ไฮดี้ คลุม ปิดฉากความรักกับเจ้าชายอสูร
ใครๆ ที่เห็น"ไฮดี้ คลุม" ยอดนางแบบสาวแถวหน้าของโลกกับ "ซีล" นักร้องเพลงอาร์แอนด์บีผิวหมึก เป็นต้องพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า "นี่ล่ะโฉมงามกับเจ้าชายอสูรตัวจริง" เพราะฝ่ายหญิงนั้นถึงไม่ใช่นางฟ้าแต่ก็ใกล้เคียง ตรงกันข้ามกับซีลที่เรียกว่าขี้เหร่ได้เต็มปากเต็มคำ หนำซ้ำเขายังมีรอยแผลเป็นอันใหญ่บนแก้ม ยิ่งทำให้รูปลักษณ์ดูน่ากลัวเข้าไปอีกไฮดี้ คลุม กับ ซีล |
แต่โฉมงามไฉดี้ก็รักอสูรคนนี้ เพราะซีลพิสูจน์ตัวเองให้เธอเห็นแล้วว่า คนตัวดำๆ อาจมีหัวใจขาวสะอาดกว่าผู้ชายผิวขาวๆ หุ่นสะโอดสะอง แต่ทำผู้หญิงท้องแล้วไม่รับผิดชอบบางคนเสียอีก ก่อนจะมารักกับซีล ไฮดี้ผ่านการแต่งงานมาแล้วครั้งหนึ่งกับสไตลิสต์ชื่อดัง "ริกปิปิโน่" แต่ก็หย่าขาดจากกันในปี 2002 หลังจากนั้นเธอก็วุ่นวายอยู่กับการรับประทานขนมจีบที่หนุ่มๆ เข้าแถวเอามาประเคนถึงบ้านอยู่พักใหญ่ ก่อนจะตัดสินใจรับรักมหาเศรษฐีอิตาลี "ฟลาวิโอ บริอาตอเร่" เจ้าของทีมรถแข่งฟอร์มูล่าวันเบเน็ตตอง, เรโนลด์ และหุ้นส่วนสโมสรฟุตบอลดัง "ควีนส์ พาร์ค เรนเจอร์" ของอังกฤษ แต่ทว่าถึงจะเป็นเจ้าของสโมสรกีฬาแมนๆ แต่ตัวฟลาวิโอกลับไม่ได้แมนตามไปด้วย พอไฮดี้ตั้งท้องลูกของเขา ฟลาวิโอก็หัวฟัดหัวเหวี่ยงออกอาการปัดความรับผิดชอบขึ้นมาทันที ไฮดี้จึงรู้เช่นเห็นชาติมหาเศรษฐีใจปลาซิว และตัดสินใจปิดฉากความสัมพันธ์เสียเองในที่สุด
ไฮดี้ คลุม กับ ซีล |
สำหรับประวัติของซีล ก็เช่นเดียวกับนักร้องผิวหมึกอีกหลายคนในวงการ เขาเติยโตขึ้นมาในชุมชนแออัดใจกลางกรุงลอนดอน ต้องต่อสู้กับความจนชนิดแทบไม่มีจะกินมาตั้งแต่เด็ก แต่ซีลโชคดีกว่าเพื่อนๆ ชาวสลัมคนอื่นตรงที่เขาได้สามีภรรยาใจบุญช่วยอุปถัมภ์ส่งเสียให้เรียนจนสำเร็จอนุปริญญาสาขาสถาปัตยกรรม จากนั้นเขาก็ผันตัวเองไปเป็นนักร้องในคลับ และออกตระเวนเล่นดนตรีกับเพื่อนนักดนตรีโนเนมอยู่เกือยสิบปี กว่าบุญจะหล่นทับให้ได้พบกับ "อดัมสกี้" โปรดิวเซอร์ชื่อดังที่ช่วยผลักดันจนเขาได้ออกอัลบั้มของตัวเองเป็นครั้งแรกในปี 1990 เพลง Killer ในอัลบั้มนี้ ไต่ขึ้นสู่อันดับหนึ่งของบิลบอร์ดชาร์ทอย่างรวดเร็วส่งให้เด็กสลัมผิวหมึกกลายเป็น "ซีล" นักร้องเสียงนุ่มเจ้าของเพลงฮิตอีกหลายอัลบั้มมาจนถึงทุกวันนี้
ไฮดี้ คลุม กับ ซีล |
ส่วนแผลเป็นใหญ่บนแก้มขวาของเขานั้น ถึงแม้จะมีข่าวลือมากมายว่าน่าจะเป็นของที่ระลึกจากแก๊งค์อันธพาลที่ซีลเคยไปเดินเหยียบตาปลาสมัยเป็นเด็กสลัม แต่ที่จริงแล้วมันเป็นเพียงผลพวงมาจากโรคผิวหนังชื่อยาวเหยียด "ดิสคอยนด์ ลูปัส อิริทีมาโตซัส" ที่ซีลเคยเป็นเท่านั้นเอง
วีลได้พบไฮดี้เป็นครั้งแรกในงาน จีคิว อวอร์ด ปี 2003 ที่เธอมารับรางวัลวูแมนออฟเดอะเยียร์ เพียงแรกเห็นโฉมงาม อสูรซีลก็ถึงกับตะลึงพรึงเพริดเลยทีเดียว "คืนนั้นเธอสวยสุดยอดมาก เธอใส่ชุดสีดำกึ่งๆ ซีทรูแนบเนื้อ แต่นั่นยังไม่เท่ากับยิ้มกว้างบนใบหน้าของเธอที่สะดุดตาผม" ซีลเล่า "ผมจำได้ว่า ผมแอบคิดในใจว่า ว้าว! ผู้ชายคนไหนที่ได้ผู้หญิงคนนี้ไป ต้องบอกว่าโชคดีจริงๆ" แต่ด้วยความเจียมเนื้อเจียมตัว เขาจึงไม่กล้าเข้าไปคุยกับเธอ ทำให้โอกาสที่จะได้สานสัมพันธ์ต้องหลุดมือไปอย่างน่าเสียดาย
ไฮดี้ คลุม กับ ซีล |
อีกสามอาทิตย์ต่อมา ซีลก็ได้พบกับไฮดี้อีกครั้งที่โรงแรมเมอร์เซอร์ในนิวยอร์ก แต่ก็เป็นการพบในสภาพทุลักทุเลขาดความหล่อเท่โดยสิ้นเชิง เนื่อจากเจ้าตัวเพิ่งเสร็จจากการออกกำลังกาย จึงเหงื่อไหลไคลย้อยไปทั้งตัว พอเห็นนางในฝันนั่งอยู่ในล็อบบี้ของโรงแรม ซีลก็รีบเดินหลบทันที แต่ไฮดี้กลับเป็นฝ่ายเข้ามาทักเขาก่อนและตบท้ายด้วยการชวนฝ่ายชายไปกินพิซซ่า ซึ่งซีลยอมรับว่าตื่นเต้นสุดๆ แต่ก็ยังไม่กล้าคิดว่านางฟ้าจะมีใจให้ "ปกติผมมีเซ้นส์ในเรื่องพวกนี้อยู่มากนะ แต่ตอนนั้นผมไม่กล้าคิดจริงๆ ว่าเธอจะสนใจผม ผมเลยเดาว่าเธอคงอยากเป็นเพื่อนผมเท่านั้นเอง
ผิดกับไฮดี้ที่ยอมรับอย่างหน้าชื่นตาบานว่าเธอตั้งใจจะจีบหนุ่มซีลตั้งแต่วันแรกที่พบเลยทีเดียว ด้วยเหตุผลชวนจั๊กกะเดียมยิ่งนัก ว่าเธอสนใจเขาที่ขนาดของเป้ากางเกง เพราะมันบิ๊กบึ้มได้ใจมากๆ ไฮดี้เปิดปากให้สัมภาษณ์ไว้ในรายการโทรทัศน์ของโอปร่า วินฟรี่ย์ว่า "ฉันพบกับเขาที่ล็อบบี้โรงแรมในนิวยอร์คและเขาก็เดินเข้ามาหลังจากเพิ่งไปออกกำลังกายที่ยิม ฉันนั้งอยู่ตรงนั้น และฉันก็แบบว่า ว้าว! อะไรมันจะขนาดนั้น ซีลสวมกางเกงแนบเนื้อสำหรับปั่นจักรยาน และฉันก็เห็นทุกอย่างของเขาชัดเจน ฉันชอบมากๆ กับทุกอย่างที่ได้เห็น แบบว่าทุกอย่างเลยจริงๆ" เน้นขนาดนี้คงไม่ต้องบอกว่าเธอชอบอะไรของเขา จากนั้นโฉมงามก็ควงเจ้าชายอสูรไปกินพิซซ่า ก่อนจะพบว่าไม่เพียงแต่เป้ากางเกงเท่านั้นที่ใหญ่บึ้ม แต่หัวใจของซีลก็ยังใหญ่และน่าทึ่งยิ่งกว่า
"เราไปทานดินเนอร์กันในสถานที่ที่สุดแสนวิเศษ มันเยี่ยมมาก แต่ฉันไม่สามารถบอกกับคุณได้จริงๆ ว่าเราทำอะไรกันบ้าง มันค่อนข้างจะติดเรตเอ็กซ์ไปหน่อย และถ้าฉันพูดออกมาเนื้อหาตรงนี้คงต้องถูกดูดเสียงแน่ๆ แต่ฉันบอกได้เลยว่ามันเป็นเดทครั้งแรกที่สุดยอดเยี่ยมเกินคำบรรยายจริงๆ
ถึงเดทแรกจะจบลงด้วยความประทับใจของทั้งสองฝ่าย แต่ซีลก็ยังเจียมในความดำของตัวเองจนไม่กล้าคิดเป็นอื่นว่าไฮดี้จะชอบคนอย่างเขา เขาจึงพยายามรักษาความสัมพันธ์ไว้ที่คำว่าเพื่อนไปก่อน มาผิดสังเกตอีกทีก็เมื่อเห็นหน้าท้องของสาวเจ้าค่อยๆ โตขึ้นทุกวัน เนื่องจากมีลูกที่มหาเศรษฐี "ฟลาวิโอ บริอาตอเร่" เสกน้ำยาทิ้งไว้แล้วชิ่งหนีไป กำลังเติบโตอยู่ภายใน พอรู้ว่าไฮดี้กำลังจพเป็นซิงเกิ้ลมัม ซีลจึงของเธอแต่งงานและยอมรับเด็กในท้องเป็นลูกซะเอง
"แม้ว่าเด็กจะยังไม่เกิด แต่ผมรู้สึกว่า ถ้าผมรักผู้หญิงคนนี้ผมคงต้องทำอะไรให้ถูกต้องเพื่อลูกของเธอที่จะเกิดมาด้วย ผมจึงขอเป็นแฟนกับเธออย่างจริงจังในตอนนั้น และให้สัญญาว่าผมจะรับเป็นพ่อเด็กให้เธอเอง ผมไม่ได้คิดว่าผมเป็นอัศวินขี่ม้าขาวมาช่วยเธอหรอกนะ แต่ผมทำตามที่หัวใจต้องการมากกว่า และผมก็ไม่สนใจด้วยว่า ใครจะเม้าท์กันว่าอย่างไร" ซีลเล่า
ไม่เพียงแต่จะยอมรับหนูน้อย "เฮเลนี่" ลูกสาวที่ยังไม่ได้คลอดของไฮดี้เป็นลูกเท่านั้น แต่ซีลยังรักเด็กน้อยและมาอุ้มชูดูแลนับตั้งแต่ลืมตาดูโลก เล่นเอาคนเป็นแม่อย่างไฮดี้ประทับใจจนไม่เหลียวแลผู้ชายอื่นอีกเลย เธอจึงยอมรับหมั้นและแต่งงานกับซีล ผู้ชายที่มีหัวใจขาวสะอาดคนนี้ เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2005 หลังจากนั้นซีลก็จดทะเบียนรับเฮเลนี่เป็นลูกบุญธรรมอย่างเป็นทางการ ส่วนไฮดี้ก๋เดินหน้าผลิตโซ่ทองคล้องใจตัวน้อยๆ ออกมาเป็นพยานรักอีก 3 คน ได้แก่ เฮนรี่, โยฮัน และ ลู ซูโลลา ครอบครัวของเธอถูกยกให้เป็นหนึ่งในครอบครัวที่อบอุ่นที่สุดในวงการบันเทิง เพราะทุกคนรักใคร่ปรองดองกันดีเหลือเกิน
แม้จะอยู่กินกันมานานถึง 7 ปีเต็ม แต่โฉมงามกับเจ้าชายอสูรคู่นี้ก็ไม่เคยหยุดเติมความหวานให้ชีวิตคู่ โดยทุกๆ ปีเมื่อถึงวันครบรอบแต่งงาน ซีลและไฮดี้จะถือว่ามันเป็นวันที่ทั้งคู่กลับไปแต่งงานกันใหม่อีกรอบ เพียงแต่มีลูกๆ เพิ่มขึ้นมาให้ความรักแน่นแฟ้นขึ้นเท่านั้นเอง เมื่อหวานได้ใจขนาดนี้ จึงไม่มีใครเลยที่คิดว่า จู่ๆ เจ้าชายอสูรกับโฉมงามจะเลิกรากันเสียได้จนกลายเป็นข่าวพาดหัวใหญ่บนหน้าหนังสือพิมพ์และเว็บไซต์บันเทิง เมื่อทั้งคู่ออกแถลงว่าได้แยกทางกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซ้ำร้ายไฮดี้ยังเตรียมแต่งทนายฟ้องหย่าซีล ต่อศาลสูงนครลอสแอนเจลิสอีกต่างหาก
ไฮดี้เปิดใจถึงการขอหย่าครั้งนี้ว่าเป็นเรื่องสุดวิสัยจริงๆ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเธอกับซีลจะเกลียดขี้หน้ากันเหมือนคู่ร้างฮอลลีวู้ดอื่นๆ แต่อย่างใด "เรามีความสุขกับความรัก 7 ปีเต็ม แต่หลังจากค้นหาตัวตนอยู่พักใหญ่ เราจึงตัดสินใจที่จะแยกทางกัน แต่จะดำรงความเป็นเพื่อนไว้อย่างแน่นอน"
เหตุผลที่แท้จริงของการเซย์กู๊ดบายครั้งนี้คืออะไร ยังไม่เป็นที่แน่ชัดนัก แต่คาดว่าน่าจะมาจากปัญหาเรื่องความเจ้าอารมณ์ของซีล ที่ไฮดี้กลัวว่าจะส่งผลร้ายไปถึงลูกๆ อย่างไรก็ตามหลายคนก็ตั้งข้อสังเกตว่าทั้งไฮดี้และซีลยังคงสวมแหวนแต่งงานไว้ที่นิ้วนางข้างซ้าย ซึ่งก็หมายความว่าทั้งคู่ยังมีความรู้สึกดีๆ ให้กัน และไม่แน่ว่าวันหนึ่งสายลมอาจจะพัดพาให้ทั้งสองหวนกลับมาเป็นคู่ผัวตัวเมียตัวอย่างของวงการดังเดิมก็ได้ เหมือนอย่างคำสัมภาษณ์ที่ซีลพูดเอาไว้ หลังประกาศเลิกกับไฮดี้ว่า
"ผมรักเธอหมดหัวใจ คุณจะกลายเป็นคนอื่นกับคนที่คุณใช้ชีวิตด้วยมาตั้ง 7 ปีได้อย่างไร เพียงเพราะว่าคุณตัดสินใจที่จะแยกทางกัน ผมไม่คิดว่าคุณจะหยุดรักอีกฝ่ายได้ทันที ความรักและความนับถือที่เรามีต่อกัน จะไม่มีทางเปลี่ยนแปลงไปอย่างแน่นอน