google.com, pub-6663105814926378, DIRECT, f08c47fec0942fa0 Mega topic | จัดอันดับ | 10 อันดับ| เรื่องผี| เรื่องสยองขวัญ| ที่สุดในโลก| ดูดวง| ประวัติศาสตร์

หลุมดำถูกทำลายได้หรือไม่

หลุมดำเป็นหนึ่งในกลุ่มวัตถุที่อันตรายมากที่สุดในเอกภพ สิ่งใดก็ตามที่เคลื่อนที่เข้าใกล้จุดศูนย์กลางของหลุมดำมากเกินไป ไม่ว่าจะดาวเคราะห์น้อย ดาวเคราะห์ หรือดาวฤกษ์ ก็เสี่ยงที่จะถูกฉีกแบ่งโดยสนามโน้มถ่วงที่มีอนุภาพรุนแรงของหลุมดำ และหากวัตถุที่เคลื่อนที่เข้าใกล้ บังเอิญโคจรพาดผ่านขอบฟ้าเหตุการณ์ วัตถุนั้นจะหายไปและไม่ปรากฏอีกเลย เป็นการเพิ่มมวลและแผ่รัศมีให้แก่หลุมดำ ในระหว่างที่ถูกกลืนหายไป ไม่มีสิ่งใดที่เราสามารถโยนเข้าไปที่หลุมดำ แล้วจะสร้างความเสียหายเพียงเล็กน้อยแก่มันได้ แม้แต่หลุมดำอีกหลุมก็ไม่สามารถทำลายได้ หลุมดำทั้งสองจะผนวกกัน เป็นหลุมดำที่มีขนาดใหญ่ขึ้น ปลดปล่อยพลังงานในรูปรังสีโน้มถ่วงระหว่างกระบวนการ บางกลุ่มกล่าวว่า เป็นไปได้ว่าในที่สุด ทั้งเอกภพจะประกอบไปด้วยหลุมดำ ในอนาคตอันยาวนาน อย่างไรก็ตาม อาจมีหนทางทำลาย หรือ "ระเหย" วัตุเหล่านี้ในที่สุด ถ้าทฤษฏีนี้เป็นจริง สิ่งที่เราต้องทำคือรอคอย



ในปี ค.ศ. 1974 สตีเฟน ฮอว์กิง ได้สร้างทฤษฎีเกี่ยวกับกระบวนการที่จะทำให้หลุมดำสูญเสียมวลในที่สุด รู้จักกันในชื่อ การแผ่รังสีฮอว์กิง สร้างจากปรากฎการณ์ที่ได้รับการพิสูจน์แล้ว เรียกว่า ความผันผวนของควอนตัมในสุญญากาศ ตามหลักกลศาสตร์ควอนตัมแล้ว ณ เวลาหนึ่งในอวกาศเวลา ผันแปรสภาพพลังงานได้หลายรูปแบบ การผันแปรนี้ควบคุมโดยการการเกิด และทำลายอย่างต่อเนื่อง ของคู่สสารเสมือน ซึ่งประกอบไปด้วยอนุภาคและปฏิยานุภาค โดยปกติสองอนุภาคจะปะทะ และทำลายกันทันทีหลังจากก่อตัว คงพลังงานทั้งหมดไว้ แต่เกิดอะไรขึ้นเมื่อสองอนุภาคก่อตัว ณ ขอบฟ้าเหตุการณ์ ถ้าคู่สสารอยู่ในจุดที่เหมาะสม หนึ่งในอนุภาคจะหลุดหนีจากแรงดึงดูดของหลุมดำ ขณะที่อีกอนุภาคถูกดูดกลืนไป จากนั้นจะทำลายอนุภาคตรงข้าม ภายในขอบฟ้าเหตุการณ์ของหลุมดำ ซึ่งจะลดมวลของหลุมดำลง ขณะเดียวกัน ในมุมของผู้สังเกตการณ์ จะดูเหมือนว่าหลุมดำได้ปล่อยอนุภาคออกมา

ดังนั้น หากหลุมดำ ยังคงดูดกลืนสสารและพลังงานเพิ่ม มันจะยังคงแผ่อนุภาคออกมา ทีละน้อยอย่างช้า ๆ ช้าแค่ไหนหรือ ฟิสิกส์แขนงหนึ่งที่เรียกว่า อุณหพลศาสตร์ของหลุมดำ ได้ให้คำตอบเราไว้ เมื่อวัตถุทั่วไปหรือวัตถุท้องฟ้า ปล่อยพลังงานสู่สภาพแวดล้อมของพวกมัน เรารับรู้ได้เป็นความร้อน และเราสามารถใช้พลังงานที่ปล่อยออกมานั้น เพื่อวัดอุณหภูมิของมัน อุณหพลศาสตร์ของหลุมดำ เสนอว่าเราสามารถหาค่า "อุณหภูมิ" ของหลุมดำได้เช่นกัน ทฤษฎีคือยิ่งหลุมดำใหญ่แค่ไหน อุณหภูมิของมันยิ่งน้อยลงเท่านั้น หลุมดำที่ใหญ่ที่สุดในเอกภพ จะมีอุณภูมิ 10 ยกกำลัง -17 เคลวิน ใกล้เคียงกับอุณหภูมิศูนย์สัมบูรณ์ ในขณะเดียวกันหลุมดำที่มีมวล ขนาดเท่าดาวเคราะห์น้อยเวสตา จะมีอุณหภูมิเกือบ 200 องศาเซลเซียส ตามการปล่อยพลังงานจำนวนมากแบบรังสีฮอว์กิง สู่สภาพแวดล้อมที่หนาวเย็น

ยิ่งหลุมดำมีขนาดเล็กเท่าไหร่ ความร้อนที่เผาผลาญยิ่งมากขึ้น และจะเผาผลาญพลังงานจนหมดเร็วขึ้นเท่านั้น เร็วแค่ไหนหรือ อย่ารอเลย อย่างแรก หลุมดำส่วนใหญ่เพิ่มมวล หรือดูดกลืนสสารพลังงาน เร็วกว่าเวลาที่พวกมันปล่อยรังสีฮอว์กิง แต่ถึงแม้หลุมดำที่มีมวลขนาดเท่าดวงอาทิตย์ จะหยุดเพิ่มมวล มันจะใช้เวลาถึง 10 ยกกำลัง 67 ปี ยาวนานกว่าอายุของเอกภพในปัจจุบัน ในการปล่อยพลังงานจนหมด เมื่อหลุมดำมีมวลถึง 230 เมตริกตัน มันจะมีอายุอยู่แค่อีกหนึ่งวินาที ในวินาทีสุดท้ายนั้น ขอบฟ้าเหตุการณ์ของมันจะมีขนาดเล็กมาก จนกระทั่งมันปล่อยพลังงานทั้งหมดกลับสู่อวกาศ และถึงแม้จะไม่เคยมีการสำรวจ การปล่อยรังสีฮอว์กิงโดยตรง

นักวิทยาศาสตร์หลายคนเชื่อว่า แสงวาบของรังสีแกมมาจำนวนหนึ่งที่ตวรจพบบนท้องฟ้า จริง ๆ แล้วคือร่องรอยของช่วงเวลาสุดท้าย ของหลุมดำขนาดเล็กที่เพิ่งก่อตัวในช่วงแรก ๆ ในที่สุดแล้ว ในอนาคตอันยาวไกลเกินกว่าจะนึกถึง เอกภพอาจกลายเป็นแค่ที่มืดอันหนาวเหน็บ แต่หากสตีเฟน ฮอว์กิงพูดถูก ก่อนจะเป็นเช่นนั้น หลุมดำทึบน่ากลัวทั้งหลายนี้ จะจบชีวิตของมันในความสว่างโชติช่วง

สัตว์มีพิษ ไวรัสอีโบลา เอเลี่ยนสปีชี่ส์
กำเนิดจักรวาล กำเนิดดวงอาทิตย์ ระบบสุริยะจักรวาล
ปริศนาของจักรวาล การเดินทางข้ามกาลเวลา สสารและปฏิสสาร
สิ่งมีชีวิตบนดาวอังคาร บิ๊กแบงคืออะไร สัตว์ใกล้สูญพันธุ์
สัตว์น้ำแปลก ปลาแองเกลอร์ สัตว์ดูดเลือด
อันดับงูสวยงาม อนาคอนด้า ตัวอ่อนปลาฉลาม
เห็ดมีพิษ ภัยของยาไอซ์ คลื่นยักษ์สึนามิ
กัญชาปลอดภัย ไวรัสอีโบลา ปรสิตที่น่ากลัว
สาเหตุสึนามิ ทำไมผมร่วง สงครามซีเรีย
ทำลายหลุมดำ โลกของเรา กระแสน้ำทะเล
วิธีทำลายเอกภพ กลไกวิวัฒนาการ ระบบภูมิคุ้มกัน
กษัตริย์เกาหลี จักรพรรดิกวางสี จักรพรรดิปูยี
ตำนานอโดนิส โจนออฟอาร์ค มู่กุ้ยอิง
จักรพรรดิเนโร พระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 อับราฮัม ลินคอล์น
พระเจ้าซุกจง มาตาฮารี เจ้าฟ้าหญิงบุญรอด
ตำนานธอร์ นิกิต้า ครุสชอฟ สงครามเกาหลี
กำแพงเมืองจีน อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ พระนางเลือดขาว
อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ สตีเฟน ฮอว์คิง ลีโอ ตอลสตอย
สตีฟ จ็อบส์ เจ้าพระยาวิชเยนทร์ พระนางมัสสุหรี


ระบบภูมิคุ้มกันร่างกายของคนเราทำงานอย่างไร

ชีวิตคุณถูกโจมตีทุกวินาที แบคทีเรีย ไวรัส เห็ดรานับล้านๆ พยายามเปลี่ยนคุณให้เป็นบ้านของพวกมัน เพราะฉะนั้นร่างกายของเราจึงต้องพัฒนากองทัพที่เล็กแต่ซับซ้อน เต็มไปด้วย ยาม ทหาร หน่วยข่าวกรอง โรงงานอาวุธ และผู้ส่งสาร เพื่อปกป้องคุณไม่ให้... เอ่อ ตาย เราจะแบ่งระบบภูมิคุ้มกันออกเป็น 12 งาน เช่น ฆ่าศัตรู สื่อสาร ฯลฯ และเซลล์ 21 ประเภท กองกำลังโปรตีนอีก 2 ชนิต เซลล์แต่ละเซลล์มีหน้าที่ได้สูงสุด 4 หน้าที่ ลองเพิ่มความสัมพันธ์ระหว่างกันดู ทีนี้เรามาลองทำให้มันเข้าใจง่ายขึ้นกันดีกว่า

เริ่มแรก เราจะกำหนดสีให้แต่ละหน้าที่ เติมสีให้เซลล์ต่างๆ สีตรงกลางแสดงถึงหน้าที่หลักของเซลล์ ส่วนสีรอบๆคือหน้าที่รองลงมา ระบบภูมิคุ้มกันโดยรวมจะมีหน้าตาประมาณนี้... และความสัมพันธ์เช่นนี้ เป็นความวุ่นวายที่สุดยอดจริงๆเลยใช่ไหม? เราจะพูดถึงเพียงเซลล์พวกนี้ เกิดอะไรขึ้นเมื่อมีอาการติดเชื้อ วันที่สวยงามวันนึง อยู่ดีๆตะปูเก่าก็ปรากฏขึ้น แล้วคุณก็ดันไปโดนมันทิ่มเข้าให้ แนวป้องกันแรกของระบบภูมิคุ้มกันคุณคือผิวหนัง แบคทีเรียโดยรอบฉวยโอกาสเข้าไปในแผลของคุณ พวกมันขยายจำนวนขึ้น 2 เท่าตัวทุกๆ 20 นาทีโดยใช้สารอาหารในร่างกาย ตอนแรก มันยังน้อยเกินไปกว่าที่เราจะรู้ แต่เมื่อมันมีจำนวนมากจนถึงจุดๆหนึ่ง มันพวกมันเริ่มเปลี่ยนพฤติกรรมมาทำร้ายร่างกายเราโดยเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมรอบตัว ระบบภูมิคุ้มกันต้องหยุดมันโดยเร็วที่สุด ในลำดับแรก เซลล์ยามหรือที่รู้จักในชื่อมาโครฟาจ พวกมันเป็นเซลล์ขนาดใหญ่ ทำหน้าที่ปกป้องทุกๆขอบเขตของร่างกาย โดยส่วนใหญ่แล้ว พวกมันเพียงอย่างเดียวก็สามารถจัดการการโจมตีได้ เพราะแต่ละตัวสามารถกินผู้บุกรุกได้มากถึง 100 ตัว มันกินผู้บุกรุกทั้งตัว จับพวกมันไว้ในเยื่อหุ้มเซลล์



หลังจากนั้นเอ็นไซม์จะทำหน้าที่จัดการเหล่าผู้บุกรุก นอกจากนั้น เซลล์ยามยังสามารถสั่งให้หลอดเลือดปล่อยน้ำเข้าสู่ สนามรบ เพื่อให้มันต่อสู้ได้ง่ายขึ้น ที่แผลของคุณบวมก็เพราะเหตุผลนี้ เมื่อมาโครฟาจต่อสู้นานเกินไป พวกมันจะเรียกกองหนุนโดยการปล่อยโปรตีนที่ทำหน้าที่เหมือนม้าเร็ว บอกถึงตำแหน่งและความเร่งด่วน นิวโทรฟิลจะออกจากงานลาดตะเวนปกติในเลือด และเข้าสู่สนามรบ พวกมันบ้าระห่ำขนาดที่ฆ่าเซลล์ดีของเราไปด้วย นอกจากนั้น มันยังสร้างแนวป้องกันที่จับและฆ่าแบคทีเรีย พวกมันอันตรายมาก เมื่อผ่านไป 5 วัน มันจะฆ่าตัวตายเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายต่อร่างกายมากเกินไป ถ้านี่ยังไม่เพียงพอต่อการหยุดผู้บุกรุก มันสมองของระบบภูมิคุ้มกันจะเริ่มทำงาน เดนไดรท์เซลล์ตอบรับสัญญาณของทหาร และเริ่มเก็บตัวอย่างของศัตรู พวกมันทำลายศัตรูเป็นชิ้นๆ และนำชิ้นส่วนเหล่านั้นไว้ที่ผิวนอกสุดของมัน

ถึงตอนนี้เดนไดรท์ต้องตัดสินใจว่าจะทำอะไรสักอย่าง ควรจะเรียกกองกำลังแอนตี้ไวรัส ที่กำจัดเซลล์ที่ติดเชื้อ หรือกองทัพทหารนักฆ่าแบคทีเรียดี? ในกรณีนี้ กองกำลังต่อต้านแบคทีเรียเป็นทางเลือกที่ถูกต้อง มันเดินทางไปที่ต่อมน้ำเหลืองที่ใกล้ที่สุด ใช้เวลาประมาณ 1 วัน ในนี้ เซลล์ทีเฮลเปอร์และคิลเลอร์กว่าพันล้านตัวรอที่จะถูกกระตุ้นอยู่ เมื่อเซลล์ทีเกิด พวกมันผ่านกระบวนการฝึกที่ซับซ้อนและยากลำบาก มีเพียง 1/4 ที่รอดมาได้ เซลล์ที่รอดมาได้จะมีการปรับแต่งพิเศษไว้ เดนไดรท์เซลล์จะทำหน้าที่หาเซลล์ทีที่ถูกปรับแต่งพิเศษอย่างที่ถูกต้อง เดนไดรท์หาเซลล์ทีที่มีส่วนประกอบของผู้บุกรุก ที่ตัวมันนำมาไว้ที่เยื่อหุ้มเซลล์ เมื่อมันหาพบ กระบวนการลูกโซ่ก็เกิดขึ้น เซลล์ทีเฮลเปอร์เริ่มทำงาน และเพิ่มจำนวนเป็นพันๆตัว

บางส่วนกลายเป็นเซลล์ทีเมมโมรี่ ที่จะอยู่ในต่อมน้ำเหลืองและทำให้คุณมีภูมิคุ้มกันต่อผู้บุกรุกรายนี้ต่อไป บางส่วนเดินทางสู่สนามรบ และส่วนที่สามเดินทางเข้าสู่ศูนย์กลางของต่อมน้ำเหลือง เพื่อเปิดโรงงานผลิตอาวุธอันทรงพลัง เช่นเดียวกันกับเซลล์ที พวกมันเกิดมาพร้อมการปรับแต่งพิเศษ เมื่อเซลล์บี และเซลล์ทีที่มีการปรับแต่งเหมือนกันพบกัน หายนะของผู้บุกรุกก็เกิดขึ้น เซลล์บีแบ่งตัวด้วยความรวดเร็ว และสร้างอาวุธเล็กๆเป็นล้านๆตัว พวกมันทำงานหนัก และจะเหนื่อยตายอย่างรวดเร็ว เซลล์ทีเฮลเปอร์มีบทบาทสำคัญอีกอย่าง คือการกระตุ้นโรงงานเหล่านี้ โดยบอกว่า: "อย่าพึ่งตายนะ เรายังต้องการนายอยู่ สู้ๆ!"

การที่โรงงานต้องตายเมื่อการติดเชื้อสิ้นสุดนั้น ก็เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ร่างกายเปลืองพลังงานหรือทำร้ายตัวเองนั้น เอง ว่าแต่ เซลล์บีผลิตอะไรออกมาล่ะ? คุณน่าจะเคยได้ยินมันมาบ้างแล้ว แอนตี้บอดี้ โปรตีนเล็กๆ ที่ถูกสร้างให้เกาะบนพิ้นผิวของผู้บุกรุกแบบเฉพาะเจาะจง แอนดี้บอดี้มีหลายชนิด และมีหน้าที่แตกต่างกันออกไป เซลล์ทีเฮลเปอร์จะบอกพลาสม่าเซลล์ว่าชนิตไหนที่มันต้องการมากที่สุด เพื่อสู้กับผู้บุกรุกชนิตนี้ แอนตี้บอดี้ล้านๆตัวเข้าสู่กระแสเลือด และกระจายไปทั่วร่างกาย ณ บริเวณที่ติดเชื้อ สถานการณ์เลวร้ายมาก เหล่าผู้บุกรุกเพิ่มจำนวนหลายเท่า และเริ่มทำร้ายร่างกาย เซลล์ยามและทหารต่อสู้อย่างหนักหน่วงและสละชีพในสนามรบ

เซลล์ทีเฮลเปอร์ทำหน้าที่สนับสนุน โดยการสั่งให้พวกมันต่อสู้รุนแรงขึ้น และมีชีวิตให้นานขึ้น แต่ถ้าไม่มีการช่วยเหลือ พวกมันก็ไม่สามารถเอาชนะแบคทีเรียได้ แต่ตอนนี้ แนวป้องกันที่สองได้มาถึงแล้ว แอนดี้บอดี้นับพันล้าน ถล่มเข้าสู่สนามรบ และเข้าโจมตีผู้บุกรุก ทำให้ผู้บุกรุกทำงานต่อไม่ได้ หรือฆ่ามันทิ้ง พวกมันยังทำให้แบคทีเรียหยุดนิ่ง เป็นเป้านิ่งให้โจมตี อีกด้านของแอนตี้บอดี้ ถูกสร้างมาเพื่อต่อเข้ากับเซลล์นักฆ่า เพื่อให้ฆ่าศัตรูได้ง่ายขึ้น มาโครฟาจจะกินได้เก่งขึ้นมาก หากมีแอนตี้บอดี้ติดอยู่กับแบคทีเรีย ตอนนี้เกมเปลี่ยน การทำงานแบบเป็นทีมทำให้ภาวะติดเชื้อสิ้นสุด



ถึงจุดๆนี้ เซลล์มากกว่าล้านตัวตายลง ไม่ต้องเป็นห่วงไป เราสร้างมันใหม่ได้อย่างรวดเร็ว ในตอนนี้เซลล์คุ้มกันหมดประโยชน์ ถ้าไม่มีสัญญาณให้ทำงานต่อ พวกมันฆ่าตัวตาย เพื่อไม่ให้สิ้นเปลืองทรัพยากรไปมากกว่านี้ แต่บางส่วนยังคงทำงานอยู่ เซลล์เมมโมรี่ ถ้าศัตรูบุกเข้ามาได้อีกครั้ง พวกมันพร้อมที่จะฆ่าพวกมันก่อนที่คุณจะสังเกตเห็น นี่คือการอธิบายบางส่วนของระบบภูมิคุ้มกันแบบง่ายๆ คุณพอจะนึกออกไหมว่ามันซ้ำซ้อนเพียงใด เรายังไม่ได้กล่าวถึงกองกำลังอื่น หรือสารเคมีใดๆเลย ชีวิตมันช่างซับซ้อนนัก แต่ถ้าเรามีเวลาพอที่จะเข้าใจมัน คุณจะมีเรื่องให้สงสัยได้ไม่มีที่สิ้นสุด และชื่นชมความสวยงามที่ยิ่งใหญ่นี้

ที่มา Kurzgesagt – In a Nutshell Youtube Channel

สัตว์มีพิษ ไวรัสอีโบลา เอเลี่ยนสปีชี่ส์
กำเนิดจักรวาล กำเนิดดวงอาทิตย์ ระบบสุริยะจักรวาล
ปริศนาของจักรวาล การเดินทางข้ามกาลเวลา สสารและปฏิสสาร
สิ่งมีชีวิตบนดาวอังคาร บิ๊กแบงคืออะไร สัตว์ใกล้สูญพันธุ์
สัตว์น้ำแปลก ปลาแองเกลอร์ สัตว์ดูดเลือด
อันดับงูสวยงาม อนาคอนด้า ตัวอ่อนปลาฉลาม
เห็ดมีพิษ ภัยของยาไอซ์ คลื่นยักษ์สึนามิ
กัญชาปลอดภัย ไวรัสอีโบลา ปรสิตที่น่ากลัว
สาเหตุสึนามิ ทำไมผมร่วง สงครามซีเรีย
ทำลายหลุมดำ โลกของเรา กระแสน้ำทะเล
วิธีทำลายเอกภพ กลไกวิวัฒนาการ ระบบภูมิคุ้มกัน
กษัตริย์เกาหลี จักรพรรดิกวางสี จักรพรรดิปูยี
ตำนานอโดนิส โจนออฟอาร์ค มู่กุ้ยอิง
จักรพรรดิเนโร พระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 อับราฮัม ลินคอล์น
พระเจ้าซุกจง มาตาฮารี เจ้าฟ้าหญิงบุญรอด
ตำนานธอร์ นิกิต้า ครุสชอฟ สงครามเกาหลี
กำแพงเมืองจีน อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ พระนางเลือดขาว
อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ สตีเฟน ฮอว์คิง ลีโอ ตอลสตอย
สตีฟ จ็อบส์ เจ้าพระยาวิชเยนทร์ พระนางมัสสุหรี

มารู้จักโลกของเรากันเถอะ

โลก บ้านของสิ่งมีชีวิตทุกชนิดที่เรารู้จัก ในจักรวาลแห่งนี้ โลกมีอายุเป็น 1 ใน 3 ของจักรวาล ยอมรับเถอะ ว่าโลกเป็นสิ่งที่สวยงามเสียจริง แกนกลางที่เป็นโลหะหนักบดละลายเข้าด้วยกัน เปลือกที่บางกว่ามาก ห่อหุ้มอยู่ในชั้นบางสุดที่เต็มไปด้วยอากาศสำหรับหายใจ มหาสมุทรอันกว้างใหญ่ ที่ราบอันอุดมสมบูรณ์ ภูเขาที่งดงาม แม่น้ำ ลำธาร มหาสมุทร และน้ำบาดาล โคจรอยู่รอบพระอาทิตย์ที่ให้ความอบอุ่น และพลังงานแก่พวกเรา ว่าแต่ โลกเราเกิดขึ้นได้อย่างไร แล้วมันประกอบไปด้วยอะไรบ้างล่ะ?

4.6 พันล้านปีก่อน โลกกำเนิดขึ้นมาจากเศษของดาวฤกษ์ที่ดับแล้ว รวมตัวกันเกิดเป็นกลุ่มก้อนของก๊าซสกปรก บริเวณแก่นของก้อนของก๊าซได้ควบแน่นขึ้น และเกิดเป็น "จานพอกพูนมวล" อนุภาคเล็กๆเริ่มเกาะกลุ่มกัน กลายเป็นวัตถุที่ใหญ่ขึ้น ใหญ่ขึ้น จนเกิดเป็นก้อนวัตถุที่เราเรียกมันว่าดาวเคราะห์ในปัจจุบัน กระบวนการนี้ใช้เวลา 10 - 20 ล้านปี ซึ่งเราก็ยังไม่เข้าใจมันมากนัก ในช่วงเวลาถัดมา ระบบสุริยะยังใหม่และวุ่นวายมาก วัตถุขนาดใหญ่ใกล้เคียงกับขนาดของดาวอังคาร ปะทะเข้ากับบ้านของเรา การปะทะนั้นรุนแรงมาก ถ้าวัตถุนั้นใหญ่กว่านี้ มันอาจจะทำลายโลกไปแล้วก็ได้ ชิ้นส่วนของโลกโดนชน และกระจัดกระจายโคจรรอบโลก เกิดกลายเป็นพระจันทร์ ซึ่งเป็นวัตถุโคจรที่ใหญ่ที่สุดในระบบสุริยะ เมื่อเทียบกับดาวเคราะห์ที่มันโคจรอยู่



ในเวลานั้น โลกเปรียบเหมือนนรกที่ร้อนจัด ถูกอุกกาบาตพุ่งเข้าใส่เป็นประจำ เต็มไปด้วยทะเลลาวา และชั้น บรรยากาศที่เป็นพิษ แต่แล้วการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ก็เกิดขึ้น โลกเย็นตัวลง น้ำจากภายในโลกเริ่มผุดสู่พื้นผิว ทำให้เกิดฝนตก กลับกลายเป็นไออีกครั้ง และรวมตัวกันเป็นเมฆ อุกกาบาตนับล้าน ได้นำน้ำเข้าสู่ดาวเคราะห์ของเรา น้ำทั้งหมดบนโลกมีปริมาตรประมาณเท่านี้ เมื่อเปรียบเทียบกับโลก ปัจจุบันพื้นผิวของโลกเป็นน้ำ 71% และแผ่นดิน 29% 97.5% เป็นน้ำเค็ม มีเพียง 2.5% เท่านั้นที่เป็นน้ำจืด น้ำจืด 69% เป็นน้ำแข็งและหิมะ 30% เป็นน้ำบาดาล และมีเพียง 1% เท่านั้นคือน้ำที่เหลืออยู่บนผิวโลก ถึงแม้ว่าส่วนเล็กๆนี้ส่วนใหญ๋จะเป็นน้ำแข็ง ส่วนนึงของมันคือแม่น้ำและทะเลสาบ และส่วนที่เล็กกว่าคือน้ำที่อยู่ในสิ่งที่ชีวิต

ดีจริงๆที่โลกเราเย็นตัวลง บริเวณพิ้นผิวเกิดเปลือกบางๆ แต่ภายในที่เป็นหินแข็ง ยังคงหมุนอยู่ ทำให้เกิดการเคลื่นที่ของแผ่นด้านบน และทำให้แตกออกจากกัน กระบวนการนี้เรียกว่า "การแปรสัณฐานแผ่นธรณีภาค" ซึ่งก็ยังเกิดขึ้นอยู่ในปัจจุบัน สำหรับตอนนี้ แค่เข้าใจว่าเปลือกโลกประกอบไปด้วย แผ่นขนาดใหญ่ที่เคลื่อนที่ไปรอบๆ เมื่อมันเจอกัน มันจะแตกตัวและนูนออกมาเป็นภูเขาใหญ่ หรือพุ่งลงไปด้านล่าง ลึกเข้าไปในโลก เกิดเป็นร่องลึกก้นสมุทร นั่นคือที่มาของบริเวณที่สูงที่สุดของโลก ยอดเขาเอเวอเรส และบริเวณที่ลึกที่สุด ร่องลึกก้นสมุทรมาเรียนา ได้เกิดขึ้น

ในมุมมองของเรา ภูเขาและร่องสมุทรช่างใหญ่โตอะไรเช่นนี้ แต่ถ้าเราลองตัดโลกตามแนวขวาง เราจะเห็นว่าพวกมันเล็กเพียงใด ส่วนที่พวกเรายืนอยู่ของส่วนเปลือกโลก มีความหนาประมาณ 50 กิโลเมตร แต่มันมีความหนาได้ตั้งแต่ 5 จนถึง 70 กิโลเมตร แล้วก็หลุมที่ลึกที่สุดที่ถูกเจาะโดยมนุษย์ ลึก 12.262 กิโลเมตร ลึกลงไปใต้เปลือกโลก คือส่วนของแมนเทิล (เนื้อโลก) ซึ่งเป็นเปลือกที่ประกอบไปด้วยหินกลุ่มซิลิกอน มีความหนาราวๆ 2,900 กิโลเมตร แมนเทิลแบ่งเป็นส่วนบน และส่วนล่าง แมนเทิลส่วนบนมีการแบ่งขอบเขตไปอีก ส่วนบนที่หนืดและรองรับเปลือกโลกด้านบน เรียกว่า "ธรณีภาค" นอกนั้นเราเรียกมันว่า "ฐานธรณีภาค" ซึ่งเป็นส่วนที่เคลื่อนไหวน้อยกว่า และหนืดมากกว่า ส่วนของแมนเทิลล่างนั้น ลงไปถึงแก่นโลกชั้นนอก แก่นโลกชั้นนอกคือชั้นของเหล็กและนิกเกิลเหลว มีความหนาประมาณ 2,266 กิโลเมตร อุณหภูมิตั้งแต่ 4,000 °C ไปจนถึง 5,700 °C และตรงกลางของโลก คือแก่นโลกส่วนใน เกือบจะเป็นของแข็งทั้งหมด ลูกบอลขนาดใหญ่ของอัลลอยเหล็กและนิกเกิล รัศมีราว 1,200 กิโลเมตร ขนาดประมาณ 70% ของขนาดของพระจันทร์ และอุณหภูมิใกล้เคียงพื้นผิวของดวงอาทิตย์ มันขยายตัวช้าๆ ด้วยอัตรา 1 มิลลิเมตรต่อปี ลองมาจัดเรียงให้เห็นชัดๆ ส่วนเล็กๆที่เกิดจากแมนเทิลเหลวที่ตกผลึก คือที่ๆเราอาศัยอยู่ ถัดมาคือสนามแม่เหล็กโลก

ปรากฏการณ์ที่มองไม่เห็น ที่เบี่ยงเบนอนุภาคพลังงานสูงจากดวงอาทิตย์และแหล่งอื่นๆ ทำให้เกิดสภาพแวดล้อมที่เสถียร และทำให้เกิดรังสีเล็กน้อยกับโลก ว่าแต่ มันเกิดขึ้นได้ยังไง? จริงๆแล้ว เรายังมีความรู้น้อยนิดเกี่ยวกับมัน เรารู้ว่ามันต้องมีอะไรเกี่ยวข้องกับแก่นโลก ในชั้นของเหล็กเหล่านี้ กระแสไฟฟ้าขนาดใหญ่เคลื่อนตัวในรูปแบบที่ซับซ้อน ก่อให้เกิดสนามแม่เหล็ก ซึ่งปรับสภาพให้ตัวเองเสถียรตามกฏของพลศาสตร์ไฟฟ้า ระบบทั้งหมดนี้ถูกเรียกว่า "ไดนาโม" แต่อย่าให้เราหลอกคุณว่าเราไขปริศนาออกแล้ว



พูดถึงข้อมูลที่น่าอัศจรรย์แล้ว เรารู้อะไรบ้างเกี่ยวกับอากาศรอบตัวเราล่ะ? โดยปริมาตร อากาศแห้งมีองค์ประกอบเป็นไนโตรเจนเป็นส่วนใหญ่ รองลงมาคืออ๊อกซิเจน อาร์กอน คาร์บอน ไอน้ำในบริมาณที่หลากหลาย และก๊าซอื่นๆอีกเล็กน้อย มนุษย์เราขึ้นอยู่กับส่วนที่อยู่ล่างสุดของชั้นบรรยากาศโลก โทรโพสเฟียร์ - ส่วนที่เกิดสภาพอากาศ หนาเฉลี่ยราว 12 กิโลเมตร เหนือไปกว่านั้นคือสตราโทสเฟียร์ ชั้นที่โอโซนปกป้องเรา จากแสงอันตรายที่มาจากดาวอาทิตย์ เหนือไปกว่านั้นคือเมโซสฟียร์ - ที่ๆเย็นที่สุดในโลก ด้วยอุณหภูมิเฉลี่ยที่ -85 °C ที่ความสูงราว 80 กิโลเมตรขึ้นไป คือชั้นของเทอร์มอสเฟียร์ ส่วนที่แบ่งโลกกับอวกาศไม่ได้มีขอบเขตที่ชัดเจนนัก แต่มนุษย์ตัดสินใจว่าอวกาศเริ่มต้นตรงนี้ ที่ความสูง 100 กิโลเมตร โลกหยุดและอวกาศเริ่ม แต่ชั้นบรรยากาศยังคงกว้างออกไปนิดหนึ่ง ในส่วนนี้เราจะพบกับไอโอโนสเฟียร์ แสงเหนือ (ออโรร่า) และสถานีอวกาศนานาชาติ (ISS) และชั้นที่อยู่ไกลสุดคือเอกโซสเฟียร์ ไกลไปจนถึง 10,000 กิโลเมตร มันรวมเข้ากับอวกาศ จนถึงไม่มีชั้นบรรยากาศเหลืออยู่เลย อะตอมและโมเลกุลในบริเวณนี้อยู่ห่างไกลกันมาก จนมันสามารถเดินทางร่วมหลายร้อยกิโลเมตร โดยที่ไม่ชนกันเลย

มนุษย์เรา ในร่างแบบปัจจุบันนี้ เกิดขึ้นราว 200,000 ปีที่แล้ว นั่นเป็นเพียง 0.004% บนหน้าประวัติศาสตร์ของโลกนี้ ไม่ค่อยจะนานเลย แต่เราอยู่ที่นี้ อยู่บนชั้นบางๆ บนหินเปียกๆ เล็ก เราเรียกหินนี้ว่า โลก มันเป็นผลงานสร้างสรรค์ที่ยิ่งใหญ่ของจักรวาล ผลลัพธ์ของกระบวนการสร้างและทำลายครั้งแล้ว ครั้งเล่า ที่เกิดขึ้นทุกที่ ทุกเวลาในจักรวาล ด้วยความช่วยเหลือของโอกาส กฏของจักรวาล และเหตุการณ์สุ่มๆ พวกเรา โชคดีจริงๆ นะ

ที่มา Kurzgesagt – In a Nutshell Youtube Channel

สัตว์มีพิษ ไวรัสอีโบลา เอเลี่ยนสปีชี่ส์
กำเนิดจักรวาล กำเนิดดวงอาทิตย์ ระบบสุริยะจักรวาล
ปริศนาของจักรวาล การเดินทางข้ามกาลเวลา สสารและปฏิสสาร
สิ่งมีชีวิตบนดาวอังคาร บิ๊กแบงคืออะไร สัตว์ใกล้สูญพันธุ์
สัตว์น้ำแปลก ปลาแองเกลอร์ สัตว์ดูดเลือด
อันดับงูสวยงาม อนาคอนด้า ตัวอ่อนปลาฉลาม
เห็ดมีพิษ ภัยของยาไอซ์ คลื่นยักษ์สึนามิ
กัญชาปลอดภัย ไวรัสอีโบลา ปรสิตที่น่ากลัว
สาเหตุสึนามิ ทำไมผมร่วง สงครามซีเรีย
ทำลายหลุมดำ โลกของเรา กระแสน้ำทะเล
วิธีทำลายเอกภพ กลไกวิวัฒนาการ ระบบภูมิคุ้มกัน
กษัตริย์เกาหลี จักรพรรดิกวางสี จักรพรรดิปูยี
ตำนานอโดนิส โจนออฟอาร์ค มู่กุ้ยอิง
จักรพรรดิเนโร พระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 อับราฮัม ลินคอล์น
พระเจ้าซุกจง มาตาฮารี เจ้าฟ้าหญิงบุญรอด
ตำนานธอร์ นิกิต้า ครุสชอฟ สงครามเกาหลี
กำแพงเมืองจีน อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ พระนางเลือดขาว
อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ สตีเฟน ฮอว์คิง ลีโอ ตอลสตอย
สตีฟ จ็อบส์ เจ้าพระยาวิชเยนทร์ พระนางมัสสุหรี

กระแสน้ำมหาสมุทรและระบบลม

สายพานลำเลียงแห่งมหาสมุทรและกระแสน้ำอุ่น (Gulf Stream) กระแสน้ำมหาสมุทรมีอิทธิพลโดยตรงต่อชีวิตของเรา มันกำหนดสภาพอากาศ ภูมิอากาศ และอีกหลายอย่างของเรา กระแสน้ำมหาสมุทรและระบบลม นำพาความร้อนจากเส้นศูนย์สูตรมาสู่ขั้วโลก และกระบวนการคล้ายกับเครื่องจักรขนาดใหญ่สำหรับภูมิอากาศโลก ในมหาสมุทร มีกระแสน้ำจำนวนมาก สิ่งที่เรียกว่า สายพานลำเลียงแห่งมหาสมุทร คือสิ่งที่สำคัญต่อภูมิอากาศของเรา คำๆ นี้อธิบายการรวบตัวกันของกระแสน้ำ ซึ่งมีผลคือ 4 ใน 5 ของมหาสมุทรโลกแลกเปลี่ยนน้ำระหว่างกัน พวกมันก่อให้เกิดระบบหมุนเวียนระดับโลก สายพานลำเลียงถูกเรียกว่า การไหลเวียนของเทอร์โมฮาไลน์ (Thermohaline Circulation) คำว่า "เทอร์โม" อ้างอิงถึงอุณหภูมิ และคำว่า "ฮาไลน์" สำหรับส่วนที่เป็นเกลือของน้ำ ทั้งสองอย่างกำหนดความหนาแน่นของน้ำ



ในระหว่างที่มวลของน้ำถูกเคลื่อนที่บางส่วนโดยลม แต่โดยหลักแล้วความแตกต่างของความหนาแน่นในมหาสมุทรโลก มีส่วนในการเคลื่อนไหวมากกว่า น้ำอุ่นมีความหนาแน่นน้อยกว่าและลอยขึ้นในขณะที่น้ำเย็นจมลง ความหนาแน่นของน้ำมากขึ้นโดยการที่มีเกลือมากขึ้นด้วย ณ เส้นศูนย์สูตร ความร้อนจากดวงอาทิตย์มีความแรงมากกว่า ซึ่งเป็นผลให้มีการระเหยจำนวนมากและทำให้เกลือให้น้ำมีมากขึ้น และนั่นคือที่ที่กระแสน้ำอุ่นเริ่มต้นขึ้น กระแสน้ำอุ่นสำคัญมากต่อภูมิอากาศยุโรป ความยาวถึง 10,000 กิโลเมตรทำให้นี่คือกระแสน้ำที่ยาวและเร็วที่สุดบนโลก และมันอุ่นมากๆ ที่ความเร็วประมาณ 2 เมตร ต่อ วินาที จะนำพาน้ำ 100 ล้านลูกบาศก์เมตร ต่อ วินาที ไปยังยุโรป และทำให้เกิดลมพัดจากตะวันออกเฉียงใต้ หรือ ลมค้า (Trade Wind) ผลักดันผิวน้ำอุ่นไปสู่ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ไปสู่อ่าวเม็กซิโก ที่ๆ อุณหภูมิสูงขึ้นไปถึง 30 องศา เซลเซียส ซึ่งเป็นจุดเลี้ยวของโลกและลมจากทิศตะวันตกจะพากระแสน้ำอุ่นสู่ยุโรปและแยกมันออก ส่วนหนึ่งไหลไปทางใต้ อีกส่วนไปทางตะวันออก สู่ กระแสน้ำคานารี (Canary Current) และส่วนที่สามไหลไปทางเหนือ ที่ซึ่งมันจะปล่อยความร้อนจำนวนมาก ไปทางชั้นบรรยากาศ ทึซึ่งกระน้ำแอตแลนติกเหนือ (North Atlantic Current)

น้ำจะเย็นขึ้นที่ตรงนี้ ปริมาณเกลือและความหนาแน่นจากการระหาย และจะลดลงระหว่างกรีนแลนด์, นอร์เวย์, และไอซ์แลนด์ ทึ่ซึ่งพวกเราจะพบน้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในโลก สิ่งที่เรียกว่า ปล่องไฟ (Chimneys) มีความกว้างราว 15 กิโลเมตร และน้ำตกสูงมากถึง 4 พันเมตร น้ำ 17 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวินาที หรือประมาณ 15 เท่าของปริมาณน้ำที่ถูกนำพาโดยแม่น้ำทั้งหมดในโลก สิ่งนี้สร้างน้ำวนอันทรงพลังที่ดึงเข้าน้ำใหม่ๆ ...และคือเหตุผลที่กระแสน้ำอุ่นไหลไปยังยุโรป สิ่งมีชีวิตหลากสายพันธุ์ได้ใช้กระแสน้ำอุ่นเป็นระบบขนส่งสำหรับการเดินทางของพวกมัน จากแคริบเบียนไปยังบริเวณทางเหนือ แต่มันไม่ได้เอาไปเพียงแค่สัตว์เท่านั้น ยังนำพาอากาศอุ่นปริมาณมหาศาลมากับมันด้วย

ถ้าจะสร้างความร้อนในระดับเดียวกันนี้ที่มาสู่ชายฝั่งยุโรป เราต้องการโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ถึง 1 ล้านแห่ง และนี่คือเหตุผลที่เราเรียกกระแสน้ำอุ่นว่าปั๊มความร้อน ปราศจากมันอุณหภูมิในบริเวณนี้จะเย็นอย่างมาก อย่างน้อย 5 ถึง 10 องศา แทนจะมีทุ่งหญ้าเขียวชอุ่ม เราจะมีหน้าหนาวที่ยาวนานและน้ำแข็งที่จะปกคลุมดินแดนในยุโรป ไม่กี่ปีที่ผ่านมา นักวิทยาศาสาตร์และผู้เชี่ยวชาญในสื่อได้ย้ำ การแสดงออกถึงความกลัวที่กระแสน้ำอุ่นจะหยุดไหล จากการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ เพราะถ้าขั้วโลกละลาย ประมาณเกือบในน้ำ... ...บริเวณกรีนแลนด์จะลดลง รวมถึงความหนาแน่นของมันด้วย กระแสน้ำแอตแลนติกเหนือจะไม่มีน้ำหนักเพียงพอ และมันจะไม่จมลงอย่างที่เคย



ในกรณีที่แย่ที่สุด มันจะทำให้กระแสน้ำอุ่น หรือเครื่องปั๊มความร้อนของเราหยุดลง ผู้เชี่ยวชาญด้านภูมิอากาศบางท่านคาดการณ์ว่าสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงจะสามารถชดเชยผลกระทบดังกล่าว เรารู้ว่ามันสามารถเป็นเรื่องปกติที่สภาพอากาศจะเปลี่ยนแปลง เมื่อดูการพัฒนาของโลกในไม่กี่ล้านปีที่ผ่านมา มันจะมีช่วงเวลาของยุคน้ำแข็งและยุคที่อบอุ่น ในยุคน้ำแข็งครั้งสุดท้าย น้ำท่วมที่เกิดจากน้ำแข็งละลายได้ทำลายกระแสน้ำแอตแตกติกเหนือที่น้ำความร้อนมา ทำให้ซีกโลกทางเหนือกลายเป็นน้ำแข็ง นักวิทยาศาสตร์มีความเห็นแตกต่างกันไปในเรื่องของผลของสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง ที่มีต่อสายพานลำเลียงแห่งมหาสมุทร แต่มีสิ่งหนึ่งที่มีความชัดเจน เมื่อสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง ระบบที่ซับซ้อนของกระแสมหาสมุทธและลม ซึ่งเดิมเกือบจะไม่เสถียรตั้งแต่ยุคน้ำแข็งครั้งสุดท้าย จะเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่เรายังไม่เข้าใจ
ที่มา Kurzgesagt – In a Nutshell Youtube Channel

สัตว์มีพิษ ไวรัสอีโบลา เอเลี่ยนสปีชี่ส์
กำเนิดจักรวาล กำเนิดดวงอาทิตย์ ระบบสุริยะจักรวาล
ปริศนาของจักรวาล การเดินทางข้ามกาลเวลา สสารและปฏิสสาร
สิ่งมีชีวิตบนดาวอังคาร บิ๊กแบงคืออะไร สัตว์ใกล้สูญพันธุ์
สัตว์น้ำแปลก ปลาแองเกลอร์ สัตว์ดูดเลือด
อันดับงูสวยงาม อนาคอนด้า ตัวอ่อนปลาฉลาม
เห็ดมีพิษ ภัยของยาไอซ์ คลื่นยักษ์สึนามิ
กัญชาปลอดภัย ไวรัสอีโบลา ปรสิตที่น่ากลัว
สาเหตุสึนามิ ทำไมผมร่วง สงครามซีเรีย
ทำลายหลุมดำ โลกของเรา กระแสน้ำทะเล
วิธีทำลายเอกภพ กลไกวิวัฒนาการ ระบบภูมิคุ้มกัน
กษัตริย์เกาหลี จักรพรรดิกวางสี จักรพรรดิปูยี
ตำนานอโดนิส โจนออฟอาร์ค มู่กุ้ยอิง
จักรพรรดิเนโร พระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 อับราฮัม ลินคอล์น
พระเจ้าซุกจง มาตาฮารี เจ้าฟ้าหญิงบุญรอด
ตำนานธอร์ นิกิต้า ครุสชอฟ สงครามเกาหลี
กำแพงเมืองจีน อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ พระนางเลือดขาว
อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ สตีเฟน ฮอว์คิง ลีโอ ตอลสตอย
สตีฟ จ็อบส์ เจ้าพระยาวิชเยนทร์ พระนางมัสสุหรี

เหตุการณ์ต่างๆ ผ่านกาลเวลาบนดาวโลก

เราสามารถทำความเข้าใจกับเวลาสั้นๆ ได้โดยง่าย แต่ถ้าหากเรามองไปยังช่วงเวลาที่ยาวนาน มันแทบจะเป็นไปไม่ได้ที่จะทำความเข้าใจมันทั้งหมด ถ้าเช่นนั้น เราต้องเริ่มจากจุดเล็กๆ จากนาที จากชั่วโมง จากวัน คุณอาจจะใช้เวลา 24 ที่ผ่านมาไปกับการนอนหลับ, การทำงาน, พร้อมๆ กับกาแฟสักแล้วหนึ่ง! อย่างไรก็ตาม กรุณาดูทีวีให้น้อยลง เอาล่ะ มองไปยังปี 2013 เราแทบจะไม่ทันสังเกตุเลยว่า... บอดี้การ์ดของฮิตเลอร์เสียชีวิตในวัย 96 ปี และในเดือนมิถุนายน นายเอ็ดเวิร์ด สโนเดน เปิดเผยเรื่องราวของ NSA ย้อนไปอีกสักหน่อย ศตวรรษที่ 21 ยังเริ่มต้นและกำลังจะเป็นรูปเป็นร่าง โดยเหตุการณ์ 11 กันยายน ที่นำไปสู่สงครามอิรักครั้งที่ 3 โอ้ ...และเว็บไซต์ Facebook กับ โทรศัพท์สมาร์ทโฟนได้ดึงเอาชีวิตของเราไป แต่เราพึ่งจะเริ่มต้น



ย้อนกันไปอีกหน่อย ศตวรรษที่ 20 มีเหตุการณ์สำคัญเช่นกัน หลังจาก 2 ครั้งของสงครามโลก สงครามเย็นยาวนานกินเวลาเกือบครึ่งศษวรรษ ช่วงชีวิตของคนทั่วๆ ไปอยู่ในช่วงเวลาของเหตุการณ์เหล่านี้ รวมถึงต้นกำเนิดของอินเทอร์เน็ต จุดเริ่มต้นของยุคแห่งข้อมูลข่าวสาร มนุษย์ที่อายุมากที่สุดที่ยังมีชีวิตอยู่ มิซาโอ โอกะวะ ได้เกิดในปี 1898 นั่นหมายความว่าช่วงเวลาที่เธอเกิด ... นั่นใกล้เวลาของนโปเลียน มากกว่าเวลาในยุคปัจจบัน ในช่วงเวลา 500 ปีที่ผ่านมา วิถีชีวิตมนุษย์ได้เปลี่ยนแปลงอย่างมาก การปฏิวัติอุตสาหกรรมนำไปสู่แนวคิดของคอมมิวนิสต์ ชาวไร่กลายเป็นแรงงาน และการกระจายความรู้ทำได้ง่ายมากขึ้น ทฤษฎีวิวัฒนาการเปลี่ยนแปลงมุมมองของเราต่อตัวเอง และโลกที่เราอาศัย ในช่วงเวลาไม่กี่ร้อยปีที่ผ่านมา! ช่วงศษวรรษที่ 15 มีเหตุการณ์มากมายเช่นกัน โคลัมบัสค้นพบทวีปอเมริก และเป็นช่วงเวลาล่มสบายของคอนสแตนติโนเบิลซึ่งเป็นจุดสุดท้ายของยุคกลาง ผู้คนในยุคกลางมีชีวิตกับสงครามแก่งแย่งดินแดนและเรื่องศาสนา ... แต่กาฬโรคได้คร่าชีวิตของผู้คนไปมากกว่าสงคราม โดยเอาชีวิตของชาวยุโรปไปกว่า 1 ใน 3

จนมาถึงช่วงเวลาเหล่านี้ ลองมองกลับไปดูเวลาปัจจุบันของพวกเราสิ! เวลาปัจจุบันของเราสั้นมาก ปี 2013 นั้นเล็กน้อยแทบจะมองไม่เห็น นี่คือบันทึกประวัติศาสตร์ของมนุษย์ ปิรามิดถูกสร้างราว 4500 ปีก่อน ในขณะที่ช่วงเวลารุ่งเรืองของอาณาจักรโรมันคือ 2000 ปีก่อน สำหรับชาวโรมันแล้วปิรามิดเก่าแก่สำหรับพวกเค้า เท่ากับ ที่ชาวโรมันเก่าแก่สำหรับพวกเราในปัจจุบันเลย ประวัติศาสตร์เริ่มต้นจากการบันทึก หากเป็นเช่นนั้น ก่อนหน้านี้ล่ะ ? ประมาณ 12,000 ปีก่อน การปฏิวัติด้านเกษตรได้เกิดขึ้น มนุษยชาติได้เริ่มต้นการทำกสิกรรม ซึ่งนั่นเป็นจุดเริ่มของเมืองและสังคมขนาดใหญ่ และการที่มนุษย์ได้กลายมาเป็นผู้ครอบครองโลก เริ่มจากจุดนี้นี่เอง 90,000 ปีที่แล้ว นีอันเดอร์ทัลและมนุษย์ใช้ชีวิตร่วมกันที่ยุโรป รู้ไว้ใช่ว่า : นี่คือช่วงเวลาที่ยานอวกาศรุ่นล่าสุด จะใช้ในการเดินทางไปสู่ดาวที่ใกล้ที่สุด (ไม่นับพระอาทิตย์) โฮโมซาเปียน มนุษย์ในปัจจุบันได้วิวัฒนการเมื่อ 200,000 ปีก่อน มองไปยังประวัติศาสตร์ของมนุษย์ทั้งหมด สิ่งที่เราเรียกกันว่า ศักราช ดูเหมือนจะเล็กลงไปเลยใช่ไหม ? 6 ล้านปีก่อน บรรพบุรุษของเรา... และลิงชิมแพมซีในปัจจุบันมีบรรพบุรุษเป็นสิ่งมีชีวิตอย่างเดียวกัน  และเมื่อ 2.75 ล้านปีก่อน เครื่องมือหินเป็นสิ่งที่ใช้กว้างขวาง และราว 65 ล้านปีก่อนเป็นเวลาที่ยุคไดโนเสาร์สิ้นสุดลงจากการระเบิดครั้งใหญ่ ทำให้ช่วงเวลาของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมถือกำเนิดขึ้น แต่ไดโนเสาร์ครองโลกมาเป็นเวลานานมากๆ มากกว่า 165 ล้านปี! มันนานมากๆ นั่นหมายความว่า T. Rex ที่มีชีวิตราว 65 ล้านปีก่อน... มีโอกาสที่จะดูคอนเสิร์ตของ Miley Cirus... มากกว่าที่จะเห็นสเตโกซอรัสตัวเป็นๆ ซะอีก ! ชีวิตของสัตว์บนโลกเริ่มต้นราว 600 ล้านปีก่อน สัตว์ยุคแรกสุดเป็นปลาและสิ่งมีชีวิตในน้ำ จากนั้นกลายเป็นแมลงและสัตว์เลื้อยคลาน และท้ายที่สุด ราว 200 ่ล้านปีก่อน สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมก็ถือกำเนิดขึ้น !

สำหรับ "ชีวิต" นั่นเริ่มต้นย้อนไปอีกหน่อย ราว 3600 ล้านปีก่อน ก่อนที่สัตว์จะเริ่มต้นขึ้น ก่อนหน้านั้นราว 2400 ล้านปี เมื่อชีวิตยังเป็นสิ่งมีชีวิตขนาดจิ๋ว ที่มีเซลล์เดียวจำนวนนับไม่ถ้วน และราว 3000 ล้านปีก่อน สิ่งมีชีวิตนั้นไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า มันยากที่จะเข้าใจได้ว่าเซลล์ๆ เดียว... สามารถพัฒนาจนกลายมาเป็นสิ่งมีชีวิตที่ซับซ้อนเช่นปลา หรือตัวสลอทได้ คำตอบก็คือ ...เวลา ...เวลาจำนวนมาก 2400 ล้านปี เป็นเวลาทั้งหมดของกระบวนการเหล่านี้ ราว 4600 ล้านปีก่อน ดวงอาทิตย์ยังเป็นกลุ่มก้อนของการระเบิด และ 60 ล้านปีถัดจากจุดนั้น โลกถือกำเนิดขึ้น


ในช่วงเริ่มแรก ดาวตกและเศษหินจากอวกาศที่ตกจากอวกาศมาสู่โลก ได้ทำให้โลกมีน้ำ และก่อให้เกิดดวงจันทร์สำหรับนักบินอวกาศได้เดินทางไป แต่สำหรับจักรวาลล้ว ระบบสุริยะของเรานั้นใหม่มาก 13,750 ล้านปีก่อน จักรวาลได้ถือกำเนิดขึ้น และราว 600 ล้านปีถัดจากนั้น กาแลกซี่ของเราได้ถือกำเนิดจากดวงดาวนับพันล้าน แต่... มันมีอะไรก่อนเหตุการณ์บิ๊กแบง จุดกำเนิดจักรวาล? ความจริงคือ... เราก็ยังไม่รู้หรอก และอาจจะไม่มีวันรู้! แต่เราจะใส่สีให้มันแบบนี้ อย่างน้อยๆ เราก็ทำได้แค่นั้น และนี่คือทั้งหมด ของอดีต ตอนนี้เราลองมาดูว่าเรารู้อะไรเกี่ยวกับอนาคตบ้าง ราวๆ 1,000 ล้านปีข้างหน้า ดวงอาทิตย์จะร้อนมากขึ้นจนชีวิตบนโลกอยู่ไม่ได้ และการตายของดวงอาทิตย์ใน 4,000 ล้านปีให้หลังจะเป็นจุดจบของระบบสุริยะของเรา เอาล่ะ พอกันทีสำหรับระบบสุริยะ ! ... แล้วหลังจากนั้นล่ะ ในช่วงเวลาหลาย ล้าน ล้าน ปี ข้างหน้า ดวงดาวจะไม่กำเนิดใหม่อีก และในวันดาวดวงสุดท้ายของจักรวาลจะตาย มันจะกลายเป็นความมืดมิด และเต็มไปด้วยหลุมดำ และหลังจากนั้นอีกนาน จนหลุมดำอันสุดท้ายหายไป จักรวาลของเราจะเข้าสู่ช่วงสุดท้ายของมัน ที่เราเรียกว่า... "HEAT DEATH (ฮีทเดท)" ไม่มีอะไรจะเปลี่ยนแปลงอีกแล้ว จักรวาลได้ตายตลอดไป

เอาละ ตอนนี้คุณอาจจะรู้สึกแปลกๆ หรือไม่? เราเช่นเดียวกัน! มันเป็นเรื่องธรรมชาติเท่านั้น และข่าวดีคือ... มันยังอีกนานมากๆ ! และเวลาที่สำคัญต่อเรามากที่สุด คือ "ปัจจุบัน"! เวลามีค่า ใช้มันให้คุ้มค่าซะ

ที่มา Kurzgesagt – In a Nutshell Youtube Channel

สัตว์มีพิษ ไวรัสอีโบลา เอเลี่ยนสปีชี่ส์
กำเนิดจักรวาล กำเนิดดวงอาทิตย์ ระบบสุริยะจักรวาล
ปริศนาของจักรวาล การเดินทางข้ามกาลเวลา สสารและปฏิสสาร
สิ่งมีชีวิตบนดาวอังคาร บิ๊กแบงคืออะไร สัตว์ใกล้สูญพันธุ์
สัตว์น้ำแปลก ปลาแองเกลอร์ สัตว์ดูดเลือด
อันดับงูสวยงาม อนาคอนด้า ตัวอ่อนปลาฉลาม
เห็ดมีพิษ ภัยของยาไอซ์ คลื่นยักษ์สึนามิ
กัญชาปลอดภัย ไวรัสอีโบลา ปรสิตที่น่ากลัว
สาเหตุสึนามิ ทำไมผมร่วง สงครามซีเรีย
ทำลายหลุมดำ โลกของเรา กระแสน้ำทะเล
วิธีทำลายเอกภพ กลไกวิวัฒนาการ ระบบภูมิคุ้มกัน
กษัตริย์เกาหลี จักรพรรดิกวางสี จักรพรรดิปูยี
ตำนานอโดนิส โจนออฟอาร์ค มู่กุ้ยอิง
จักรพรรดิเนโร พระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 อับราฮัม ลินคอล์น
พระเจ้าซุกจง มาตาฮารี เจ้าฟ้าหญิงบุญรอด
ตำนานธอร์ นิกิต้า ครุสชอฟ สงครามเกาหลี
กำแพงเมืองจีน อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ พระนางเลือดขาว
อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ สตีเฟน ฮอว์คิง ลีโอ ตอลสตอย
สตีฟ จ็อบส์ เจ้าพระยาวิชเยนทร์ พระนางมัสสุหรี

Hydraulic fracturing หรือ Fracking คืออะไร

ตั้งแต่ยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมมานั้น การบริโภคพลังงานเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยพลังงานส่วนใหญ่มาจากเชื้อเพลิงฟอสซิลจากถ่านหินหรือก๊าซธรรมชาติ ไม่นานมานี้มีการพูดคุยและการถกเถียงอย่างมากมายเกี่ยวกับวิธีที่จะสกัดก๊าซธรรมชาติออกมา นั่นคือ วิธีการ Hydraulic fractuiring หรือ fracking  เอาล่ะ  Fracking นั้นอธิบายถึงการกู้คืนก๊าซธรรมชาติจากใต้ดินชั้นลึกๆของโลก ด้วยวิธีนี้ ก้อนหินที่มีรูพรุนจะแตกร้าวโดยใช้ประโยชน์จากน้ำ ทราย และสารเคมี เพื่อปลดปล่อยก๊าซธรรมชาติที่ถูกห่อหุ้มไว้ออกมา เทคนิคการ fracking นี้เป็นที่รู้จักตั้งแต่ช่วงปี 1940 ถึงอย่างไรก็ตาม ในสิบปีล่าสุดเท่านั้นที่การ fracking ค่อนข้างเป็นที่นิยมอย่างมาก โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกา  เนื่องจากแหล่งก๊าซธรรมชาติทั่วไปในอเมริกาและทวีปยุโรปนั้นถูกใช้จนหมดเแล้ว  ดังนั้นราคาของก๊าซธรรมชาติและเชื้อเพลิงอื่นๆ จึงเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว วิธีที่มีราคาแพงและมีความซับซ้อนสูงอย่าง fracking จึงเป็นที่นิยมและได้ผลประโยชน์ ในขณะเดียวกันการ fracking ถูกใช้มากกว่าล้านครั้งเฉพาะในสหรัฐอเมริกา มากกว่า 60% ของบ่อน้ำมันและก๊าซใหม่ถูกขุดเจาะโดยการ fracking



ทีนี้ เรามาดูกันเถอะว่าการ fracking นั้นทำงานอย่างไร เริ่มแรก ใช้สว่านเจาะพื้นโลกลงไปหลายร้อยเมตร จากนั้น เจาะรูตามแนวนอนเข้าสู่ชั้นของหินห่อหุ้มก๊าซไว้อยู่  ต่อไป ของเหลวจาก fracking จะถูกสูบฉีดเข้าไปในพื้นโดยเครื่องปั๊มน้ำทรงประสิทธิภาพ  โดยเฉลี่ยแล้ว ของเหลวจะประกอบด้วยน้ำปริมาณ 8 ล้านลิตร ซึ่งเป็นปริมาณที่ใช้ประจำวันสำหรับประชาชน 65,000 คน นอกจากนั้นยังประกอบด้วยทรายหลายตัน และสารเคมี อีกประมาณ 200,000 ลิตร ส่วนผสมเหล่านี้แทรกซึมเข้าไปในชั้นหินและสร้างรอยแตกเล็กๆขึ้นนับไม่ถ้วน ทรายจะกันรอยแตกไม่ให้ปิดตัวลงอีกครั้ง สารเคมีจะทำงานหลายอย่าง เหนือสิ่งอื่นใด พวกมันทำให้น้ำจับตัวกันมากขึ้น กำจัดแบคทีเรีย หรือละลายแร่ธาตุ

จากนั้นของเหลวส่วนใหญ่ของ fracking จะถูกสูบออกมาอีกครั้ง และในตอนนี้เองที่ก๊าซธรรมชาติถูกกู้คืนออกมา ในทันทีที่แหล่งก๊าซหมด รูที่เจาะก็จะถูกปิดผนึก ตามกฏแล้ว ของเหลว fracking จะถูกสูบกลับเข้าไปในใต้ดินชั้นลึกๆและปิดผนึกไว้ในนั้น อย่างไรก็ตาม fracking นั้นค่อนข้างมีความเสี่ยงหลายประการด้วยกัน ความเสี่ยงหลักๆก็คือ การปนเปื้อนในแหล่งน้ำดื่ม Fracking ไม่เพียงแต่ใช้น้ำปริมาณมากอย่างฟุ่มเฟือยเท่านั้น แต่ยังเป็นผลทำให้น้ำมีสิ่งปนเปื้อนและมีความเป็นพิษสูง สิ่งปนเปื้อนนั้นมีความรุนแรงถึงขนาดที่ว่าไม่สามารถทำให้บริสุทธิ์ได้ในโรงงานบำบัด ถึงแม้ว่าจะรับรู้ทุกความอันตรายและในทางทฤษฎีแล้วสามารถจัดการได้ แหล่งน้ำที่มีอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกานั้นมีสิ่งปนเปื้อนเพราะความเพิกเฉย ยังไม่มีใครรู้ว่าแหล่งน้ำปิดจะมีบทบาทอย่างไรในอนาคต



ตราบใดที่ยังไม่มีการศึกษาระยะยาวเกี่ยวกับหัวข้อนี้ สารเคมีที่ใช้ในการ Fracking นั้นมีตั้งแต่สารที่อันตรายจนถึง พิษร้ายแรงและสารก่อมะเร็ง เช่น เบนซอล หรือ กรดฟอร์มิก บริษัทที่ใช้การ fracking ไม่ได้พูดถึงรายละเอียดที่แม่นยำของส่วนผสมของสารเคมี แต่เป็นที่รู้กันว่ามีประมาณ 700 สารเคมีที่แต่ต่างกันที่ใช้ในกระบวนการ อีกความเสี่ยงหนึ่งคือการปล่อยก๊าซเรือนกระจกก๊าซธรรมชาติถูกกู้คืนโดยการ fracking ที่ประกอบไปด้วยก๊าซมีเทนจำนวนมาก ก๊าซเรือนกระจกนั้นส่งผลกระทบรุนแรงมากกว่าก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ถึง 25 เท่า ก๊าซธรรมชาตินั้นมีความรุนแรงต่ำกว่าถ่านหินเมื่อถูกเผา แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ผลกระทบด้านลบของ fracking ที่มีต่อสมดุลสภาพอากาศโดยรวมนั้นมีมากขึ้น

อย่างแรก กระบวนการ fracking นั้นต้องใช้พลังงานจำนวนมหาศาล อย่างที่สอง รูที่เจาะจะถูกใช้จนหมดอย่างรวดเร็วและมันยังจำเป็นจะต้องเจาะ รู fracking บ่อยกว่าบ่อก๊าซธรรมชาติแบบดั้งเดิมมาก ยิ่งไปกว่านั้น ประมาณ 3 เปอร์เซ็นต์ของก๊าซที่ถูกกู้คืนจะหายไประหว่างการสกัดและระเหยไปสู่ชั้นบรรยากาศ ดังนั้นวิธีการ fracking และผลประโยชน์ที่คาดหวังจะต้องถูกประเมิณค่าว่า เมื่อไหร่ที่ผลประโยชน์จะสมดุลกับผลเสีย ? เมื่อถูกใช้อย่างถูกต้อง เทคนิคนี้จะเป็นอีกทางหนึ่ง ในระยะสั้นถึงปานกลาง ที่จะบรรลุวัตถุประสงค์สำหรับการใช้พลังงานต้นทุนต่ำของพวกเรา แต่สำหรับผลที่ตามมาในระยะยาวของการ fracking ยังทำนายล่วงหน้าไม่ได้ และความเสี่ยงต่อน้ำดิ่มของพวกเรานั้นก็ไม่ควรประมาท
ที่มา Kurzgesagt – In a Nutshell Youtube Channel

สัตว์มีพิษ ไวรัสอีโบลา เอเลี่ยนสปีชี่ส์
กำเนิดจักรวาล กำเนิดดวงอาทิตย์ ระบบสุริยะจักรวาล
ปริศนาของจักรวาล การเดินทางข้ามกาลเวลา สสารและปฏิสสาร
สิ่งมีชีวิตบนดาวอังคาร บิ๊กแบงคืออะไร สัตว์ใกล้สูญพันธุ์
สัตว์น้ำแปลก ปลาแองเกลอร์ สัตว์ดูดเลือด
อันดับงูสวยงาม อนาคอนด้า ตัวอ่อนปลาฉลาม
เห็ดมีพิษ ภัยของยาไอซ์ คลื่นยักษ์สึนามิ
กัญชาปลอดภัย ไวรัสอีโบลา ปรสิตที่น่ากลัว
สาเหตุสึนามิ ทำไมผมร่วง สงครามซีเรีย
ทำลายหลุมดำ โลกของเรา กระแสน้ำทะเล
วิธีทำลายเอกภพ กลไกวิวัฒนาการ ระบบภูมิคุ้มกัน
กษัตริย์เกาหลี จักรพรรดิกวางสี จักรพรรดิปูยี
ตำนานอโดนิส โจนออฟอาร์ค มู่กุ้ยอิง
จักรพรรดิเนโร พระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 อับราฮัม ลินคอล์น
พระเจ้าซุกจง มาตาฮารี เจ้าฟ้าหญิงบุญรอด
ตำนานธอร์ นิกิต้า ครุสชอฟ สงครามเกาหลี
กำแพงเมืองจีน อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ พระนางเลือดขาว
อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ สตีเฟน ฮอว์คิง ลีโอ ตอลสตอย
สตีฟ จ็อบส์ เจ้าพระยาวิชเยนทร์ พระนางมัสสุหรี

ตลาดหุ้นคืออะไร และมันทำงานอย่างไร

ตลาดหุ้นคืออะไร และมันทำงานอย่างไร


ตลาดหุ้นเป็นแค่เครือข่ายยักษ์ใหญ่ทั่วโลก ที่จัดการตลาด และทุกวันมีเงินมหาศาลถูกย้ายไปมา รวมทั้งหมดเป็นเงิน 60 พันพันล้านยูโร (60,000,000,000,000) ต่อปี ซึ่งมากกว่ามูลค่าของสินค้าและบริการของเศรษฐกิจโลกทั้งหมด แต่มันไม่ใช้แอปเปิลหรือแปลงสีฟันมือสองที่ถูกค้าขายในตลาดนี้ แต่ส่วนมากเป็นหลักทรัพย์ หลักทรัพย์ คือสิทธิ์ที่มีเหนือทรัพย์สิน ส่วนมากในรูปแบบของหุ้น หุ้น หมายถึงหุ้นที่มีในบริษัท แต่ทำไมต้องซื้อขายหุ้นกัน อันดับแรกและสำคัญที่สุด ค่าของหุ้นจะเกี่ยวพันธ์กับบริษัทที่ออกหุ้นน้ัน ถ้าเราเปรียบเทียบมูลค่าของบริษัทเป็น พิซซ่า ถ้าพิซซ่ายิ่งใหญ่ แต่ละชิ้นก็ยิ่งใหญ่เท่ากัน ยกตัวอย่าง ถ้า Facebook สามารถเพิ่มกำไรโดยใช้โมเดลธุรกิจใหม่ ขนาดของพิซซ่าของบริษัทก็จะเพิ่มขึ้น และผลตามมาก็คือ หุ้นก็จะเพิ่มราคาด้วย นี้มันดีสำหรับผู้ถือหุ้นบริษัทนี้ หุ้นที่เคยราคา 38 ยูโร อาจกลายมีราคา 50 ยูโร เมื่อนำไปขายจะได้กำไรหุ้นละ 12 ยูโร แต่ Facebook จะได้อะไรจากการขายนี้ บริษัทสามารถระดมทุนโดยการขายหุ้นและลงทุนหรือขยายกิจการก็ได้ ยกตัวอย่าง Facebook ทำเงิน $60 พันล้าน จากการเข้าตลาดหลักทรัพย์



แต่การซื้อขายหุ้นมักเป็นการเสี่ยงโชค ไม่มีใครบอกได้ว่าบริษัทไหนจะเจริญหรือไม่ ถ้าบริษัทมีชื่อเสียงดี นักลงทุนก็จะสนับสนุน บริษัทที่ชื่อเสียงไม่ดีหรือสมรรถภาพไม่ดีก็จะขายหุ้นไม่ออก ผิดไปจากตลาดปกติที่เราสามารถหยิบสินค่าและเอามันกลับบ้านได้ ผิดไปจากตลาดปกติที่เราสามารถหยิบสินค่าและเอามันกลับบ้านได้ มันเป็นแต่รูปแบบราคาหุ้น และตารางบนจอคอมพิวเตอร์ ซึ่งราคาของมันอาจขึ้นลงภายในเซี่ยววินาที เจ้าของหุ้นจึงต้องตัดสินอย่างฉับไวถ้าจะไม่พลาดโอกาศดี แม้แต่ข่าวลือก็สามารถทำให้ความต้องการหุ้นตกอย่างรวดเร็วไม่ว่ามูลค่าจริงของบริษัทจะเป็นอย่างไร และตรงข้ามก็เป็นไปได้ ถ้าคนจำนวนมากซื้อหุ้นที่อ่อนแอเพราะเขาเห็นว่ามีศักดิ์สูง ราคาของหุ้นก็จะพุ่งสูงขึ้น โดยมากบริษัทใหม่ๆ จะได้ประโยชน์จากเรื่องเหล่านี้ แม้ยอดขายจะตก เขาสามารถทำเงินสดโดยขายหุ้น

ในกรณีที่ดีที่สุดก็จะทำให้ความคิดเป็นสมจริง ในกรณีเลวร้ายสุดก็จะเกิดฟองสบู่ที่มีแต่ลมร้อน และเหมือนฟองสบู่ทั่วไป สักวันมันจะแตก มูลค่าของบริษัทเยอร์มันที่ใหญ่สุด 30 บริษัทจะสรุปในดัชนีที่เรียกว่า DAX DAX แสดงว่าบริษัทเหล่านี้มีสมรรถนะอย่างไร และจึงเป็นตัวชี้วัดสมรรถนะของเศรษฐกิจทั้งมวลด้วย ตลาดหลักทรัพย์ในประเทศอื่นก็มีดัชนีของเขาด้วย และทั้งหมดนี้ทำให้เกิดตลาดทั่วโลกที่เป็นเครือข่ายกัน
ที่มา Kurzgesagt – In a Nutshell Youtube Channel

สัตว์มีพิษ ไวรัสอีโบลา เอเลี่ยนสปีชี่ส์
กำเนิดจักรวาล กำเนิดดวงอาทิตย์ ระบบสุริยะจักรวาล
ปริศนาของจักรวาล การเดินทางข้ามกาลเวลา สสารและปฏิสสาร
สิ่งมีชีวิตบนดาวอังคาร บิ๊กแบงคืออะไร สัตว์ใกล้สูญพันธุ์
สัตว์น้ำแปลก ปลาแองเกลอร์ สัตว์ดูดเลือด
อันดับงูสวยงาม อนาคอนด้า ตัวอ่อนปลาฉลาม
เห็ดมีพิษ ภัยของยาไอซ์ คลื่นยักษ์สึนามิ
กัญชาปลอดภัย ไวรัสอีโบลา ปรสิตที่น่ากลัว
สาเหตุสึนามิ ทำไมผมร่วง สงครามซีเรีย
ทำลายหลุมดำ โลกของเรา กระแสน้ำทะเล
วิธีทำลายเอกภพ กลไกวิวัฒนาการ ระบบภูมิคุ้มกัน
กษัตริย์เกาหลี จักรพรรดิกวางสี จักรพรรดิปูยี
ตำนานอโดนิส โจนออฟอาร์ค มู่กุ้ยอิง
จักรพรรดิเนโร พระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 อับราฮัม ลินคอล์น
พระเจ้าซุกจง มาตาฮารี เจ้าฟ้าหญิงบุญรอด
ตำนานธอร์ นิกิต้า ครุสชอฟ สงครามเกาหลี
กำแพงเมืองจีน อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ พระนางเลือดขาว
อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ สตีเฟน ฮอว์คิง ลีโอ ตอลสตอย
สตีฟ จ็อบส์ เจ้าพระยาวิชเยนทร์ พระนางมัสสุหรี

will refinancing hurt my credit va loan multi family va loan after chapter 7 va home loan specialist us bank home mortgage top insurance companies tax debt relief program tax credit for college students structured settlement loan small business loans personal loan rates permanent life insurance payday loans online no credit check loans national guard va home loan mortgage life insurance maximum fha loan amount low cost health insurance Irs Tax Debt Relief Program how to get preapproved for a va home loan how long does a credit card balance transfer take homeowners insurance companies home loan interest rate home equity line of credit health insurance free car insurance quotes fixed annuity fha loan foreclosure waiting period does opening a checking account affect credit define insurance brokers current mortgage rates cost to refinance home loan Compare Vehicle Insurance cheap travel insurance bad credit car loans average home insurance cost

Popular Posts