่..” เมื่อชาคุระอะโร่ได้ยิน เช่นนั้นก็ตกใจกลัวจนตัวสั่น เขา จึงถามชาวบ้านว่า องค์หญิงแห่งชายหาดคือใคร ก็ได้รับ คำตอบว่า.. “มันคือปีศาจที่ใคร ๆ ก็เรียกว่า องค์หญิงแห่งชายหาด และมักจะปรากฏตัวตามชายหาด แถว ๆ นี้ตั้งแต่สมัยโบราณแล้ว มีคนมากมายหลายคนที่ถูกมัน ดูดเลือดจนตาย..ส่วนตัวจริงของ องค์หญิงแห่งชายหาดนั้นไม่มี ใครรู้จัก แต่มีคนพูดกันว่า มัน คือวิญญาณของผู้หญิงที่อุ้มลูก และโดดน้ำตาย แต่ไม่มีใคร พิสูจน์ความจริงได้” หลังจากนั้น อีกสองวัน เขาก็เดินทางกลับบ้าน ที่ฟุคุยาม่าแต่เมื่อเขากลับมาถึงบ้าน อาการป่วยของเขาก็ยังไม่ดีขึ้น ทั้ง ๆ ที่เยากินยาหลายขนาน เขาเพ้อแต่เพียงว่า.. “กลัว..ข้ากลัว..” และต่อมาไม่นานเขาก็ตาย แพทย์ สันนิษฐานว่าเขาตายเพราะโรค ปอดอักเสบ แต่ก็ไม่มีใครปฏิเสธ ถึงสาเหตุที่เขาตกใจกลัวจนช็อก ที่ชายหาดในจังหวัดนางาซากิ ที่เขาไปค้าขายได้ ผู้หญิงคนนี้มีชื่อเรียกต่างกันไปตามท้องที่ เช่น “ผู้หญิงตัวเปียก” หรือว่า “ผู้หญิงแห่งทะเล” เป็นต้น และมันก็คือแดร๊ทคิวล่าของญี่ปุ่นนั้นเอง

ตำนานผีญี่ปุ่น เรื่องคำสาปแช่งของนางเงือก

(1) ณ หมู่บ้านแห่งหนึ่งบน เกาะซิโมจิ ในจังหวัดโอกินาว่า มีอยู่ครั้งหนึ่ง มีชาวประมงคน หนึ่งจับปลาได้ ปลาตัวนั้นมีใบหน้าเป็นคน แต่มีตัวเป็นปลาและพูดภาษาคนได้ ชาวประมงคนนั้นแปลกใจกับปลาประหลาดตัวนี้ แต่ก็ตั้งใจจะเอาปลาตัวนั้น ไปทำอาหารกิน  ในคืนตอนนั้นเอง เหตุการณ์ ประหลาดก็เกิดขึ้น คือเด็กที่อยู่บ้านติดกันตะโกนออกมาอย่าง สุดเสียงว่า “แม่..ไปที่อีราบุเร็ว ๆ" เด็กคนนั้นตะโกนออกมาอย่างนี้ หลายต่อหลายครั้ง แม่ของเด็ก คนนั้นตกใจมาก เพราะเสียงที่ ร้องตะโกนออกมาเป็นเสียงของ ผู้ใหญ่ ครู่ต่อมาแม่ของเด็กก็ได้ ยินเสียงตะโกนว่า “นางเงือก.. นางเงือก.." เมื่อหล่อนตั้งสติได้ แล้ว หล่อนรู้สึกว่าเสียงนั้นดังมา จากทะเล อีกไม่นานหล่อนได้ยิน เสียงมาจากข้างๆบ้านว่า “ฉันถูกแขวนอยู่บนราว..มันกำลังจะ ฆ่าฉัน ช่วยฉันเร็ว ๆ ด้วย..” แม่ ของเด็กคนนั้นรีบวิ่งไปที่ต้นเสียง นั้น เมื่อไปถึงเธอก็พบนางเงือก ถูกแขวนอยู่ จึงแก้เชือกออก และปล่อยเธอลงทะเลไป หลังจากนั้นเหตุการณ์ประหลาดก็ไม่เกิดอีกเลย



(2)ในสมัยโบราณ ณ ประเทศ วาคาสะ (ปัจจุบันคือจังหวัดฟุคุอิ) มีชาวประมงคนหนึ่งชื่อ อุเอะมง ภรรยาของเขาตาย ปล่อยให้เขา ต้องดูแลลูก ๆ 3 คน วันหนึ่งอุเอะมงจับนางเงือก ได้ตัวหนึ่ง แต่นางเงือกร้องขอ ชีวิตอย่างน่าสงสารว่า “ฉันมีลูกด้วย สงสารฉัน..ช่วยปล่อยฉัน ด้วยเถอะ..” แด่อุเอะมงไม่ฟัง เสียงขอร้องจากนางเงือก เขาพานางเงือกกลับบ้านและฆ่านางเงือก หลังจากฆ่าแล้ว อุเอะมง เอาเนื้อนางเงือกใส่ไว้ในถังแล้ว ซ่อนเอาไว้ ในระหว่างที่เขาออก ไปจับปลา ลูกๆทั้งสามของเขา ได้เจอถังเก็บเนื้อนางเงือก พวก ลูกๆ ทั้งสามกินเข้าไปอย่างเอร็ดอร่อยโดยไม่รู้ว่านั้นคือเนื้อนางเงือก เมื่ออุเอะมงกลับมาทราบ เรื่องก็ดุลูก ๆ ทั้งสามคน
ต่อมาอีกไม่นาน ร่างกาย ของลูก ๆ ของอุเอะมงกลายเป็น นางเงือก อุเอะมงเพิ่งจะรู้ตอนนี้เองว่า สาเหตุที่ลูก ๆ ของเขาเป็น นางเงือกก็เพราะเป็นการลงโทษที่เขาฆ่านางเงือกนั่นเอง เขา เสียใจมาก ต่อมาไม่นานลูกๆ ทั้งสามก็ตายไป อุเอะมงจึงตัดสินใจเลิกอาชีพจับปลาและเดินทางไปชึนจัว (จังหวัดนางาโนะ ในปัจจุบัน) เขาปลูกต้นไม้สาม ต้น และยังได้ทำบุญให้กับวิญญาณของลูก ๆ ทั้งสามและนางเงือกอีกด้วย

ตำนานผีญี่ปุ่น เรื่องปีศาจเท็นงู

ตำนานผีญี่ปุ่น เรื่องปีศาจเท็นงู


ที่หุบเหวของภูเขาเมียวโค ซึ่งอยู่ตรงชายแดนระหว่างจังหวัด นางาโนะกับจังหวัดนิงาตะ มี สถานที่แห่งหนึ่งที่เป็นแหล่งแร่ กำมะถัน และคนทั่วไปเชื่อว่า ที่นี้เป็นที่อยู่อาศัยของเท็นงูตั้งแต่ อดีตมาแล้ว ถึงแม้จะรู้ว่าที่นี้เป็น แหล่งแร่กำมะถันแต่ก็ไม่มีใคร กล้าเข้าไปเอามา พอมาถึงสมัยเมจิ มีคนๆหนึ่งนันสะเอะเมะ อาศัยอยู่ในจังหวัดนิงาตะ ต้องการแร่กำมะถันของที่นี้จึงพาคน งานหลายสิบคนไปที่หุบเหวแห่งนั้น พวกเขาได้สร้างกระท่อม ขึ้นมาสำหรับไว้หลับนอนตอน กลางคืน ส่วนกลางวันจะเอา ไปขุดแร่กำมะถัน ในคืนแรกๆ เท็นไม่ได้ปรากฏตัวให้ทุกคน ตกใจกลัวเลย ทุกคนยังทำงาน ต่อไปโดยไม่มีอะไรเกิดขึ้น



แต่ในคืนวันหนึ่งขณะที่ทุก คนกำลังนอนหลับสนิท ก็มีเสียง ดังเกิดขึ้น และพื้นดินก็สั่น ทุกคน ในกระท่อมตกใจตื่นและพูดกัน ว่า “เท็นงูเป็นคนทำแน่ๆ'’ ทุก คนกลัวกันมาก แต่ไม่นานเสียง นั้นก็หยุดลง ตอนนั้นอากาศข้างนอกเริ่มหนาวเย็น พวกเขาจึงก่อกองไฟขึ้นเพื่อกันหนาว ทันใดนั้นเอง ว่าชายคนนั้นไม่ได้ทำอะไร
พวกข้างนอกกระท่อมก็มีเสียง ประหลาดเกิดขึ้นอีก ทุกคนตกใจ กลัวจนตัวสั่น และแล้วประตู กระท่อมก็เปิดออก มีชายร่างสูงใหญ่ใบหน้าสีแดงแต่งชุดสีขาว ปรากฏตัวขึ้น ทุกคนตกใจกลัวรีบวิ่งไปที่มุมกระท่อม แล้วเอาผ้าห่มคลุม หัวแล้วแอบมองดูชายคนนั้น แต่เขาทุกคน จนกระทั้งถึงตอนเข้า เมื่อทุกคนสงบสติอารมณ์ได้แล้ว ก็มุดออกจากผ้าห่ม ทันใดนั้น ก็ต้องหน้าซีดเผือกเมื่อเห็นนันสะเอะมงถูกฆ่าตัดหัวขาด พวก คนงานเหล่านั้นรีบวิ่งออกมาจาก หุบเหวแห่งนั้นทันที ตั้งแต่นั้น เป็นต้นมา ไม่มีใครกล้าเข้าไป หยิบแร่กำมะถันแม้แต่ก้อนเดียว ออกมาจากที่นั่นอีกเลย นอกจากนี้ที่หมู่บ้านแถว ๆ นั่นถ้ามี ใครพูดว่า “เท็นไม่มีในโลก นี้หรอก" เพื่อนๆ ก็จะเล่าเรื่อง ดังกล่าวให้ฟัง
ผู้ที่แต่งเรื่องนี้ขึ้นมาคือ ริวตะ คุนิโอะ เท็นเป็นปีศาจ ที่คนญี่ปุ่นเชื่อถือกันมาตั้งแต่สมัย โบราณแล้ว เหตุการณ์ประหลาดต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกลางภูเขากิมก จะเชื่อกันว่าเท็นเป็นผู้ทำให้เกิด ขึ้น เช่น ต้นไม้ใหญ่ล้มลงกลาง ภูเขา ก็เชื่อกันว่าเท็นทำให้ต้นไม้ล้ม หรือก้อนหินลอยมาจากไหนไม่รู้ ก็เชื่อกันว่า เท็นขว้างมา เหล่านี้ เป็นต้น ในปัจจุบันนี้ถ้าพูดถึงเท็น ทุกคนจะนึกถึงชายแก่จมูกยาว แต่งตัวแบบฤาษี แต่มีบางท้องที่ มีคนเรียกเท็นงูว่า “เทพเจ้าแห่งภูเขา”  หรือ “คนภูเขา" หรือ ‘‘ท่านงูบิน" แต่ทุกคนก็เคารพ เท็นงูในฐานะ “เทพเจ้าแห่งภูเขา” ต่อมาความเชื่อที่ว่าเท็นงูเป็น เทพเจ้าแห่งภูเขาก็ลดน้อยลงไป เหลือแต่ความเชื่อที่ว่าเท็นงูคือ ปีศาจหน้าแดง ผมยาวใส่ชุดยาวเท่านั่น

ตำนานผีญี่ปุ่น เรื่องตุ๊กตาผีสิง

ตำนานผีญี่ปุ่น เรื่องตุ๊กตาผีสิง


ชายคนหนึ่งตกใจตื่นขึ้น ด้วยเสียงประหลาด เมื่อเขามอง ไปรอบ ๆ ห้องก็ไม่เจออะไร เขา จึงคิดไปว่าตัวเองหูฝาดและนอนหลับต่อไป อีกพักหนึ่งเขา ก็ต้องตกใจตนอีกครั้ง เพราะมีเสียงประหลาดเกิดขึ้นอีก เขา พึมพำว่า ‘ต้องในกล่องใบนั้น แน่’ เขาจึงไปเปิดกล่องดูก็เจอ ตุ๊กตาแค่สองตัวเท่านั้น กล่องใบนั้นเขาได้มาจากนักเชิดหุ่นคนหนึ่ง เขาจึงกลับไปนอนต่ออีกครั้งด้วยความเหน็ดเหนื่อยจากการทำงานในตอนกลางวัน



แต่ว่าตลอดทั้งคืนเขาต้องทนกับ เสียงประหลาดที่เกิดขึ้น เช้าวัน รุ่งขึ้นเขาน่ากล่องใบนั้นไปคืน นักเชิดหุ่นโดยที่ไม่ได้เปิดกล่องดูเลย เขาบอกกับนักเชิดหุ่นว่า เมื่อคืนได้ยินเสียงแปลกออกมา จากกล่องใบนี้ เมื่อนักเชิดทุ่น ได้ยินก็รีบเปิดกล่องดู แล้วก็ต้อง ตกใจเพราะตุ๊กตาสองตัวนั้นตัวขาดเป็นส่วน ๆ นักเชิดหุ่นจึง บอกให้ชายคนนั้นฟังว่า “ตั้งแต่ สมัยโบราณมาแล้ว ถ้าเอาตุ๊กตา ใส่ไว้ในกล่องเดียวกัน ตุ๊กตาจะ ต้องสู้จนตัวขาดเป็นชิ้น ๆ ตุ๊กตา คู่นี้ก็เหมือนกัน เมื่อคืนนี้มันคง ต้องสู้กันแน่นอน”  เป็นจริงตามที่นักเชิดหุ่น พูดเพราะว่าเมื่อคืนนี้ชายคนนั้น ได้ยินเสียงตุ๊กตาต่อสู้กันอยู่ใน กล่องนั้น แต่คิดว่าตัวเองหูฝาดไป

ตำนานผีญี่ปุ่น เรื่องชายที่ถูกดึงหูขาด

ตำนานผีญี่ปุ่น เรื่องชายที่ถูกดึงหูขาด


ณ บ้านหลังหนึ่งในจังหวัด อิบารากิ มีชายหนุ่มคนหนึ่งชื่อ เฮคิยิ อาศัยอยู่ เฮคิยิเป็นคนที่เป่าขลุ่ยได้เก่งมาก และในคืนวันหนึ่ง มีหญิงสาวสวยคนหนึ่ง ไม่รู้มาจากที่ไหนมาหาเฮคิยิ ที่บ้านและขอร้องให้ไปที่บ้าน ของเธอเพื่อไปเป่าขลุ่ยให้ฟัง เพราะที่บ้านของเธอมีงานเลี้ยง ฉลองในคืนนั้น เฮคิยิ ตอบตกลง และเดินทางไปบ้านของเธอทันที เมื่อไปถึงเขาก็ต้องตกใจเพราะ บ้านของเธอใหญ่โตมาก เมื่อเข้าไปในบ้านก็มีคนจำนวนมาก นั่งรออยู่ที่ห้องโถงขนาดใหญ่ เฮคิยิเป่าขลุ่ยเป็นเพลงไพเราะ ไห้ทุกคนฟังหลายต่อหลายเพลง ต่อมาผู้หญิงคนนั้นพูดกับฮคิยิ ว่า “ไม่เคยฟังเพลงที่ไพเราะอย่างนี้ที่ไหนมาก่อนเลย ถ้าไม่รังเกียจ พรุ่งนี้กลางคืนช่วยมา เป่าให้ฟังอีกนะคะ” เอคิชิรับปาก ผู้หญิงคนนั้นทันที



ในคืนต่อมาและทุกๆ คืน เฮคิยิจะเดินทางไปที่บ้านของ ผู้หญิงคนนั้นเพื่อไปเป่าขลุ่ยให้ฟัง และทุก ๆ คนและผู้หญิงคนนั้นจะมา รับเฮคิยิถึงที่บ้าน วันเวลาผ่านไปหลายคน  คนที่อยู่ใกล้ ๆ กันสงสัยว่าเฮคิยิไปไหนทุก ๆ คืน จนคืนหนึ่ง มีชายคนหนึ่งสะกดรอยตามเฮคิยิ ไปก็เห็นว่าเฮคิยิเดินเข้าประตูวัด และไปนั่งเป่าขลุ่ยอยู่หน้าหลุม ฝังศพ
วันรุ่งขึ้นชายคนนั้นมาถาม ฮคิยิถึงเรื่องเมื่อคืน ทำให้ เฮคิยิตกใจมากจึงไปหาหมอผีคนหนึ่ง ในหมู่บ้านให้ช่วยเหลือ หมอผี คนนั้นจึงเขียนเวทมนต์บนตัวของเฮคิยิจนเต็มไปหมด และบอกกับเฮคิยิว่าผีจะไม่กล้าเข้าใกล้ตัวเขา ต่อไปอีกแล้ว
ในคืนนั้นเอง ผู้หญิงคนนั้น ก็มารับเป็นปรกติ แต่ว่าเมื่อเธอ เห็นหน้าเฮคิชิเธอก็ตกใจและไม่กล้าเข้าใกล้เฮคิชิ ผู้หญิงคนนั้น จ้องมองเฮคิชิอีกครั้งและยืนยัน กับเขาว่าจะต้องพาเขาไปให้ได้ ทันใดนั้นเอง ผู้หญิงคนนั้นก็จับหู ทั้งสองข้างของเซคิชิและดึงเขา ให้ลุกขึ้น เฮดิชิพยายามขัดขวาง แต่ไม่สามารถต้านแรงของผู้หญิง คนนั้นได้ จนในที่สุดหูทั้งสองข้าง ของเขาก็หลุดออกจากตัว ผู้หญิง คนนั้นกำหูของเฮคิชิที่เต็มไปด้วย เลือดเอาไว้ในมือและเดินหายไป
ถึงแม้ว่าเฮคิชิจะให้หมอผี เขียนเวทมนต์ทั้งตัว แต่หมอผี ลืมเขียนบนใบหูจึงทำให้เกิดเรื่อง ดังกล่าวขื่น บ้านของเฮคิชิตอนนี้ ถูกคนทั่วไปเรียกกันว่า "บ้านของคนถูกดึงหูขาด”นอกจากเรื่องที่แนะนำให้ อ่านไปแล้ว ก็ยังมีเรื่องผีที่คล้ายคลึงกันนี้เล่าต่อกันมาอีกด้วย เช่นที่อำเภออิฑาโนะ ในจังหวัด โทคุชิมะ มีนักดนตรีคนหนึ่งชื่อ ตันอิชึก็ถูกผีดึงหูขาดเหมือนกัน

Popular Posts