google.com, pub-6663105814926378, DIRECT, f08c47fec0942fa0 Mega topic | จัดอันดับ | 10 อันดับ| เรื่องผี| เรื่องสยองขวัญ| ที่สุดในโลก| ดูดวง| ประวัติศาสตร์

ตายสยองชั่วอึดใจ ด้วยอาวุธเคมีที่ไม่รู้ตัว?

เหตุการณ์ลอบสังหารอุกอาจ กลางสนามบินใกล้บ้านเรานี้เป็นข่าว ช็อกไปทั่วโลก ซึ่งประเด็นหนึ่งที่น่าห่วง ก็คือการลอบแทรกซึมเข้ามาของ “จารชน” ที่อาจไม่ใช้ฝีมือคนต่างชาติ เสมอไปเพราะเขา (หลอก) ใช้ "คน ท้องถิ่น" ให้ร่วมมือโดยแสร้งทําว่า เป็นการถ่ายทํารายการโทรทัศน์สนุกๆ ดังเช่นที่เป็นข่าวว่า มีหญิง 2 คน สารภาพว่าได้รับเงินค่าจ้างคนละ 400 ริงกิต หรือประมาณ3,000 บาท ให้ร่วม รายการแกล้งคนโดยการฉีดสเปรย์ซึ่ง คงจะเป็นน้ําเปล่าใส่คนที่ห้างมาก่อน แล้วต่อมาก็ถูกหลอกให้มาฉีดสารพิษ กับ "คิม จอง นัม" พี่ชายของ "คิม จอง อึน" ผู้นําเกาหลีเหนือ ที่สนามบิน จนเสียชีวิต ดังที่เป็นข่าว เมืองไทยเราก็มีคนชอบทําคลิป แกล้งคนประเภทนี้ออกมาเยอะ จึงต้อง ระวังไว้ให้มาก ต่อไปคงไม่รู้ว่าแกล้งจริงหรือเป็นการ “เอาถึงตาย” เพราะยากต่อการ ตรวจสอบ ณ เวลานั้นแต่ง่ายต่อการ ยืมมือของมัจจุราชชาวต่างชาติ



กลับมาถึงเหตุการณ์ฆาตกรรม เขย่าขวัญในครั้งนี้ว่าเหตุที่ดังขึ้นมา เพราะผู้ตายเป็นคนธรรมดา ทว่ามีสาย เลือดส่วนหนึ่งร่วมกับผู้นําเกาหลีเหนือ ซึ่งเหตุที่บอกว่าเหยื่อเป็นคนธรรมดา ก็เพราะเขาพยายามที่จะใช้ชีวิตอย่าง สามัญเพื่อจะได้ไม่ไป “ขวาง” ผู้ยิ่งใหญ่ แห่งเกาหลีเหนือเข้า ถึงขนาดว่าเคย ขอร้องน้องชายเป็นการส่วนตัวกันว่าให้ ไว้ชีวิตเขาด้วย ทว่าคําขอร้องของสายเลือดโสมแดงคงไม่เป็นผล เลยทําให้คน โจษจันสงสัยกันมากว่ามีอะไรแอบแฝง ที่ทําให้เลือดแดงเหมือนกันแต่กลับไม่ ข้นกว่าน้ําทั้งที่เกาหลีเหนือก็ได้ออกมาปฏิเสธเรียบร้อยแล้ว โดยเฉพาะรูปแบบ กรสังหารโหดนั้นใช้สารพิษที่อันตราย สุดๆ เรียกว่าโดนเพียงนิดก็ไม่รอด แล้ว แต่นี่ใช้ในปริมาณที่ชาวบ้านเรียก ยิ่งกว่า “ล้มช้าง” เลยกลายเป็นเรื่องใหญ่ ที่ใคร ๆ ก็สงสัยว่าอะไรคือ “อาวุธเคมี” ที่ว่า

“วีเอ็กซ์” (X) อาวุธเคมีที่ใช้สังหาร

แค่สัมผัสก็ตายได้ (ไม่เว้นแม้มือสังหาร)
ในอดีตโลกของเราเคยมีการใช้ สารพิษเพื่อสังหารศัตรูหรือแม้แต่ตัวเอง ยามจนตรอกขึ้นมา ซึ่งล่าสุดในประวัติ ศาสตร์คือยุคของ "นาซี" แล้วต่อมามี สงครามเย็น โดยผู้นํานาซีเยอรมันคือ อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ได้อนุมัติการใช้ สารพิษที่มี “ฤทธิ์เร็ว และแรง)" ในการ สังหารตัวเองในกรณีที่ถูกฝ่ายตรงข้าม จับกุม นั่นคือการใช้สาร "ไซยาไนค์" (Cyanide) ในรูปของสารประกอบเกลือ ที่ถูกแจกจ่ายเป็นเม็ดแคปซูลให้กับ นายทหารชั้นผู้ใหญ่ใส่ปากแล้วขบให้แตก เพื่อจะได้ตายทันที
นายพลคนสําคัญของฮิตเลอร์ ล้วนมีแคปซูลไซยาไนด์ไว้พร้อมทําอัตวินิบาตกรรม
มายุคนี้การลอบสังหารนายคิม จอง นัม ผู้เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของอดีต ประธานาธิบดีคิม จอง อึน ก็ใช้สารพิษ ที่ทั่วโลกถือเป็น “อาวุธเคมี" อย่างหนึ่ง ที่ร้ายแรง มีชื่อสําลองว่า “วีเอ็กซ์ (X) ที่มีชื่อเต็มแบบยาวเหยียดคือ “O-ethyl ({2- [bis(propan-2-yl)amino)ethyl} sulfanyl/methyl) phosphinate"
แค่อ่านก็เหนื่อยแล้วนะฮะ

ที่ยกชื่อ มาเล่าเพราะมันมี เหตุนิดหนึ่งครับ ด้วยชื่อทางอังกฤษ ของมันนี้ช่วยบอกให้เรารู้ว่ามันเป็นสาร เคมีที่เรียกว่า "สารประกอบ” ซึ่งแปลตรง ตัวว่ามันถูกสร้างมาจากสารเคมีลูกอื่น ๆ ที่เมื่อสืบลงไปก็พบว่ามันสามารถเกิดขึ้น ได้จากสารอินทรีย์ฟอสฟอรัสมาผสมกับ ธาตุกํามะถันก็ได้เป็นสารวีเอ็กซ์แล้ว
ในวันเกิดเหตุร้ายนั้นมีผู้ต้อง สงสัยที่เข้าไปก่อการอยู่ 2 ราย
มันจะหมายความว่าอย่างไรได้?

นับแต่วันที่ 13 กุมภาพันธ์ก่อน วันวาเลนไทน์ไม่นานอันเป็นวันตายของ นายคิม จอง นัมนั้น โลกก็จับจ้องไปยัง เกาหลีเหนือว่าเกิดอะไรขึ้นด้วยเมื่อ วิเคราะห์แล้วพบว่าพี่ชายของคิม จอง อื่น
นั้นตายจากพิษที่ชื่อว่า วีเอ็กซ์ ที่สามารถ สังเคราะห์ขึ้นได้จากห้องแล็บอาวุธเคมี
จากนั้นไม่นานก็มีรายงานเรื่อง วีเอ็กซ์จากสื่อต่าง ๆ ที่สร้างความตื่น ตะลึงไปทั่วโลก เพราะ “วีเอ็กซ์” ถูก จัดอยู่ในกลุ่ม “อาวุธมหาประลัย” (Weapon of mass destruction) ใช้ประทัตประหารคนหมู่มาก เรียกว่า ให้สูญสิ้นเผ่าพันธุ์กันก็ได้ จึงมีสนธิ์ สัญญาห้ามใช้แต่เกาหลีเหนือไม่ได้อยู่ใน ข่ายนี้เช่นเดียวกับอีก 6 ประเทศที่ไม่ ลงนามในการประชุมว่าด้วยอาวุธเคมี โดยวีเอ็กซ์นี้มีอีกชื่อหนึ่งว่าเป็น "เคมี ทําลายประสาท" เช่นเดียวกับเพื่อนของ มันคือ "พิษซาริน" ที่ใช้ก่อการร้าย ในญี่ปุ่นเมื่อปี 2538 ชั่วแต่เจ้าวีเอ็กซ์นี้แรงที่สุด

หน่วยงานป้องกันโรคของ สหรัฐฯ จัดให้วีเอ็กซ์เป็นพิษทําลาย ประสาทที่ร้ายสุด!
ในบรรดาพิษแบบเดียวกันนี้การ ใช้วีเอ็กซิในการฆ่ากันจึงหมายความถึงว่า “าไม่แคร์คนอื่นด้วย เพราะคนรอบช้างก็มีสิทธิ์ได้รับพิษนี้เข้าไปเช่นเดียวกับ คนใช้ที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่เพราะถูกเขาหลอก ว่ากําลังเล่นเกมในรายการโทรทัศน์อยู่ ก็จะได้รับพิษเข้าไปด้วย ซึ่งถ้าใช้ในสถานที่ สาธารณะที่มีคนพลุกพล่านก็ต้องระวัง จะกลายเป็นโศกนาฏกรรมได้ง่าย ๆ เพราะมีโอกาสที่คนอื่น ๆ จะสัมผัสกันได้ อีกนอกจากเป้าหมายที่ถูกสั่งตายแล้ว เพราะพิษวีเอ็กซ์ที่ว่าตกค้างอยู่ได้ใน เสื้อผ้าและนานในสถานที่เกิดเหตุครับ
อาจเปลี่ยนเรื่องเป็น “สังหาร หมู่" ได้ง่ายๆ ตายสยองในไม่กี่นาที เพียงแตะหรือแค่สูดดม

ทางการมาเลเซียได้เริ่มกระบวน การ “กําจัดสิ่งปนเปื้อน” ออกจากสนาม บินทันทีหลังทราบเรื่องเคมีพิษนี้ ซึ่ง เรื่องนี้ไม่อยากให้ท่านที่รักเห็นเป็นเรื่อง ไกลตัว ในขณะเดียวกันก็ไม่ประสงค์ให้ กลัวจนเกินไป แต่ให้คอยระแวดระวัง รอบคอบไว้ เช่น ถ้าใครมาขอให้ร่วม กิจกรรมถ่ายทําอะไรที่ดู “แผลง” พิสดาร น่าเอะใจก็ไม่ควรไปร่วมครับ เพราะไม่ว่า จะให้เงินเท่าไรเป็นค่าตอบแทนแต่แสน เล็กน้อยเมื่อเทียบกับสวัสดิภาพของเรา ที่กําลังเอาชีวิตไปแขวนกับมฤตยูที่มา แบบเนียน ๆ
เหตุที่ว่าพิษมรณะ “วีเอ็กซ์" นี้ เป็นความตายเงียบเชียบก็เพราะมันเป็น เคมีที่ไร้กลิ่นไร้รสชาติที่อาจผลิตมา ในรูปของของเหลวในขวดเล็กๆ ครีม ในตลับจิ๋ว หรืออัดใส่กระป๋องสเปรย์ ลวงตาว่าเป็นเครื่องสําอางได้แต่ต้อง ผลิตในห้องปฏิบัติการที่ทันสมัยไม่อาจ หาซื้อได้ง่ายๆ
อย่างไรก็ดี เรียกว่าวีเอ็กซ์นี้มี คุณสมบัติที่เป็น “พิษที่ผู้ก่อการร้ายชอบ” รวมถึงจารชนขอบใช้เพราะไม่ทําให้เหยื่อ กระโตกกระตาก ซึ่งเรื่องนี้ผู้เขียนเองเห็น ว่ายังมีพิษอีกอย่างที่ในอนาคตต้องระวัง ให้ดีคือ “กัมมันตภาพรังสี” ที่ไม่มีสี ไม่มี กลิ่นแถมยังมองไม่เห็นอีกต่างหาก น่า เป็นห่วงว่าจะเป็นพิษตัวต่อไปที่คนร้ายนํา มาใช้รังควานโลก
- ทีนี้ลองมาดูภัยอันน่าขนพอง ของพิษวีเอ็กซ์นี้บ้าง ซึ่งมีการรายงานไว้ ทั้งจากนักวิทยาศาสตร์และฝ่ายสํานักข่าว



ที่บางที่ให้รายละเอียดไว้เยอะจนเหมือน พาผู้อ่านกลับไปเป็นนิสิตนั่งเรียนวิชา เคมี 101 อีกครั้ง ผู้เขียนเลยขอสรุปมา ให้ฟังเป็นข้อ ๆ ที่ควรทราบดังต่อไปนี้
1) เพียงนิดก็ถึงตาย
พิษนี้ถูกดูดซึมเข้าร่างกายง่าย ๆ ผ่านทางการหาที่ตัวหรือแค่แตะ ก็ถือว่า ได้รับพิษเข้าไปแล้ว รวมถึงการสูดดมด้วย ครับ (มันมีแบบสเปรย์ด้วย) เพราะ ปริมาณของมันแค่เพียง 0.1 มิลลิกรัม ต่อน้ําหนักตัวหนึ่งกิโลกรัมก็เกิดอันตราย ได้ (หรือเอาง่าย ๆ แค่ราว 10 มิลลิกรัม หรือเล็กกว่าปลายเล็บก็สังหารชีวิตได้) ส่วนการสูดนั้นยิ่งน้อยใหญ่ แค่เพียง 5 ไมโครกรัมคือน้อยกว่ามิลลิกรัม นับพันเท่าก็มีผลต่อชีวิตคนแล้ว
ยุคนี้ตายไม่ยาก เห็นไหมครับ

2) วายปราณไม่กี่นาที
ภาพจากกล้องวงจรปิดฉายให้ เห็นวินาทีก่อนตายของนายคิม จอง นัม ว่าถูกสตรี 2 รายบุกเข้าประชิดตัวแล้วเอา มือจับที่ใบหน้าของเขา จากนั้นไม่นาน ชายผู้น่าสงสารก็ซมซานไปขอความช่วย เหลือหลังจากที่มันออกฤทธิ์เพียงไม่กี่ นาที แล้วจากนั้นไม่นานเขาก็เกิดอาการ ชักเกร็งแล้วเสียชีวิตไปภายในเวลาเพียง 15-20 นาทีเท่านั้น ซึ่งพิษของวีเอ็กซ์ ต่อระบบประสาทนี้เกิดได้ในชั่วอึดใจไป จนถึง 18 ชั่วโมงก็ยังได้ครับ

2) มียาแก้ แต่ต้องทันเวลา
อย่าลืมว่าพิษวีเอ็กซ์นี้ทํางานเร็ว สังหารเหยื่อได้ในชั่วครู่ ดังนั้นยาที่จะ เข้าไปแก้นี้ก็ต้องอาศัยความว่องไวเช่น กันเพราะยาที่ว่าต้องเข้าไปช่วยเป็นเกระ กันเส้นประสาทก่อนที่สารพิษวีเอ็กซ์จะ เข้าไปรบกวนเอนไซม์ (acetylcholinesterase inhibitor) ทําให้จนทําให้เกิด อาการพิษต่อระบบประสาทอย่างรุนแรง ซึ่งยาแก้พิษที่ว่ามีใช้กันมานานแล้วชื่อว่า “อะโทรพี่น” ครับ

4) แย่ถึงคนใช้
ไม่ระวังให้ดีหรือไม่มียาต้านพิษ ติดตัวไว้ก็อาจตายได้เช่นเดียวกับเหยื่อ เพราะดังที่เล่าให้ฟังว่าวีเอ็กซ์เป็นพิษที่ติด ได้เพียงสัมผัสหรือสูดดม แม้แต่กระเด็น เข้าตาก็อันตรายได้ในปริมาณเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ดังในยุคแรกที่มันถูกคิดค้น ขึ้นในอังกฤษเพื่อเป็นยาฆ่าแมลงนั้น นักวิทยาศาสตร์ผู้พบก็ยังตกตะลึงกับพิษ อันมหาศาลในปริมาณเท่าปลายเล็บของมันเลย

5) ทําลายประสาท
รบกวนสารสื่อประสาททําให้เกิด อาการที่น่าตกใจไปจนถึง “ตายอนาถ” ได้ โดยมีอาการที่ชวนสงสัยว่าโดนพิษ วีเอ็กซ์ดังต่อไปนี้ เช่น น้ําตาไหล, น้ําลาย ฟมปาก, แน่นหน้าอก, หายใจไม่ออก, มีนงงสับสน, คลื่นไส้อาเจียน, หัวใจเต้น ผิดปกติ, ความดันเปลี่ยน
ถ้าได้รับในปริมาณสูงขนาดเอา ชีวิตก็จะทําให้ ผู้ป่วยชัก, หมดสติ, เป็นอัมพาตและการหายใจล้มเหลวที่สามารถเกิดขึ้นได้ก่อนที่จะถึงมือหมอเสียอีก
เรื่องการสังหารด้วยสารพิษที่ว่านี้ มีข้อชวนสะกิดใจอยู่นิดหนึ่งซึ่งเราควร ทราบกันไว้คือคนที่ถูกยืมมือมาใช้สังหาร นายคิมนี้ไม่ตายไปด้วย ผู้เขียนเองเลยได้ ไปค้นจนเจอว่ามีผู้เชี่ยวชาญชาวอเมริกัน เขาก็สนใจประเด็นนี้เหมือนเราโดยที่ ท่านเป็นผู้รู้ด้านพิษวิทยาโดยตรงชื่อ ดร.บรูซ โกลด์เบอเกอร์ จากมหาวิทยาลัยฟลอริดา ที่เชื่อว่า มือสังหารที่ ใช้สารพิษนี้ “น่าจะ" ได้รับยาต้านพิษเอา ไว้ก่อนล่วงหน้าแล้ว จึงไม่เสียชีวิตไปด้วย ทั้งที่เป็นผู้ใช้
- อย่างไรก็ดี เมื่อมีผู้ตกเป็นเหยื่อ แล้วก็ต้องระมัดระวังกันให้มั่นเหมาะ เพราะสารพิษที่ว่านี้ไม่เข้าใครออกใคร - ผู้ใช้ก็ต้องระวังพิษนั้นคืนสนองเช่นกัน
นพ.กฤษดา ศิรามพุช

อันดับสัตว์มีพิษ ไวรัสอีโบลา เอเลี่ยนสปีชี่ส์
กำเนิดจักรวาล กำเนิดดวงอาทิตย์ ระบบสุริยะจักรวาล
ปริศนาของจักรวาล การเดินทางข้ามกาลเวลา สสารและปฏิสสาร
สิ่งมีชีวิตบนดาวอังคาร บิ๊กแบงคืออะไร สัตว์ใกล้สูญพันธุ์
สัตว์น้ำแปลก ปลาแองเกลอร์ สัตว์ดูดเลือด
อันดับงูสวยงาม อนาคอนด้า ตัวอ่อนปลาฉลาม
เห็ดมีพิษ ภัยของยาไอซ์ คลื่นยักษ์สึนามิ
กัญชาปลอดภัย ไวรัสอีโบลา ปรสิตที่น่ากลัว
สาเหตุสึนามิ ทำไมผมร่วง สงครามซีเรีย
ทำลายหลุมดำ โลกของเรา กระแสน้ำทะเล
วิธีทำลายเอกภพ กลไกวิวัฒนาการ ระบบภูมิคุ้มกัน

ดูบทความเมนูอาหารทั้งหมด ดูบทความภัยอันตรายทั้งหมด ดูบทความสุขภาพทั้งหมด ดูบทความวิทยาศาสตร์ทั้งหมด ดูบทความสยองขวัญทั้งหมด ดูบทความชีวิตสัตว์ทั้งหมด ดูบทความประวัติศาสตร์ทั้งหมด ดูบทความจัดอันดับทั้งหมด สารบัญบทความ


รวมเรื่องสยองขวัญ

รวมตำนานผีนานาชาติและปิศาจทั่วโลก

5 ฆาตกรต่อเนื่องที่ยังคงลอยนวลอยู่

5 ผีปีศาจที่มาเยือนยามค่ำคืน

เล่าเริ่องสยองขวัญ มันลากขา

เบลล์ กันเนส ฆาตกรหญิงสุดโฉด แม่ม่ายผู้เหี้ยมโหดแห่งอเมริกา

อาชญากรรมดำดิน เอล ชาโป กุซมัน

25 การทรมานสุดโหดในประวัติศาสตร์

อัจฉริยะจอมโฉดมือระเบิดต่อเนื่องยูนาบอมเบอร์

เล่าเรื่องสยองขวัญ นั่งซากหวาดผวา ศพล่อเสือ


เบลล์ กันเนส ฆาตกรหญิงสุดโฉด แม่ม่ายผู้เหี้ยมโหดแห่งอเมริกา

โชคดีที่ตายก่อน, มนุษย์กินคนในตำนาน, ซอว์นี่ บีน, มนุษย์กินคน

จอห์น เอฟ เคเนดี้, ตระกูลเคเนดี้, อาถรรพ์ตระกูลเคเนดี้

25 การทรมานสุดโหดในประวัติศาสตร์, เครื่องทรมาน, เครื่องมือทรมานมนุษย์

อัจฉริยะจอมโฉดมือระเบิดต่อเนื่องยูนาบอมเบอร์ อาชญากรรมดำดิน เอล ชาโป กุซมัน 25 การทรมานสุดโหดในประวัติศาสตร์ เล่าเรื่องสยองขวัญ เจอดีตอนธุดงค์ เล่าเรื่องสยองขวัญ แดนพิศวง คดีวิตถาร ครูสาวทำช็อคฆ่าข่มขืนนักเรียนหญิง ปริศนาฆาตกรรม ใครฆ่านางงามเด็กแห่งโคโลราโด้ 10 อันดับฆาตกรเด็ก



รวมตำนานผีนานาชาติและปิศาจทั่วโลก

5 ฆาตกรต่อเนื่องที่ยังคงลอยนวลอยู่

5 ผีปีศาจที่มาเยือนยามค่ำคืน

เบลล์ กันเนส ฆาตกรหญิงสุดโฉด แม่ม่ายผู้เหี้ยมโหดแห่งอเมริกา

อาชญากรรมดำดิน เอล ชาโป กุซมัน

25 การทรมานสุดโหดในประวัติศาสตร์

อัจฉริยะจอมโฉดมือระเบิดต่อเนื่องยูนาบอมเบอร์

เล่าเรื่องสยองขวัญ นั่งซากหวาดผวา ศพล่อเสือ

เล่าเรื่องสยองขวัญ เจอดีตอนธุดงค์

ปริศนาฆาตกรรม ใครฆ่านางงามเด็กแห่งโคโลราโด้

ตำนานผีญี่ปุ่น


ย้อนรอยคดีซีอุยฆ่ากินเครื่องในเด็ก ย้อนรอยคดีเพชรซาอุ วิวาห์สังหารในอินเดีย ฆาตกรต่อเนื่อง 20 ศพ เดวิด เบอร์โควิทซ์ ฆาตกรต่อเนื่องแห่งนิวยอร์ค คดีฆาตกรรมในโรงนาสีแดง จักรพรรดิเนโร ที่โหดก็เพราะรัก เล่าเรื่องผี มาเอาแม่ผมไปทำไม ไขปริศนาใครคือ แจ๊คเดอะริปเปอร์

เล่าเรื่องสยองขวัญ ตายอย่างไก่

เล่าเรื่องสยองขวัญตอนบ้านร้าง

เล่าเรื่องสยองขวัญ ยายไอ้แผน

เล่าเรื่องสยองขวัญ ผีปอบที่วัดป่า

เล่าเรื่องสยองขวัญ ไม่น่าหยิบมา

เล่าเรื่องสยองขวัญ ปอบ

เล่าเรื่องสยองขวัญ แม่ยายเป็นปอบ

เล่าเรื่องผี ปอบห้องเช่า

เล่าเรื่องผี ยายสาย

เล่าเรื่องผี ยายขึ้นไปทำอะไร

ตำนานผีญี่ปุ่น รวมปีศาจสัตว์

6 ตำนานผีของภาคเหนือ

5 อันดับผีตามความเชื่อของคนอีสาน

10 ตำนานผีอาเซียนประเทศเพื่อนบ้านสุดสยอง

เล่าเรื่องสยองขวัญ สยองกลางทุ่ง

เล่าเรื่องสยองขวัญ คุณแม่เล่าให้ฟัง

เล่าเรื่องสยองขวัญ อยากลองจนเจอดี

เล่าเรื่องสยองขวัญ บ้านเก่า

เล่าเรื่องสยองขวัญ 6 ปีไม่เคยลืม

เล่าเรื่องสยองขวัญ แถวนี้มีเยอะ

เล่าเรื่องสยองขวัญ ร้านเหล้าผี

เล่าเรื่องสยองขวัญ ทำไมไม่บวชให้

เล่าเรื่องสยองขวัญ เพื่อนเล่าให้ฟัง

ตำนานผีญี่ปุ่น เรื่องเทพเจ้ากินคน

ตำนานผีญี่ปุ่น เรื่องหัวกะโหลกร้องเพลง

ตำนานผีญี่ปุ่น เรื่องความแค้นของนักบวชชรา 1

ตำนานผีญี่ปุ่น เรื่องความแค้นของนักบวชชรา 2

ตำนานผีญี่ปุ่น เรื่องความแเค้นของโอมุชะ

ตำนานผีญี่ปุ่น เรื่องบ่อนํ้าของคนตาย

ตำนานผีญี่ปุ่น เรื่องผีของหมู่บ้านชิตานิซามอน

ตำนานผีญี่ปุ่น เรื่องก้อนหินร้องไห้ยามค่ำคืน

ตำนานผีญี่ปุ่น เรื่องวิญญาณของโอมัตสึ

ตำนานผีญี่ปุ่น เรื่องต้นสนแขวนวิญญาณ

ตำนานผีญี่ปุ่น เรื่องวิญญาณเลี้ยงลูก

ตำนานผีญี่ปุ่น คาซาเนะ

ตำนานผีญี่ปุ่น บ้านแห่งจาน

ตำนานผีญี่ปุ่น กาซาโดคุโร

ตำนานผีญี่ปุ่น ผีตระกูลเฮอิเคะ

มนุษย์กินคนในตำนาน ซอว์นี่ บีน (Sawney Bean)

10 อันดับฆาตกรต่อเนื่องที่อำมหิตที่สุดในโลก

8 อันดับฆาตกรสุดโหดแห่งสยามเมืองยิ้ม

เล่าเรื่องสยองขวัญ แดนพิศวง

อลิซาเบธ บาโธรี่ เคานท์เตสกระหายเลือด

25 อาหารแปลกจากทั่วโลก




เล่าเรื่องสยองขวัญ สโมสรร้าง

เล่าเรื่องสยองขวัญ แรงงานต่างด้าว

เล่าเรื่องสยองขวัญ สาวชุดดำ

เล่าเรื่องสยองขวัญ วิญญาณอาฆาต

บ้านหลอนแดนนรก

10 สุดยอดเรื่องเล่าสยองขวัญเดอะช็อค

เครื่องทรมานในอดีต

วิวาห์สังหารในอินเดีย ฆาตกรต่อเนื่อง 20 ศพ

เทศกาลตำนานวันปล่อยผี

เล่าเรื่องผี มาเอาแม่ผมไปทำไม

คดีโหดแห่งเขาแอลป์

13 เมืองอาถรรพ์

คดีวิตถาร ครูสาวทำช็อคฆ่าข่มขืนนักเรียนหญิง

ย้อนรอยคดีซีอุยฆ่ากินเครื่องในเด็ก

ไขปริศนาใครคือแจ๊คเดอะริปเปอร์ (Jack The Ripper)

ย้อนรอยคดีพิศวาสฆาตกรรม นวลฉวีและศยามล

10 สถานที่สุดแห่งความสยองขวัญ

10 อันดับฆาตกรเด็ก

ปริศนามรณะตระกูลเคนเนดี้

แคทเธอรีน เฮย์ ต้นตำรับคดีฆ่าหั่นศพ

เดวิด เบอร์โควิทซ์ ฆาตกรต่อเนื่องแห่งนิวยอร์ค

คดีฆาตกรรมในโรงนาสีแดง (Red Barn Murder)

ยโศโฆษาฆาต ฆ่าเพื่อเกียรติยศของครอบครัว

ช็อกไอ้หื่นเปิดปากรับโยนเหยื่อตกรถไฟยังไม่สิ้นลม!


ไวรัสอีโบลาอันตรายเพราะอะไร?

เพราะอะไรไวรัสจึงได้มีอำนาจเหนือ ระบบภูมิคุ้มที่ซับซ้อนได้อย่างรวดเร็ว และมีผลกระทบอย่างมาก? มาดูว่าอีโบล่าทำอะไรบ้าง อีโบล่าคือไวรัส ไวรัสคือสิ่งที่เล็กมาก ประกอบด้วย RNA หรือ DNA และโปรตีนอีกจำนวนหนึ่ง และเปลือกหุ้มอันหนึ่ง มันไม่มีความสามารถในการทำอะไรด้วยตัวเองเลย และสามารถมีชีวิตรอดและแพร่ขยายโดยการทำให้เซลล์ติดเชื้อเท่านั้น เพื่อหลีกเลี่ยงสิ่งนี้ เราจึงมีระบบภูมิคุ้มกัน ระบบภูมิคุ้มกันนั้นซับซ้อนมาก

โดยทั่วไป เดนไดรติกเซลล์ (dendritic cells) จะกระตุ้นกองทัพของเซลล์ป้องกันไวรัส, เซลล์สนับสนุนและโรงงานสร้างภูมิต้านทาน (แอนติบอดี้) ที่ทำงานร่วมกับเซลล์ป้องกัน เพื่อกำจัดการติดเชื้อภายในชั่วระยะเวลาวันเดียว แต่เมื่ออีโบล่าโจมตี มันจะตรงไปจัดการระบบภูมิคุ้มกัน เซลล์บางส่วนที่ถูกครอบงำคือ เดนไดรติกเซลล์ ซึ่งเป็นมันสมองของระบบภูมิคุ้มกัน ไวรัสอีโบล่าเข้าสู่เดนไดรติกโดยผูกตัวเองเข้ากับตัวรับสำหรับการเคลื่อนที่เซลล์เมื่อเข้าไปได้ มันจะแยกเปลือกนอกออกและปล่อยสารพันธุกรรม นิวคลีโอโปรตีน และเอนไซม์ โดยย่อ มันได้เข้าควบคุมเซล์ ยกเลิกระบบป้องกันของเซลล์และปรับเปลี่ยนระบบของเซลล์ใหม่



เซลล์นี้ได้กลายเป็นเครื่องมือสำหรับสร้างไวรัส และใช้ทรัพยากรที่มีในการสร้างไวรัสอีโบล่า เมื่อเซลล์อิ่มตัว มันละลายเมมเบรนออกมาและไวรัสนับล้านได้ถูกปล่อยเข้ามาในเนื้อเยื้อ ไวรัสไม่เพียงแค่สะกัดกั้นเดนไดรติกเซลล์ จากการกระตุ้นกองกำลังที่มีความเฉพาะในการต่อต้านไวรัสมันยังเปลี่ยนแปลงพวกเซลล์ด้วยการส่งสัญญาณโปรตีนที่หลอกเซลล์ที่มีความเฉพาะนั้น เพื่อให้จบชิวิตของตัวมันเองก่อนเวลาที่สมควร ดังนั้นระบบภูมิคุ้มกันจึงถูกแทรกแซงอย่างหนัก และไม่สามารถที่จะโต้ตอบได้ เมื่อไวรัสทำการแบ่งตัว เรากำลังพูดถึงระดับพันล้าน มีเซลล์ที่ต้องจัดการกับเซลล์ที่ติดเชื้อ เป็นเซลล์นักทำลาย แต่ว่าพวกมันก็ติดเชื้อเช่นกัน และได้ตายก่อนที่พวกมันจะสามารถป้องกันโรคจากการแพร่กระจาย ในเวลาเดียวกันที่ติดเชื้ออีโบล่า เซลล์ผู้พิทักษ์ของร่างกาย มาโครฟาจ (macrophage) และ โมโนไซต์ (monocyte) ไม่เพียงแต่ที่จะหลีกเลี่ยงการป้องกันของพวกมัน มันยังเปลี่ยนแปลงสัญญาณบางส่วนสำหรับเซลล์ที่สร้างหลอดเลือด โดยบอกให้ปล่อยของเหลวเข้าสู่ร่างกาย

โดยปกติสิ่งนี้ไม่แปลก แต่ในกรณีนี้ มันจะทำให้เกิดความโกลาหล นิวโทรฟิล (neutrophil) (เซลล์เม็ดเลือดขาวชนิดหนึ่ง) จะถูกกระตุ้นทั้งร่างกาย ถูกปลุกให้ตื่นโดยไวรัสและสัญญาณจากมาโครฟาจ และไม่ค่อยมีประสิทธิภาพในการต่อต้านไวรัส ซึ่งไม่ควรจะยุ่งเกี่ยวกับการต่อสู้และเริ่มทำในสิ่งต่างๆ ที่พวกมันไม่สมควรทำ นิวโทรฟิลจะส่งสัญญาณไปยังหลอดเลือด ให้ปล่อยของเหลวมากขึ้น ซึ่งทำให้เกิดเลือดตกใน และส่วนอื่นของรางกายที่เชื้ออีโบล่าโจมตีคือตับ พวกไวรัสพบว่า มันง่ายที่จะเข้าไปยังตับ และเริ่มทำลายเซลล์ตับจำนวนมากอย่างรวดเร็ว และทำให้อวัยวะล้มเหลวและเลือดตกในมากขึ้น และสิ่งทั้งหมดนี้เกิดขึ้นพร้อมกัน

ในเวลาที่ไวรัสแพร่กระจาย เหมือนโดยทิ้งระเบิดปรมาณูทุกๆ ที่ เพียงแค่หนึ่งเหตุการณ์ในที่ๆ เดียวก็เป็นปัญหามากพอแล้ว แต่ขณะนี้มันได้เกิดขึ้นทุกๆ ที่พร้อมกัน กลไลของระบบภูมิคุ้มกันต้องพัฒนาเพื่อที่จะรับมือกับการติดเชื้อที่เกิดขึ้นกับคุณและไวรัสได้แพร่กระจายอย่างต่อเนื่อง และในที่สุดได้เริ่มต้นทำให้เซลล์ร่างกายติดเชื้อมากขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่ร่างกายดิ้นรนที่จะมีชีวิตอยู่อย่างเต็มที่ ในความพยายามสุดท้ายที่จะพลิกสถานการณ์ ระบบภูมิคุ้มกันได้ปล่อยพายุไซโตไคน์ (cytokine) โดยพายุไซโตไคน์คือสัญญาณข้อความช่วยเหลือ ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันปล่อยอาวุธทุกอย่างที่มีพร้อมกันในการโจมตีครั้งสุดท้าอย่างเอาเป็นเอาตาย สิ่งนี้ทำร้ายไวรัสแต่ได้ความเสียหายข้างเคียงจำนวนมาก โดยเฉพาะหลอดเลือด ยิ่งระบบภูมิคุ้มกันมีสุขภาพดีแค่ไหน มันยิ่งทำร้ายตัวเองมากขึ้น ของเหลวจำนวนมากออกจากกระแสเลือด ทำให้เลือดไหลออกจากทุกรูรั่วของร่างกาย คุณจะอยู่ในภาวะภาวะร่างกายขาดน้ำอย่างหนัก โดยไม่มีเลือดเหลือพอที่จะส่งออกซิเจนให้อวัยวะ และเซลล์กำลังจะตาย ถ้าคุณถึงจุดนั้น โอกาสที่คุณจะเสียชีวิตมีสูงมาก ปัจจุบันอัตราการเสียชีวิตอยู่ที่ 6 ใน 10

ว้าว! โอเค อีโบล่ามันน่ากลัว ตอนนี้เราควรตื่นตระหนก ใช้ไหม? ไม่ ไม่ใกล้เคียงเลย ความรุนแรงของอีโบล่าทำให้สื่อขายข่าวได้และคลิบยูทูปถูกแชร์ให้ทุกคนพูดเกี่ยวกับอีโบล่า และ ณ ตอนนี้ วิธีเดียวที่จะติดเชื้ออีโบล่าคือการสัมผัสของเหลวจากร่างกายของผู้ที่ติดเชื้ออีโบล่า หรือค้างคาวที่ติดเชื้อไวรัส ดังนั้นอย่าทำเช่นนั้น เชื้ออีโบล่าพรากชีวิตคนไปราว 5,000 คน ตั้งแต่มิถุนายน 2557 แต่ไข้หวัดปกติ พรากชีวิตคนไปร่วม 500,000 ต่อปี ไข้มาลาเรียส่งผลถึง 1 ล้านต่อปี 3,000 คนต่อปี ถึงแม้ว่าอีโบล่าจะร้ายแรงและน่ากลัว อย่าให้คุณเองตื่นตระหนก สิ่งที่แพร่เชื้อมากที่สุดเกี่ยวสกับอีโบล่า คือการเผยแพร่เกินจริงของสื่อต่างๆ อย่างไรก็ตาม คุณควรเรียนรู้เกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกันบ้าง

ที่มา Kurzgesagt – In a Nutshell Youtube Channel

อันดับสัตว์มีพิษ ไวรัสอีโบลา เอเลี่ยนสปีชี่ส์
กำเนิดจักรวาล กำเนิดดวงอาทิตย์ ระบบสุริยะจักรวาล
ปริศนาของจักรวาล การเดินทางข้ามกาลเวลา สสารและปฏิสสาร
สิ่งมีชีวิตบนดาวอังคาร บิ๊กแบงคืออะไร สัตว์ใกล้สูญพันธุ์
สัตว์น้ำแปลก ปลาแองเกลอร์ สัตว์ดูดเลือด
อันดับงูสวยงาม อนาคอนด้า ตัวอ่อนปลาฉลาม
เห็ดมีพิษ ภัยของยาไอซ์ คลื่นยักษ์สึนามิ
กัญชาปลอดภัย ไวรัสอีโบลา ปรสิตที่น่ากลัว
สาเหตุสึนามิ ทำไมผมร่วง สงครามซีเรีย
ทำลายหลุมดำ โลกของเรา กระแสน้ำทะเล
วิธีทำลายเอกภพ กลไกวิวัฒนาการ ระบบภูมิคุ้มกัน


ประวัติพระเจ้าเฮนรี่ที่ 8

มันเปลี่ยนหน้าประวัติศาสตร์ของอังกฤษไปตลอดกาล เขาคือนักปฎิรูปผู้ปรีชา หรือทรราชจอมข่มเหง ผู้ใช้สภาพเพื่อผลประโยชน์ส่วนตน มาค้นหากันในประวัติศาสตร์ ปะทะ เฮนรี่ ที่แปด ผู้พิพากษา: อยู่ในความสงบด้วย ใครกันเนี่ย ดูจะเป็นหนุ่มที่ห้าวใช่ย่อย

ทนายฝ่ายจำเลย: ใช่แล้ว ท่านผู้พิพากษา นี่คือเฮนรี่ที่แปด กษัตริย์เรืองนาม ผู้ปฏิวัติศาสนาและรัฐบาลของอังกฤษ และกำหนดเส้นทางให้อังกฤษกลายเป็นประเทศที่ทันสมัย

ทนายฝ่ายโจทก์: ผมเชื่อว่าไม่ใช่อย่างนั้น นี่คือกษัตริย์ที่โหดร้าย วู่วาม และฟุ่มเฟือย ผู้ที่ไม่ค่อยนึกถึงประชาชน เช่นเดียวกับที่เขาปฎิบัติกับราชินีทั้งหก

ผู้พิพากษา: หกงั้นหรือ

ทนายฝ่ายจำเลย: ท่านผู้พิพากษา การแต่งงานครั้งแรกเฮนรี่เป็นการคลุมถุงชนตอนที่เขายังเป็นเด็ก เขาแต่งงานกับแคทารีน แห่งอารากอน เพียงเพื่อความสัมพันธ์อันแน่แฟ้นของอังกฤษและสเปน

ทนายฝ่ายโจทก์: ความสัมพันธ์ที่เขาพร้อม จะโยนทิ้งเสียโดยไม่คำนึงถึงประเทศ

ทนายฝ่ายจำเลย: เฮนรี่คำนึงประเทศทุกลมหายใจ มันเป็นหน้าที่ต้องหาทายาทชาย เพื่อความมั่นคงของราชวงศ์ทิวดอร์ ซึ่งเป็นสิ่งที่แคทารีนไม่อาจทำได้ตลอดการแต่งงานกว่ายี่สิบปี

ทนายฝ่ายโจทก์: ท่านผู้พิพากษา ปรบมือข้างเดียวมีหรือจะดัง

ทนายฝ่ายจำเลย: ไม่ว่าจะอย่างไร อังกฤษก็ต้องการราชินีองค์ใหม่เพื่อความมั่นคง แต่สันตปาปาปฎิเสธที่จะประกาศการหย่า เพื่อให้กษัตริย์ได้แต่งงานใหม่

ผู้พิพากษา: น่าลำบากใจจริง ๆ จะเถียงกับสันตปาปาอย่างไรได้



ทนายฝ่ายโจทก์: และนั่นก็เป็นสิ่งที่กษัตริย์องค์นี้ตัดสินใจทำ เขาถอนรากถอนโคนรากฐานศาสนาของประเทศ และตัดสัมพันธ์ระหว่างศาสนจักรอังกฤษกับศาสนจักรโรมัน ซึ่งนำไปสู่ความขัดแย้งรุนแรงหลายศตวรรษ

ทนายฝ่ายจำเลย: เฮนรี่ก็แค่ให้อำนาจอันเที่ยงแท้กับศาสนจักรในบ้านเกิด เขาปลดแอกราษฎรจากการโกงกินของกลุ่มอำนาจโรมันคาทอลิก และด้วยการปฎิเสธการเปลี่ยนแปลงที่สุดโต่งแบบนิกายโปรเตสแตนต์ เขายอมให้คนของเขาคงขนบประเพณีดั้งเดิมส่วนใหญ่ของศาสนาเอาไว้

ทนายฝ่ายโจทก์: ขอค้านครับ ศาสนจักรเป็นสถาบันอันเป็นที่รักอยู่แล้ว มันได้นำมาซึ่งความสงบ และความเอื้ออาทรต่อประชาชน เป็นเพราะเฮนรี่แท้ ๆ ที่ทำให้ที่ดินของศาสนจักรถูกยึด โรงพยาบาลต้องปิดตัว และหอธรรมอันมีค่า ก็สูญหายไปตลอดกาล ทั้งหมดก็เพื่อสนองความมั่งคั่งของราชวงศ์

ทนายฝ่ายจำเลย: เงินทุนบางส่วนถูกใช้เพื่อสร้างวิหารใหม่ และโรงเรียนสำหรับคนทั่วไป และมันก็สำคัญยิ่งสำหรับอังกฤษที่จะเข้ามาควบคุมประเด็นนี้ แทนที่จะให้โรมเป็นผู้ควบคุม

ทนายฝ่ายโจทก์: ภายใต้การควบคุมของเฮนรี่น่ะสิ

ทนายฝ่ายจำเลย: ไม่จริงนะ การปฏิรูปส่วนใหญ่ที่เกี่ยวกับกษัตริย์ก็ต้องผ่านสภา ในยุคนั้นไม่มีประเทศอื่น ที่ให้ประชาชนได้ใช้เสียงในสภา

ทนายฝ่ายโจทก์: เขาใช้สภาพเป็นตราประทับรับรองความต้องการของตัวเอง ในขณะที่เขาปกครองอย่างทรราช ลงอาญาคนที่เขาคิดว่าไม่จงรักภักดี เหยื่อของเขารวมถึงรัฐบุรุษ และนักปรัชญา โทมัส มอร์ ซึ่งเคยเป็นเพื่อนสนิทและที่ปรึกษา และแอน โบลีน ราชินีองค์ใหม่ ผู้ทำให้เฮนรี่ทำประเทศอังกฤษแตกแยก

ผู้พิพากษา: เขาตัดสินประหารภรรยาตัวเองหรือ

ทนายฝ่ายจำเลย: นั่น ไม่ใช่สิ่งที่กษัตริย์เฮนรี่อยากทำแต่แรก นางถูกกล่าวหาในข้อหาร่วมคิดการกบฎ กับโทมัส ครอมเวลล์ ที่ปรึกษาของตัวกษัตริย์เอง

ทนายฝ่ายโจทก์: การพิจารณาคดีนั้นน่าอัปยศ และนางก็คงไม่ถูกตัดสินว่ามีความผิด ถ้าเฮนรี่ไม่ได้เห็นชอบด้วย แถมเขาก็ไม่ได้เสียอกเสียใจอะไรมากกับผลลัพธ์ที่ออกมา เขาแต่งงานกับ เจน ซีมอร์ ในอีก 11 วันต่อมา

ทนายฝ่ายจำเลย: ซึ่งขอย้ำว่าการแต่งงานนั้นได้มาซึ่งทายาทชาย และเครื่องยืนยันความมั่นของของบัลลังก์ แม้ว่าราชินีองค์ใหม่จะสวรรคตอย่างน่าเศร้า เมื่อให้ประสูติกาลกับทารก

ทนายฝ่ายโจทก์: ความโศกเศร้านั้นก็ไม่ได้หยุดการแต่งงานครั้งที่สี่กับแอน ออฟ คลีฟส์ ซึ่งต่อมาเฮนรี่ก็หย่าด้วยเหตุผลแปลก ๆ แล้วใช้มันในการกล่าวหาครอมเวลล์ ยังไม่พอ จากนั้นเขาก็แต่งงานกับแคทารีน โฮวาร์ด ญาติของแอน โบลีน ก่อนที่จะประหารเธอเช่นกัน

ทนายฝ่ายจำเลย: นางมีชู้ซึ่งนางก็สารภาพ ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม การแต่งงานครั้งสุดท้าย ของเฮนรี่กับแคทารีน พาร์ ถือว่าประสบความสำเร็จ

ทนายฝ่ายโจทก์: คนที่หก เป็นกษัตริย์ที่ไม่รู้จักยับยั้งชั่งใจเลย ยอมให้เรื่องส่วนตัวเรื่องชู้เข้ามายุ่งกับราชการได้ สนใจแต่เพียงความสุขส่วนตัวและคุยโวโอ้อวด

ทนายฝ่ายจำเลย: การแสดงอำนาจนั้นเคยเป็นบทบาทของกษัตริย์ในฐานะแบบอย่าง เฮนรี่เป็นบัณฑิตและนักดนตรีที่ให้การอุปถัมภ์ศิลปะต่าง ๆ ทั้งยังเป็นนักรบและนักกีฬาผู้ช่ำชองอีกด้วย การแข่งขันอันหรูหราที่เฮนรี่เป็นผู้จัด ก็ทำให้ชื่อเสียงของอังกฤษบนในเวทีโลก

ทนายฝ่ายโจทก์: ถึงอย่างนั้น นโยบายทั้งนอกและในประเทศของเขาก็ไม่ได้เรื่อง การทำศึกกับฝรั่งเศสและการบุกสกอตแลนด์อย่างหนักผลาญเงินในคลัง ความพยายามแก้ปัญหาโดยแทรกแซงการผลิตเงินเหรียญก็ทำให้เกิดภาวะเงินเฟ้อต่อเนื่อง ขุนนางและเจ้าศักดินาทั้งหลายต่างต้องทิ้งที่นาทุ่งเลี้ยงสัตว์ ทำให้ราษฎรทั่วไปต้องการเป็นขอทาน

ทนายฝ่ายจำเลย: ขอทานที่ไม่นานก็กลายเป็นชาวนาเจ้าของที่ดิน การกั้นรั้วล้อมทำให้การเกษตรมีประสิทธิภาพมากขึ้น และมีแรงงานเหลือ ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญของการปฏิวัติอุตสาหกรรม อังกฤษจะไม่ได้กลายมาเป็นมหาอำนาจอย่างที่เป็นโดยปราศจากสิ่งดังกล่าวโดยปราศจากเฮนรี่

ผู้พิพากษา: เอาล่ะ ไม่ว่าจะอย่างไรก็ดี เราคงเห็นตรงกันว่าเฮนรี่ในรูปดูดีไม่เบา ศรัทธาชนผู้ตัดสัมพันธ์กับศาสนจักร บุรุษทรงความรู้ผู้ประหารบัณฑิต กษัตริย์ผู้นำมาซึ่งเสถียรภาพแห่งบัลลังก์ แต่ก็ใช้มันเพื่อส่งเสริมความรุ่งโรจน์ของตน เฮนรี่ที่แปดเป็นบุคคลที่เต็มไปด้วยความขัดแย้งแห่งระบบราชาธิปไตย ในช่วงเปลี่ยนผ่านสู่ยุคสมัยใหม่ แต่การแยกตัวผู้ปกครองออกจากตำนานเป็นการนำประวัติศาสตร์ทุกภาคส่วนขึ้นมาพิจารณา

ที่มา TED-Ed Youtube Channel

เจ้าพระยาวิชเยนทร์ หรือจะเป็นรักร่วมเพศในราชสำนักสยาม

ผู้หญิงสองคนในชีวิต อับราฮัม ลินคอล์น

พระเจ้าซุกจง แห่งเกาหลี เมื่อผู้หญิงเป็นหมากการเมือง

รักบนบัลลังก์เลือดของกษัตริย์เกาหลีองค์สุดท้าย

รักจำพรากหลังวังมังกร

อู๋ซันกุ้ย ยามจอมทัพมีความรัก ชาติก็ล่มสลาย

จักรพรรดิปูยี มังกรไร้บัลลังค์

อโดนิส ตำนานดอกไม้แห่งความรัก

มาตาฮารี ยอดจารชนหญิงของโลก

เจ้าฟ้าหญิงบุญรอด ต้นกำเนิดกาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน

ขุนศึกหญิงแดนมังกร มู่กุ้ยอิง หวางชิงเอ๋อ และฮัวมู่หลาน 

ตำนานธอร์ (Thor) เทพสายฟ้า

สารคดีสงครามเย็น บทบาทของผู้นำโซเวียต นิกิต้า ครุสชอฟ (Nikita Khrushchev)

การพบเห็นมนุษย์ต่างดาวในประวัติศาสตร์ 

ความขัดแย้งในคาบสมุทรเกาหลี

ประวัติศาสตร์กำแพงเมืองจีน (The Great Wall of China)

รักต่างวัยของพระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 และ แคทเธอรีน โฮเวิร์ด

ฮาเร็ม สวรรค์ของหนึ่งบุรุษหรือทุกข์ของอิสตรี

โจน ออฟ อาร์ค วีรสตรีที่โลกไม่เคยลืม

เปิดแฟ้มลับชีวิตรัก อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ (Adolf Hitler)

จักรพรรดิเนโร ที่โหดก็เพราะรัก

พระนางเลือดขาว ตำนานรักและคำสาปแห่งเกาะลังกาวี

10 อารยธรรมโบราณที่เก่าแก่ที่สุดที่เคยมีมา

10 อันดับโรคระบาดที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์

7 เหตุการณ์ที่สำคัญที่สุดในเปอร์เซียโบราณ

12 สุดยอดข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเจงกิสข่าน

18 สุดยอดสิ่งประดิษฐ์และการค้นพบของจีนโบราณ

10 ตำนานยอดนิยมและน่าสนใจในกรุงโรมโบราณ

ผู้ปกครองหญิง 9 อันดับแรกของโลกโบราณ

9 อันดับนักรบหญิงของโลกยุคโบราณ

8 อันดับผลงานของฮัมมูราบี

12 อันดับผลงานของโสกราตีส


กษัตริย์เกาหลี จักรพรรดิกวางสี จักรพรรดิปูยี
ตำนานอโดนิส โจนออฟอาร์ค มู่กุ้ยอิง
จักรพรรดิเนโร พระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 อับราฮัม ลินคอล์น
พระเจ้าซุกจง มาตาฮารี เจ้าฟ้าหญิงบุญรอด
ตำนานธอร์ นิกิต้า ครุสชอฟ สงครามเกาหลี
กำแพงเมืองจีน อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ พระนางเลือดขาว
อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ สตีเฟน ฮอว์คิง ลีโอ ตอลสตอย
สตีฟ จ็อบส์ เจ้าพระยาวิชเยนทร์ พระนางมัสสุหรี


ปรสิตที่น่าสยดสยองที่สุดในโลก

ในปี 1014 จักรพรรดิไบแซนไทน์ บาซิลที่สองได้กำราบกองทหารบัลแกเรียและจับกุมนักโทษทั้งหมด 15,000 คน ท่านนั้นสามารถสั่งประหารพวกเขาได้ทั้งหมด แต่ท่านกลับมีความคิดที่ต่างออกไป ท่านจักรพรรดิต้องการที่จะตัดกำลังศัตรูล่วงหน้าถึงหลายทศวรรษ ท่านจึงสั่งให้ทำลายดวงตานักโทษทั้งหมด 99 คนจาก 100 คน ส่วนคนที่ 100 จะถูกปล่อยให้เหลือดวงตาข้างหนึ่ง เพื่อนำพาพวกที่เหลือกลับสู่บ้านของตน ซึ่งเป็นการบีบให้พวกพ้องต้องคอยดูแลตลอดชีวิตที่เหลืออยู่ของพวกเขา วันนี้ มนุษย์ตกอยู่ภายใต้การโจมตีเช่นเดียวกันนี้  โดยซุปเปอร์วายร้าย  ที่เรียกว่า NTDs (โรคเขตร้อนที่ถูกละเลย) หนึ่งในเจ็ดคนของมนุษย์บนโลกซึ่งมากกว่าประชากรทั้งหมดในยุโรป ได้รับความทุกข์จาก NTDs ด้วยหนึ่งหรือหลายสาเหตุ พวกมันทำให้เกิดความเสียหายคณานับ โดยทำให้คนนับไม่ถ้วนสุขภาพทรุดโทรม



แต่ละปี พวกมันผลาญรายได้นับพันล้านดอลลาร์ ทำให้ชุมชนอ่อนแอและพัฒนาช้า พวกสัตว์ประหลาดอย่างกะออกมาจากหนังสยองขวัญที่กำลังหาที่ก่อความเสียหายให้สายพันธุ์ของเรา มันคืออะไรกันนะ? NTDs (โรคเขตร้อนที่ถูกละเลย) เกิดได้จากปรสิตหลากหลาย เช่น พยาธิ อะมีบา แบคทีเรีย หรือ ไวรัส อาการที่มันก่อให้เกิดมีหลากหลาย และเป็นดั่งฝันร้ายอย่างแท้จริง อย่าง พยาธิปากขอ แย่งอาหารที่จะไปเลี้ยงสมองและร่างกายของเด็ก หยุดการเจริญเติบโตและลดระดับสติปัญญา NTDs บางอย่าง ทำให้ตาบอด เป็นผลจากการติดเชื้อที่ตาอย่างรุนแรง ปรสิตอื่นทำให้ล้มป่วยนอนบนเตียงเป็นเดือนๆ และเกิดความเสียหายของอวัยวะภายในจนอายุสั้น ยังมีตัวอื่นทำให้เป็นปานเสียโฉม ต้องมีชีวิตอยู่อย่างอับอายและไม่มีคนจ้างงาน ยังมีอีกที่ทำให้เจ็บปวดทรมาน มันก่อให้เกิดอาการคันที่ยาวนานและเจ็บปวดมาก เอาเป็นว่า มาแนะนำบางตัวให้คุณรู้จัก:

Dracun culiasis (โรคพยาธิกีเนีย) ถ้าคุณบังเอิญดื่มน้ำปนเปื้อนพยาธินี้ คุณจะไม่เป็นอะไรเลยนานนับปี จนกระทั่งวันหนึ่ง คุณก็เห็นตุ่มบนขาของคุณ หนอนพยาธิออกมาจากผิว เพื่อให้ตัวอ่อนออกมา วิธีเดียวที่เอามันออกคือ ค่อยๆ ดึงมันออกจากขาของคุณ ขยับทีละเซ็นติเมตร ใช้เวลาหลายอาทิตย์ เพราะตอนนี้ Dracun culiasis ยาวนับเมตรแล้ว เราทุกคนเห็นพ้องว่า ควรจะฆ่าปรสิตดังกล่าวด้วยไฟ นั่นคือเหตุผลที่เรา ร้องขอให้กำจัดมันให้สิ้นภายในปี 2020 และเราพยายามทำอย่างมาก ปี 1985 มี 3.5 ล้านคน ทั่วโลก ในกรณีของ Dracun culiasis ในปี 2015 มี 22 ล้านกรณี เราได้ฆ่า  99.999% ของมันไปแล้ว มันจะกลายเป็นปรสิตชนิดแรกที่เราจะกำจัดให้สิ้นซากตลอดกาล

แม้ว่ามันไม่ได้พวดหัวข่าวใหญ่โตเหมือนอย่างอีโบล่า เป็นสิ่งน่าอัศจรรย์จริงๆ ที่ได้เกิดขึ้นกับ NTDs NTDs ทุกตัว มีหนึ่งสิ่งเหมือนกัน: มันชอบโจมตีมนุษย์ที่อาศัยอยู่ในชุมชนโดดเดี่ยว และคนที่มักป้องกันตัวเองได้น้อยที่สุด มีชาวบ้านที่ห่างไกลจากสถานพยาบาลราว 500 ก.ม. และไม่มีถนน ดังนั้น แม้ว่ามียารักษา แต่ถ้าหมายถึงต้องเดินทางไปเอายาให้ผู้ป่วย เช่นนั้น? มันเรียกว่าเป็นการโจมตีที่เล่นกะความถึกทน การกำจัด NTDs ครั้งเดียวให้หมดไป จะคือโปรแกรมทางการแพทย์ที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษย์ที่ไม่มีสิ่งใดเทียบเท่า องค์กรทุกสาขาทำงานร่วมกันตอนนี้ เพื่อกำจัด  ปรสิต NTDs นับสิบชนิดให้หายไปตลอดกาลเหมือนตลกร้าย  ปรสิต NTDs ทุกตัว  แท้จริงแล้ว ป้องกันได้หรือรักษาได้ พวกมันส่วนมากควบคุมได้โดยให้ยารักษาแก่ทุกคนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยง

นี่คือปริมาณยานับล้านๆ โดส สำหรับปรสิต NTDs หลายตัวในหนึ่งครั้ง เป็นเวลาหลายปี ในประเทศที่ไม่มีโครงสร้างพื้นฐานรัฐบาลและองค์กรด้านสารธารณสุขไม่สามารถทำแบบนั้นได้ด้วยตัวพวกเขาเอง มนุษยชาติมีโอกาสที่จะอวดการผลิตยาเชิงอุตสาหกรรมที่สามารถบรรลุเป้าหมายได้ อุตสาหกรรมยาก้าวเข้ามาสู่การกระจายยาที่จำเป็นแบบฟรี และต้องทำต่อเนื่องจนนับสิบโรคหายไป ในปี 2020 ยามูลค่าเกือบ 18 พันล้านดอลลาร์ถูกแจกจ่าย การบริจาคยาที่ใหญ่ที่สุดที่โลกเคยเห็น พวกเขายังช่วยทำให้แน่ใจว่ายาไปถึงที่ที่ต้องการอย่างแท้จริง ในปี 2015 อย่างเดียว การรักษานี้ไปถึง กว่า 850 ล้านคน มากกว่าประชากรในทวีปยุโรปและประเทศอเมริการวมกัน สิ่งเลวร้ายที่เกิดขึ้นสร้างการพาดหัวข่าว หลายร้อยล้านคนเอาชนะโรคหายนะ เนื่องจากการร่วมมือกันอย่าเป็นประวัติการณ์ ไม่ใช่พาดหัว เรื่องแบบนี้ถูกเล่าขานไม่บ่อยมากพอ สิ่งดีๆ เกิดขึ้นตลอดเวลา นำพามนุษยชาติ ก้าวสู่อนาคตที่ทุกข์ทรมานน้อยลง
ที่มา Kurzgesagt – In a Nutshell Youtube Channel

อันดับสัตว์มีพิษ ไวรัสอีโบลา เอเลี่ยนสปีชี่ส์
กำเนิดจักรวาล กำเนิดดวงอาทิตย์ ระบบสุริยะจักรวาล
ปริศนาของจักรวาล การเดินทางข้ามกาลเวลา สสารและปฏิสสาร
สิ่งมีชีวิตบนดาวอังคาร บิ๊กแบงคืออะไร สัตว์ใกล้สูญพันธุ์
สัตว์น้ำแปลก ปลาแองเกลอร์ สัตว์ดูดเลือด
อันดับงูสวยงาม อนาคอนด้า ตัวอ่อนปลาฉลาม
เห็ดมีพิษ ภัยของยาไอซ์ คลื่นยักษ์สึนามิ
กัญชาปลอดภัย ไวรัสอีโบลา ปรสิตที่น่ากลัว
สาเหตุสึนามิ ทำไมผมร่วง สงครามซีเรีย
ทำลายหลุมดำ โลกของเรา กระแสน้ำทะเล
วิธีทำลายเอกภพ กลไกวิวัฒนาการ ระบบภูมิคุ้มกัน


สึนามิเกิดขึ้นได้อย่างไร

เมื่อ 479 ปีก่อนคริสต์กาล กองทัพเปอร์เซียเข้าโจมตีชาวกรีกที่เมืองโพทิเดีย กระแสน้ำถอยห่างจากชายฝั่งไปไกลกว่าปกติ เปิดเส้นทางสะดวกให้กับการเดินทัพ แต่นั่นไม่ใช่ว่ากองทัพเปอร์เซียโชคดีนะ ทหารยังข้ามไปไม่ถึงครึ่งทาง น้ำทะเลได้ย้อนกลับมาเป็นคลื่นสูงกว่าคลื่นใดๆ ที่พวกเขาเคยเห็น โถมทำลายกองทัพเปอร์เซีย ชาวโพทิเดียเชื่อว่าพวกเขาพ้นภัยด้วยความเกรี้ยวกราดแห่งเทพโพไซดอน แต่ที่จริง สิ่งที่ช่วยพวกเขาไว้ น่าจะเป็นปรากฏการณ์ที่คร่าชีวิตผู้คนมาแล้วมากมาย คลื่นสึนามิ

คนส่วนใหญ่เข้าใจว่าสึนามิ เป็นคลื่นน้ำขึ้นน้ำลงชนิดหนึ่ง แต่จริงแล้วสึนามิไม่เกี่ยวข้องกับปรากฏการณ์น้ำขึ้นน้ำลง ที่เกิดจากแรงโน้มถ่วง ของดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ อันที่จริง สึนามิก็เป็นเหมือนคลื่นทะเลทั่วไป เพียงแต่มีขนาดใหญ่มากเป็นพิเศษ สึนามิมี ท้องคลื่น และ ยอดคลื่น ไม่มีการเคลื่อนที่ของน้ำ แต่เป็นการเคลื่อนที่ของพลังงานผ่านน้ำ ความแตกต่างอยู่ตรงแหล่งที่มาของพลังงาน สำหรับคลื่นปกติในมหาสมุทร พลังงานมาจากลม เพราะว่ามันส่งผลกระทบผิวหน้าเท่านั้น คลื่นปกติจึงมีขนาดและความเร็วจำกัด แต่สึนามิเกิดจากพลังงานที่ก่อตัวใต้น้ำจากการปะทุของภูเขาไฟ จากแผ่นดินถล่มใต้น้ำ หรือที่เกิดขึ้นบ่อยที่สุด คือแผ่นดินไหวที่พื้นมหาสมุทร ซึ่งเกิดจากแผ่นเปลือกโลกเคลื่อนที่ ปลดปล่อยพลังงานมหาศาลออกมาในน้ำ พลังงานนี้เดินทางสู่ผิวน้ำ ผลักดันน้ำและยกน้ำขึ้นสูงเหนือกว่าระดับน้ำทะเลปกติ แต่แรงโน้มถ่วงดึงน้ำกลับลงมา ทำให้พลังงานกระเพื่อมออกไปในแนวนอน นี่คือกำเนิดของสึนามิ



เคลื่อนที่ด้วยความเร็ว 500 ไมล์ต่อชั่วโมง เมื่อสึนามิยังอยู่ห่างจากชายฝั่ง มันยากที่จะสังเกตเห็นสึนามิ เพราะมันเคลื่อนที่ตลอดความลึกของน้ำ แต่เมื่อสึนามิมาถึงบริเวณน้ำตื้น จะเกิดสิ่งที่เรียกว่า ผลของความตื้นของพื้นทะเล เพราะว่าบริเวณนั้นมีปริมาณน้ำน้อยลง พลังงานมหาศาลที่ยังมีมากอยู่จึงถูกบีบอัด ความเร็วคลื่นลดลง ขณะที่ความสูงคลื่นเพิ่มขึ้นได้ถึง 100 ฟุต คำว่า สึนามิ เป็นคำภาษาญี่ปุ่นที่แปลว่า คลื่นท่าเรือ ได้มาจากข้อเท็จจริงที่ว่า สึนามิมักจะมาปรากฏให้เห็นต่อเมื่อมันถึงใกล้ชายฝั่งแล้ว ถ้าท้องคลื่นของสึนามิมาถึงชายฝั่งก่อน น้ำทะเลจะถอยห่างจากชายฝั่งไปไกลกว่าปกติ ก่อนที่ตัวคลื่นจะเข้าตีชายฝั่ง ซึ่งก่ออันตรายได้มากจากความเข้าใจผิด สึนามิไม่เพียงคร่าชีวิตผู้คนที่อยู่ใกล้ชายฝั่งเท่านั้น แต่ยังโถมทำลายตึกและต้นไม้ ที่อยู่ลึกเข้าไปในแผ่นดินไกลถึงหนึ่งไมล์ โดยเฉพาะในพื้นที่ต่ำ เท่านั้นยังไม่พอ น้ำมหาศาลยังไหลย้อนกลับสู่ทะเล ลากเอาซากสลักหักพัง และสิ่งใด หรือใครก็ตาม ที่โชคร้ายพอที่จะไปอยู่ในเส้นทางนั้น

เหตุการณ์สึนามิ ในมหาสมุทรอินเดีย เมื่อปี 2004 นับเป็นหนึ่งในภัยพิบัติธรรมชาติ ที่ร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ คร่าคนไปมากกว่า 200,000 คนทั่วเอเชียใต้ แล้วเราจะปกป้องตัวเอง จากพลังธรรมชาติที่ร้ายแรงนี้อย่างไร ผู้คนในบางภูมิภาคได้เคยพยายามหยุดสึนามิด้วยกำแพงกั้นทะเล ประตูกั้นน้ำ และร่องน้ำเพื่อเบี่ยงเส้นทางน้ำ แต่ก็ไม่ได้ผลเสมอไป เมื่อปี 2011 สึนามิได้ข้ามกำแพงกั้นน้ำซึ่งปกป้องโรงไฟฟ้าฟุกุชิมาของประเทศญี่ปุ่น นำไปสู่ภัยพิบัตินิวเคลียร์ เพิ่มเติมจากที่มันคร่าคนไปแล้วกว่า 18,000 ชีวิต นักวิทยาศาสตร์และผู้กำหนดนโยบายจำนวนมาก จึงเพ่งความสนใจที่การตรวจจับสึนามิแต่เนิ่น โดยจับตาดูความดันใต้น้ำ และการเคลื่อนตัวของแผ่นเปลือกโลก และจัดตั้งเครือข่ายการสื่อสารครอบคลุมทั่วโลก เพื่อแจ้งเตือนภัยได้อย่างรวดเร็ว เมื่อธรรมชาติทรงพลังเกินกว่าจะหยุดยั้ง การรับมือที่ปลอดภัยที่สุดคือหลบหลีกมัน
ที่มา TED-Ed Youtube Channel

อันดับสัตว์มีพิษ ไวรัสอีโบลา เอเลี่ยนสปีชี่ส์
กำเนิดจักรวาล กำเนิดดวงอาทิตย์ ระบบสุริยะจักรวาล
ปริศนาของจักรวาล การเดินทางข้ามกาลเวลา สสารและปฏิสสาร
สิ่งมีชีวิตบนดาวอังคาร บิ๊กแบงคืออะไร สัตว์ใกล้สูญพันธุ์
สัตว์น้ำแปลก ปลาแองเกลอร์ สัตว์ดูดเลือด
อันดับงูสวยงาม อนาคอนด้า ตัวอ่อนปลาฉลาม
เห็ดมีพิษ ภัยของยาไอซ์ คลื่นยักษ์สึนามิ
กัญชาปลอดภัย ไวรัสอีโบลา ปรสิตที่น่ากลัว
สาเหตุสึนามิ ทำไมผมร่วง สงครามซีเรีย
ทำลายหลุมดำ โลกของเรา กระแสน้ำทะเล
วิธีทำลายเอกภพ กลไกวิวัฒนาการ ระบบภูมิคุ้มกัน


ทำไมบางคนถึงผมร่วง

ชาร์ลส์ ดาร์วิน, ไมเคิล จอร์แดน และโยดา มีอะไรที่เหมือนกันบ้าง พวกเขาหัวล้านเหมือนกับบุคคลสำคัญมากมายในประวัติศาสตร์หรือในนิยาย ในบางกรณีพวกเขาเลือกที่จะหัวล้านเอง โดมกลมๆที่เปล่งประกายเป็นสัญลักษณ์ของความฉลาดเป็นเวลาหลายศตวรรษ ถึงกระนั้นก็ตาม คนหัวล้านมากมายยังคงหวังว่าผมของพวกเขาจะกลับคืนมา นักวิทยาศาสตร์ได้ไตร่ตรองอยู่นานว่า "ทำไมบางคนเสียเส้นผมไปและทำอย่างไร พวกเราจะทำให้เส้นผมกลับคืนมา" คนที่มีผมเต็มศีรษะ มีผมประมาณ 100,000 ถึง 150,000 เส้นบนหนังศึรษะ และนักวิทยาศาสตร์ได้ค้นพบสองประเด็น เกี่ยวกับเจ้าพุ่มหนาแน่นนี้



ประการแรก เส้นผมอุยที่พวกเราเห็นเกิดขึ้นมาจากเคราติน โปรตีนที่เหลือจากเซลล์ตายที่ถูกดันขึ้นไป ขณะที่เซลล์ใหม่เติบโตข้างใต้มัน

ประการที่สอง โครงสร้างที่ทำให้เกิดการเติบโตของเส้นผมเรียกว่า ปุ่มรากผม เครือข่ายอวัยวะซับซ้อนที่ ถูกสร้างขึ้นก่อนพวกเราเกิด และทำให้เส้นผมเกิดขึ้นมาในวัฏจักรที่ไม่รู้จบ

วัฏจักรนี้มี 3 ระยะหลักๆ ระยะแรกคือ อนาเจน เป็นระยะเติบโตกว่า 90% ของปุ่มรากผมอยู่ในระยะนี้ ทำให้พวกมันดันเส้นผมขึ้นมาในอัตรา 1 เซนติเมตรต่อเดือน อนาเจนสามารถอยู่ได้เป็นเวลาสองถึงเจ็ดปี ขึ้นอยู่กับยีนของคุณ หลังจากระยะเวลาการเติบโตนี้ สัญญาณภายในผิวหนังจะบอกปุ่มรากผมให้เข้าสู่ระยะใหม่ที่รู้จักกันในชื่อ คาทาเจน (catagen) หรือระยะถดถอย ทำให้ปุ่มรากผมหดตัวเหลือส่วนสั้นๆ ของความยาวดั้งเดิมของมัน คาทาเจนดำรงอยู่ได้ประมาณสองถึงสามสัปดาห์ และไม่ส่งเลือดไปหล่อเลี้ยงปุ่มรากผม ทำให้ผมเป็นกระเปาะ หมายความว่ามันพร้อมที่จะร่วงแล้ว ในที่สุด เส้นผมก็เข้าสู่ระยะเทโลเจน (telogen) เป็นระยะพัก ซึ่งนาน 10 ถึง 12 สัปดาห์ และมีผลต่อ 5-15% ของปุ่มรากผมที่หนังศีรษะ ในระยะเทโลเจน เส้นผมที่เป็นกระเปาะ สามารถร่วงได้ภายในวันเดียวถึง 200 เส้น ซึ่งเป็นเรื่องค่อนข้างปกติ

หลังจากนั้น วัฏจักรการเติบโตก็เริ่มต้นอีกครั้ง แต่ไม่ใช่ศีรษะทั้งหมดจะมีผมดก และ อันที่จริง ผมที่ศีรษะของบางคนขึ้นเป็นหย่อมๆมากขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป ตอบสนองต่อความเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย 95%ของการมีหัวล้านในผู้ชายสามารถเชื่อมโยงกับรูปแบบหัวล้านของเพศชาย หัวล้านเป็นกรรมพันธุ์ และในคนที่เป็นแบบนี้ ปุ่มรากผมจะไวอย่างไม่น่าเชื่อต่อฤทธิ์ของดีไฮโดรเทสทอสเทอโรน (ดีเอชที) ผลิตผลทางฮอร์โมนที่เกิดจากเทสทอสเทอโรน ดีเอชทีทำให้เกิดการหดตัวในปุ่มรากผมที่แสนจะอ่อนไหวเหล่านี้ ทำให้ผมสั้นขึ้นและบางลง แต่การสูญเสียไม่ได้เกิดขึ้นในทันที มันเกิดขึ้นอย่างช้าๆ ตามมาตรวัดที่เรียกว่า นอร์วูดสเกล (Norwood Scale) ซึ่งบอกถึงความรุนแรงของการสูญเสียผม

ประการแรก ผมจะถอยร่นตามแนวขมับ จากนั้นผมบนกระหม่อมจะเริ่มบางลงเป็นรูปวงกลม ที่ระดับสูงสุดตามมาตรวัดนี้ บริเวณที่หัวล้านจะบรรจบกัน และขยายออกไปอย่างรวดเร็ว ในที่สุดจะเหลือแต่วงผมหรอมแหรมรอบๆขมับ และด้านหลังของศีรษะ พันธุกรรมไม่ใช่เหตุผลทั้งหมดที่ทำให้ผมร่วง ความเครียดเป็นเวลานานสามารถส่งสัญญาณ ที่ช็อกปุ่มรากผม และบังคับมันเข้าสู่ระยะพัก ก่อนเวลาอันควร ผู้หญิงบางคนประสบกับปัญหานี้ หลังจากคลอดลูก ปุ่มรากผมจะเสียความสามารถในการ เข้าสู่ระยะอนาเจน ซึ่งเป็นระยะเติบโต คนที่ผ่านการเคมีบำบัดก็ประสบกับปัญหานี้ชั่วคราว แต่ขณะที่การมีหัวล้าน ดูเหมือนจะเป็นถาวร การตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์ ได้เปิดเผยสิ่งที่ตรงกันข้าม ภายใต้ผิวหนัง รากผมที่ให้กำเนิดเส้นผมของพวกเรา อันที่จริงยังคงอยู่

ด้วยความรู้นี้ นักวิทยาศาสตร์สามารถพัฒนายาที่ ทำให้ระยะพักสั้นลงได้ และบังคับให้ปุ่มรากผมเข้าสู่ระยะอนาเจน ยาตัวอื่นๆต่อสู้กับหัวล้านในเพศชาย โดยการขัดขวางการเปลี่ยนจากเทสทอสเทอโรนไปเป็นดีเอชที เพื่อมันจะได้ไม่มีผลกับปุ่มรากผมที่อ่อนไหวเหล่านั้น สเต็มเซลล์ก็มีบทบาทในการควบคุมวัฏจักรการเติบโตอีกด้วย ดังนั้นนักวิทยาศาสตร์กำลังตรวจสอบว่าพวกเขาจะควบคุมการทำงานของเซลล์เหล่านี้เพื่อกระตุ้นปุ่มรากผมให้สร้างเส้นผมอีกครั้งได้หรือไม่ และในระหว่างนี้ขณะที่นักวิทยาศาสตร์ฝึกฝนวิธีการฟิ้นฟูผมของพวกเขา คนที่กำลังจะหัวล้าน หรือกำลังคิดว่าจะทำให้หัวล้าน จะนึกได้ว่า เขามีเพื่อนพวกเดียวกันเยอะ
ที่มา TED-Ed Youtube Channel


Popular Posts