google.com, pub-6663105814926378, DIRECT, f08c47fec0942fa0 Mega topic | จัดอันดับ | 10 อันดับ| เรื่องผี| เรื่องสยองขวัญ| ที่สุดในโลก| ดูดวง| ประวัติศาสตร์

ตำนานผีญี่ปุ่น เรื่องวิญญาณเด็กในบ้าน

ตำนานผีญี่ปุ่น เรื่องวิญญาณเด็กในบ้าน


บริเวณแถวๆโทโนะ ใน จังหวัดอิวาเตะ มีบ้านเก่า ๆ หลัง หนึ่งชื่อว่าบ้าน ซาซากิ มีครั้ง หนึ่งขณะที่แม่บ้านในบ้านหลังนั้นถักเสื้อผ้า ก็ได้ยินเสียงกุกกักดังขึ้นจากห้องข้าง ๆ แม่บ้านคนนั้นนึกแปลกใจ จึงเดินไปเปิดประตู ที่ห้องข้าง ๆ ดู แต่ก็ไม่พบใคร อยู่ในห้องนั้นเลย เธอคิดว่าเป็น เพราะหนูวิ่งแน่นอน เธอจึงกลับ มาถักเสื้อของเธอต่อไป เวลา ผ่านไปชั่วครู่ ก็มีเสียงดังกล่าว



เธอมองไปรอบ ๆ จึงรู้ว่าเจ้าของ เสียงนั้นคือวิญญาณของเด็กที่ อาศัยอยู่ในบ้านตั้งแต่สมัยโบราณ มาแล้วนั้นเอง นอกจากเหตุการณ์ดังกล่าว แล้ว บางคืนตอนกลางดึกมีคนได้ยินเสียงคนเดิน หรือบางทีก็มีคนเจอเด็กคนนี้มานอนทับอยู่บนอกอีกด้วย แต่ว่าวิญญาณทำความเดือดร้อน วิญญาณ ของเด็กพวกนี้อาศัยอยู่ จะเจริญรุ่งเรีองอีกด้วยเด็กพวกนี้จะมีใบหน้าสีแดง และปล่อยผม มีคนทั่วไปเชื่อกัน ว่าถ้าบ้านใดไม่มีวิญญาณของ เด็กพวกนี้อยู่จะทำไห้บ้านหลังนั่นเกิดความหายนะ

ตำนานผีญี่ปุ่น เรื่องเรือผีสิง

ตำนานผีญี่ปุ่น เรื่องเรือผีสิง


ชายคนหนึ่งออกไปตกปลา กลางทะเลห่างจากชายหาตฮิราโคะ ในระยะประมาณ 6 กิโลเมตร แต่ว่าเขาไม่สามารถตกปลาได้เลยสักตัวเดียว และฝนยังคงตกลงมาอีกด้วย ชายผู้นั้นจึงยกคันเบ็ดขึ้นมา และเตรียมตัว กลับบ้าน ทันใดนั้นเองหมอกก็ เริ่มลงหนาจนมองไม่เห็นอะไรเลย  และอีกไม่นานต่อมามี เรือใบลำใหญ่โผล่ออกมาจาก กลางสายหมอกนั่น



ชายผู้นั้นจึง พยายามปัดท้ายเรือหนีพอไม่ให้ เรือลำใหญ่เข้ามาชนได้แต่เขา ก็ต้องตกใจเมื่อเขาสังเกตเห็น ใบของเรือลำนั้นวิ่งสวนทางกับ ทิศทางของลม และต้องตกใจ อีกครั้งเมื่อไม่เห็นโคมไฟติดอยู่ที่หัวเรือและที่บนเรือลำนั้นมีเงาของคนแต่มันเลือนลางมากที่เดียว เขาคิดในใจว่า “แปลกนะต้อง เป็นเรือผีสิงแน่” เขารวบรวม ความกล้าพยายามที่จะพายเรือ หนี แต่ว่าไม่ว่าเขาจะออกแรงสัก เพียงไหน แต่เรือก็ยังคงลอยอยู่กับที่ เขาจึงเผาฟางบนเรือเพื่อให้ เกิดความสว่าง ขับไล่ความกลัว อีกไม่นานหมอกนั้นก็จางลง ฝน ก็หยุดตก และเมื่อหมอกหมด เรือลำนั้นก็หายไป และชายผู้นั้น ก็เดินทางกลับบ้านโดยปลอดภัย  เรือผีสิงลำดังกล่าวมักจะ ปรากฏออกมาในคืนเดือนมืด หรือคืนที่มีหมอกลงจัดและมัก จะปรากฏออกมาให้เห็นแบบ ทันทีทันใดจนคนญี่ปุ่นมักจะเรียกเรือลำนี้ว่า “เรือผีสิง”

ตำนานผีญี่ปุ่น เรื่องผู้หญิงบนเรือบรรทุกสินค้า

ตำนานผีญี่ปุ่น เรื่องผู้หญิงบนเรือบรรทุกสินค้า


กัปตันเรือตะโกนถามลูกเรือ ว่า “ให้ตายสิ..ใครกันวะปล่อย ให้ผู้หญิงขึ้นมาบนเรือลำนี้” เพราะเขาเห็นร่างของผู้หญิงคน หนึ่งอยู่บนดาดฟ้าเรือบรรทุก สินค้า ซึ่งเพิ่งออกจากอ่าวโทบะ กำลังจะมุ่งหน้าไปยังท่าเรืออิโต เป็นเรือที่ห้ามพาผู้หญิง ขึ้นมาบนเรือ แต่เมื่อถามไปลูกเรือ ทุกคนต่างก็ส่ายหัวไม่รู้เรื่อง กัปตันจึงสั่งให้ลูกเรือไปตาม ผู้หญิงคนนั้นมา เมื่อผู้หญิงคนนั้นมาถึงก็ขอร้องกัปตันให้พากลับไปส่งที่อ่าวโอบะ แต่กัปตัน ปฏิเสธเพราะว่าเรือลำนี้ออกมา จากอ่าวโอบะแล้ว จะกลับไปอีก
โดยไม่มีเหตุผลไม่ได้..



แต่ผู้หญิงคนนั้นก็ยังขอร้องอีก กัปตันก็ยัง คงปฎิเสธอยู่ ผู้หญิงคนนั้นเลย พูดออกมาอย่างเศร้า ๆ ว่า “รีบ เอาเรือกลับไปที่อ่าวโอบะเพื่อ ทุกๆคน ไม่เช่นนั้นจะต้องเกิด เรื่องร้าย” กัปตันจึงถามกลับด้วย ความโมโหว่าอะไรคือเรื่องร้าย..ผู้หญิงคนนั้นตอบว่า “เรื่องร้าย คือ เรือลำนี้จะต้องอับปางและ จมลง” และเธอก็หันหน้าไปที่หัวเรือ แต่กัปตันยังคงไม่ทำตามคำขอร้องผู้หญิงคนนั้น และ เดินกลับไปทำงานต่อวันนี้เป็นวันที่มีเมฆมาก ทัศนวิสัยการมองเห็นไม่ค่อยจะดีนัก และทำท่าจะมีพายุอีกด้วย คลื่นก็เริ่มแรงขึ้นเรื่อย ๆ ผู้หญิงคนนั้นจึงเดินไปข้าง ๆ เรือ และยกมือขึ้น ทันใดนั้นเองเหตุการณ์ประหลาดก็เกิดขึ้นเมื่อมี เรือลำเล็ก ๆ ลำหนึ่งลอยมาจาก ไหนไม่มีใครทราบลอยมาข้าง ๆ เรือบรรทุกสินค้า มีลูกเรือคน เดียวเท่านั้นที่เห็นเหตุการณ์นั่ ต่อมาผู้หญิงคนนั้นก็ลงไปนั่งที่ เรือลำเล็กลำนั้น และเรือลำเล็ก นั่นก็ลอยหายไปในกระแสคลื่น
 ในตอนบ่ายวันนั้น เรือ บรรทุกสินค้าก็อับปางจมลง เพราะคลื่นลมแรงอย่างบ้าคลั่ง ทั้งกัปตันและลูกเรือส่วนใหญ่ จมน้ำตายกันหมด โชคดีมีลูกเรือ คนหนึ่งรอดตาย ต่อมาเขาได้ เดินทางไปที่อ่าวโอบะ และได้ พบคนแก่คนหนึ่งเล่าให้ฟังว่า “ผู้หญิงคนนั้นคือ แม่ย่านางเรือ เวลาที่แม่ย่านางเรือจะทั้งเรือ ก็จะมาปรากฏตัวให้เห็น เพื่อมา บอกให้ทุกๆคนรู้ ถ้าวันนั้น กัปตันนำเรือกลับไปที่อ่าวโทบะ ตามที่แม่ย่านางเรือบอก ทุกๆ คนก็จะรอดตาย เรือที่ไม่มีแม่ย่านางต้องมีอุบัติเหตุทุกลำ”

ตำนานผีญี่ปุ่น เรื่องปีศาจตาเดียวขาเดียว

ตำนานผีญี่ปุ่น เรื่องปีศาจตาเดียวขาเดียว


ในวันหิมะตกวันหนึ่ง ชายทำถังน้ำคนหนึ่งมองเห็นปีศาจ น่ากลัวตาเดียวขาเดียวตัวหนึ่ง เดินมาจากทางภูเขา ชายคนนั้นตกใจกลัวมาก แต่แกล้งทำเป็น เฉย ๆ และก้มหน้าก้มตาทำงาน ต่อไป แต่ในใจก็นึกได้ว่า “ไอ้ ปีศาจนี่ต้องเป็นปีศาจดาเดียว ขาเดียวที่เคยได้ยินคนเล่าให้ฟัง ตั้งแต่สมัยก่อนแต่ ทำเป็นไม่รู้ดีกว่า” ทันใดนั้นเองปีศาจตาเดียวขาเดียวก็พูดกันชายทำถังน้ำว่า “เอ้ย..แกคงคิดว่าข้าคือ ปีศาจตาเดียวขาเดียวสินะ" เมื่อได้ฟังชายคนนั้นรู้สึกตกใจมาก และคิดในใจว่า ทำไมปีศาจ ตัวนี้ถึงรู้ว่าตัวเองคิดอย่างไร



ครู่ต่อมาปีศาจตาเดียวขาเดียว ก็พูดกับเขาตามที่เขาคิดในใจ ถึงแม้ว่าชายคนทำถังน้ำจะคิด ในใจอะไร แต่ปีศาจตาเดียวขา เดียวก็พูดออกมาได้ถูกต้องตาม ความคิดในใจของชายคนนั้น.. ชายคนนั้นตกใจกลัวจนทำงาน ต่อไปไม่ได้ ทันใดนั้นเองชาย คนนั้นก็เอาไม้ไผ่ที่ไว้รัดรอบถังน้ำทิ่มไปที่หน้าของปีศาจตาเดียวขาเดียวโดยไม่ได้คิด จนปีศาจตา เดียวขาเดียวตกใจจนร้องออกมาว่า “โอย..ไอ้พวกมนุษย์ เวลา มันทำอะไรโดยไม่คิดน่ะน่ากลัวมาก.. ถ้าอยู่ทีนี้ต่อไปไม่รู้ว่าจะ ต้องเจอเหตุการณ์อะไรบ้าง" และวิ่งหนีไปทางภูเขา
ถึงแม้ว่าจะขึ้นชื่อว่าปีศาจ หรือผี แต่ปีศาจตาเดียวขาเดียว ไม่ได้ทำร้ายมนุษย์เลย แต่ มนุษย์กลับทำร้ายปีศาจอีกด้วย เรื่องปีศาจตาเดียวขาเดียวนี่จะมี เนื้อเรื่องต่างกันไปตามแต่ละท้องที่ บางที่ปีศาจตาเดียวอาจจะใจดีกับมนุษย์ช่วย มนุษย์ทำงานโดยไม่ได้รับการ ขอร้องหรือช่วยขนฟื้นเป็นการ ตอบแทนที่ได้รับข้าวปั้นเป็น อาหารก็มีแต่ว่า ตัวเอกของเรื่องจะเป็นผู้ชายทำถังน้ำเป็นส่วนมาก

ตำนานผีญี่ปุ่น เรื่องมนุษย์ภูเขา

ตำนานผีญี่ปุ่น เรื่องมนุษย์ภูเขา


เรื่องนี้เป็นเรื่องที่แต่งโดย สึสึกิ โบคุชิ ในสมัยเอโดะ มี เรื่องราวเกี่ยวกับชายหนุ่มคนหนึ่งชื่อ ทาเคสึเคะไปพบสัตว์ประหลาดที่ประเทศอิรึโกะ (จังหวัด นีงาตะในปัจจุบัน)ทาเคสึเคะหยุดพักกลางทาง เดินบนภูเขาเพื่อกินอาหาร ทันที ที่เขาเริ่มหยิบข้าวปั้นออกมาจะ กินเขาก็ได้ยินเสียงประหลาด ดังขึ้นมาจากพุ่มไม้ใกล้ ๆ พอ ทาเคสึเคะเงยหน้าขึ้นดูเห็นสัตว์ประหลาดโผล่ออกมาจากพุ่มไม้นั่น สัตว์ประหลาดตัวนั่นมีหน้าตาคล้ายลิง มีตาเป็นประกาย และตัวสูงกว่าคนธรรมดามาก ทีเดียว แต่ว่าสัตว์ประหลาดตัว นั่นไม่ได้ทำร้ายทาเคสึเคะเลย



และได้ชี้ไปที่ข้าวปั้นของเขาแสดง ท่าทางอยากกิน ทาเคสึเคะจึง โยนข้าวปั้นของเขาให้สัตว์ประหลาดตัวนั้นกิน มันกินข้าวนั้น ของเขาอย่างเอร็ดอร่อย เขาจึงบอกกับสัตว์ประหลาดตัวนั้นว่า “อ๋อ..แกชอบกินข้าวปั้นเหรอ.. ถ้าแกชอบล่ะก็คราวหน้าถ้าข้า มาที่นี้อีก จะเอามาให้แกกินด้วย”  พอทาเคสิเคะพูดจบเขาก็ก้มลง ไปหยิบของมาพาดบ่าเพื่อจะออก เดินทางต่อ ทันใดนั้นเองสัตว์ ประหลาดตัวนั้นก็เข้ามาใกล้ ๆ เขาและหยิบของจากบ่าของเขา ไปยกเองและเดินทางต่อไป ทาเคสึเคะนึกในใจว่า “อืม..ไอ้สัตว์ ประหลาดตัวนี้มันช่วยยกของ เพื่อขอบคุณพี่ให้มันกินข้าวปั้น” เมื่อเดินไปได้ประมาณ 1 ลี้ครึ่ง (ประมาณ 6 กิโลเมตร) สัตว์ประหลาดตัวนั้นก็วางของลง
แล้วหายตัวไปในพุ่มไม้ทันที สัตว์ประหลาดในเรื่องนี้ถ้าดูจาก รูปประกอบจะคล้าย ๆ กับมนุษย์หิมะที่เทือกเขาหิมาลัย มีอีกเรื่อง หนึ่งที่อยากจะแนะนำให้รู้จัก มีเรื่องราวดังนี้ ณ ภูเขาแห่งหนึ่ง ในอำเภออาเบะ ในจังหวัดชิลึโอกะ มีคนพบรอยเท้าขนาดใหญ่ ที่ยังหลงเหลืออยู่บนกองหิมะ.. ความใหญ่ของรอยเท้านั้นมีขนาด ยาวประมาณ 0.9 เมตร ระยะ ห่างแต่ละก้าวยาวถึง 2.7 เมตร รอยเท้านี้ปรากฏเรื่อยไปจนถึง ริมแม่น้ำแห่งหนึ่ง กินระยะทาง ถึง 12กิโลเมตร แล้วรอยเท้า ขนาดใหญ่นั้นก็หายไป ชายคนที่เจอนั้นจึงมองไปรอบ ๆ และเขาก็พบรอยเท้านั้นที่ฝั่งตรงกัน ข้ามอีก เจ้าของรอยเท้านั้นเดิน ข้ามแม่น้ำไปอีกฝั่งหนึ่ง เขาจึง เดินตามรอยเท้านั้นไปอีกแต่ต่อมาเขาก้หยุดเพราะเขานึกถึงข่าวลือที่ว่า แถว ๆ นี้มีมนุษย์ร่างใหญ่ ที่คนแถว ๆ นี้เรียกว่า “มนุษย์ภูเขา” อาศัยอยู่ มีคนเล่ากันว่า มีคนบางคนเคยเห็นมนุษย์ภูเขา นั่งอยู่กลางก่อไผ่เพราะว่าอาหารโปรดของมันคือใบไผ่

ตำนานผีญี่ปุ่น เรื่องสู้กับสัตว์ประหลาด

ตำนานผีญี่ปุ่น เรื่องสู้กับสัตว์ประหลาด


ในสมัยคันเอ มีนายทหาร คนหนึ่งชื่ออาชิสะเอะมงได้ไปพบสัตว์ประหลาดตัวหนึ่งนอนหลับ อยู่ข้าง ๆ สระบัว อาชิสะเอะมงรีบคว้าดาบฟันไปที่สัตว์ประหลาดตัวนั้น เมื่อฟันไปแล้ว มีเลือดติดที่ดาบด้วย แต่ซากศพ ของสัตว์ประหลาดหายไป



หลังจากนั้นต่อมาอีก 3 ปี  ในฤดูใบไม้ร่วง สัตว์ประหลาดตัวนั้นก็มาหาฮาชิสะเอะมงที่บ้านและตะโกนท้าทายว่า “แผลที่ข้าที่ถูกแกฟันสามปีก่อนหายแล้ว ข้าจะมาล้างแค้นแก รีบออกมาสู้กันดีกว่า..” เสียงท้าทาย นี้ทุกคนในบ้านของอาชิสะเอะมง ได้ยินกันหมดแต่ว่าไม่มีใครเห็น ตัวเจ้าสัตว์ประหลาดนั่นเลย ทุกคนเห็นแต่เพียงอาชิสะเอะถือ ดาบฟันไปรอบ ๆ เท่านั้น ทั้งคู่ สู้กันจนเหน็ดเหนื่อย สัตว์ประหลาดจึงพูดกับอาชิสะเอะมงว่า “เอาล่ะ คืนนี้หยุดสู้กันก่อน.. พรุ่งนี้ค่อยมาสู้กันใหม่" พูดจบ สัตว์ประหลาดก็หายตัวไป และ อาชิสะเอะมงก็เก็บดาบเข้าฝัก หลังจากนั้นทุกคนในบ้านวิ่งเข้า มาข้าง ๆ เขาและถามเรื่องราว ที่เกิดขึ้น
อาชิสะเอะมงเล่าเรื่องราวต่าง ๆ นี้เกิดขึ้นเมื่อสามปีก่อนให้ทุกคนฟังเรื่องนี้ไปเข้าหู เซ็นไดมิมง ขุนนางคนหนึ่งเขาเกิดความอยากดูการต่อสู้ครั้งนี้ วันรุ่งขึ้นจึงเดิน ทางที่บ้านของอาชิสะเอะมง แต่ว่ารอจนพระอาทิตย์ตกดิน สัตว์ประหลาดตัวนั้นก็ไม่ปรากฏตัวออกมา กลางดึกคืนนั้นสัตว์ ประหลาด ปรากฏตัวนี้ข้าง หนอนอาชิสะเอะมง และพูดว่า..‘ข้ามานี้นิเพื่อมาล้างแค้นเรื่องราวเมื่อสามปีนี้แล้ว แด่ข้าสู้กับแกต่อไปไม่ได้ เพราะขุนนาง รู้เรื่องและเดินทางมาดูด้วยพรุ่ง นี้ข้าจะกลับไปนี้ ที่สระบัวแล้ว" หลังจากนั้นสัตว์ประหลาด ไม่มาปรากฏตัวที่บ้านของอา ชิสะเอะมงอีกเลย
สัตว์ประหลาดตัวนี้ เป็น สัตว์ประหลาดนี้อาศัยอยู่ในน้ำมีหัวล้านแต่ว่าบนหัวนั้นมีเลือดอยู่และเลือดนี้เองเจนต้นกำเนิดของพลังงานของสัตว์ประหลาด  ถ้าเลือดแห้งเมื่อไรพลังของของสัตว์ประหลาดก็จะหายไป

ตำนานผีญี่ปุ่น เรื่องผู้หญิงดูดเลือด

คืนหนึ่งในฤดูร้อน ซาคุระชิโร่ พ่อค้าขายยา เดินเล่นอยู่ริมทะเลในจังหวัดนางาซาก เขาเดินทางมาจากจังหวัดฟุคุยามา มาที่นี้เพื่อมาขายยาคืนนี้เขาออกมาเดินเล่นที่ชายหาด แถว ๆ ที่พักทั้ง ๆ ที่เขาเหน็ดเหนื่อยจากการขายของในตอน กลางวัน ในระหว่างที่เขาเดินสูดอากาศยามค่ำคืนอยู่นั้น จู่ ๆ ก็มี ผู้หญิงคนหนึ่งเดินตามเขามาและ ร้องเรียกเขา.. ซาคุระอิชิโร่หันหลังกลับไปมองก็ต้องตกใจกลัว จนตัวสั่น เพราะผู้หญิงคนนั้น สวมชุดกิโมโนและตัวเปียกปอน ไปทั้งตัว



นอกจากนี้ที่แขนยังอุ้ม เด็กอีกด้วย เขาจึงคิดอยู่ในใจว่า ผู้หญิงคนนั้นคงจะตั้งใจที่จะโดดน้ำตายพร้อมกันทั้งแม่และลูก แต่ทำไม่สำเร็จ ครู่ต่อมา..
ผู้หญิงคนนั้นก็พูดออกมาด้วยเสียงอัน ไพเราะว่า “ขอโทษนะคะ ช่วยอุ้มลูกให้ฉันทีเถอะค่ะ..” เขาตอบ รับไปเหมือนกับถูกสะกดจิต และ รับเด็กทารกคนนั้นมาอุ้มเอาไว้ ถึงแม้เขาจะกลัวจนตัวแข็ง และ พยายามวิ่งหนี แต่ขาของเขาก็ก้าวไม่ออก ทันใดนั้นเองบหน้า ที่สวยงามของผู้หญิงก็เปลี่ยน เป็นใบหน้าที่น่าเกลียดเหมือน กับพวกผีปีศาจ และเดินเข้ามาหาเขาเอามือมาแตะที่บ่าทั้งสอง ข้างของเขาจนเขากระดุกกระดิก ไม่ได้รู้สึกเหมือนกับถูกงูรัดเอาไว้ ต่อมาผู้หญิงคนนั้นก็เอาปากเข้า ไปใกล้กับคอของซาคุระอิชิโร่ และกัดคอเขาจนสลบ ชาวบ้าน แถว ๆ นั้นได้ยินเสียงร้องของเขา จึงออกมาดู ผู้หญิงคนนั้นจึงหาย ตัวไปชาวบ้านแถว ๆ นั้นพาตัว เขากลับมายังบ้านพักและปฐม พยาบาลจนเขาฟื้น  เขาถามชาวบ้านว่าเกิดอะไรขี้น ชาวบ้าน จึงตอบเขาว่า “ท่านโชคดีมาก ถ้าพวกข้าไปไม่ทันตอนนั้นล่ะก็..ท่านคงถูก..องค์หญิงแห่งชายหาดดูดเลือดจนหมดตัวและตายแน่..” เมื่อชาคุระอะโร่ได้ยิน เช่นนั้นก็ตกใจกลัวจนตัวสั่น เขา จึงถามชาวบ้านว่า องค์หญิงแห่งชายหาดคือใคร ก็ได้รับ คำตอบว่า.. “มันคือปีศาจที่ใคร ๆ ก็เรียกว่า องค์หญิงแห่งชายหาด และมักจะปรากฏตัวตามชายหาด แถว ๆ นี้ตั้งแต่สมัยโบราณแล้ว มีคนมากมายหลายคนที่ถูกมัน ดูดเลือดจนตาย..ส่วนตัวจริงของ องค์หญิงแห่งชายหาดนั้นไม่มี ใครรู้จัก แต่มีคนพูดกันว่า มัน คือวิญญาณของผู้หญิงที่อุ้มลูก และโดดน้ำตาย แต่ไม่มีใคร พิสูจน์ความจริงได้” หลังจากนั้น อีกสองวัน เขาก็เดินทางกลับบ้าน ที่ฟุคุยาม่าแต่เมื่อเขากลับมาถึงบ้าน อาการป่วยของเขาก็ยังไม่ดีขึ้น ทั้ง ๆ ที่เยากินยาหลายขนาน เขาเพ้อแต่เพียงว่า.. “กลัว..ข้ากลัว..” และต่อมาไม่นานเขาก็ตาย แพทย์ สันนิษฐานว่าเขาตายเพราะโรค ปอดอักเสบ แต่ก็ไม่มีใครปฏิเสธ ถึงสาเหตุที่เขาตกใจกลัวจนช็อก ที่ชายหาดในจังหวัดนางาซากิ ที่เขาไปค้าขายได้ ผู้หญิงคนนี้มีชื่อเรียกต่างกันไปตามท้องที่ เช่น “ผู้หญิงตัวเปียก” หรือว่า “ผู้หญิงแห่งทะเล” เป็นต้น และมันก็คือแดร๊ทคิวล่าของญี่ปุ่นนั้นเอง

Popular Posts