google.com, pub-6663105814926378, DIRECT, f08c47fec0942fa0 Mega topic | จัดอันดับ | 10 อันดับ| เรื่องผี| เรื่องสยองขวัญ| ที่สุดในโลก| ดูดวง| ประวัติศาสตร์

ตำนานผีญี่ปุ่น เรื่องภรรยาที่ไม่กินข้าว

ตำนานผีญี่ปุ่น เรื่องภรรยาที่ไม่กินข้าว


เพื่อนของหนุ่มโสดคนหนึ่ง ได้พูดกับหนุ่มโสดว่า “อายุก็ มากแล้ว..น่าจะหาภรรยาสักคน ได้แล้ว” แต่ว่าหนุ่มโสดผู้นั้น กลับตอบว่า “ข้าก็อยากมีภรรยา เหมือนกัน แต่ข้าเป็นคนจน คงไม่มีเงินเลี้ยงหรอก ถ้ามีผู้หญิง ที่ไม่กินข้าวก็ดี ข้าจะได้เอาเป็น ภรรยาซะเลย"



ต่อมาวันหนึ่ง มีหญิงสาว คนหนึ่งมาหาหนุ่มโสดและแนะนำตัวว่า ตัวเองไม่กินข้าว ช่วยรับ เป็นภรรยาด้วย หนุ่มโสดเมื่อได้ฟังก็ดีใจจึงตัดสินใจแต่งงาน กับหญิงสาวคนนั้น เมื่อแต่งงาน แล้วก็ได้เกิดเหตุการณ์ประหลาดขึ้นคือ ข้าวและเต้าเจี้ยวหาย ไปหมด ตอนแรกชายผู้นั้นคิดว่า หนูขโมยกิน ต่อมาวันหนึ่ง ชาย คนนั้นแกล้งทำเป็นเดินทางไปที่หมู่บ้าน และเมื่อเขาย่องกลับมา ก็พบว่า ภรรยาของเขาหุงข้าว และต้มซุปเต้าเจี้ยวนอกจากนั้น ยังทำข้าวนั้นก้อนใหญ่อีกมากมาย และนำมาเรียงไว้บนเสื่อ แล้ว ต่อมาเธอก็เริ่มปล่อยผมของเธอ ออก ชายคนนั้นต้องตกใจ เพราะ เมื่อเธอปล่อยผมก็มีปากขนาด ใหญ่โผล่ออกมาจากด้านหลัง ของศรีษะของเธอ และเธอก็เริ่ม โยนข้าวนั้นและเทซุปเต้าเจี้ยวใส่ ที่ปากนั่น หลังจากที่กินเสร็จเธอ ก็รวบผมตามเดิม

วันต่อมาชายคนนั้นก็ได้ไล่ ภรรยาของเขาออกจากบ้านไป เพราะตัวจริงของผู้หญิงคนนั้น ก็ ผีภูเขา แต่ว่าในบางท้องที่ ผู้หญิงคนนี้อาจเป็น สัตว์อื่น เช่น แมงมุมหรืองู และหนุ่มโสดที่เป็นพระเอกของเรื่อง อาจจะมีอาชีพต่าง ๆ กันเช่น อาชีพตัดไม้ ช่างไม้ หรืออาจจะเป็นพ่อค้า

ตำนานผีญี่ปุ่น เรื่องปีศาจตาเดียว

ตำนานผีญี่ปุ่น เรื่องปีศาจตาเดียว


ในวันที่ 8 เดือน 10ของ ทุก ๆ ปีที่บ่อน้ำร้อนคุสะฮิสิจะมี ประเพณีปลูกกระท่อมขึ้นมา และ หลังจากปลูกเสร็จก็จะเดินทาง กลับไปที่หมู่บ้าน แต่ปีนี้ยังมี ชายสามคน ยังหลงเหลืออยู่ที่ บ่อนํ้าร้อน เพราะพวกเขายังปลูก กระท่อมไม่เสร็จ ในดินนั้นอากาศ หนาวมาก พวกเขาจึงให้ยายคน หนึ่งลงไปที่หมู่บ้านเพื่อ ไปซื้อเหล้ามาดื่ม แต่ในระหว่างทาง ที่ไปนั้นเอง ชายคนนั้นก็ต้อง ประหลาดใจเมื่อเดินผ่านบ่อน้ำร้อน เพราะว่ามีเสียงคนตักน้ำ



ทั้ง ๆ ที่ไม่มีใครอยู่แถว ๆ นั่น ชายคนนั่นจึงแอบย่องไปดูก็พบ ร่างของหญิงชราผมยาวอยู่ที่ข้าง บ่อนํ้าร้อนนั่น ทันใดนั่นเองหญิงชราก็หันหน้ามาทางเขา แล้วเขา ก็ต้องตกใจจนร้องตะโกนออกมา ด้วยความกลัว และรีบวิ่งหนีไป จากที่นั่นเพราะว่าหญิงชราผู้นั่น มีตาอยู่ตาเดียวตรงกลางใบหน้า และตานั่นก็จ้องมองเขาอย่าง น่ากลัว เมื่อเขาวิ่งลับมาถึงที่กระท่อม เขาได้กลายเป็นโรคความจำเสื่อมด้วยความตกใจกลัว
ปีศาจตาเดียวอาจจะถือ ได้ว่าเป็นตัวแทนของปีศาจญี่ปุ่น ก็ว่าได้ แต่ว่าปีศาจตาเดียวนี้ไม่ ได้มีอยู่ที่บ่อน้ำร้อนคุสะฮิสึ ที่นี้ ที่เดียวเท่านั่น มีเรื่องราวของ ปีศาจตาเดียวเกิดขึ้นทั่วทุกที่และ บุคลิกลักษณะของปีศาจตาเดียว พวกนั่นก็แตกต่างกันไปอีกด้วยแต่ว่าในหนังสือ “บันทึก ญี่ปุ่น” ได้บันทึกเอาไว้ว่า ปีศาจ ตาเดียวนั่นแท้ที่จริงคือ เทพเจ้า ที่มีตาเดียวหรือบางทีก็เป็นเทพเจ้าที่ต้องสูญเสียดวงตาไปข้าง หนึ่งนั่นเอง

ตำนานผีญี่ปุ่น เรื่องเทพเจ้าแห่งโรคระบาด

ตำนานผีญี่ปุ่น เรื่องเทพเจ้าแห่งโรคระบาด


ในเดือนที่ 5 ปีอันเชที่ 5 (ค.ค. 1858) โมริตะ โจสึเกะ คนงานเฝ้าบ้านขุนนางแห่งหนึ่ง แถบทาคาดามะในกรุงโตเกียว ได้เจอกับเหตุการณ์ประหลาด เหตุการณ์หนึ่ง วันนั้นเขารู้สึกไม่ค่อยสบาย จึงเข้านอนโดยไม่ได้ทานข้าวเย็น ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไร และแล้วโจสึเกะก็ลืมตาขึ้น ทันใด นั้นเขาก็เห็นชายแก่คนหนึ่งมานั่ง อยู่ข้าง ๆ โจสึเกะจึงถามชายแก่ว่า “เจ้าเป็นใคร” ก็ได้รับคำตอบว่า “ข้าคือเทพเจ้าแห่งโรคระบาด" โจสิเกะตกใจมากจึงออกปากไล่ ชายแก่คนนั้นให้ออกไปจากบ้าน แต่แล้วชายแก่คนนั้นก็พูดกับ โจสึเกะว่า “ความจริงแล้ว พวกข้ามาถึงโตเกียวนี่ก็มืดค่ำแล้ว และไม่มีที่พัก เลยมาที่นี่ พวก ข้าขออาศัยอยู่ที่นี่ถึงพรุ่งนี้เช้า ได้ไหม พวกข้ามาทำธุระที่โตเกียวนี้ แต่ขอรับรองว่าจะไม่ ทำให้ท่านเดือดร้อนแน่..” โจสึเกะ จึงพยักหน้ารับ ทันใดนั้นเอง ชายแก่ก็หันหน้าไปทางหน้าบ้าน และตะโกนออกมาว่า “เอาล่ะ.. ทุกคนเข้ามาได้” เมื่อสิ้นเสียง ตะโกนของชายแก่เทพเจ้าแห่งโรคระบาดหลายตนรวมทั้งปีศาจสีแดงปีศาจสีน้ำเงินก็เข้ามาในบ้าน



รุ่งเช้าชายแก่คนนั้นได้ให้กระดาษแผ่นหนึ่งกับโจสึเกะ พร้อมกับพูดว่า “ขอบใจที่ให้ พวกข้าได้1พักอาศัยที่นี้คืนหนึ่ง ข้าเลยให้กระดาษขอบคุณไว้กับ เจ้า เอากระดาษแผ่นนี้ติดไว้ที่ ประตูถ้าพวกเพื่อนๆของข้า ที่เป็นเทพเจ้าแห่งโรคระบาดมา จะได้ไม่ทำให้เจ้าติดโรคระบาดไปด้วย"
โจสิเกะไม่เชื่อเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้นทั้งหมด แต่ว่าตั้งแต่นั้น มาไม่นานเกิดอหิวาตกโรคระบาด ในโตเกียว แต่ว่าเขาก็สามารถ รอดพ้นจากโรคระบาดนั้นได้ เพราะเขาเอากระดาษขอบคุณ ที่ได้มาจากชายแก่คนนั้นติดที่ ประตูบ้านนั้นเอง

ตำนานผีญี่ปุ่น เรื่องล้างถั่วแดง

ตำนานผีญี่ปุ่น เรื่องล้างถั่วแดง


ชายคนหนึ่งรีบเดินอย่าง เร่งรีบเพราะว่าพระอาทิตย์กำลัง จะตกดินแล้ว ถ้ายังอยู่บนภูเขา แล้วพระอาทิตย์ตกดินจะทำให้ เดินทางลำบาก ไม่ถึงบ้านที่อยู่ ตรงเชิงเขา เพียงชั่วครู่เดียวพระอาทิตย์ก็ตกลงทางทิศตะวันตก ทำไห้เขาหมดกำลังใจและแรงที่ จะเดินต่อไป ทันใดนั้นเองเขาก็ ได้ยินเสียงคนร้องว่า “ล้างถั่วแดง..ให้คนกิน" ด้วยเสียงแปลก ๆ และแล้วเขาก็พบว่าที่ใกล้ ๆ นั้น มีแม่น้ำเล็ก ๆ สายหนึ่ง ทำให้ เขาคิดไปว่าอาจจะเป็นเสียงของน้ำไหลทำให้เขาหูแว่วได้ยิน เป็นอย่างนั้น ในที่สุดเขาก็หา ทางกลับบ้านโดยคิดว่า ถ้าเดิน ไปตามแม่น้ำนี้ก็อาจจะกลับไป ที่บ้านได้ ทันใดนั้นเองเขาก็ได้ ยินเสียงคนร้องว่า "ล้างถั่วแดง.. ให้คนกิน" อีกครั้งหนึ่ง เขาจึงรีบ เดินตามแม่น้ำจนสามารถลงจาก ภูเขาไปได้ในที่สุด



พวกผีปีศาจที่ปรากฏตัว แถว ๆ แม่น้ำนั้น คนส่วนมาก จะได้ยินแต่เสียงไม่เคยเห็นตัวเลย มีคนเชื่อกันทั่วประเทศญี่ปุ่น ว่าผีตนนั้น บางที่ก็ปรากฏตัวเป็น สุนัขจิ้งจอกหรือบางทีก็เป็นกบ ขึ้นกับแต่ละท้องที่ การที่ ผีตนนี้ปรากฏตัวที่ข้างลำน้ำและถั่วแดงเป็นของกิน ในวันสำคัญ ทำให้คนทั่วไปเชื่อ กันว่าการล้างถั่วแดงนี้อาจจะ เกี่ยวข้องกับเทศกาลเทพเจ้าแห่งน้ำก็เป็นได้

ตำนานผีญี่ปุ่น เรื่องโรคตาฝาด

ตำนานผีญี่ปุ่น เรื่องโรคตาฝาด


ลูกชายยองนายทหารคน หนึ่งเพิ่งกลับมาจากข้างนอก พอไปเปิดประตูของตัวเองก็ต้องตกใจเพราะว่าใครคนหนึ่งนั่งอยู่ที่โต๊ะเขียนหนังสือ เมื่อเขาขยี้ตาก็พบว่าผู้ชายหน้าเหลืองคนนั้นคล้ายกับตนเองมาก เขาจึงถามว่า “แกเป็นใคร” แต่ผู้ชายคนนั้นยังคงนั่งเฉยๆไม่ตอบอะไร เขารวบรวมความกล้าเดินเข้าไปใกล้ผู้ชายคนนั้น ทันใด นั้นเองร่างของผู้ชายคนนั้นก็หายไป



เขาจึงนำเรื่องประหลาดนี้ ไปเล่าให้แม่ฟัง เมื่อได้ฟังแล้ว แม่ของเขาก็มีสีหน้าเศร้าทันที เพราะว่าเธอรู้ว่าลูกของเธอเป็น โรคตาฝาด อาการของโรคก็คือ ผู้ป่วยจะมองเห็นตัวเองมีสองราง แต่ไม่รู้เลยว่าร่างโหนเป็นตัวจริง ร่างไหนเป็นตัวปลอม และจะ ต้องตายในที่สุด ตั้งแต่วันที่เขา มองเห็นคนที่มีร่างเหมือนตนเอง เป็นต้นมา เขาก็ล้มเจ็บและเกิด เรื่องน่ากลัวมากมาย และใน ปีนั้นเองเขาก็ตาย
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่แต่งขึ้นใน สมัยเอโดะ นอกจากนี้ก็ยังมีเรื่องต่าง ๆ ที่คล้าย ๆ กันอีกมาก มายหลายเรื่อง ที่นึกออกตอน นี้คือ เรื่องที่เกิดขึ้นในประเทศ เยอรมัน เนื้อเรื่องคล้าย ๆ กันคือ มีคนที่เหมือนกับตัวเองปรากฏตัวขึ้นมา และไม่ใช่มีแต่ที่เยอรมัน เท่านั้น แต่มีทั่วไปในทวีปยุโรป ถึงแม้จะมีเป็นเรื่องราวที่ เกิดต่างที่กัน แต่ก็น่าแปลก ตรงที่มีเนื้อเรื่องที่คล้าย ๆ กัน

ตำนานผีญี่ปุ่น เรื่องผีคอยาว

ตำนานผีญี่ปุ่น เรื่องผีคอยาว


เก็นโซต้องตกใจอย่างมาก เมื่อเพื่อนของเขาบอกว่า “มีคน ลือกันว่าสาวใช้ที่บ้านของแกเป็น ผีคอยาว” เขาจึงตัดสินใจไปอยู่ ที่สำนักดาบของชิโซนิซิ โอซิซิเบะ เพื่อฝึกวิชาดาบ ต่อมาเขาถูกขู่ จากเพื่อนอีกว่า พอตกดึกผู้หญิง คนนั้นจะกลายเป็นผีคอยาวมา หลอก เก็นโซ จึงตัดสินใจจะ พิสูจน์ว่าเป็นความจริงหรือไม่



ในคืนหนึ่ง เก็นโซ รอคอยจนถึงกลางดึก แล้วแอบย่องไป ที่ห้องของสาวใช้คนนั้น แต่ว่า ผู้หญิงคนนั้นก็นอนหลับเฉย ๆ โดยไม่แสดงความน่ากลัวอะไร เลย เก็นโซ จึงคิดในใจว่าอาจจะ เร็วเกินไปเขาจึงตั้งใจจะรอดู เหตุการณ์อีกสักครู่ทันใดนั้นเอง ก็เกิดเหตุการณ์ประหลาดขึ้นคือมีสิ่งหนึ่งคล้าย ๆ ควันค่อย ๆ ลอยขึ้นมาจากบริเวณอกของสาวใช้ สิ่งทีคล้ายๆควันนั้น ค่อย ๆ เพิ่มปริมาณมากขึ้นเรื่อย ๆ แล้วก็ลอยหายไปข้างบน ต่อมา เขาก็เคลื่อนสายตามาที่ควันที่ ลอยขึ้นไปโดยออกมาจากปาก ของเธอ แล้วก็ต้องตกใจเมื่อเห็น หัวของเธอลอยขึ้นไปบนประตูเลื่อนทั้ง ๆ ที่เธอยังนอนหลับอยู่ แต่แล้วเธอก็รีบดึงหัวกลับไปนอน ตามเดิมเพราะเธออาจจะเห็นว่า เก็นโซ แอบดูอยู่ก็เป็นได้ และแล้ว ควันต่าง ๆ ก็ลอยหายไป เก็นโซเคลื่อนสายตามาที่ที่นอนของเธอ อีกครั้งก็เห็นเธอนอนอยู่เฉย ๆ เก็นโซขยี้ตาอย่างที่ไม่เชื่อสายตา ตัวเอง เขาคิดต่อไปว่า “ถ้าเป็น ผีคอยาวจริง ๆ ที่คอจะต้องมีรอย”

ตำนานผีญี่ปุ่น เรื่องหุบเหวนรก

ตำนานผีญี่ปุ่น เรื่องหุบเหวนรก


ตรงหุบเหวของภูเขานางาเนะ ที่เมืองฮอนโจ จังหวัดอาคิตะ จะมีสถานที่แห่งหนึ่งสิงถูก เรียกว่า “นรกโทเบ” ณ ทีแห่งนี้ ต่อไปนี่ มีคนเล่าลือกันว่า ถ้าผู้ใดเอาขาแหย่ลงไปแล้วจะขึ้นมาไม่ได้เป็นอัน และความเชื่อเช่นนั้นเกิดเป็นเรื่องน่ากลัวต่อไปนี้ ในปีเทนเมที่3 นับว่าเป็นปีที่มีความอดยากแห้งแล้งครั้งใหญ่ขึ้นแถว ๆ บริเวณ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ผู้คนล้มตายไปเป็นจำนวนมากมาย หมู่บ้านที่เชิงเขานางาเนะกิไม่ รอดพ้นจากเหดุการณ์ครั้งนี้ด้วย ชาวหมู่บ้านต้องมีชีวิตอยู่อย่างแร้นแค้น บางที่ถึงกับต้องกิน ต้นหญ้าหรือเปลือกไม้เฟ้อความ อยู่รอดทุก ๆ คนมีสภาพอยู่ อย่างรอวันตายเท่านั้น



ณ หมู่บ้านแห่งนี้ มีชาย คนหนึ่งชื่อ ว่า โทเบ เขาเป็นคนยากจนและมีลูกถึง 12 คน ทุกคน หวาดกลัวต่อความตายกำลัง ใกล้เข้ามา ภรรยายองเขาจึงพูด กับเขาว่า “ถ้าเราไม่ทำอะไร ล่ะก้อ..ลูก ๆ ต้องอดตายแน่เลย.. พี่..ช่วยไปหาของกินมาจากที่ไหนสักที่เถอะ..” โทเบจึงตัดลันใจ เดินทางไปยังหมู่บ้านที่ชื่อว่า สึชิทานิ ที่อยู่ใกล้ ๆ เพื่อลูก ๆ ทุกคน หมู่บ้านสึชิทานิแห่งนี้ ไม่มีความอดอยากแห้งแล้งเกิดขึ้น สวนไร่นาให้ผลผลิตมากมาย
ภรรยาและลูกรอจนลูกของเธอตายในสภาพเลือด อาบใบหน้า ต่อมาเธอจึงเอาศพของลูกโยนลงไปในแม่น้า และ ก็เริ่มล้างหน้าที่แม่น้ำแห่งนั้น เหตุการณ์ครั้งนี้หาได้รอดสายตา ผู้ชายคนหนึ่งไปได้ แต่เขาไม่ สามารถห้ามเธอได้ทัน หลังจาก ผู้หญิงคนนั้นล้างหน้าที่แม่น้ำ เสร็จ เธอก็เดินจากไปโดยที่ไม่มิ ใครรู้ว่า เธอไปไหนหลังจากนั้นมา เด็กคนที่ถูกแม่ฆ่านั้นก็ปรากฏตัวขึ้นมา เสมอ ๆ บางครั้งก็มีคนเห็นเด็ก คนนั้นวิ่งเล่นอยู่ที่แม่น้ำด้วย

Popular Posts