เล่าเรื่องผี ยายขึ้นไปทำอะไร
ต้องบอกว่าสมัยก่อนย้อนกลับไปเรื่องเล่าเรื่องนี้ แถวฝั่งธนน่ะ ถ้าเป็น 40 ปีที่แล้ว เป็นสวนหมด ตอนนั้นผมยังเด็กอยู่น่ะ อายุประมาณ 10 กว่าขวบได้ ก็อยู่ในบ้านสวนเนี้ยครับ อธิบายให้ชัด ๆ นิดหนึ่ง บ้านสวนผมเนี่ย ตอนนั้นมันเป็นสวน แล้วมันก็จะมีเนื้อที่แบบติดกับสวนของคนอื่นเยอะแยะอย่างเนี้ยนะ เป็นสวน ๆ เป็นแต่ละส่วน แต่ละส่วน ของแต่ละบ้านไป แต่ละบ้านก็มีสวน และวันนั้นผมกลับจากโรงเรียน เรียนสักประมาณ ป.3 ป.4 ป.5 ได้ครับ พอกลับจากโรงเรียนมา ก็กลับเข้าบ้านมา แม่จะบอกว่าวันนี้ให้อยู่บ้าน บอกจะไปงานศพยายที่สวนข้างบ้านแกตาย 3 วันก็จะไปงานศพ แม่เขาก็ไปงานศพที่บ้านตอนนั้นผมก็เหลือตาอยู่ เพราะคนอื่นเขาไปช่วยงานศพกัน งานศพสมัยก่อนเขาสวนกันที่บ้าน เขาไม่ได้มาเอาศพไปไว้ที่วัด เขาก็เอาไว้ที่บ้าน ผมก็ไม่เป็นไร แล้วก็เลยพอแม่เขาไปงานศพแล้ว ตาก็บอกเอ่อไปกับน้าหน่อย ไปกับน้า เอ่อ ไปกับน้า ไปหาตาหน่อย เดี๋ยวพรุ่งนี้จะแกง จะแกงไปช่วยงานเขา
ผมก็เบ็ดมันจะเป็นไม้ไผ่เหลาสักประมาณ ยาวสักประมาณศอกกว่า เลยเอาเบ็ดไป เป็นเบ็ดปักเบ็ดนะครับ เบ็ด ๆ เพื่อที่จะปักไปในดิน แล้วก็ไปปัก ถือไปประมาณ 10 กว่าอัน เราก็ไปปักเบ็ด ปักเบ็ดนี้ ไอ้ส่วนที่ปักเบ็ดนี้ คือผมก็ไปสุดชายสวนเลย ไปชายสวนของผม ก็คือหัวสวนน่ะ เขาเรียกหัวสวน มันสวนนั้นมันเป็น จำได้ว่าสมัยก่อนมันเป็นร่องมะไฟ ปลูกมะไฟทั้งเรียงกันทั้งร่องเลยไอ้สวนน่ะ แล้วในเขตที่ผมไปปักน่ะ มันจะเป็นคลองกั้น เป็นคลองสาธารณะเนี้ยครับ ไม่ได้กว้างมาก คลองลำประดง ซึ่งกั้นกับสวนของยายที่แกตายน่ะ แกชื่อยายเอียก แกตาย แล้วก็เป็นคลองกั้นอย่างเนี้ย เราก็ไปปักเบ็ดไว้ตามริมตลิ่งไว้
พอปักเสร็จก็กลับมานะครับ ถึงเวลาก็แม่ก็ยังไม่กลับมา ไปช่วยงานศพดึก ถึงเวลาจะไปกู้เบ็ด เราก็จะไปกู้กันสักประมาณ 5 ทุ่ม เที่ยงคืนนะ ประมาณนี้ ไฟแสงดว่างก็เป็นดวงเล็ก ๆ บ้างอะไรเนี้ย เป็นไฟแรงเทียนแบบ 60 แรงเทียน 100 แรงเทียน ยังไม่ค่อยมีไฟนีออนใช้นะครับ แต่เราก็ไม่มีไฟฉาย เพราะแม่เขาเอาไฟฉายไปงานศพ เพราะเวลาเดินไปบ้านศพเนี่ย งานศพเนี่ย มันก็จะเป็นสวน มันเป็นคันดิน ไปบ้านสวน แม่ก็เอาไฟฉายไป เราก็ไม่มีไฟฉาย เราก็เลยใช้ตะเกียง ตะเกียงโป๊ะจุด แล้วก็มีหอบหิ้วกันไป ไปกับน้า 2 คน ไปกู้เบ็ด
พอไปถึงที่ปักเบ็ดใช่ไหม คันแรกก็ไม่ได้ คันที่ 2 ไม่ได้ ก็ไปจับคันที่ 3 เนี่ย ใช่ไหมครับ ลองไปจับคันที่ 3 มันก็ติด ติดปลาตัวใหญ่ด้วยนะ มาเขาก็ดึง ๆ ดึง ๆ เบ็ด ก็สาวปลาเข้ามาอย่างเนี้ย ปลามันสู้เบ็ด มันสู้เอ็นเบ็ด เอ็นมันก็ตึงแล้ว แล้วก็ดึง ๆ มันก็ยังไม่ยอมมา มันก็ตึงมากน่ะ ก็บอกว่ามันติดอะไร เขาก็เขย่า ๆ แล้วเขา น้าเขาก็พูดเข้ามา ๆ มาหาพ่อมา เหมือนเรียกอย่างเนี้ยเนี่ย เหมือนเรียกปลา
พอน้าพูดคำนี้ปุ๊บเนี่ย อากาศตรงนั้นผมจำได้ มันเป็นประมาณเดือนเมษง เดือนเมษาได้ เดือนเมษา เอ๊ะมันก็แปลก ทำไมอยู่ดี ๆ มันเย็น ไม่มีลมนะ แต่รู้สึกมันเย็นวูบเข้ามาเฉย ๆ ตอนนี้ก็สาวปลาเข้ามาได้ครับ พอสาวปลา ปลาตัวมันใหญ่มาก ก็ปลดเบ็ด ปลดเบ็ดกับตักปลา ผมก็เป็นคนตัก ตะคล่อง ๆ ถือตะคล่อง หน้าก็เป็นคนปลดเบ็ดออกจากปากปลา
ระหว่างที่ปลดเบ็ดออกจากปากปลา กำลังเอาปลายัดตะคล่องเนี่ย สมมติว่ามันก็มีน้าบอกเฮ้ยนกขี้รดหัวอั๊ว เขาพูดภาษาเนี้ย ชาวสวนเนี้ย บอกนกขี้รดหัวใช่ไหม ผมก็ยังไม่ได้สนใจอะไร น้าก็แค่ เขาก็ไม่ได้สนใจ เพราะมัวแต่ยุ่งอยู่กับปลดเบ็ด ก็ไม่นั่นอะไร แต่คราวนี้ก็คือพออีกทีเนี่ย มารดหัวผมอีก ผมอะไรว่ะ ขี้รดหัวอีกอะไรของนก ผมก็บอกน้าผมโดนนกขี้รดหัวอีกแล้ว น้าก็เลยบอกว่าอะไรว่ะ มันขี้ 2 ที นกกี่ตัวว่ะ ก็เลยแหงนขึ้นไปดู
ตรงนั้นมันเป็นโคนต้นมะไฟพอดี มันเป็นโคนต้นมะไฟ พอแหงนขึ้นไปก็คือเห็นเลย เห็นทั้งคู่เลยครับ ทั้งน้า ทั้งผม เป็นยายที่แกตายอยู่ข้างบ้าน ชื่อยายเอียกเนี่ย แกกำลังจะนั่งลักษณะนั่งยอง ๆ แกใส่โจงกระเบนนะสมัยก่อน แล้วแกใส่เสื้อคอกระเช้าแบบคนแก่สมัยแต่ก่อนน่ะนะครับ แกนั่งยอง ๆ อยู่บนกิ่งมะไฟ แล้วอีกมือหนึ่งก็เกาะกิ่งมะไฟ แล้วก็ก้มหน้ามา แกเคี้ยวหมากอยู่ แล้วแกบ้วนน้ำหมากใส่หัว
อ๋อ แกไปเคี้ยว แกไม่ได้บ้วนน้ำหมากอย่างเดียวนะ เพราะมองนาน ๆ ที ตอนนั้นตกใจทั้งคู่ไง เพราะรู้ว่าแก เพราะยายเอียกแกเพิ่งตายไป 3 วัน แม่ไปงานศพวันที่ 3 เมื่อเย็นนี้เอง แก (06.17) แล้วแกคายหมาก ถุยหมากอย่างนี้เลย ยายแกคายแบบคายหมากลงมาเนี้ย
ก็กระโดดหลบกัน ก็เด็กตกใจน่ะ น้าผม น้าผมก็ ผมก็ทิ้งตะคล่องเลยน่ะ น้าก็ตกใจ แล้วตลิ่งมันชันนิดหนึ่งน่ะ ผมหงายหลังตกลงไปในน้ำ น้าก็ตกใจ น้าก็โดดขึ้นไปบนตลิ่งใช่ไหมครับ ตอนที่ผมตกลงไปในน้ำ ตอนนั้นผมเด็กมาก
น้ำในคลองลำประดงเนี่ย ก็เป็นผู้ใหญ่ยืนเนี่ย ก็จะมาประมาณคอนะครับ คือเท้ายังถึงอยู่ แต่ตอนนั้นผมเด็ก ผมจะจม ผมไม่ถึง แต่ผมว่ายน้ำเก่งนะ เพราะผมเป็นเด็กสวน เด็กคลอง ผมก็ว่ายน้ำเก่ง แต่ผมรู้สึกว่าเหมือนแบบผมจะขึ้นมาอะไรเนี่ย มันเหมือนว่ามีใครกดอยู่ แบบเหมือนผมจะขึ้นไม่ได้น่ะ โอ้ จริง ๆ ตอนนั้นผมจำได้เลย แล้วก็ไม่รู้ยังไง พอผมตกไป แล้วผมก็ไม่รู้น้ายังไงน่ะ แต่พอผมรู้สึกว่าผมจะขาดใจ ก็มีมือมาดึงจิกหัวผมเลยน่ะ จิกหัวผม ดึงขึ้น ๆ จากคลองน่ะ
โผล่ขึ้นมา แล้วแบบจับหัวเลยน่ะ รู้สึกอย่างนั้นน่ะ แต่ก็คือคนที่ดึงขึ้นมาก็คือตาผมใช่ไหม พอดึงขึ้นไป แล้วตาก็รีบดึงขึ้นมา ตาก็ดึงขึ้นมา ตาก็โดด ตาก็โดดลงไปในคลองเหมือนกัน แต่เขาผู้ใหญ่ เขาก็เหมือนอย่างที่บอกน่ะ น้ำเขาแค่หอน่ะ เขายืน เขาไม่จม แล้วเขาก็จิกหัวผมดึงให้พ้นน้ำมา แล้วก็รีบผมดึงขึ้นจากท้องร่องมา อืม พอดึงขึ้นจากท้องร่องมา แล้วพอขึ้นจากท้องร่องมาได้ ก็มายืนอยู่บนท้องร่อง
ตา ตาก็ ผมก็บอกว่าตามาได้ยังไง บอกตามาได้ยังไง เขาบอกไม่รู้โว้ย เขาบอกว่าย่าชุก ย่าชวดไง ก็คือคุณแม่ของตา ซึ่งแกก็ตายไปแล้ว มาแบบเหมือนแกได้ยินเสียงย่าชวดบอกให้ไปดูหลานที่หัวสวน เอ่อ บอกให้ไปดูหลานที่หัวสวนอะไรอย่างเนี้ย
ตาแกก็เดินตามมา พอได้ยินมา แกก็มาเจอเหตุการณ์นี้พอดี แล้วแกก็ถามว่าเป็นอะไรใช่ไหม ก็ตอนนั้นก็ยืน แล้วผมก็หนาวตัวสั่นแล้วล่ะ ซึ่งความจริงหน้าร้อนมันหน้าเมษา มันไม่ได้หนาวอะไรขนาดนั้น แต่ผมรู้สึกว่ามันหนาวมาก ไอ้น้าผมเนี่ยก็แบบยืนเกาะ ตอนนั้นน้าผมก็จะแก่กว่าผมประมาณ 7 – 8 ปีได้ อายุตอนนั้นอาจจะ 20 ล่ะ แล้วบอกตามาทำไม อะไรอย่างเนี้ยบอก ตาก็เลยบอกว่าย่าชวดเขามาบอกโว้ยอะไรอย่างเนี้ย
ผมบอกพื้นฐานตานี่ ตาผมก็คือเป็นคนสวนเก่า แล้วเขาก็เอาเป็นนักเลงสวนอะไรอย่างเนี้ย ใช่ไหมเขาก็เป็นนักเลง เป็นนักเลงบ้าง เป็นคนชอบเล่นพระ เล่นของ มีคาถงคาถาอะไรอย่างเนี้ย สมัยก่อนตาผมเขาเป็นตำรวจ เป็นตำรวจอยู่ ก็ยศดาบ อืม เขาก็บอกว่าเนี่ยยายมาบอก แล้วก็บอกว่า เขาบอกปกติน่ะ ผีมาเล่าให้แกฟัง เล่าเรื่องเนี้ยให้แกฟัง เขาบอกปกติน่ะผีเข้าสวนเราไม่ได้นะใช่เปล่า เพราะว่าเนี่ยสวนเรามีเจ้าที่เจ้าทางทั้ง คือมีทั้งศาลตายาย มีทั้งศาลพระภูมิ แกบอกเข้าไม่ได้ แล้วผมก็เลยถามแก
ระหว่างที่คุยก็ค่อย ๆ เดินกันกลับมา เพื่อที่ ไม่ได้ปลาอะไรเลย ไม่กล้าไปกู้ปลาต่อครับ ก็คือเดินกันกลับมา แกบอกว่าที่เขาเข้ามาได้เนี่ย เพราะไอ้เอี่ยวเนี่ย คือน้าผมน่ะตอนที่ไปเรียก ตอนที่บอกว่ามา มา เข้ามา เข้ามา เข้ามาหาพ่อมา แล้วตาผมแกก็ถือ แกจะถือไม้ตะพดอยู่อันหนึ่ง ไม้ตะพดแกไปได้มาจากวัดที่ไหนไม่รู้ เป็นไม้ตะพดแบบหัวงอ ๆ แล้วมีอักขระลงไว้เยอะทั้งไม้ตะพดน่ะ เอ่อ แกถือไม้ตะพดมาด้วย แล้วแกก็เลยเอามาเคาะตีที่ ที่ ที่โคนต้นมะไฟ แล้วแกก็บอกว่าให้เดินนำหน้าไป แล้วอย่าหันกลับมามองเลย อย่าได้กลับมามอง ตาผมก็เดินตามหลัง อย่าได้กลับมามอง
คราวนี้ไอ้ความที่ ไอ้ผมน่ะไม่กล้ามอง ผมกลัว แต่ไอ้น้าผมเนี่ย พอตาพูดเนี่ย เขาหันกลับไปมอง เขาเห็นว่ายายเอียกเนี่ยแกเกาะต้นมะไฟอยู่ แล้วตอนนั้นแกแก่ ๆ อยู่ล่ะนะ เขาบอกเห็นยายเอียกเนี่ย แกกระโดดไปตามกิ่งมะไฟ แบบกระโดดแบบจ๋อง จ๋อง จ๋อง ไปตามกิ่งมะไฟ นี้น้าแกเล่าล่ะนะ น้าเดี่ยวบอก น้าเดี่ยวก็จะเล่า ตาบอก ตาเขาก็เอาไม้ตะพดตีหัวน้า บอกอย่าหันไปมอง อย่าหันไปมอง เดี๋ยวก็ตามไปที่บ้านอีกอะไรอย่างเนี้ยใช่ไหม
ก็เราก็เดินไปถึงบ้านน่ะ พออยู่บ้านเสร็จ ผมก็ไม่สบาย ผมก็จับไข้เลย คืนนั้นทั้งคืน หลังคาบ้านทั้งคืนน่ะ เหมือนมีเสียงคนกระโดดอยู่บนหลังคาบ้าน ตาเขาก็ด่าน้าเดี่ยว ด่า ด่าน้า บอกไอ้เนี่ยบอกว่าอย่าหันไปมอง เสือกหันไปมองเนี่ย เขาตามมาจนถึงบ้านเนี่ย เขาก็ด่าน้าเป็นแบบเรียกเข้ามา เรียก เรียกเขาเข้ามาในสวนแล้ว แล้วยังให้เขาตามมาที่บ้านได้อีก แกไม่ต้องนอนทั้งคืนหรอก ตาเขาก็บ่น
คืนนั้นตาเขาก็แบบ เขาก็มีน้ำมงน้ำมนต์อะไร เขาก็เอามารดกัน มารดตามเนี้ยครับ แล้วพอผมกลับไปถึงบ้านเนี่ย แม่กลับมา แม่กลับมามาที่บ้านเรา ที่บ้านเรา หลังจากงานศพ ตาเขาก็เล่าให้ฟัง เนี่ยยายเอียดเนี่ยจะมาเอาลูกเองไปเนี่ยใช่ไหม แม่ก็บอกมาเที่ยวพรุ่งนี้ แกทำบุญ แล้วก็พาไปจุดไปขอโทษขอโพยแกสัก แกอาจจะหวง แกคิดว่าปลาเป็นของแก คลองนั้นแกคิดว่าปลาของแกอะไรอย่างเนี้ย ไปเอาปลาแกมาอะไรอย่างเนี้ย
เพราะจากความที่อยู่สวนติดกันน่ะ ผมก็บางทียังกระโดดว่ายน้ำข้ามคลองเล็ก ๆ เนี่ย กระโดดข้ามคลองทั้งร่องเลย เวลาแกมาถางหญ้า ดายหญ้าอะไร ผมก็ยังไปคุยกับแกนะ ไปเล่นกับแกบ้าง ซึ่งก่อนแกจะตาย แกก็หลง ๆ แล้วล่ะครับ แกก็หลง ๆ แล้วยายเอียดเนี่ย แต่ผมจำหน้าตาแกได้ เพราะว่าตอนที่มองขึ้นไปเนี่ย แกแบบแกก้มมาบ้วนน้ำหมากเนี่ย หน้าแกแบบเป็นคนแก่หน้าตาย่น ๆ ครับ แต่ซีดมาก หน้าซีด แล้วก็แกเคี้ยวหมากไงครับ ฟันแกดำ แกเคี้ยวฟันแกดำ ถุย แล้วคายหมากเนี่ยน่ากลัว
นึกย้อนว่าเอ่อ จริง ๆ นะครับบรรยากาศตามท้องไร่ท้องสวนน่ะ แล้วเราเห็นหน้าคนที่เราอยู่ใกล้ ๆ บ้านเราทุกวัน ๆ แล้ววันหนึ่งแกตายไป แล้ววันดีคืนดีแกมานั่งอยู่บนหัวเรา บนต้นไม้น่ะ บ้วนน้ำหมากใส่เราตุ๋ย ๆ อ่า เราเห็นแล้วเราก็ช็อคนะ สมัยก่อนตอนเด็ก ๆ เนี่ย เวลาผ่านวัด เห็นเขาตั้งงานศพ เห็นโลงอะไรอย่างเนี้ย แค่บรรยากาศมันก็น่ากลัวแล้ว เพราะวัดสมัยก่อนนี้ ที่ตั้งอยู่ตามบ้าน ตามอะไรพวกเนี้ย มันทึบ ๆ มันไฟมันไม่ได้สว่างไสวเหมือนสมัยเนี้ยไง ผมก็กลัว แล้วไฟเนี่ย ไฟงานศพมันก็ไม่สว่างอย่างเนี้ย
พอพ้นคืนที่ 3 ไปแล้วเนี่ย คืนที่ 4 คืนที่ 5 เนี่ย แขกมันก็จะน้อยลงแล้ว มันก็จะไม่ค่อยมีแขก เพราะว่าคนเขาจะไปคืนแรก คืน 2 คืน 3 อะไรอย่างนี้กัน เราไปก็คนจะน้อย แล้วไฟก็สลัว ๆ แล้วรูปที่แกถ่ายเนี่ย เป็นรูปที่แบบลักษณะเป็นรูปโบราณน่ะ คนแก่ถ่ายรูปโบราณ คือถ้าคุณเอารูปแกมาแขวนไว้ในบ้านไหนที่มันดูนั่น ๆ น่ะ ความจริงไม่มีอะไร คุณมองรูปแกคุณก็กลัวแล้วน่ะ คือรูปสมัยก่อนเนี่ย เวลาคนที่เสียชีวิตไปแล้วนะครับ เขามักจะเอารูปเนี่ยมาติดตามข้างฝาบ้าน ซึ่งคุณย่า คุณปู่ ผมก็เป็นเหมือนกัน เวลาท่านเสียแล้ว แล้วก็เอารูปท่านมาแปะแขวนไว้ที่ข้างฝาบ้านถูกไหมครับ
เพื่อให้ลูกหลานได้เห็นว่า อ๋อ บางทีลูกหลานเกิดมาในบ้านน่ะ ไม่เคยเห็นหน้าคุณย่า คุณปู่ คุณทวดอะไรก็แล้วแต่ ก็จะเห็นอ๋อคนนี้นะ เป็นญาติเรานะ เป็นญาติหนูนะลูก อะไรประมาณนี้ ใช่ ๆ รูปแกจะเป็นลักษณะอย่างนั้น เป็นลักษณะจะน่ากลัว และมันเป็นขาวดำ แบบเป็นมัว ๆ แบบอะไรอะไรอย่างเนี้ย เป็นแบบสีขาวดำ แต่ก่อนรูปสีมันไม่ค่อยมี ไม่ได้มีอะไรอย่างเนี้ย มันก็เป็นรูปขาวดำ ก็ดูน่ากลัว ถ้าตามผมไปดูน่ะ ผมแบบเหลือบไปดูนะ ไม่กล้าจ้องตรงน่ะ ดูเหมือนหน้าจะดุน่ะ เอ่อ หน้าดุ รู้สึกจะหน้าดุมาก ผมกลัว อ๋อ ไม่ได้ไปครับผม เพราะว่าตาให้ไปอยู่วัดน่ะ เพราะว่าเขาบอก ถ้าขืนนอนอย่างนั้น เดี๋ยวคืนนี้จะมากระโดดบนหลังคาบ้าน ก็ไปอยู่วัด 3 วันครับ ไปให้หลวงพ่อ แล้วก็ไปทำบุญทำอะไร ให้น้าเขาไปถือศีลอยู่ 3 วัน ที่วัดน่ะ หลวงพ่อที่วัดก็บอกไม่ต้องกลับไปนอนบ้านน่ะใช่เปล่า
เออ ผมลืมบอกไปว่าตาที่เขาบอกว่า ยายเอียกจะมาเอาผมไปอยู่ด้วยเนี่ย คือจริง ๆ แกเนี่ย เพราะว่าผมชอบไปเล่นกับแกไง เพราะแกหลงน่ะ แล้ว แล้ว แกเวลาแกกินข้าว แกกินอะไรอย่างเนี้ย คนหลงน่ะ บางทีแกกินข้าวกับทองหยอด กินข้าวกับขนมสาลี่ สมัยก่อนไม่ใช่สาลี่ เอ่อ สาลี่สมัยก่อนอะไรอย่างเนี้ย แกจะกิน แล้วหลง ๆ แล้วบางทีเวลาผมก็เข้าไปแบบ ไปหยอกกับแกน่ะ แล้วบางทีแกกินข้าว แล้วผมจะกินทองหยอด กินขนม อะไรอย่างเนี้ย เอ่อ หรือบางทีไปแย่งขนมแก แต่แกก็ไม่ได้อะไรนะ แกก็สนิทกับผมนะ แกก็เรียกผมไอ้อ้อ ไอ้เอ้อ อะไรน่ะ แต่บางทีแกก็จำไม่ได้เพราะแกหลงไง บางทีแกหลง ก็ไม่ได้ว่าแกก็โกรธเคืองอะไร แต่ตาเขาบอกเขาชอบเอง เองชอบไปเล่นกับเขา เขาก็เลยอยากจะเอาเองไปอยู่ด้วย ตาเขาบอก เขาบอกถ้าตามไปไม่ทัน เองจมน้ำตายไปแล้ว
เรื่องราวน่ารู้เรียบเรียงจากสารคดีคุณภาพในรูปแบบบทความ
กดถูกใจแฟนเพจเพื่อติดตามและอัพเดตบทความใหม่ๆ คลิกเลย
กดถูกใจแฟนเพจเพื่อติดตามและอัพเดตบทความใหม่ๆ คลิกเลย
บทความแนะนำ