ตำนานผีญี่ปุ่น เรื่องวิญญาณของโอมัตสึ
ในสมัยเอโดะ มีนักดาบคนหนึ่งชื่อ นางายามา บูดายู อาศัยอยู่ในจังหวัดอาคิตะ เซา มีลูกสาวอยู่คนหนึ่งชื่อ มิสะ แต่ว่าตั้งแต่เกิดมามิสะไม่เคยส่งเสียงร้องเลย เมื่อเขาคิดถึง เรื่องลูกสาวที่ไรเขาจะต้องมีความ รู้สึกเศร้าหมองทุกครั้ง ในที่สุด ก็ถึงวันที่ มิสะอายุครบรอบ 1 ขวบ แต่เธอก็ยังไม่ส่งเสียงร้องเลย สักนิดเดียว ในวันนั้นโอมัตสึ สาวใช้ได้อุ้มมิสะเอาไว้ที่หลัง และพาไปที่ข้าง ๆ บ่อน้ำตรงมุม สวน แล้วจู่ ๆ มิสะก็ร้องออกมา เมื่อได้มองเห็นหน้าตัวเองสะท้อน จากน้ำในบ่อนั่นเอง โอมัตสึตกใจ ที่มิสะร้องออกมาได้ ทันใดนั้นเองเธอก็สูญเสียการทรงตัวจน เก้าอี้ที่เธอปีนอยู่ข้างขอบบ่อเขย่าเอน เด็กที่อยู่บนหลังของโอมัดสีตกกลง ไปในบ่อน้ำนั่น
“ใคร..ใครก็ได้ช่วยด้วย”... โอมัตสีกรีดร้องอย่าง สุดเสียง ทันใดนั้นเองบูดายูก็มาที่ข้างบ่อ น้ำนั่นแล้วดึงมิสะขึ้นมาจากบ่อ แต่ว่ามันสายเกินไปแล้วเพราะ มิสะหมดลมหายใจไปแล้ว ลูกสาวสุดที่รักตายไป ทำให้บูดายู โกรธแค้นโอมัตสึมาก ถึงแม้ว่า โอมัตสึจะนั่งลงคุกเข่าขอโทษ แต่ว่าบูดายูก็ยังไม่ยอม บูดายู ตะโกนออกมาว่า “ฉัน..ฉันต้อง ฆ่าแก" และก็จับตัวโอมัตสึโยน ลงไปในบ่อน้ำ เท่านั้นยังไม่พอ ยังโยนหินก้อนใหญ่ในสวนลงไป ในบ่อน้ำนั่นด้วย ในที่สุดโอมัดสึ ก็ตาย
หลังจากเกิดเรื่องน่าเศร้านี้ได้ไม่นานที่บ้านของบูดายู ก็เกิด เรื่องประหลาด ตามมา แม้ว่าคนข้าง ๆ บ้านของบูดายู จะสืบค้นว่า เรื่องประหลาดมันเกิดจาก วิญญาณของโอมัตสึ แต่ว่าบูดายู ก็ยังคงเสียใจเกี่ยวกับการตายของลูกสาวตนเองจนไม่มีเวลา คิดถึงเรื่องที่ฆ่าโอมัตสึและในคืนวันหนึ่ง เกิดไฟไหม้ที่บ้านของบูดายูวอดหมด ทั้งหลัง ๆ คนถูกไฟคลอกตายหมด ไม่มีใครรอดชีวิตเลยและที่หากของบ้าน ชาวบ้านแถว ๆ นั้น ก็ได้ตั้งศาลเล็ก ๆ ขึ้นมา แม้แต่ในปัจจุบันก็มีหินก้อน ใหญ่ก้อนหนึ่งอยู่ข้างศาลนั้น มันคือหินในสวนที่ถูกขุดขึ้นมาจาก บ่อน้ำและเป็นหินที่ดูดเลือดของ โอมัตสีนั่นเอง
บทความแนะนำ