10 สุดยอดคนสมองเพชรที่ฉลาดที่สุดในโลก

สมองของคนเรานั้นเป็นส่วนที่ลึกลับที่สุดในร่างกาย และยังเป็นอวัยวะที่สำคัญที่สุดอีกด้วย แต่อะไรในสมองล่ะที่เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ใครบางคนฉลาดมากกว่าคนอื่นขนาดนี้ เราลองมาดูคนที่มีไอคิวสูงที่สุดเท่าที่มีการบันทึกมาเลยทีเดียว

อันดับที่ 10 แกร์รี่ แคสปาโรฟ (Garry Kasparov)
แกร์รี่ แคสปาโรฟ ทำให้โลกต้องตื่นตะลึงมาแล้วเมื่อตอนที่เขาสามารถเล่นหมากรุกชนะคอมพิวเตอร์ที่สามารถทำการคำนวณสามล้านตำแหน่งภายในวินาที ตอนปี 2003 เขาเป็นปรมาจารย์ด้านหมากรุกจากรัสเซีย ตอนที่อายุ 22 ปี เขาสามารถเอาชนะ นาตาลี คาโพพ ที่เป็นแชมป์ในสมัยนั้นและเขาได้กลายมาเป็นแชมป์หมากรุกที่มีอายุน้อยที่สุดในโลกที่ยังไม่มีใครทัดเทียมได้ ว่ากันว่าแกร์รี่ แคสปาโรฟ มีไอคิวสูงถึง 190 เลยทีเดียว

อันดับที่ 9 ฟิลิป เอมีกวาลี (Philip Emeagwali)
ฟิลิป เอมีกวาลี เป็นวิศวกร นักคณิตศาสตร์ นักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์และนักธรณีวิทยา เชื้อสายไนจีเรียที่มีไอคิว 190 เช่นกัน เขาเป็นหนึ่งในสองคนที่ได้รับรางวัลกอร์ดอนเบล ปี 1989 ซึ่งเป็นรางวัลจาก IEEE ที่มอบให้เขาเนื่องในโอกาสที่เขาสามารถใช้ซุปเปอร์คอมพิวเตอร์คอนเน็กชั่นแมชีนในการช่วยหาแหล่งปิโตรเลียมได้

อันดับที่ 8 มาริลีน วอสซาแวนต์ (Marilyn Vossavant)
ในปี 1985 ทางกินเนสบุ๊คเวิลด์เร็คคอร์ดได้ตกลงยอมรับผลการทดสอบไอคิวของวอสซาแวนต์ ว่าเธอมีไอคิวสูงถึง 190 จริงๆ เธอทำงานเป็นคอลัมนิสต์ของนิตยสารพาเหรดที่เป็นที่นิยมชมชอบมาก เพราะคอลัมน์ "ถามมาริลีนได้" ของเธอนั้นสามารถส่งปริศนาและคำถาม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใดก็ตามมาให้เธอช่วยแก้และตอบปัญหาให้ได้

อันดับที่ 7 มิสลาฟ พรีดาเวค (Mislav Predavec)
เขาเป็นศาสตราจารย์ด้านคณิตศาสตร์ชาวโครเอเชีย เขาเป็นผู้ก่อตั้งและเป็นประธานของเจเนอร์ไอคิวโซไซตี้ ที่เป็นองค์กรที่จัดตั้งขึ้นสำหรับพวกอัจฉริยะ นอกจากนี้เขายังเป็นเจ้าของและผู้อำนวยการของบริษัทการค้าแห่งหนึ่งอีกด้วย ว่ากันว่ามิสลาฟ พรีดาเวคมีไอคิวสูงถึง 192 เลยทีเดียว

อันดับที่ 6 ริกค์ รอสเนอร์ (Rick Rosner)
ถ้าดูเผินๆ จะไม่มีใครดูออกเลยว่า ริกค์ รอสเนอร์ มีไอคิวสูงถึง 192 และเป็นหนึ่งในคนที่ฉลาดที่สุดของโลก เพราะเขาเป็นคนที่มีพฤติกรรมก้าวร้าว ดูเกกมะเหรกเกเร แถมยังทำงานเป็นพนักงานเฝ้าหน้าบาร์ตั้งหลายปี เขาเป็นผู้ผลิตรายการโทรทัศน์ที่อเมริกา ซึ่งต่อมาได้พัฒนาไปเป็นทีวีดาวเทียมแบบพกพาที่ร่มทุนกับทางไดเร็กทีวี

อันดับที่ 5 คริสโตเฟอร์ แลนแกน (Christopher Langan)
เขาเป็นคนที่เรียนด้วยตัวเอง ได้มีการรายงานว่าไอคิวของเขาอยู่ที่ราวๆ 195-210 ทางสื่อต่างๆ ได้ให้ฉายาว่า เขาเป็นคนที่ฉลาดที่สุดในอเมริกา และแม้กระทั่งเป็นคนที่ฉลาดที่สุดในโลกเลยทีเดียว เขาเริ่มพูดได้ตอนที่มีอายุเพียง 6 เดือน และดขาสามารถอ่านหนังสือได้เองตอนที่มีอายุ 3 ขวบ โดยที่ไม่มีใครสอน เขาได้คิดค้นทฤษฎีความสัมพันธ์ระหว่างจิตใจและความเป็นจริงขึ้นมา ซึ่งเขาเรียกมันว่าเป็นต้นแบบของทฤษฎีเชาว์ปัญญาของจักรวาล

อันดับที่ 4 อีวานเกลอส แคตซัวลีส (Evangelos Katsioulis)
เขาเป็นชาวกรีกที่มีคะแนนทดสอบไอคิวสูงถึง 198 เขาทำงานเป็นทั้งหมอและจิตแพทย์ในเวลาเดียวกัน เขาได้รับปริญญาทางด้านปรัชญา เทคโนโลยีการวิจัยทางด้านการแพทย์ และจิตเภสัชวิทยา เขาเป็นผู้ก่อตั้งเครือข่ายข้อมูลระดับโลก หรือ WIN ซึ่งเป็นองค์กรระหว่างประเทศของกลุ่มคนที่มีไอคิวสูง นอกจากนี้แคตซัวลีสยังเป็นจิตรกรฝีมือดี และเป็นนักว่ายน้ำที่เก่งพอตัวอีกด้วย

อันดับที่ 3 คิมอึงยอง (Kim Ung Yong)
ด้วยความที่มีไอคิวสูงถึง 210 คิมอึงยอง วิศวกรโยธาชาวเกาหลีใต้จึงได้รับการยกย่องใหัเป็นสุดยอดในหมู่เด็กอัจฉริยะด้วยกัน ตอนที่อายุไดเพียงหกเดือนเขาก็สามารถพูดและเข้าใจภาษาเกาหลีและภาษาอื่นๆ ได้ ตอนที่อายุได้สามขวบก็สามารถอ่านหนังสือภาษาเกาหลี ญี่ปุ่น เยอรมันและอังกฤษได้แล้ว นอกจากนี้เขายังสามารถแก้ปัญหาแคลคูลัสที่ซับซ้อนตอนที่ไปออกรายการสดในญี่ปุ่นได้อีกด้วย ดขาเป็นคนหนึ่งที่ได้รับการบันทึกลงในกิสเนสบุ๊คเวิลด์เร็คคอร์ดภายใต้หัวข้อผู้ที่มีไอคิวสูงที่สุดในโลก

อันดับที่ 2 คริสโตเฟอร์ ฮิราตะ (Christopher Hirata)
ได้มีการยืนยันเป็นที่แน่ชัดแล้วว่าคริสโตเฟอร์ ฮิราตะมีไอคิวสูงถึง 225 เขาเป็นอัจฉริยะมาตั้งแต่วัยเด็ก ตอนที่อายุ 13 ปีเขาก็ได้รับเหรียญทองจากการแข่งขันฟิสิกส์โอลิมปิก ตอนที่อายุ 16 ปี เขาก็ได้ไปทำงานให้กับนาซ่าในภารกิจพิชิตดาวอังคาร พออายุ 22 ปีก็จบปริญญาเอกจากมหาลัยพรินซ์ตัน ฮิราตะได้รับการยอมรับว่าเป็นเด็กอัจฉริยะอย่างเป็นทางการ และปัจจุบันเขาก็ทำงานเป็นอาจารย์สอนทางด้านฟิสิกส์ดาราศาสตร์อยู่ที่ CIT หรือสถาบันเทคโนโลยีแห่งแคลิฟอร์เนียอีกด้วย

อันดับที่ 1 เทอเรนซ์ เทา (Terence Tao)
ได้รับการยืนยันเป็นที่แน่ชัดแล้วว่า เทอเรนซ์ เทา มีไอคิวสูงถึง 230 เลยทีเดียว ตอนที่อายุ 8 ขวบ เทาได้คะแนน SAT สูงถึง 760 คะแนน และได้รับปริญญาเอกจากพรินซ์ตันตอนอายุ 20 ปี และพออายุได้ 24 ปี เขาก็ได้กลายมาเป็นศาสตราจารย์ที่ UCLA ที่มีอายุน้อยที่สุดเท่าที่เคยมีมา