google.com, pub-6663105814926378, DIRECT, f08c47fec0942fa0 Mega topic | จัดอันดับ | 10 อันดับ| เรื่องผี| เรื่องสยองขวัญ| ที่สุดในโลก| ดูดวง| ประวัติศาสตร์

30 อันดับอาหารจานยักษ์ทั่วประเทศญี่ปุ่น

30 อันดับอาหารจานยักษ์ทั่วประเทศญี่ปุ่น

รายการโกโกริโกะเกมส์กึ๋ยได้ให้นักกินจุประจำรายการมาทานอาหารไซส์ยักษ์ 30 อันดับที่ดีที่สุดจากทั่วประเทศญี่ปุ่น มีอะไรกันบ้างนั้นมาดูกันเลย

อันดับที่ 30 ข้าวหน้ารัฟเทจัมโบ้ (รัฟเท Rafte คล้ายๆ กับหมูพะโล้)


จากร้านโนะฮาระเท จากโอกินาว่า เริ่มจากตักข้าวใส่ชาม ปริมาณข้าวทั้งหมด 1.2 กิโลกรัม รัฟเท (Rafte)เป็นอาหารที่หาทานได้จากจังหวัดโอกินาว่า เป็นอาหารที่คล้ายกับหมูพะโล้ดีๆ นี่เอง เอาน้ำซอสที่เข้มข้นราดลงไปบนข้าวให้ชุ่ม จากนั้นเอากะหล่ำปลีหั่นฝอยมาโรยหน้าข้าว และราดมายองเนสลงไปบนกะหล่ำปลี ปริมาณกะหล่ำปลีนี้อยู่ที่ประมาณครึ่งหัวกันเลยทีเดียว ต่อไปก็เอาชิ้นหมูมาวางเอาไว้ถึง 10 ชิ้นกันเลยทีเดียว รสชาติของรัฟเทนั้นคล้ายกับหมูพะโล้ยังไงยังงั้น น้ำหนักรวมทั้งหมด 2.2 กิโลกรัม



อันดับที่ 29 ข้าวหน้าปลาโอใหญ่พิเศษ


เป็นอาหารที่ขึ้นชื่อของร้านสึรุคาเมะไดรฟ์อิน ซึ่งอยู่ในตัวเมืองอาโอโมริ วัตถุดิบที่นำมาทำเป็นเมนูอาหารที่ร้านนั้น เจ้าของร้านถึงกับไปซื้อที่ตลาดด้วยตัวเองทุกเช้า วัตถุดิบนั้นก็คือปลาโอ ปลาโอที่เลือกมานั้นมีความสดมาก คุณภาพก็จัดว่าชั้นเยี่ยม นับเป็นเนื้อปลาชั้นดีเลยทีเดียว เมนูที่จะกินกันคือข้าวหน้าปลาโอไซส์ใหญ่พิเศษ เริ่มจากตักข้าว ภาชนะที่ใช้นั้นเป็นชามราเม็ง ปริมาณข้าวนั้นหนักถึง 2 กิโลกรัม จากนั้นก็นำเนื้อปลาโอสับมาโปะบนข้าวจนทั่ว เสร็จแล้วก็นำซาชิมิปลาโอชิ้นหนาเบ้งมาโปะอีกทีหนึ่ง ค่อยๆ วางเรียงลงไปจนสูงพอประมาณ ส่วนด้านบนก็โปะด้วยเนื้อโทโระลงไปเป็นอันเสร็จ น้ำหนักรวมของเมนูยักษ์จานนี้ก็อยู่ที่ 2.7 กิโลกรัม

อันดับที่ 28 ข้าวหน้าเทมปุระไซส์พิเศษ


เรามากันที่ร้านเท็นโยชิคัตสึอิจิบัง เขตจิบะ เป็นเมนูของทอด ที่ร้านนี้นอกจากเมนูไซส์ใหญ่พิเศษแล้วยังมีเมนูที่สุดยอดอย่างอื่นอยู่ด้วย เป็นเมนูที่มีทงคัตสึ ของทอดต่างๆ ราดด้วยแกงกะหรี่ร้อนๆ เมนูพิเศษของร้านนี้ก็คือ ซุปเปอร์ข้าวแกงกะหรี่ แต่ว่าเมนูที่ติดอันดับขอบงเรานั้นอลังการกว่าเยอะ เริ่มจากแครอท ฟักทอง และหอมใหญ่คลุกเคล้ากันนำไปชุบแป้งทอดให้ซ้อนกันเป็นสองชั้น ปริมาณของวัตถุดิบนั้นสำหรับ 4 ที่ ต่อไปคือพระเอกของเมนูนี้นั่นก็คือกุ้งนั่นเอง นำกุ้งตัวใหญ่ลงไปทอดพร้อมกันถึง 5 ตัวกันเลย ส่วนข้าวนั้นทางร้านใช้พันธุ์ฮิโตเมะโบเระของจังหวัดโทชิกิ เมื่อคดข้าวใส่ชามแล้วก็ราดน้ำซอสที่ทานกับของทอดให้ทั่วข้าว ปริมาณของข้าวนั้นหนักถึง 1.6 กิโลกรัม จากนั้นก็นำกุ้งเทมปุระ และผักทอดต่างๆ มาโปะลงบนข้าวจนกองโต ต้องจัดวางให้ดีไม่อย่างนั้นมันอาจจะพังทลายลงมาก็เป็นได้ สุดท้ายก็ราดซอสเทมปุระให้ทั่วอีกทีก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย น้ำหนักรวมทั้งหมดอยู่ที่ 2.5 กิโลกรัมกันเลยทีเดียว

อันดับที่ 27 ซุปเปอร์ทงคัตสึ 


อันดับที่ 27 นี้อยู่ที่จังหวัดนารา ร้านทงมาสะ เป็นร้านที่มีชื่อเสียงด้านอาหารไซส์ใหญ่พิเศษ เมนูขนาดยักษ์ของร้านนี้มีมากมาย หนึ่งในนั้นก็คือ หอยนางรมชุบแป้งทอด หอยนางรมนี้เป็นของขึ้นชื่อของฮิโรชิมะ เลยทีเดียว ส่วนเมนูที่อยู่ในการจัดอันดับก็คือซุปเปอร์ทงคัตสึ เราไปดูวิธีการทำกันเลยดีกว่า นำเนื้อหมูชั้นดีจากจังหวัดเอฮิเมซึ่งเจ้าของร้านได้คัดเลือกมาจากเนื้อหมูทั่วประเทศกันเลยทีเดียว ทุบเนื้อหมูให้ทั่ว นำไปชุบแป้ง ชุบไข่ ชุบเกล็ดขนมปัง ตามลำดับ เสร็จแล้วก็นำไปทอด ซึ่งต้องใช้เวลาทอดถึง 1 ชั่วโมงครึ่ง ความยาวของหมูชิ้นนี้คือ 44 เซ็นติเมตร และความหนาที่หนาถึง 10 เซ็นติเมตรกันเลยทีเดียว น้ำหนักรวมทั้งหมดคือ 4.5 กิโลกรัม สุดยอดจริงๆ

อันดับที่ 26 นูกุยโซบะไซส์จัมโบ้


เรากลับมาที่โอกินาว่ากันอีกครั้ง ร้านที่เราจะไปกันมีชื่อว่า ชูเรโซบะ ที่เมืองนาฮา จังหวัดโอกินาว่า ช่วงกลางวันที่ร้านนี้จะมีวงดนตรีมาร้องเพลงพื้นบ้านของโอกินาว่าด้วย และเป็นช่วงที่มีลูกค้าเต็มร้านเลย และเมนูยอดนิยมของร้านนี้ก็คือโซบะแบบทำเอง ราดด้วยน้ำซุปกระดูกหมูและมีเนื้อหมูสี่ชนิดในชาม ชื่อของเมนูยอดนิยมนี้ก็คือ นูกุยโซบะ สำหรับเมนูจานยักษ์ที่จะทานกันก็คือ นูกุยโซบะไซส์จัมโบ้นั่นเอง เราไปดูวิธีการทำกันเลยดีกว่า เริ่มจากกระดูกหมูจากจังหวัดโอกินาว่ามาเคี่ยวห้าชั่วโมงเพื่อให้ได้น้ำซุปที่มีความเข้มข้น ขั้นต่อไปก็คือนำเนื้อหมูทั้งสี่ชนิดมาต้มต่อไปด้วยน้ำซอสสูตรลับของทางร้านที่มีสืบทอดกันมานาน เสร็จแล้วก็นำน้ำซุปมาเทใส่ชามที่มีเส้นโซบะที่ลวกเอาไว้แล้ว นำเนื้อหมูส่วนต่างๆ ที่ต้มไว้มาเรียงในชาม เริ่มจากซี่โครงหมูสองชิ้น ขาหมูคากิ 1 ชิ้น หมูสามชั้น 2 ชิ้น และซี่โครงอ่อนอีก 3 ชิ้น แค่นี้ก็เสร็จเรียบร้อยแล้ว คำว่า "นูกุย" เป็นภาษาของโอกินาว่า มีความหมายที่คล้ายๆ กับคำว่ารวมมิตร เมนูนี้มีขนาดถึง 2.1 กิโลกรัม ใหญ่กว่าขนาดปกติถึง 2.5 เท่า

อันดับที่ 25 ราเม็งผัดเวอร์ชั่นปาร์ตี้


เป้าหมายต่อไปของเราอยู่ที่จังหวัดฟุกุโอกะ จะเป็นอาหารแบบไหนกัน
อันดับที่ 25 เป็นเมนูยอดนิยมของร้านเล็กที่ชื่อว่า "เคนโซคาเฟ่" (KENZO Cafe) ซึ่งตั้งอยู่ในตัวเมืองฟุกุโอกะ เมนูที่ว่านั่นก็คืออาหารที่ขึ้นชื่อของฮากาตะ "ราเม็งผัด" นั่นเอง เรามาดูวิธีการทำกันก่อนดีกว่า เริ่มจากนำหมูและผักลงไปผัดแล้วพักไว้ จากนั้นก็นำเส้นลงมาผัด โดยใส่น้ำซุปกระดูกหมูลงไป ที่ต่างกันก็คือปริมาณเส้นเท่ากับ 5 ที่ของขนาดปกติ จากนั้นก็ผัดจนน้ำซุปแห้งแล้วก็ใส่น้ำซอสสูตรพิเศษลงไป เมื่อเส้นเข้ากับน้ำซอสดีแล้วก็นำไปใส่ลงบนจานที่เตรียมเอาไว้ แล้วก็เอาเครื่องผักกับหมูที่ผัดเอาไว้มาราดลงบนเส้น ตามด้วยไข่ดาวโปะหน้าสองฟอง ไข่ปลาเมนไทโกะ กิมจิ ขนมปัง และตกแต่งด้วยข้าวเกรียบอีกที แค่นี้ก็เสร็จเรียบร้อย น้ำหนักของเมนูนี้อยู่ที่ 2.5 กิโลกรัม

อันดับที่ 24 ดับเบิ้ลเม้าเท่นยากิ


ที่ต่อไปที่เราจะไปก็คือจังหวัดฮิโรชิม่า ที่ร้านมิกกี้โอโคโนมิยากิ เริ่มจากใช้เส้นยากิโซบะ 6 ก้อน มาผัดบนกะทะร้อน นำกะหล่ำปลี 2 หัวหั่นซอยมาวางลงบนเส้น ผัดกะหล่ำปลีเคล้ากับเส้นจนสุกพักไว้ จากนั้นก็เทแป้งลงบนกะทะแผ่เป็นแผ่นกลมๆ โดยทำไว้สามขนาดคือ เล็ก กลาง ใหญ่ นำเส้นที่ผัดเอาไว้มาวางบนแผ่นแป้งแต่ละแผ่นจนพูน ตอนนี้เราจะได้ภูเขาโอโคโนมิยากิถึง 3 ลูกแล้ว จากนั้นก็เอาเบคอนมาวางไว้ด้านบนแล้วก็กลับด้านจนครบทั้งสามชิ้น นำไข่มาละเลงบนกะทะสามแผ่น เอาแป้งแต่ละอันมาวางบนไข่ กลับด้านอีกทีหนึ่ง ทาซอสและโรยสาหร่ายลงบนโอโคโนมิยากิแต่ละชิ้น แล้วก็นำทั้งสามชิ้นมาวางซ้อนกันตามลำดับ เท่านี้เราก็จะได้ภูเขาลูกใหญ่ขึ้นมาแล้ว จากนั้นก็ราดมันบดข้นๆ ลงไปบนยอดภูเขาโอโคโนมิยากิก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย น้ำหนักนั้นหนักถึง 2.8 กิโลกรัมกันเลย

อันดับที่ 23 น้ำแข็งไสสตรอเบอรี่ใส่นมขนาดจัมโบ้


ร้านกาแฟเม้าเท่นแห่งจังหวัดไอจิ ร้านนี้มีชื่อเสียงมากเพราะมีเมนูที่หลากหลายและยังอร่อยอีกด้วย เมนูนี้ใช้ภาชนะที่ใส่น้ำแข็งไสเป็นกะละมังที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางถึง 30 เซ็นติเมตร เริ่มจากใส่น้ำแข็งไสไปจนเต็มกะละมัง ใส่ไอศครีมวานิลลาลงไป 5 ลูก ราดน้ำเชื่อมสตรอเบอรี่ลงไป จากนี้ก็จะโปะน้ำแข็งสลับกับราดน้ำเชื่อมจนกลายเป็นภูเขาน้ำแข็งไสลูกโต ตบท้ายด้วยการราดน้ำเชื่อมสตรอเบอรี่และนมข้นหวานจนมีสีสันสวยงาม ความสูงของน้ำแข็งไสนี้มีขนาดถึง 50 เซ็นติเมตร และมีน้ำหนัก 6 กิโลกรัม ไม่ธรรมดาจริงๆ

อันดับที่ 22 ข้าวผัดโซบะไซส์จัมโบ้


เรามากันที่ร้านยูกิโอโคโนมิยากิ แห่งจังหวัดเฮียวโกะ เมืองโกเบ ใช้ข้าวหนักถึง 1.3 กิโลกรัม มาผัดบนกะทะร้อน นำเนื้อหมูและเนื้อวัวใส่ลงไป เมื่อเข้ากันดีแล้วก็พักเอาไว้ ก็นำเส้นยากิโซบะออกมา 5 ก้อนมาผัดเมื่อเริ่มนิ่มก็นำมาผัดรวมกับข้าวที่ผัดเตรียมไว้ก่อนหน้านี้ ตามด้วยกะหล่ำปลีซอยครึ่งหัว คลุกเคล้าให้เข้ากัน ราดซอสใส่ลงไปให้ทั่ว ต้นหอมซอย และก็คลุกเคล้าให้เข้ากันอีกที ก็จะได้เป็นเมนูข้าวผัดโซบะไซส์จัมโบ้หอมกรุ่นทานร้อนๆ น้ำหนัก 2.3 กิโลกรัม กินกันให้จุกไปเลย

อันดับที่ 21 เดอลักซ์จัมปง


เรามากันที่ "ร้านโคมาโดริ" ที่อยู่ติดกับ "ปราสาทคุมาโมโตะ" แห่งคิวชู และเมนูจานใหญ่ที่ขึ้นชื่อของที่นี่ก็คือ "จัมปงขนาดบิ๊กไซส์" มีเครื่องต่างๆ มากถึง 14 ชนิด ทั้งผักทั้งเนื้อสัตว์ เครื่องเยอะขนาดนี้ก็ทำให้ได้รสชาติของวัตถุดิบที่หลากหลาย ได้คุณค่าทางอาหารเต็มที่ เส้นที่เหนียวนุ่มเข้ากันได้ดีกับน้ำซุปและเครื่องต่างๆ เมนูนี้หนักถึง 3.2 กิโลกรัม งั้นเชิญกินกันได้เลย

อันดับที่ 20 ข้าวยุสึอันด้ง


เป็นของขึ้นชื่อของจังหวัดโคจิ ที่ร้านยุสึอัน เมนูนี้ใช้ปลาคาสุโอะทั้งตัว นำมาแล่เป็นสามส่วนก่อน เสร็จแล้วก็นำไปย่างบนตะแกรงให้ด้านนอกพอเหลืองด้านในยังกึ่งสุก แค่นี้ก็จะได้ทาทาคิที่ดูน่าทานออกมาแล้ว จากนั้นก็คดข้าวหนัก 4.5 กิโลกรัม ใส่ชามใหญ่ โรยงา ใบโอบะซอยละเอียดโรยลงไป ตามด้วยเนกิโทโร่ แต่งรสชาติด้วยโชยุเพื่อทำข้าวเนกิโทโร่นั่นเอง เมื่อคลุกเคล้าข้าวเข้ากันดีแล้วก็จัดข้าวใส่ชาม นำทาทาคิ (ปลาคาสุโอะย่างกึ่งสุกกึ่งดิบแล่เป็นชิ้นหนาๆ)ที่เตรียมเอาไว้โปะลงไปบนข้าว โรยหน้าด้วยใบโอบะซอยอีกครั้ง นำหนักรวมของเมนูนี้ 8.2 กิโลกรัมกันเลยทีเดียว

อันดับที่ 19 ข้าวปั้นมิโสะไส้บ๊วยดองจัมโบ้


เรามากันที่เมืองเซ็นได จังหวัดมิยากิ เริ่มจากข้าวที่ใช้เป็นพันธุ์ฮิโตเมะโบเระจากจังหวัดมิยากิ และใช้เซ็นไดมิโสะที่มีกลิ่นหอมและนำมากินได้ทันทีจึงเรียกกันว่านาเมะมิโสะ นำข้าวที่หุงเสร็จใหม่ๆ ตักมา 1.2 กิโลกรัมมาปั้นเป็นก้อนกลมที่ด้านในนั้นใส่บ๊วยดองสามชิ้น ทารอบนอกด้วยเซ็นไดมิโสะ ตกแต่งด้วยใบชิโสะก็เป็นอันเสร็จ

อันดับที่ 18 เกรทเตอร์โมริ


ที่นี่เป็นร้านราเม็งขึ้นชื่อ "ร้านอุเมะโบโตะ" ในโตเกียว เป็นเส้นราเม็งลวก ทานแบบสึเคะเม็นคือเวลาทานก็จุ่มในน้ำซุปแล้วทาน เมนูนี้ใช้เส้นราเม็งถึง 25 ก้อน ส่วนน้ำซุปก็ทำจากซอสสูตรพิเศษของที่ร้านผสมงา หมูชาชูหั่นฝอยละลายด้วยน้ำซุปที่ทำจากผัก น้ำหนักรวมเมนูนี้ 8 กิโลกรัม

อันดับที่ 17 ข้าวหน้าทะเลรวมมิตรจัมโบ้


ที่ร้านโอตารุ เมืองฮอกไกโด ที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องความสดของวัตถุดิบอาหารทะเลต่างๆ ที่นำมาทำหน้าซูชิ ส่วนข้าวหน้าทะเลรวมมิตรของที่นี่ก็เริ่มจากข้าวซูชิที่ใช้ถึง 5 ถ้วย หน้าอาหารทะเลต่างๆ ถึง 13 อย่าง เริ่มจากวางไข่หวานชิ้นหนา กุ้งโบตั๋น หอยโอตาเตะ ปลาแซลมอนสไลด์ หอยสึโบไก ปูทาราบะกานิ หอยฮกกิ ชาโคะต้มสุก ปลาโซอิ หอยอาวาบิชั้นดี ปลาหมึก ไข่หอยเม่น ปิดท้ายด้วยอิคุระ(ไข่ปลาแซลมอนปรุงรส) เท่านี้ก็เสร็จเรียบร้อยได้เป็นข้าวหน้าทะเลรวมมิตรไซส์ใหญ่พิเศษ เป็นเมนูที่อัดแน่นด้วยความสดของอาหารทะเลฮอกไกโดอย่างแท้จริง เมนูมีน้ำหนัก 3.1 กิโลกรัม

อันดับที่ 16 สเปเชี่ยลซุปคาเรขนาดบิ๊กไซส์


เมนูนี้ประกอบด้วยข้าวหน้าแฮมเบอร์เกอร์ที่ทานคู่กับซุปแกงกะหรี่ เริ่มจากเนื้อแฮมเบิร์กที่ทำจากเนื้อแกะชั้นดีจากฮอกไกโด ลักษณะเด่นก็อยู่ที่ความนุ่มอร่อย เมื่อย่างเสร็จแล้วผ่าดูข้างในก็จะเห็นน้ำซุปเนื้อชุ่มฉ่ำที่ไหลออกมา เนื้อที่ย่างเสร็จก็นำมาวางลงบนข้าว โปะทับด้วยเบคอนทอดอีกสองชิ้น จากนั้นเรามาดูซุปแกงกะหรี่กัน เริ่มจากนำเครื่องแกงมาผัดในหม้อ จุดเด่นก็คือเป็นแกงกะหรี่ที่ขึ้นชื่อของซับโปโร เครื่องแกงต่างๆ ทั้งหอมใหญ่ มะเขื่อเทศ โทบันจัน ซอสหอยนางรมที่เคี่ยวนานถึงครึ่งวันกันเลยทีเดียว เมื่อผัดได้ที่ก็โรยด้วยเครื่องเทศ 23 ชนิด เติมน้ำซุปที่เคี่ยวจากผักและกระดูกไก่ เมื่อเดือดแล้ว ก็ราดลงบนถ้วยที่มีเครื่องปรุงสุกที่เตรียมเอาไว้อย่างน่องไก่ เนื้อหมูติดมัน มันฝรั่ง แครอท ฟักทอง พริกหยวก เห็ดไมทาเกะ รากโกโบ กระเจี๊ยบ และไส้กรอกชิ้นใหญ่



อันดับที่ 15 บุยยาเบสแบบอิสึ


มาที่ชิสึโอกะกันบ้าง ร้านอาหารทะเลที่ขึ้นชื่อที่มีวิวสุดสวย บรรยากาศดี ร้านอามาโนะโคยะ ที่ตลาดปลาอิสึก็คึกคักเช่นเดิม เจ้าของร้านก็จะมาเลือกของทะเลสดๆ ที่ตลาดนี้ด้วยตัวเองเลยทีเดียว ส่วนเมนูจานยักษ์ของร้านนี้นั่นก็คือ บุยยาเบสแบบอิสึ ที่อัดแน่นด้วยของทะเลมากมาย ทั้งปลาคินเมะได อามาไก หอยซาซาเอะและอื่นๆ ที่หาได้ในท้องถิ่น วิธีการทำก็เริ่มจากใส่ปูวาตาริคานิชิ้นโตลงในหม้อ และก็ตามด้วยของทะเลอื่นๆ ลงไป ปริมาณวัตถุดิบนั้นรวมแล้วน้ำหนักถึง 2.5 กิโลกรัม มีทั้งหมด 7 อย่าง หลังจากนั้นก็ราดน้ำวุปคัตสึโอะดาชิ เอาไปตั้งไฟพอเดือดก็ปรุงรสด้วยชินชูมิโสะ นอกจากนี้ยังได้ความหวานจากของทะเลต่างๆ อีกด้วย แค่นี้ก็เป็นอันเสร็จกับ บุยยาเบสแบบอิสึ น้ำหนักรวมก็หนักถึง 4.2 กิโลกรัม

อันดับที่ 14 มิโสะโอเด้งจานยักษ์


ใช้ไชเท้าทั้งหัว ไข่นกกระจอกเทศทั้งฟอง เต้าหู้แผ่นใหญ่หนาที่หนักถึง 3 กิโลกรัม ก้อนบุกคอนเนียคุที่มีขนาดเท่ากับกระดาษ A4 วิธีการทำก็สุดยอด เริ่มจากนำไข่นกกระจอกเทศไปต้มทั้งฟอง เพราะใหญ่อย่างนี้จึงใช้เวลาต้มถึง 2 ชั่วโมง จากนั้นก็ใช้ค้อนทุบเปลือกให้แตกซะก่อนจึงจะปอกเปลือกไข่ออกได้ เมื่อเครื่องทุกอย่างพร้อมแล้วก็นำอากามิโสะละลายในน้ำ นำไชเท้าทั้งหัวใส่ตามลงไป ตามด้วยก้อนบุกขนาด A4 ก่อนจะตามด้วยไข่ทั้งฟอง สุดท้ายก็ใส่เต้าหู้ลงไป ต้มไปเรื่อยๆ โดยใช้เวลา 2 ชั่วโมง เมื่อได้ที่แล้วก็เอาไปใส่ชามให้สวยงาม น้ำหนักรวมเมนูนี้ 8.5 กิโลกรัม

อันดับที่ 13 โทคุโมริ


มากันที่จังหวัดชิบะกับร้านที่เปิดมานานแล้ว 31 ปี ข้าวที่ใช้เป็นข้าวโคชิฮิคาริน้ำหนักของข้าวอย่างเดียวก็ 1.8 กิโลกรัม ราดซอสมิโละลงไปบนข้าว โปะกะหล่ำปลีฝอยลงไปจนทั่ว ส่วนเนื้อหมูก็ใช้ถึง 700 กรัม เอาลงกะทะ ใส่ซอสมิโสะ คนให้เข้ากัน เสร็จแล้วก็ราดลงไปบนกะหล่ำปลี แค่นี้ก็เป็นอันเสร็จ น้ำหนักรวมเมนูนี้ 2.7 กิโลกรัม

อันดับที่ 12 คาคิอาเกะด้งจัมโบ้


เครื่องต่างๆ ที่ใช้ในเมนูนี้มีทั้งกุ้งซากุระเอบิ และผักต่างๆ มากมายรวมแล้ว 7 ชนิดด้วยกัน นำส่วนผสมทั้งหมดมาเทลงในชามใบใหญ่ก่อนจะคลุกเคล้าให้เข้ากัน โรยด้วยแป้งสำหรับทอดให้ทั่ว แล้วก็นำไปทอดในน้ำมันร้อนๆ ให้เหลืองกรอบ ราดซอสสูตรพิเศษลงบนข้าวก่อนที่จะจัดเรียงของทอดลงไป น้ำหนักรวมเมนูนี้อยู่ที่ 3.1 กิโลกรัม

อันดับที่ 11 คานาซาว่าคาเรเวิร์ลแชมเปี้ยนคลาส


ร้านแกงกะหรี่ที่มีชื่อที่มีสาขาที่ชินจูกุ ร้านโกโก้คาเร เมนูนี้เริ่มจากนำเนื้อไก่ชิ้นใหญ่และเนื้อสันอย่างละชิ้นมาชุบแป้งและเกล็ดขนมปังทอด กุ้งทอดอีก 2 ชิ้น ไส้กรอก 4 ชิ้น ตักข้าวในภาชนะที่เป็นถาดขนาดใหญ่ แค่น้ำหนักเฉพาะข้าวอย่างดียวก็หนักถึง 1.5 กิโลกรัม แกงกะหรี่ของที่นี่เป็นแบบรสเข้มข้น เอามาราดบนข้าวในถาดจนชุ่ม วางกะหล่ำปลีฝอยลงไป ตามด้วยเครื่องทอดต่างๆ ที่เตรียมเอาไว้ น้ำหนักรวมเมนูนี้อยู่ที่ 2.5 กิโลกรัม

อันดับที่ 10 ปาร์ตี้เบอร์เกอร์


จากร้านดรีมเบอร์เกอร์ ใช้ขนมปังที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางถึง 46 เซ็นติเมตรกันเลยทีเดียว เนื้อแฮมเบอร์เกอร์ที่ใช้ก็ใช้เนื้อขนาดปกติถึงสิบชิ้นเอามาผสมรวมแล้วปั้นแผ่ใหม่ให้มีขนาดเท่ากับขนมปัง น้ำหนักแค่เนื้อก็หนักถึง 1.5 กิโลกรัม แล้วก็นำไปย่าง แล้วยังมีไข่ดาวและเบคอนอย่างละ 5 ชิ้น เมื่อเนื้อสุกแล้วก็เอาไปวางบนขนมปัง ราดเดมิกราซอสให้ทั่ว วางไข่ดาว ชีส เบคอน และมะเขือเทศลงไป สุดท้ายปิดด้วยขนมปังอีกแผ่นก็เป็นอันเสร็จ น้ำหนักรวมเมนูนี้อยู่ที่ 4.3 กิโลกรัม

อันดับที่ 9 ข้าวนกเกะด้งพิเศษ


ที่จังหวัดฟุกุชิม่า ที่ร้านจิวกะนนกิ จุดเด่นเมนูต่างๆ ของร้านนี้ก็คือปริมาณนั่นเอง ส่วนเมนูจานยักษ์ "ข้าวนกเกะด้ง" ของร้านนี้ เครื่องที่ใช้ก็คือเนื้อหมูบดปรุงรสปั้นเป็นก้อนโตแล้วนำไปทอด จากนั้นก็นำไปผัดในซอสจนซึมเข้าเนื้อได้เป็นนิกคุดังโกะขนาดใหญ่ เครื่องอีกอย่างก็คือเนื้อหมูชิ้นใหญ่เสียบไม้กับหอมใหญ่เอามาชุบแป้งและเกล็ดขนมปังแล้วนำไปทอดได้เป็นคุตชิคัตสึขนาดใหญ่ออกมา เครื่องอื่นๆ ก็มีเนื้อแฮมเบิร์ก เนื้อย่าง และอีกหลากหลายทั้ง 24 อย่างด้วยกัน ส่วนข้าวก็ใช้ข้าวฮิโตเมะโบเระจากจังหวัดฟุกุชิม่า ด้านล่างเป็นข้าวหน้าไก่กับไข่ ก่อนจะโปะด้วยภูเขาข้าวด้านบน เสียบกับข้าวต่างๆ ไว้ด้านข้าง เมื่อวางเครื่องต่างๆ ครบแล้วสุดท้ายก็เอาปูตัวขนาดใหญ่มาโอบล้อมทั้งจานเอาไว้ น้ำหนักรวมเมนูนี้อยู่ที่ 10 กิโลกรัม

อันดับที่ 8 นันเด็นเน็นยากิ 


เรามากันที่ร้านโอโคโนมิยากิที่พิถีพิถันในเรื่องรสชาติสุดๆ "ร้านโซฮ่งเคะวากาตาเคะ" กับ "เมนูนันเด็นเน็นยากิ" เริ่มต้นจากเชฟนำถาดครอบทำโอโคโนมิยากิที่มีลักษณะยาวออกมา เทแป้งที่ผสมเครื่องโอโคโนมิยากิลงในถาดที่อยู่บนกะทะร้อน วางเนื้อหมูสามชั้นสไลด์ลงไป ปลาหมึกสด ผงบุกต้มกับเอ็นวัว กุ้ง รวมเครื่องบนหน้าทั้งหมดสี่อย่าง เมื่อแป้งด้านล่างสุกก็เตรียมกลับแป้ง โดยเอาตะหลิวแบนยาวมารองด้านล่าง เอาที่ครอบออกแล้วก็กลับด้านเห็นสีเหลืองสวย แล้วก็กลับด้านอีกทีให้หน้าทั้งสี่อย่างอยู่ด้านบน เมื่อระอุพร้อมเสิร์ฟก็ทาซอสสี่อย่าง มีทั้งทารุทารุซอส ซอสโชยุกับต้นหอม เมนไตโกะซอส และซอสโอโคโนมิยากิ และสุดท้ายก็ราดด้วยมายองเนสให้มีลักษณะเป็นเส้นๆ เมนูนี้มีความยาวถึง 46 เซ็นติเมตร

อันดับที่ 7 ไซคาราราเม็งสเปเชี่ยล


มาที่จังหวัดนารากับร้านราเม็งที่มีชื่อร้านนี้ "ร้านไซคาราราเม็ง" ส่วนวิธีการทำราเม็งชามยักษ์ชามนี้ก็เริ่มจาก เทน้ำมันลงไปผัดกับต้นหอม กระเทียมและเนื้อหมู ตามด้วยผักกาดขาว แครอท เมื่อเริ่มสุกก็ใส่น้ำซุปกระดูกหมูและกระดูกไก่ แล้วก็ต้มต่อไปจนสุกระอุดี เติมซอสสูตรลับลงไป สุดท้ายตามด้วยมิโสะรสเผ็ดเพื่อเพิ่มรสชาติให้กลมกล่อม แค่นี้ราเม็งสูตรพิเศษรสเผ็ดก็เป็นอันเสร็จเอาไปเทบนเส้นที่ลวกไว้แล้ว เทไข่ดิบด้านบน และจัดเรียงหมูชาชูไว้ด้านข้าง น้ำซุปรสเผ็ดที่ลงตัวกับความหวานของผัก น้ำหนักรวมเมนูนี้อยู่ที่ 2.0 กิโลกรัม

อันดับที่ 6 อาซาอิจิรัมโบ้ราเม็ง


มากันที่ฮาโกดาเตะที่เป็นเมืองท่าของฮอกไกโด มีโกะเรียวคาคุแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อ และบริเวณอิฐแดงที่ให้กลิ่นอายของสมัยเมจิ และเมนูอาหารจานยักษ์ที่ติดอันดับของประเทศที่อยู่ในย่านนี้ก็คือ "อาซาอิจิรัมโบ้ราเม็ง" วัตภุดิบต่างๆ ที่ใช้ก็มาจากฮอกไกโด เชฟของที่นี่ก็เคยทำงานที่ร้านอาหารอิตาเลี่ยนมาก่อน ซึ่งจะใช้ไวน์ขาวทุกครั้งกับอาหารทะเลที่เขาลงมือทำ เริ่มจากผัดเครื่องราเม็งต่างๆ จนสุก เติมน้ำซุป ใส่เครื่องเคียงต่างๆ มีทั้งข้าวโพด สาหร่ายวากาเมะชิ้นใหญ่ หมึก ปูสุไวกานิ น้ำหนักรวมเมนูนี้อยู่ที่ 2.5 กิโลกรัม

อันดับที่ 5 วางามามาด้งโอโมริ


เรามากันที่จังหวัดอิบาระกิ ที่ร้านซูชิร้านดัง "ร้านทาคิตะ" ร้านนี้จะซื้อปลาเข้าร้านวันละสองครั้ง ทำให้ได้ปลาที่มีความสดใหม่ สำหรับเมนูวางามามาด้งที่ทำขึ้นนี้ ข้าวที่ใช้เป็นข้าวโคชิฮิคาริจากจังหวัดอิบาระกิ ตักลงชามไปเรื่อยๆ จนกลายเป็นภูเขาข้าวคิดเป็นน้ำหนักเฉพาะข้าวก็ 1.5 กิโลกรัม จากนั้นก็นำเนกิโทโร่มาโปะลงบนข้าวจนทั่ว เสร็จแล้วก็นำชิ้นปลามากุโร่ชิ้นใหญ่วางโปะลงไป 5 ชิ้นด้วยกัน ท็อปปิ้งด้านบนด้วยไข่แดง ต้นหอม และวาซาบิ น้ำหนักรวมเมนูนี้อยู่ที่ 2.2 กิโลกรัม

อันดับที่ 4 แฮมเบิร์ก 5 ชั้น


มากันที่จังหวัดมิยางิ เป็นร้านที่เปิดมานาน 40 ปี เป็นร้านที่มีชื่อเรื่องเนื้อแฮมเบิร์ก "ร้านโอเนี่ยน" ที่นี่พิถีพิถันในเนื้อที่ใช้ โดยจะใช้ทั้งเนื้อวัว หมู และไก่ทั้งสามอย่าง อัตราส่วนในการใช้ก็คือ เนื้อวัว 1 ส่วน เนื้อหมู 2 ส่วน และเนื้อไก่ 1 ส่วน มาดูวิธีการทำเมนูยักษ์จานนี้กันดีกว่า เริ่มจากใช้เนื้อบดที่มีเนื้อทั้งสามอย่างมาชั่งโดยน้ำหนักชิ้นละ 1 กิโลกรัม ซึ่งเนื้อที่ใช้จะถูกหมักมาเป็นอย่างดีด้วยเครื่องเทศกว่า 10 ชนิด โดยทำทั้งหมด 5 ชิ้นด้วยกัน นำแต่ละชิ้นไปย่างบนกระทะ เมื่อสุกระอุดีทั้ง 5 ชิ้นแล้วก็เอาไปจัดเรียงซ้อนกันบนจานที่เป็นกระทะร้อน ราดด้วยเดมิกราซอสที่เคี่ยวจากผักต่างๆ และเอ็นวัว น้ำหนักรวมเมนูนี้อยู่ที่ 5 กิโลกรัม

อันดับที่ 3 คามาอาเกะอูด้งทาไรได


ที่จังหวัดคางาว่า มากันที่ร้านที่ใช้ในการถ่ายทำภาพยนต์มาแล้ว "ร้านนางาตะอินคานากะ" นี่คือเมนูจานยักษ์ที่เป็นซานุกิอูด้ง เส้นของที่นี่เขานวดด้วยเท้าทำให้เส้นมีความเหนียวนุ่ม น้ำหนักรวมเมนูนี้อยู่ที่ 3.5 กิโลกรัม

อันดับที่ 2 ซุปเปอร์สเต๊ก


ร้านสเต๊กที่ตั้งอยู่ที่ชินบาชิมีชื่อว่า "ร้านสุเอะฮิโระ" ที่ร้านใช้เนื้อวัวอากาอุชิ จากจังหวัดคุมาโมโตะ เมนูยักษ์ของที่นี่ใช้เนื้อวัวชิ้นใหญ่ที่หนักถึง 1.5 กิโลกรัม ปรุงรสด้วยเกลือ พริกไทยดำ นำไปย่างโดยใช้ถ่าน เนื้อด้านนอกกรอบนิดๆ ด้านในมิเดียมแรร์



อันดับที่ 1 ข้าวหน้าปูจานยักษ์


เรามากันที่ฮอกไกโด ที่คิตาโนะกรูเม่เท ที่นี่มีอาหารทะเลสดๆ ให้เราได้ลิ้มลอง เมนูจานยักษ์ของร้านนี้ที่ติดอันดับก็เป็นเมนูข้าวราดที่ใช้เนื้อปูเป็นส่วนประกอบ เริ่มจากนำปูขนทั้งตัวลงไปลวก นำขึ้นมาแบ่งเป็นส่วนต่างๆ เลาะเอาเนื้อออกมาอย่างพิถีพิถัน ใช้ทั้งปูขน ปูทาราบะกานิ และปูสุไวกานิ ตักข้าวใส่ลงไปในชามเป็นน้ำหนัก 1 กิโลกรัม เอาเนื้อปูที่เตรียมเอาไว้มาจัดวางลงในชาม มีทั้งไข่ปู และมันปูเป็นท็อปปิ้ง

อาหารญี่ปุ่น อาหารจีน อาหารไทย
อาหารเวียดนาม อาหารลาว อาหารอาเซียน
ขนมญี่ปุ่น อาหารจานยักษ์ เมนูราเม็ง
อาหารบนรถไฟ ไอติมญี่ปุ่น เมนูสุขภาพ
ราเม็งญี่ปุ่น การทำชีส อาหารบนทางด่วน
ร้านราดหน้า ร้านข้าวขาหมู ร้านบะหมี่เกี๊ยว
ร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อ ร้านกระเพาะปลา ร้านสุกี้
ร้านโจ๊ก ร้านต้มเลือดหมู ร้านกุ้งอบวุ้นเส้น
ร้านข้าวต้มปลา เมนูติ่มซำ กับข้าวญี่ปุ่น
ของไหว้สารทจีน หม้อไฟญี่ปุ่น เมนูซูชิ
ซูชิยอดนิยม อาหารแปลกญี่ปุ่น อาหารแปลกทั่วโลก
ร้านฉวาง โกยซีหมี่ ขนมหวานเยอรมัน
เมนูเครื่องดื่ม ขนมไทยโบราณ ก๋วยเตี๋ยวปากหม้อ
ขนมไทยมงคล ช็อคโกแลตชีสเค้ก เนื้อวากิว

30 อันดับเมนูจากหูฉลาม 5 สุดยอดร้านบะหมี่เกี๊ยวกุ้ง ปู หมูแดง 10 อันดับของไหว้สารทจีนยอดนิยม 101เมนูอาหารญี่ปุ่น ขนมไทยากิ 20 เมนูกับข้าวยอดนิยมของญี่ปุ่น ไข่ปลาสีเหลือง ก๋วยเตี๋ยวปากหม้อ เลิศรสอาหารไทยโบราณ สัมผัสบรรยากาศแบบชนบทดุจโรงนากลางเมืองกรุงที่ Barn@36 เนื้อวากิวราชาแห่งเนื้อจากแดนซามูไร

ศพนิรนาม

ศพนิรนาม

ที่มา คอลัมน์ มุมมองหมอพรทิพย์ โดย พ.ญ.พรทิพย์ โรจนสุนันท์ นิตยสารชีวจิต

ตั้งแต่กฎหมายการชันสูตรศพกำหนดให้หมอไปดูที่เกิดเหตุได้บังคับใช้ตั้งแต่ 27 มิถุนายน 2543 นั้น มีอะไรสนุกสนานเกิดขึ้นมากมาย ภารกิจในการตรวจที่เกิดเหตุก็ได้ทำใหม่อีกครั้งเหมือนสมัยเมื่อครั้งยังอยู่พิษณุโลกมีคดีเกิดขึ้นไม่นานมานี้ ดูแล้วหดหู่พอสมควร

เย็นวันหนึ่ง ตำรวจโทรมาตามว่ามีศพผู้ชายถูกทำร้ายใต้ทางด่วน ซึ่งธรรมดาสถานีตำรวจแห่งนี้จะไม่เคยตามทางรามาธิบดีให้ไปตรวจที่เกิดเหตุ ทั้งๆ ที่อยู่ใกล้รามาธิบดีมาก เพราะระบบการแบ่งโซนของตำรวจไม่ค่อยเข้ากับเขตของโรงพยาบาลที่มีหมอนิติเวชทำงานอยู่ สำหรับกรณีนี้อาจเป็นเพราะชายนิรนามก็เป็นได้ เลยตามหมอข้ามโซนเพื่อช่วยแบ่งภาระงานไปบ้าง



เคสนี้เป็นผู้ชายที่น่าจะมีอาชีพเก็บเศษขยะขาย มีคนพบว่านอนตายบนเสื่อ ณ ที่พักพิงของเขา มีบาดแผลถูกตีด้วยของแข็งไม่มีคมที่ใบหน้าหลายแห่ง พูดง่ายๆ ก็คือ ถูกตีหน้าเละเลย

ไม่รู้ช่วงนี้เป็นไง มีกรณีปริศนาที่มีแผลที่ใบหน้ามาให้เปรียบเทียบกันถึงสามราย รายแรกเล่าไปแล้ว ที่ตอนแรกตำรวจนึกว่าจักรยานล้ม แต่กลายเป็นฆาตกรรมอำพรางไปในที่สุด อีกรายเป็นอุบัติเหตุจราจร ขี่มอเตอร์ไซค์ชนสิบล้อ หน้าตามีแผลฉีกขาดคล้ายกัน แต่แผลถลอกตื้นตามตัวที่เกิดจากการกลิ้งมีมากต่างกับกรณีแรก

ส่วนกรณีที่เล่าให้ฟังนี้มีแผลรุนแรงที่ใบหน้าเหมือนกันเลย แต่แปลกที่ผู้ตายนอนตายเฉยๆ เหมือนกำลังนอนหลับ หลังจากดูหยดเลือดที่กระเซ็นก็รู้ได้ว่าถูกตีตรงที่พบศพนั่นแหละ ไม่ใช่เอาศพมาวางทีหลัง แผลที่ใบหน้าบ่งบอกว่าน่าจะถูกตีด้วยของแข็งที่มีลักษณะเป็นท่อนยาวๆ เพราะแผลเป็นแนวยาว ตาด้านซ้ายแตกละเอียด แต่ปรากฏว่าตำรวจที่อยู่ในที่เกิดเหตุต่างพากันสรุปง่ายๆ ว่าสงสัยจะถูกคนร้ายเอาก้อนหินที่พบอยู่ใกล้ศพจิ้มๆ ทุบๆ หลายๆ หน

ดูแล้วมันจะเป็นไปได้อย่างไร เพราะการเอาก้อนหินทุบๆ มันตายยาก เจ้าหน้าที่ห้องศพที่ผู้เขียนพาไปช่วยถ่ายรูปเดินหาอาวุธโดยรอบๆ ก็ไปพบท่อนเหล็กยาวมีสภาพหักงอ มีคราบเลือดติดอยู่ ซึ่งน่าจะเป็นอาวุธที่ใช้ตีคนตาย เลยบอกให้ตำรวจมาเก็บท่อนเหล็กไป

ระบบการตรวจที่เกิดเหตุของไทยยังอยู่ในสภาพต่ำกว่ามาตรฐาน ความจริงแล้วพนักงานสอบสวนน่าจะดำเนินการได้ในระดับหนึ่ง ไม่จำเป็นต้องรอเจ้าหน้าที่จากกองพิสูจน์หลักฐานทุกๆ คดี เพราะเจ้าหน้าที่เก็บหลักฐานเองก็มีจำนวนน้อย  ทำงานไม่ทันกับจำนวนคดีที่เกิดขึ้น งานสอบสวนเป็นงานที่ต้องใช้หัวคิด ความจริงแล้วสนุกท้าทายกว่างานจราจร เพียงแต่ว่ามันไม่มีรายได้นั่นเอง

หลังจากดูสถานที่เกิดเหตุคร่าวๆ แล้วทีมงานก็กลับ วันรุ่งขึ้นจึงได้ลงมือผ่าศพ เสื้อผ้าผู้ตายมีหยดเลือดกระเซ็นลงมาจากด้านบน แสดงว่าตอนถูกตีคงนั่งหรือยืนอยู่ เพราะเลือดจะกระเด็นตามแรงโน้มถ่วงของโลก เมื่อถอดเสื้อดูก็พบรอยช้ำที่หน้าอกด้านขวา ซึ่งเป็นเส้นตรงสองเส้นขนานกันหลายแนว แสดงว่าผู้ตายคงถูกตีด้วยอาวุธที่เป็นท่อนกลมยาวนั่นแหละ แผลฉีกขาดที่ใบหน้าทำให้กะโหลกศรีษะแยกยุบกดโดนสมองฉีกขาด ดูความรุนแรงแล้วสงสารผู้ตาย สงสัยคงเจ็บน่าดู

พอผ่าดูกระเพาะอาหารแล้วก็พบว่ามีอาหารเต็มที่ ยังไม่เริ่มย่อยเลย ดูเศษอาหารแล้วก็พอจะเอามาประมวลให้ตำรวจได้ว่า เขาน่าจะกินข้าวมาจากแถวไหน ผู้เขียนมัวแต่สนุกกับการปะติดปะต่อเหตุการณ์ ปรากฏว่าลูกน้องที่ช่วยผ่าศพวิ่งไปอาเจียนเสียแล้ว เพราะกลางวันเขากินอาหารมาเหมือนกับคนตายเลย

น่าเสียดายที่ตำรวจไม่ตามมาดูเคสเลย คงเป็นเพราะเห็นเป็นชายนิรนามเก็บขยะขายธรรมดา ผู้เขียนไม่อยากให้ผู้คนทั้งหลายทำงานกันโดยไม่คิดถึงความสำคัญหรือฐานะของคนตาย ชีวิตคนมีค่าเท่ากัน คนจนถูกฆ่าตาย ก็เหมือนรัฐมนตรีถูกฆ่าตายนั่นแหละ ดูๆ แล้วศพนี้ก็คงตายฟรีแน่นอน นอกจากนี้ผู้เขียนยังสงสัยว่าแค้นอะไรกันนักหนา ถึงตีกันตายรุนแรงปานนี้

การไม่ตามจับผู้ร้ายหรือผู้กระทำผิดมันส่งผลต่อสังคมโดยรวม เพราะกลายเป็นตัวอย่างว่าทำชั่วแล้วไม่เห็นจะมีอะไร บางคนอาจจะติดแบบศาสนาว่าเดี๋ยวเขาก็จะต้องรับกรรมเองละ ซึ่งมันแน่นอนอยู่แล้ว แต่ผู้เขียนว่าผู้เกี่ยวข้องที่ไม่ทำตามหน้าที่ก็ต้องรับกรรมด้วยนะ เพราะขนาดกฎหมายบ้านเมืองยังมีบทลงโทษผู้ละเว้นไม่ปฏิบัติหน้าที่เลย ศพแรกนี้คงตายฟรีเพราะตำรวจไม่เคยมาตามรายละเอียดของศพเลยสักครั้ง

อีกศพหนึ่งเป็นเด็กนิรนามที่มีผู้พบศพอยู่ในกองขยะแถวมักกะสัน เคสนี้เผอิญผู้เขียนถูกตามตอนกลางวัน เลยสามารถออกไปดูได้ ปรากฏว่าเป็นศพเด็กทารกผู้หญิงถูกห่อแล้วนำมาทิ้งในกองขยะ ซึ่งเป็นลูกใครก็ไม่รู้ ศพเด็กนิรนามนี้ยากในการพิสูจน์บุคคล เพราะยังไม่มีรูปพรรณสัณฐานที่ใช้แยกแยะได้

เมื่อดูสภาพศพแล้วก็รู้สึกหดหู่ แม้ศพจะเริ่มเน่า แต่ก็บอกได้ว่าเป็นเด็กที่คลอดออกมามีชีวิต เพราะผิวหนังไม่หลุดลอกเหมือนเด็กที่ตายในท้อง เด็กจะต้องคลอดที่บ้าน เพราะยังมีสายสะดือติดอยู่ยาวตั้งฟุต ถ้าเด็กคลอดที่โรงพยาบาลแล้วล่ะก็ สายสะดือจะต้องถูกตัดทิ้ง ดูที่ปลายสายสะดือก็ไม่สามารถบอกได้ว่าใช้อะไรตัด ที่สำคัญคือที่บริเวณจมูกและริมฝีปากบนมีรอยช้ำชัดเจน แสดงว่าเด็กน่าจะถูกเอามือหรืออะไรปิดปากปิดจมูกให้ตาย

การตายแบบนี้ดูค่อนข้างยาก สรุปก็ค่อยข้างยากเช่นกัน เวลาผู้เขียนพบการตายแบบนี้ทีไร ก็อยากจะถ่ายทอดให้ผู้คนในสังคมช่วยกันรับรู้ปัญหาแล้วหาทางแก้ เพราะแม่ฆ่าลูกได้นี่ก็แย่เต็มทีแล้ว เด็กแรกเกิดที่ถูกฆ่าตาย คนที่ฆ่าส่วนใหญ่ก็คือแม่นั่นเอง แต่ถ้าเลี้ยงดูมาจนโตระยะหนึ่งก็จะกลายเป็นพ่อที่ฆ่าลูก

ศพนี้ก็ได้ลงความเห็นว่าน่าจะตายจากถูกกดปากและจมูก ศพเด็กนั้นได้กระโปรงห่อหุ้มไว้ แสดงว่าแม่ยังอุตส่าห์หาเสื้อมาให้เด็กแม้จะฆ่าตายไปแล้ว ศพนี้ก็เงียบหายไปเพราะไม่รู้จะเชื่อมข้อมูลกันได้อย่างไร

ศพนิรนามอีกรายเป็นชาวไทยไม่ทราบชื่อ พบศพในคลองประปา ศพในน้ำค่อนข้างยากในการชันสูตรศพ เพราะมีประเด็นที่จะต้องหามากมาย ต้องพิสูจน์ว่าผู้ตายเป็นใคร ศพอยู่ในน้ำนานเท่าใด จมน้ำตายหรือไม่ หากจมน้ำ จมได้อย่างไร ปรากฏว่าศพนี้เป็นศพผู้ชายอายุประมาณ 60 ปี มีแต่กางเกงใน สภาพศพนั้นยิ่งเน่ามาก แต่ผิวหนังของผู้ตายเป็นจุดๆ เต็มไปหมด ๆ ก็เลยเจาะเลือดตรวจดูเชื้อเอดส์ ในระหว่างรอผลก็ได้ลงมือผ่าศพ พบว่าผู้ตายจมน้ำตายเพราะมีน้ำในปอดชัดเจน และเมื่อผลเลือดกลับมาว่าเป็นเอดส์ เลยสงสัยว่าคงเครียดแล้วกระโดดน้ำตาย

ศพนี้ประกาศหาญาติอยู่หลายวัน ไม่มีใครมาติดต่อ เลยต้องส่งฝัง ปรากฏว่าอีกหกเดือนต่อมาก็มีกลุ่มบุคคลมาติดต่อขอดูศพชายไทยไม่ทราบชื่อ เมื่อเขาดูรูปศพก็บอกว่าคือญาติเขาที่หายไป คนตายเป็นเศรษฐีที่ไม่สบาย ไปเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลเอกชนด้วยการเป็นไข้ แพทย์ตรวจพบว่าเป็นเชื้อ HIV แต่ญาติๆ ได้ขอร้องไว้ว่าอย่าเพิ่งบอกคนไข้ เพราะเกรงว่าคนไข้จะรับไม่ได้ แต่ไม่รู้อีท่าไหน คนไข้คงรับรู้เรื่องเชื้อ เลยหนีออกจากโรงพยาบาลมากระโดดน้ำตาย

มาดูอีกเคสนะคะ ผู้ตายเป็นชายไทยไม่ทราบชื่อ พบว่าถูกทำร้ายแล้วนอนตายคว่ำหน้าอยู่ในคูน้ำ เมื่อชันสูตรศพก็พบว่าเขาถูกตีด้วยของแข็งที่ศรีษะ ทำให้เสียชีวิต แต่ไม่รู้ว่าคนตายเป็นใคร เรื่องก็เลยเงียบหายเหมือนปกติ แต่ปรากฏว่าอีกสี่ปีต่อมาก็มีคนมาขอดูศพชายไม่ทราบชื่อทั้งหลาย โดยเขาเอารูปญาติของเขาที่กำลังตามหามาเทียบ ก็ปรากฏว่าเหมือนกันเลยกับคนตาย แต่การสอบสวนคงไม่อาจทำอะไรได้แล้วว่าถูกฆ่าโดยใคร เพราะเจ้าของเรื่องก็อาจถูกย้ายไปไหนแล้วก็ไม่รู้ หลักฐานอะไรที่เกี่ยวข้องกับคดีก็คงไม่ได้เก็บไว้ เพราะประเทศไทยยังไม่มีระบบดำเนินการที่ได้มาตรฐานทุกกรณี เก็บข้อมูลอย่างมีระบบ ง่ายแก่การนำมาใช้ภายหลัง ซึ่งรายนี้ก็คงตายฟรีแน่นอนอยู่แล้ว



ทีนี้มาถึงรายสุดท้าย เป็นชายไทยไม่ทราบชื่อ ถูกตีตายอีกเช่นกัน แต่รายนี้รู้ตัวผู้กระทำผิด และผู้กระทำผิดก็ได้ถูกจับกุมตัวดำเนินคดี แต่ประวัติที่ทำให้เกิดการฆ่ากันนี่สิตลกมาก คือผู้ตายเป็นคนจรจัด เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคือ แกดันไปยืนฉี่ไม่ดูทิศทางให้ดี เพราะฉี่ใส่ต้นไม้ ปรากฏว่าอีกด้านของต้นไม้มีคนกำลังนอนหลับอยู่ อาจเพราะกำลังฝันอยู่กระมัง ก็เลยโกรธที่ถูกปลุก แถมสาเหตุที่ถูกปลุกขึ้น มันเหม็นและสกปรก คือโดนฉี่ราด เลยโกรธจัดมาก คว้าได้ไม้ใกล้ตัวมากระหน่ำตีเสียตายไปเลย

อารมณ์ชั่ววูบแท้ๆ เลยที่ฆ่าเขาตาย สุภาษิตไทยก็บอกอยู่แล้วว่า "อย่าถือคนบ้า อย่าว่าคนเมา" เหตุที่รู้สาเหตุก็เพราะว่าสภาพศพดูเป็นคนจรจัดสกปรกมาก ตัวมอมแมม มือเท้าดำปิ๊ดปี๋ พอได้ประวัติก็เลยรู้สึกขำในสาเหตุ ขณะเดียวกันก็ปลงว่า ทุกวันนี้มนุษย์เป็นอะไรกัน ใจคอโหดร้าย ดุเดือดเลือดพล่านอาฆาตแค้นกันเสียเหลือเกิน ฆ่ากันตายง่ายมาก ก็ต้องได้แต่รู้สึกปลง

สักวันหนึ่งผู้เขียนจะพยายามผลักดันให้เกิดสถาบันกลางในการรวบรวมพิสูจน์บุคคลสูญหายให้ได้ ช่วยคนตายนี่พลังสะท้อนกลับแรงนะคะท่านผู้อ่าน หมดเนื้อที่ต้องขอสวัสดีก่อนนะคะ

โดย พ.ญ.พรทิพย์ โรจนสุนันท์ คอลัมน์ มุมมองหมอพรทิพย์ นิตยสารชีวจิต ปีที่ 3 ฉบับที่ 54

19 ความฝันที่พบบ่อยที่สุดในโลกและความหมาย

จิตวิทยาความฝัน ฝันถึงประตูหมายความว่าอย่างไร

จิตวิทยาความฝัน ฝันเห็นนกฮูกหมายความว่าอย่างไร

จิตวิทยาความฝัน ฝันเห็นเรือหมายความว่าอย่างไร

จิตวิทยาความฝัน ฝันเห็นปลาวาฬหมายความว่าอย่างไร

จิตวิทยาความฝัน ฝันเห็นช็อกโกแลตหมายความว่าอย่างไร

จิตวิทยาความฝัน ฝันเห็นดวงดาวหมายความว่าอย่างไร

จิตวิทยาความฝัน ฝันถึงงานหมายความว่าอย่างไร

จิตวิทยาความฝัน ฝันเห็นช้างหมายความว่าอย่างไร

จิตวิทยาความฝัน ฝันเห็นหิมะหมายความว่าอย่างไร

จิตวิทยาความฝัน ฝันเห็นนกหมายความว่าอย่างไร

จิตวิทยาความฝัน ฝันเห็นทองหมายความว่าอย่างไร

จิตวิทยาความฝัน ฝันเห็นผีหมายความว่าอย่างไร

จิตวิทยาความฝัน ฝันถึงดาราคนดังเซเลบหมายความว่าอย่างไร

จิตวิทยาความฝัน ฝันเห็นปลาโลมาหมายความว่าอย่างไร

จิตวิทยาความฝัน ความฝันของการเดินทางหมายความว่าอย่างไร

จิตวิทยาความฝัน ฝันถึงหมีหมายความว่าอย่างไร

จิตวิทยาความฝัน ความฝันถึงสงครามหมายความว่าอย่างไร

จิตวิทยาความฝัน ฝันเห็นฝนหมายความว่าอย่างไร

จิตวิทยาความฝัน ฝันเห็นฉลามหมายความว่าอย่างไร

จิตวิทยาความฝัน ฝันเห็นวัวกระทิงหมายความว่าอย่างไร

จิตวิทยาความฝัน ฝันเห็นจระเข้หมายความว่าอย่างไร

จิตวิทยาความฝัน ฝันเห็นหอยทากหมายความว่าอย่างไร

จิตวิทยาความฝัน ฝันเห็นปูหมายความว่าอย่างไร

จิตวิทยาความฝัน ฝันว่าช่วยชีวิตใครสักคนหมายความว่าอย่างไร

จิตวิทยาความฝัน ฝันเห็นขยะหมายความว่าอย่างไร

จิตวิทยาความฝัน ฝันว่าจัดกระเป๋าหมายความว่าอย่างไร

จิตวิทยาความฝัน ฝันเห็นหมอกหมายความว่าอย่างไร

จิตวิทยาความฝัน ฝันเห็นการผ่าตัดหมายความว่าอย่างไร

จิตวิทยาความฝัน ฝันเห็นเครื่องประดับหมายความว่าอย่างไร

ประวัติหลวงปู่ทวดวัดช้างไห้ ตามรอยหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด

ชุ่มฉ่ำรับสงกรานต์ สรงน้ำพระธาตุตามปีเกิดด้วยหัวใจอิ่มบุญ

วิธีตั้งเลขพยากรณ์ ดูดวงตำราพรหมชาติ

ดูดวงตำราพรหมชาติ ปีชวด

ดูดวงตำราพรหมชาติ ปีฉลู

ดูดวงตำราพรหมชาติ ปีขาล

ดูดวงตำราพรหมชาติ ปีเถาะ

ดูดวงทำนายฝัน ความหมายของความฝัน


กษัตริย์เกาหลี จักรพรรดิกวางสี จักรพรรดิปูยี
ตำนานอโดนิส โจนออฟอาร์ค มู่กุ้ยอิง
จักรพรรดิเนโร พระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 อับราฮัม ลินคอล์น
พระเจ้าซุกจง มาตาฮารี เจ้าฟ้าหญิงบุญรอด
ตำนานธอร์ นิกิต้า ครุสชอฟ สงครามเกาหลี
กำแพงเมืองจีน อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ พระนางเลือดขาว
อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ สตีเฟน ฮอว์คิง ลีโอ ตอลสตอย
สตีฟ จ็อบส์ เจ้าพระยาวิชเยนทร์ พระนางมัสสุหรี
สัตว์มีพิษ ไวรัสอีโบลา เอเลี่ยนสปีชี่ส์
กำเนิดจักรวาล กำเนิดดวงอาทิตย์ ระบบสุริยะจักรวาล
ปริศนาของจักรวาล การเดินทางข้ามกาลเวลา สสารและปฏิสสาร
สิ่งมีชีวิตบนดาวอังคาร บิ๊กแบงคืออะไร สัตว์ใกล้สูญพันธุ์
สัตว์น้ำแปลก ปลาแองเกลอร์ สัตว์ดูดเลือด
อันดับงูสวยงาม อนาคอนด้า ตัวอ่อนปลาฉลาม
เห็ดมีพิษ ภัยของยาไอซ์ คลื่นยักษ์สึนามิ
กัญชาปลอดภัย ไวรัสอีโบลา ปรสิตที่น่ากลัว
สาเหตุสึนามิ ทำไมผมร่วง สงครามซีเรีย
ทำลายหลุมดำ โลกของเรา กระแสน้ำทะเล
วิธีทำลายเอกภพ กลไกวิวัฒนาการ ระบบภูมิคุ้มกัน
เล่าเรื่องผี เรื่องสยองขวัญ เรื่องผี
ฆาตกรโหด ฆาตกรต่อเนื่อง ฆาตกรโรคจิต
ผีนานาชาติ ผีปีศาจ พระธุดงค์เจอผี
โจนเบเน็ต คดีเพชรซาอุ เดวิด เบอร์โควิด
ซอว์นี่ บีน ฆาตกรโหดเมืองไทย อลิซาเบธ บาโธรี่
ฆาตกรฆ่าคนมากที่สุด คดีกักขังหน่วงเหนี่ยว คดีวิตถาร
คดีพิศวาสฆาตกรรม ฆาตกรเด็ก คดีฆ่าหั่นศพ
ยโศโฆษาฆาต แจ๊คเดอะริปเปอร์ ฆาตกรต่อเนื่องอินเดีย
เบลล์ กันเนส ยูนาบอมเบอร์ เอล ชาโป
ผีภาคเหนือ ผีภาคอีสาน ผีญี่ปุ่น
เมืองอาถรรพ์ เรื่องเล่าเดอะช็อค มนุษย์กินคน

บทความแนะนำ

คนรักกลายเป็นคนร้าย ประมูลขายบั้นท้าย เป็นไปได้ไหมถ้าจะรักคนอายุต่างกัน สิ่งที่ทำให้คุณหลงรักผู้ชายเจ้าชู้ เหล่าบุคคลผู้ทรงอิทธิพลของโลก แม่ผัวเกลียดเพราะน้องสะใภ้ เจ้าหญิงมาซาโกะ เสียงประหลาดของสัตว์ปริศนา

นิทานไทยเรื่อง มณีพิไชย (ยอพระกลิ่น)

นิทานไทยเรื่อง มณีพิไชย (ยอพระกลิ่น)

ท้าววรกรรณ และ พระนางบุษบง แห่ง กรุงปาตลี มีพระธิดาศิริโสภาองค์หนึ่งวัย 16 พรรษานามว่า เจ้าหญิงเกษณี ด้วยเกรงว่าอาจเกิดภัยต่อการครองราชสมบัติในภายหน้าจึงคิดหาคู่ให้กับพระธิดา ท้าววรกรรณได้ส่งสาสน์ไปถึงเจ้าเมืองต่างๆ เพื่อแจ้งข่าวกำหนดการเลือกคู่

กษัตริย์ทุกเมืองที่ทราบข่าวต่างดีพระทัยเพราะเห็นว่ากรุงปาตลีเป็นเมืองใหญ่มีทรัพย์สมบัติมหาศาล ต่างสั่งให้ราชบุตรรีบเสด็จมาในพิธี เจ้าเมืองบางองค์ตื่นเต้นถึงขนาด...
    "ที่โอรสยังผนวชบวชภิกษุ     ก็รบกวนให้ประจุกลางวษา
ที่โอรสยังเยาว์เจ้าปัญญา          แหกขี้ตาจะให้โตรีบโสกันต์" ***


***โสกันต์คือพิธีโกนจุกของเหล่าลูกกษัตริย์ ซึ่งหลังจากทำพิธีนี้แล้วก็ถือว่าเป็นผู้ใหญ่***



ครั้นถึงเวลาเลือกคู่เจ้าหญิงเกษณีไม่พอใจเจ้าชายจากเมืองใดเลยสักองค์ ท้าววรกรรณรู้สึกผิดหวังแต่ยังไม่หมดความพยายาม สั่งให้ผู้ชายทุกคนในเมืองไม่ว่าจะหนุ่มหรือแก่มาชุมนุมกันที่หน้าพระราชวังเพื่อให้เจ้าหญิงเกษณีเลือก ร้อนถึง พระอินทร์ ซึ่งรู้สึกเขม่นเห็นผิดสังเกตส่องทิพย์เนตรลงมาตรวจดูและทราบด้วยญาณว่าเจ้าหญิงเกษณีนั้นเคยเป็นเนื้อคู่ของตนมาในชาติปางก่อน จึงจำแลงกายเป็นชายสติไม่เต็มเต็งมาร่วมในพิธี

    "พี่ก็เป็นเผ่าพงษ์วงศ์กษัตริย์    ผ่านสมบัติวัดสระเกศวิเศษศรี
อยู่มณเฑียรเมรุทองผ่องโสภี       อ้ายพวกผีทั้งเพเป็นเสนา"


ด้วยบุพเพสันนิวาสเจ้าหญิงเกษณีเกิดเห็นรูปองค์อินทร์ที่แฝงอยู่ในร่างของหนุ่มบ้าใบ้ก็โยนพวงมาลัยเสี่ยงทายให้ ท้าววรกรรณทรงพิโรธขับไล่ออกจากเมือง หนุ่มบ้าใบ้จึงคืนร่างเป็นพระอินทร์อุ้มเจ้าหญิงเกษณีไปครองรักบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์อย่างมีความสุข จนเมื่อเจ้าหญิงเกิดตั้งครรภ์ใกล้คลอด พระอินทร์เห็นว่าหากให้บุตรประสูติบนสวรรค์ก็จะผิดธรรมเนียมชาวเทพ ได้นำพระชายาลงมายังป่าไผ่ในเมืองมนุษย์จนคลอดพระธิดามีผิวพรรณผุดผ่อง กลิ่นกายหอมเหมือนดอกไม้ แต่พระอินทร์ไม่อาจอยู่เลี้ยงดูได้จึงนำไปฝากไว้ในลำไม้ไผ่ขนาดใหญ่พร้อมเสกเครื่องสรงเพชรนิลจินดาไว้ให้พระธิดาอย่างครบครันพร้อมตั้งชื่อให้ว่า "ยอพระกลิ่น" ก่อนกลับไปบนสวรรค์ได้อธิษฐานว่าให้ผู้ที่เป็นเนื้อคู่พระธิดาเท่านั้นที่สามารถฟันปล้องไม้ไผ่ให้ขาดได้

สิบห้าปีต่อมา พระมณีพิไชย โอรสของ ท้าวพิไชนุราช และ พระนางจันทร แห่งกรุงศรีอยุธยาเสด็จมาประพาสป่า ครั้นถึงต้นไม้ไผ่ในตอนเย็นเห็นบรรยากาศร่มรื่นจึงให้หยุดพักค้างแรม ในคืนนั้นเจ้าชายมณีพิไชยทรงบรรทมอย่างมีความสุขและพระสุบินไปว่าคว้าดอกฟ้าร่วงหล่นจากสวรรค์มาดอมดมมีกลิ่นหอมต้องพระทัย พอตื่นขึ้นได้กลิ่นหอมโชยออกมาจากปล้องไม้ไผ่รีบสั่งให้เสนาเข้าไปตัดมาถวายแต่ไม่มีใครทำได้สำเร็จ เจ้าชายต้องใช้พระแสงดาบฟันด้วยพระองค์เองเพียงฉับเดียวเท่านั้นปล้องไม้ไผ่ขนาดใหญ่ก็ขาดทำให้ได้พบกับเจ้าหญิงยอพระกลิ่นผู้มีความงามและกลิ่นกายหอมดังกลิ่นดอกฟ้าในความฝันจึงพากันกลับพระนคร

พอมาถึงก็นำเจ้าหญิงยอพระกลิ่นไปไว้ในตำหนัก ท้าวพิไชยนุราชผู้เป็นบิดาเสด็จมาหาพระโอรสเพื่อแจ้งข่าวสำคัญ พบเจ้าหญิงยอพระกลิ่นสอบถามได้ความว่าเป็นเชื้อกษัตริย์กับพระอินทร์ก็ทรงโปรด เรื่องที่ได้ตกลงว่าจะให้เจ้าชายมณีพิไชยเดินทางไปอภิเษกสมรสกับราชธิดาเจ้ากรุงจีนซึ่งเจรจากันไว้ตอนที่เจ้าชายเสด็จไปประพาสป่าก็เป็นอันยกเลิกไป

แต่พระนางจันทรนั้นมีความโลภเห็นแก่สมบัติจึงคิดหาอุบายกำจัดเจ้าหญิงยอพระกลิ่นเพื่อให้โอรสได้เป็นเขยพระเจ้ากรุงจีนผู้ร่ำรวยมหาศาล ตกกลางคืนพระนางจันทรจึงจับแมวมาบีบคอจนตายคามือแล้วนำเลือดไปทาไว้ที่ปากเจ้าหญิงยอพระกลิ่นและตัดหางแมวไปเสียบไว้กับมวยผม ส่วนซากแมวนั้นอุ้มไปฝังในสวน เสร็จแล้วจึงกลับไปยังที่อยู่แกล้งร้องเรียกนางกำนัลว่าเห็นผีกระสือตัวหนึ่งมาจับแมวกินเกิดเอะอะกันขึ้น ครั้นพระมณีพิไชยตื่นขึ้นมาเห็นคราบเลือดกับหางแมวที่ปากและผมพระชายาก็เข้าใจผิดคิดว่าเป็นผีกระสือ พระนางจันทรจึงสั่งให้ทหารจับเจ้าหญิงยอพระกลิ่นใส่หีบนำไปฝังในป่า แต่พวกทหารเพียงแต่นำไปทิ้งไว้แล้วรับชวนกันกลับด้วยความกลัวผีกระสือ

เจ้าหญิงยอพระกลิ่นดั้นด้นเดินทางไปตามยถากรรมจนเหนื่อยอ่อนก็หยุดพักใต้ต้นไทรและหลับไปด้วยความอ่อนเพลีย ร้อนถึงพระอินทร์ต้องเหาะลงมาเนรมิตอาศรมไว้กลางป่าแล้วแปลงพระธิดาให้เป็นพราหมณ์และสอนคาถาอาคมต่างๆ ให้ พร้อมกันนั้นพระอินทร์ได้สั่งงูตัวหนึ่งให้ไปหลบอยู่ในดอกบัว เมื่อพระนางจันทรเด็ดดอกบัวจากสระมาปักผม งูนั้นก็กัดพระนางจันทรจนหมดสติไป ท้าวพิไชยนุราชให้หมองูมารักษาอาการก็ไม่ฟื้น พราหมณ์ยอพระกลิ่นจึงมาอาสารักษา โดยมีข้อแม้ว่าเจ้าชายมณีพิไชยจะต้องไปเป็นทาสรับใช้ เจ้าชายผิดสังเกตเห็นว่าพราหมณ์คงเป็นเจ้าหญิงยอพระกลิ่นปลอมตัวมาก็รับคำ พราหมณ์นั้นได้เรียกงูนั้นมาดูดพิษกลับคืนไป พระนางจันทรจึงฟื้นคืนสติและสารภาพเรื่องที่ใส่ร้ายเจ้าหญิงยอพระกลิ่น

เจ้าชายมณีพิไชยต้องไปเป็นข้ารับใช้พราหมณ์ที่อาศรม พราหมณ์ยอพระกลิ่นออกอุบายสั่งให้เจ้าชายเฝ้าศาลา ตนเองจะไปเก็บตัวยาในป่า แต่จะให้น้องสาวมาอยู่เป็นเพื่อน ครั้นเดินไปลับตาพราหมณ์ก็คืนร่างเป็นสาวสวยโสภามาลองใจพระสวามี แต่เจ้าชายก็มีใจเด็ดเดี่ยวในตัวเจ้าหญิงยอพระกลิ่นทำให้เจ้าหญิงพอใจกลับเข้าไปในป่าแล้วแปลงร่างเป็นพราหมณ์อย่างเดิมพร้อมอนุญาตให้เจ้าชายกลับเมืองได้แต่ไม่กล้าบอกความจริงให้รู้เพราะเกรงพระอินทร์จะโกรธ

ทางกรุงศรอยุธยา พระเจ้ากรุงจีนได้ส่งราชฑูตมาเร่งรัดให้เจ้าชายมณีพิไชยเดินทางไปอภิเษกสมรสกับพระราชธิดาที่ปักกิ่งตามที่ท้าวพิไชยนุราชได้ให้สัญญาไว้ มิเช่นนั้นจะส่งกองทัพมาทำสงคราม เจ้าชายมณีพิไชยเห็นแก่ความสงบสุขของบ้านเมืองจึงจำต้องเสด็จไปเมืองจีนพร้อมกับเรือของราชทูต ฝ่ายพราหมณ์ยอพระกลิ่นเมื่อทราบข่าวก็ขอติดตามไปด้วย

พระเจ้ากรุงจีนได้รับรายงานจากราชทูตว่าเหตุที่เจ้าชายมณีพิไชยไม่รีบเดินทางมาตามสัญญา เพราะมัวไปหลงเจ้าหญิงยอพระกลิ่นจึงเกิดความขุ่นเคืองพระทัยพยายามหาเหตุที่จะประหาร แกล้งให้โหรกำหนดฤกษ์ทันทีและสั่งให้เจ้าชายมณีพิไชยนำขันหมากมาถวายจำนวนหนึ่งพันชุด หากไม่สามารถหามาได้ทันจะต้องถูกประหารชีวิต เจ้าชายรู้ว่าเป็นเล่ห์ของพระเจ้ากรุงจีนจึงปรึกษากับพราหมณ์ยอพระกลิ่นว่าควรจะรีบหนีกลับบ้านเมืองเพื่อความปลอดภัย

ทั้งสองต้องบุกป่าฝ่าดงกันมาตามลำพังจนพ้นเขตเมืองจีนก็หมดแรงนอนหลับใหลใต้โคนไม้ด้วยความเหนื่อยอ่อน โดยหารู้ไม่ว่าได้พลัดเข้ามาอยู่ในเขตแดนของพวกยักษ์ บังเอิญ นนทกาล เสนายักษ์มาพบเข้าจึงร่ายมนต์สะกดพราหมณ์ยอพระกลิ่นและอุ้มเจ้าชายมณีพิไชยพาเหาะไปถวาย พระนางวาสัน มเหสีหม้ายของพญายักษ์ผู้เป็นเจ้าเมืองซึ่งเพิ่งเสียชีวิตไปไม่นานและชาวเมืองยักษ์ทั้งหลายกำลังอยู่ในระหว่างไว้ทุกข์



นางยักษ์วาสันมีธิดาจนหนึ่งชื่อว่า เจ้าหญิงผกา ซึ่งไม่เคยได้กินเนื้อมนุษย์มาก่อน ด้วยความรักอยากจะให้ได้ลิ้มลอง นางยักษ์วาสันจึงนำเจ้าชายมณีพิไชยมาให้ แต่พอเจ้าหญิงผกาเห็นรูปร่างหน้าตาของเจ้าชายก็เกิดความพึงพอใจใคร่ได้ไว้เป็นคู่ชมเลยแสร้งขับไล่เหล่านางยักษ์สนมกำนัลออกไปแล้วคลายมนต์สะกดให้ เจ้าชายมณีพิไชยเห็นว่าขืนทำเล่นตัวคงถูกยักษ์จับกินแน่ก็จำต้องรับเจ้าหญิงผกาเป็นชายา

ฝ่ายพราหมณ์ยอพระกลิ่นพอมนต์สะกดเริ่มเสื่อมก็ฟื้นคืนสติ เห็นเจ้าชายมณีพิไชยหายไปมีแต่รอยเท้ายักษ์รอยบริเวณจึงรู้ว่ากำลังตกอยู่ในอันตราย ก็รีบติดตามไปช่วยเหลือ พอเข้าเขตเมืองอสูรพวกยักษ์พลตระเวนเห็นมนุษย์ก็ตรงเข้าหมายจะจับกิน เกิดการต่อสู้กันอยู่พักหนึ่งพราหมณ์ก็ได้ชัยชนะ เมื่อสอบถามเรื่องราวจากยักษ์เชลยจนรู้ว่าเจ้าชายมณีพิไชยอยู่ในเมืองนี้แน่จึงรอเวลาให้พลบค่ำแล้วร่ายมนต์สะกดพวกยักษ์ทั้งหลายให้หลับใหลแล้วลอบเข้าไปในตำหนักของเจ้าหญิงผกา

เมื่อเห็นพระภัสดานอนอยู่เคียงข้างนางยักษ์ก็โกรธจึงปลุกขึ้นมาต่อว่าต่อขานด้วยอารมณ์โกรธเลยพูดถึงเรื่องที่เคยถูกไส่ใคล้ว่าเป็นผีกระสือกินแมวทำให้เจ้าชายมณีพิไชยแน่ใจว่าพราหมณ์ก็คือเจ้าหญิงยอพระกลิ่น จึงรีบขอโทษและบอกว่าที่ทำไปในครั้งนี้ก็เพราะความจำเป็น ไม่อย่างนั้นต้องถูกนางยักษ์จับกินแน่ เจ้าหญิงยอพระกลิ่นยังเคืองโกรธจึงต่อว่าต่อขานเอาอีกจนเจ้าชายเสียใจจนสลบหมดสติไป ร้อนถึงพระอินทร์ต้องมาช่วยให้ฟื้นแล้วพาทั้งสองเหาะกลับมาส่งถึงกรุงศรีอยุธยา

ท้าวพิไชยนุราชได้จัดพระราชพิธีอภิเษกสมรสให้กับเจ้าชายมณีพิไชยและเจ้าหญิงยอพระกลิ่น ทั้งสองจึงครองรักกันอย่างมีความสุขนับแต่นั้นมา

***** บทละครนอกเรื่อง มณีพิไชย เป็นพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย*****

19 ความฝันที่พบบ่อยที่สุดในโลกและความหมาย

จิตวิทยาความฝัน ฝันถึงประตูหมายความว่าอย่างไร

จิตวิทยาความฝัน ฝันเห็นนกฮูกหมายความว่าอย่างไร

จิตวิทยาความฝัน ฝันเห็นเรือหมายความว่าอย่างไร

จิตวิทยาความฝัน ฝันเห็นปลาวาฬหมายความว่าอย่างไร

จิตวิทยาความฝัน ฝันเห็นช็อกโกแลตหมายความว่าอย่างไร

จิตวิทยาความฝัน ฝันเห็นดวงดาวหมายความว่าอย่างไร

จิตวิทยาความฝัน ฝันถึงงานหมายความว่าอย่างไร

จิตวิทยาความฝัน ฝันเห็นช้างหมายความว่าอย่างไร

จิตวิทยาความฝัน ฝันเห็นหิมะหมายความว่าอย่างไร

จิตวิทยาความฝัน ฝันเห็นนกหมายความว่าอย่างไร

จิตวิทยาความฝัน ฝันเห็นทองหมายความว่าอย่างไร

จิตวิทยาความฝัน ฝันเห็นผีหมายความว่าอย่างไร

จิตวิทยาความฝัน ฝันถึงดาราคนดังเซเลบหมายความว่าอย่างไร

จิตวิทยาความฝัน ฝันเห็นปลาโลมาหมายความว่าอย่างไร

จิตวิทยาความฝัน ความฝันของการเดินทางหมายความว่าอย่างไร

จิตวิทยาความฝัน ฝันถึงหมีหมายความว่าอย่างไร

จิตวิทยาความฝัน ความฝันถึงสงครามหมายความว่าอย่างไร

จิตวิทยาความฝัน ฝันเห็นฝนหมายความว่าอย่างไร

จิตวิทยาความฝัน ฝันเห็นฉลามหมายความว่าอย่างไร

จิตวิทยาความฝัน ฝันเห็นวัวกระทิงหมายความว่าอย่างไร

จิตวิทยาความฝัน ฝันเห็นจระเข้หมายความว่าอย่างไร

จิตวิทยาความฝัน ฝันเห็นหอยทากหมายความว่าอย่างไร

จิตวิทยาความฝัน ฝันเห็นปูหมายความว่าอย่างไร

จิตวิทยาความฝัน ฝันว่าช่วยชีวิตใครสักคนหมายความว่าอย่างไร

จิตวิทยาความฝัน ฝันเห็นขยะหมายความว่าอย่างไร

จิตวิทยาความฝัน ฝันว่าจัดกระเป๋าหมายความว่าอย่างไร

จิตวิทยาความฝัน ฝันเห็นหมอกหมายความว่าอย่างไร

จิตวิทยาความฝัน ฝันเห็นการผ่าตัดหมายความว่าอย่างไร

จิตวิทยาความฝัน ฝันเห็นเครื่องประดับหมายความว่าอย่างไร

ประวัติหลวงปู่ทวดวัดช้างไห้ ตามรอยหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด

ชุ่มฉ่ำรับสงกรานต์ สรงน้ำพระธาตุตามปีเกิดด้วยหัวใจอิ่มบุญ

วิธีตั้งเลขพยากรณ์ ดูดวงตำราพรหมชาติ

ดูดวงตำราพรหมชาติ ปีชวด

ดูดวงตำราพรหมชาติ ปีฉลู

ดูดวงตำราพรหมชาติ ปีขาล

ดูดวงตำราพรหมชาติ ปีเถาะ

ดูดวงทำนายฝัน ความหมายของความฝัน


เรื่องย่อเพื่อเธอ เรื่องย่อสาวน้อยร้อยล้าน เรื่องย่อรักเร่
เรื่องย่อตามรักคืนใจ เรื่องย่อพลับพลึงสีชมพู เรื่องย่อไฟล้างไฟ
เรื่องย่อรัตนาวดี เรื่องย่อคู่ปรับฉบับหัวใจ เรื่องย่อห้องหุ่น
เรื่องย่อรอยรักแรงแค้น ขอเป็นเจ้าสาวสักครั้งให้ชื่นใจ เรื่องย่อเพลิงตะวัน
เรื่องย่อนางร้ายที่รัก เพื่อนรักเพื่อนริษยา เรื่องย่อตะวันตัดบูรพา
เรื่องย่อเลื่อมสลับลาย นางสาวทองสร้อยคุณแจ๋ว เรื่องย่อใต้เงาจันทร์
เรื่องย่อละครเจ้านาง เรื่องย่อผู้กองยอดรัก เรื่องย่อสุดแค้นแสนรัก
เรื่องย่อเพลงรักเพลงลำ เรื่องย่อละครเพื่อนแพง เรื่องย่อเลือดมังกร
นิทานนางกากี นิทานนางพิกุลทอง นิทานยอพระกลิ่น
นิทานกระต่ายสามขา นิทานกระเช้าสีดา นิทานเคราะห์ของตาจัน
กล่องข้าวน้อยฆ่าแม่ ทำไมงูเหลือมไม่มีพิษ ทำไมเต่ามีกระดอง
ทำไมจระเข้จึงไม่มีลิ้น ทำไมหมากับแมวไม่ถูกกัน ทำไมนกกะปูดตาแดง
นิทานธรรมชาดก เรื่องย่อละคร ดูดวงทำนายฝัน
กษัตริย์เกาหลี จักรพรรดิกวางสี จักรพรรดิปูยี
ตำนานอโดนิส โจนออฟอาร์ค มู่กุ้ยอิง
จักรพรรดิเนโร พระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 อับราฮัม ลินคอล์น
พระเจ้าซุกจง มาตาฮารี เจ้าฟ้าหญิงบุญรอด
ตำนานธอร์ นิกิต้า ครุสชอฟ สงครามเกาหลี
กำแพงเมืองจีน อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ พระนางเลือดขาว
อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ สตีเฟน ฮอว์คิง ลีโอ ตอลสตอย
สตีฟ จ็อบส์ เจ้าพระยาวิชเยนทร์ พระนางมัสสุหรี
สัตว์มีพิษ ไวรัสอีโบลา เอเลี่ยนสปีชี่ส์
กำเนิดจักรวาล กำเนิดดวงอาทิตย์ ระบบสุริยะจักรวาล
ปริศนาของจักรวาล การเดินทางข้ามกาลเวลา สสารและปฏิสสาร
สิ่งมีชีวิตบนดาวอังคาร บิ๊กแบงคืออะไร สัตว์ใกล้สูญพันธุ์
สัตว์น้ำแปลก ปลาแองเกลอร์ สัตว์ดูดเลือด
อันดับงูสวยงาม อนาคอนด้า ตัวอ่อนปลาฉลาม
เห็ดมีพิษ ภัยของยาไอซ์ คลื่นยักษ์สึนามิ
กัญชาปลอดภัย ไวรัสอีโบลา ปรสิตที่น่ากลัว
สาเหตุสึนามิ ทำไมผมร่วง สงครามซีเรีย
ทำลายหลุมดำ โลกของเรา กระแสน้ำทะเล
วิธีทำลายเอกภพ กลไกวิวัฒนาการ ระบบภูมิคุ้มกัน
เล่าเรื่องผี เรื่องสยองขวัญ เรื่องผี
ฆาตกรโหด ฆาตกรต่อเนื่อง ฆาตกรโรคจิต
ผีนานาชาติ ผีปีศาจ พระธุดงค์เจอผี
โจนเบเน็ต คดีเพชรซาอุ เดวิด เบอร์โควิด
ซอว์นี่ บีน ฆาตกรโหดเมืองไทย อลิซาเบธ บาโธรี่
ฆาตกรฆ่าคนมากที่สุด คดีกักขังหน่วงเหนี่ยว คดีวิตถาร
คดีพิศวาสฆาตกรรม ฆาตกรเด็ก คดีฆ่าหั่นศพ
ยโศโฆษาฆาต แจ๊คเดอะริปเปอร์ ฆาตกรต่อเนื่องอินเดีย
เบลล์ กันเนส ยูนาบอมเบอร์ เอล ชาโป
ผีภาคเหนือ ผีภาคอีสาน ผีญี่ปุ่น
เมืองอาถรรพ์ เรื่องเล่าเดอะช็อค มนุษย์กินคน

7 สิ่งมหัศจรรย์ในระบบสุริยะจักรวาล สตีเฟ่น ฮอว์คิงกับคำถามของเอกภพ 5 ปริศนาที่ไร้คำอธิบายของจักรวาล 10 เกมส์อันตรายที่ไม่ควรให้เด็กเล่น แนะนำเกม DEAD ISLAND RIPTIDE แนะนำเกมส์ TOM CLANCY’S Splinter Cell แนะนำ Application เกม Iphone Ipad ชุด1 แนะนำเกม THE WALKING DEAD

Marble Chocolate Cheesecake

Marble Chocolate Cheesecake


ส่วนผสม
แป้งเค้ก   100 กรัม
ครีมชีสพักไว้ให้คลายความเย็น  625 กรัม
น้ำตาลทราย (1)  40 กรัม
ไข่แดง  9 ฟอง
ไข่ขาว  9 ฟอง
น้ำตาลทราย (1)  100 กรัม
ดาร์กช็อกโกแล็ตตุ๋นจนละลาย  150 กรัม
ผลไม้สดและช็อกโกแล็ตสำหรับตกแต่งตามชอบ



วิธีทำ
1. ร่อนแป้งเค็กลงอ่างผสม เตรียมไว้
2. ตีครีมชีสกับน้ำตาลทราย (1) ด้วยหัวตีใบไม้ โดยใช้ความเร็วปานกลาง ตีจนส่วนผสมเข้ากันและอ่อนตัว
3. ค่อยๆ เติมไข่แดงทีละฟองลงผสมจนหมด ตีต่อให้เข้ากันและขึ้นฟูเล็กน้อย ปิดเครื่อง เทใส่อ่างผสมพักไว้
4. ตีไข่ขาวกับน้ำตาลทราย (2) ด้วยหัวตีตะกร้อโดยใช้ความเร็วสูงสุด ตีจนส่วนผสมขึ้นฟูตั้งยอดอ่อน
5. นำส่วนผสมในข้อที่ 3 และข้อที่ 4 ผสมรวมกัน โดยใช้ตะกร้อมือตะล่อมเบาๆ จนเข้ากันแล้วค่อยๆ ใส่แป้งที่ร่อนไว้ลงผสมจนเข้ากันดี จากนั้นนำส่วนผสมแบ่งออกมาประมาณ 200 กรัม ผสมกับดาร์กช็อกโกแล็ตตุ๋นให้เข้ากัน
6. เทส่วนผสมสีขาวลงในพิมพ์ถ้วยที่ทาด้วยเนยขาวเคาะแป้ง แล้วหยอดส่วนผสมสีน้ำตาลลงตรงกลาง ใช้ไม้แหลมขีดให้เป็นลาย นำเข้าเตาอบแบบรองน้ำที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส จนสุกจึงนำออกจากเตาอบ พักไว้ให้เย็น ตกแต่งด้วยผลไม้สดและช็อกโกแล็ตให้สวยงามตอนเสิร์ฟ

อาหารญี่ปุ่น อาหารจีน อาหารไทย
อาหารเวียดนาม อาหารลาว อาหารอาเซียน
ขนมญี่ปุ่น อาหารจานยักษ์ เมนูราเม็ง
อาหารบนรถไฟ ไอติมญี่ปุ่น เมนูสุขภาพ
ราเม็งญี่ปุ่น การทำชีส อาหารบนทางด่วน
ร้านราดหน้า ร้านข้าวขาหมู ร้านบะหมี่เกี๊ยว
ร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อ ร้านกระเพาะปลา ร้านสุกี้
ร้านโจ๊ก ร้านต้มเลือดหมู ร้านกุ้งอบวุ้นเส้น
ร้านข้าวต้มปลา เมนูติ่มซำ กับข้าวญี่ปุ่น
ของไหว้สารทจีน หม้อไฟญี่ปุ่น เมนูซูชิ
ซูชิยอดนิยม อาหารแปลกญี่ปุ่น อาหารแปลกทั่วโลก
ร้านฉวาง โกยซีหมี่ ขนมหวานเยอรมัน
เมนูเครื่องดื่ม ขนมไทยโบราณ ก๋วยเตี๋ยวปากหม้อ
ขนมไทยมงคล ช็อคโกแลตชีสเค้ก เนื้อวากิว

บทความแนะนำ

ดูฟ้าดูฟาย เพลินๆ ริมน้ำ และธรรมชาติ ร้านอาหารปักษ์ใต้ฉวาง อาหารประเทศอาเซียน 10 อันดับอาหารหม้อไฟญี่ปุ่น อาหาร 100 อย่างตามทางรถไฟสายยามาโนเตะ อบอวลความสุขหอมกรุ่นปิ้งย่างที่ Grilliku Japanese BBQ Yakiniku เลิศรสอาหารไทยโบราณ สัมผัสบรรยากาศแบบชนบทดุจโรงนากลางเมืองกรุงที่ Barn@36 เนื้อวากิวราชาแห่งเนื้อจากแดนซามูไร

Popular Posts