นิทานธรรมชาดก เรื่อง ไม่ควรนับถือผู้ที่ไม่ควรนับถือ
ตัวอย่างที่จะยกมาอ้างต่อไปนี้ มีปรากฏอยู่ในจัมมสาฎกชาดกว่ามีปริพาชกคนหนึ่งซึ่งนุ่งผ้าหนังห่มผ้าหนังได้ออกจากอารามปริพาชกไป เพื่อจะไปเที่ยวบิณฑบาตในกรุงสาวัตถี ได้ไปถึงที่แพะชนกัน แพะตัวหนึ่งได้เห็นปริพาชกเดินมาก็อยากจะชนจึงก้มศรีษะลง ปริพาชกนั้นคิดว่าแพะตัวนี้แสดงความเคารพต่อเรา จึงไม่ได้เลี่ยงหนี แพะตัวนั้นก็วิ่งมาโดยเร็ว ชนเข้าที่ขาของปริพาชกนั้นล้มลงเรื่องนี้ได้รู้ไปถึงภิกษุทั้งหลาย ภิกษุทั้งหลายจึงได้สนทนากันขึ้นว่า ปริพาชกนั้นได้ถูกแพะชนตายเพราะนับถือผู้ที่ไม่ควรนับถือ เมื่อพระพุทธเจ้าทรงทราบจึงตรัสว่า ไม่ใช่แต่ชาตินี้เท่านั้น ถึงแม้ว่าชาติก่อนปริพาชกนี้ก็ได้ถึงความพินาศเพราะนับถือผู้ที่ไม่ควรนับถือ ยกย่องผู้ที่ไม่ควรยกย่อง กล่าวคือ ครั้งก่อนโน้น พระโพธิสัตว์ได้เกิดในตระกูลพ่อค้าได้ไปเที่ยวค้าขาย ในคราวนั้นมีปริพาชกนุ่งผ้าหนังห่มผ้าหนังเหมือนปริพาชกคนนี้ ไปเที่ยวบิณฑบาตที่เมืองพาราณสี ได้ไปถึงที่แพะสองตัวชนกันอยู่ เห็นแพะตัวหนึ่งก้มศรีษะลง ก็ไม่ถอยหลังไม่หลีกเลี่ยงด้วยเข้าใจว่าแพะตัวนี้แสดงความนับถือเรา
จึงได้กล่าวขึ้นในท่ามกลางคนทั้งหลายว่า แพะตัวนี้รู้จุกคุณธรรมของเรา จึงได้ยืนพนมมือไหว้แพะตัวนั้น และกล่าวขึ้นว่า สัตว์ทั้งสี่เท้าตัวนี้เป็นสัตว์มีนิสัยดี เป็นสัตว์ดีแท้ เป็นสัตว์มีความประพฤติน่ารัก รู้จักแสดงความเคารพต่อพราหมณ์ผู้ประกอบด้วยชาติความรู้ พอกล่าวอย่างนี้ พ่อค้าที่เป็นบัณฑิตนั้นได้กล่าวขึ้นว่า ท่านอย่าได้คุ้นเคยกับสัตว์สี่เท้า ซึ่งท่านเพิ่งได้เห็นเพียงชั่วเวลาเล็กน้อยเช่นนี้เลย แพะตัวนี้มันอยากจะชนท่านให้ถนัด มันจึงก้มศรีษะลง พอว่าขาดคำลงแพะตัวนั้นก็วิ่งมาชนปริพาชกนั้นเข้าที่ขาให้ล้มลงทันที ปริพาชกนั้นก็ร้องไห้รำพันขึ้นมาว่า เราขาหักแล้ว เครื่องบริขารของเราก็แตกหมดแล้ว แล้วกล่าวต่อไปว่า ผู้ใดบูชาผู้ที่ไม่ควรบูชา ผู้นั้นจะได้รับความเสียหายเหมือนกับเราที่ถูกแพะชนในวันนี้ ว่าดังนี้แล้วก็ถึงซึ่งความตายฯ
ท่านผู้อ่านผู้ฟังทั้งหลายจงจำเอาไว้ว่า การคบคนผิดหรือนับถือคนผิด ย่อมให้โทษเหมือนกับปริพาชกคนนี้ฯ