google.com, pub-6663105814926378, DIRECT, f08c47fec0942fa0 Mega topic | จัดอันดับ | 10 อันดับ| เรื่องผี| เรื่องสยองขวัญ| ที่สุดในโลก| ดูดวง| ประวัติศาสตร์

คดีโหดแห่งเขาแอลป์

คดีโหดแห่งเขาแอลป์

แกะรอยคดีสุดสยองสะเทือนขวัญ-สังหารหมู่ 4 ศพในเทือกเขาแอลป์


เหตุร้ายสะเทือนขวัญเมื่อวันที่ 5 กันยายน ปีก่อน แแถวยอดเขาใกล้กับตíำบลเชวาลีน ไม่ห่างจากทะเลสาบแอนเนซี ในเขตโอต๊ -ซาววั หรือส่วนหนึ่งในเทือกเขาแอลป์ ประเทศฝรั่งเศส อดีตนักบินกองทัพอากาศอังกฤษรายหนึ่งขี่จักรยานไปพบกับรถบีเอ็มดับเบิลยูสีแดง ทะเบียนอังกฤษจอดนิ่งอยู่ และสิ่งที่ทำให้เขาต้องหยุดลงมาดู คือภายในรถมีร่างชายคนหนึ่งอยู่หลังพวงมาลัย กับหญิงอีก 2 คนที่เบาะหลัง ทั้งหมดดูเหมือนจะกลายเป็นศพไปแล้วและไม่ไกลจากรถยังพบศพชายอีก 1 คนพร้อม
จักรยาน กับเด็กหญิงอีกรายนอนฟุบจมเลือด เขาพลิกร่างเธอขึ้นมา ก่อนจะพบว่ายังมีลมหายใจ เขาจึงรีบลงจากเขามาแจ้งข่าวร้ายกับเจ้าหน้าที่



เมื่อตำรวจมาถึงพบเด็กหญิงมีร่องรอยถูกทุบตีที่หัวและรอยแผลถูกยิงที่ไหล่ จากนั้นจึงส่งไปยังโรงพยาบาลก่อนที่ต่อมาอีกราว 8 ชม. จะได้พบเด็กหญิงเล็กๆ อีกคนซ่อนอยู่ใต้กระโปรงศพของผู้หญิงที่อยู่เบาะหลัง เธอไม่มีบาดแผล แต่มีอาการหวาดกลัวขั้นรุนแรงจึงต้องส่งไปยังโรงพยาบาลเพื่อเยียวยาจิตใจขณะอยู่ที่โรงพยาบาล เด็กทั้ง 2 คนได้รับการ อารักขาจากเจ้าหน้าที่ฝรั่งเศสอย่างเข้มงวด โดยยังไม่มีใครรู้ถึงการฆ่าหมู่ครั้งนี้ว่ามีผลพวงมาจากเรื่องใดกันแน่แต่คดีนี้ก็สร้างความสยองสะเทือนขวัญจากฝรั่งเศสไปจนถึงอังกฤษแล้ว!

ฆ่ายกครัว
จากการสืบสวนระบุว่าผู้ตายทั้ง 3 ศพที่ถูกยิงหัวคนละ 2 นัดในรถ คือ นายซาอัด และนาง อิคบัลอัล ฮิลลี สองสามีชาวอังกฤษวัย 50 ปี และ 47 ปีตามลำดับ ส่วนผู้หญิงอีกคนคือ ซูฮาเลีย อัล-อัลแลฟวัย 74 ปี แม่และแม่ยายของนายซาอัด และเด็กหญิง 2คนก็เป็นลูกสาวของเขา คือ ซีฮับ วัย 7 ขวบ และไซนา วัย 4 ขวบ ทั้งหมดเดินทางมาพักผ่อนตั้งแคมป์เลอ โซลแตร ดู ลชั ในแซงต์-โยริออซ สถานพักผ่อนยอดฮิตของชาวอังกฤษอยู่ 2 คืน ก่อนจะเกิดเหตุร้ายซึ่งน่าจะเป็นตอนบ่ายแก่ๆ ราว 4 โมงเย็น แต่อีกศพที่โดนยิง 7 นัดโดย 2 นัดเข้าที่หัว คือนาย ซิลแว็ง โมล-ลิเย่ร์ คนงานโรงงาน และพ่อลูกสามจากเมืองอูซิแนส ที่อยู่ถัดไป ตำรวจเชื่อว่านายซิลแว็งคงขี่จักรยานผ่านมาขณะฆาตกรรายนี้ ซึ่งไม่แน่ใจว่ามีกี่รายกำลังลงมือ เลยถูกยิงทิ้งเพื่อปิดปาก

ตามประวัติพบว่าพื้นเพเดิมนาย ซาอัด อัล ฮิลลีเป็นชาวอิรักเกิดในแบกแดด หลังจากรัฐบาลนาย ซัดดัมฮุสเซน ล่มสลาย เขาก็ย้ายมาอยู่อังกฤษจนได้สัญชาติทำมาหากินเป็นวิศวกรด้านคอมพิวเตอร์อยู่ที่เคลย์เกทในเซอร์รีย์ นอกจากนี้ยังเคยทำงานเป็นวิศวกรชั่วคราวอยู่ที่กิลด์ฟอร์ด กับบริษัท เซอร์รีย์ แซทเทิลไลท์ เทคโน-โลยี ด้วยทั้งพื้นเพกับงานที่ทำของนาย ซาอัด อัล ฮิลลีรวมถึงวิธีสังหารและความเหี้ยมโหด ไม่เว้นแม้แต่คนแก่หรือเด็กผู้หญิง จึงทำให้เกิดการคาดเดาไปต่างๆ นานา!

ปริศนาคดีโหด
เจ้าหน้าที่ฝรั่งเศสกับอังกฤษร่วมมือกันคลี่คลายคดีนี้มาตั้งแต่วันที่ 21 กันยายน ปีก่อน โดยใช้เจ้าหน้าที่ 2ชาติร่วม 100 คน สืบสาวกินความตั้งแต่ อิรัก, อดีตยูโกสลาเวีย, สวิตเซอร์แลนด์ รวมถึงเจ้าหน้าที่ฝรั่งเศสเดินทางมาที่อังกฤษเพื่อพบกับญาติของนายซาอัด ในเคลย์เกท เมืองเซอร์รีย์ โดยการสอบสวนพุ่งไปที่ 3ประเด็นในชีวิตของนาย ซาอัด ทั้งเรื่องงาน, ชีวิตครอบครัว และชีวิตของเขาในอิรักด้านพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ ไม่พบอะไรนักนอกจากปลอกกระสุน 15 ปลอก ตกอยู่ใกล้กับรถ กับรายงานว่ามีคนเห็นรถคันหนึ่งวิ่งผ่านไปอย่างรวดเร็ว หลังจากเกิดเหตุยิงกัน ห่างไป 2 ไมล์ และรอยกระสุนที่ถูกยิงเข้ามาทางหน้าต่าง ทำให้ตำรวจเชื่อว่าฆาตกรรายนี้อาจเป็นมืออาชีพ ซึ่งตรงกับความเห็นของ จอห์น โอคอนเนอร์ อดีตผู้บัญชาการหน่วยรบทางอากาศของอังกฤษ ที่บอกกับสื่ออย่าง สกายนิวส์ ถึงความเชี่ยวชาญของมือปืนซึ่งน่าจะได้รับการฝึกมาเป็นอย่างดี และคล้ายกับการสังหารของพวกกองทหาร ไม่น่าจะเป็นพวกแก๊งโจรทั่วไป

และด้วยเป็นชาวอิรัก อดีตนายทหารยังตั้งข้อสังเกตว่ามันอาจโยงใยไปถึงหน่วยงานลับ สนับสนุนด้วยข้อมูลที่นายซาอัด เคยทำงานให้บริษัท AMS 1087 ที่คอยสำรวจและถ่ายภาพทางอากาศ รวมถึงปืนที่ใช้กับความแม่นยำของฆาตกร คดีนี้จึงอาจจะเป็นฝีมือของพวกผู้ก่อการร้าย แต่จากข้อมูลอย่างเป็นทางการ ยังไม่พบอะไรแบบนั้น หรือสามารถระบุอย่างเป็นทางการว่าเป็นฝีมือของพวกมือปืนอาชีพ อย่างไรก็ดี บางเบาะแสก็ส่อเค้าว่าอาจเป็นเหตุพาให้นายซาอัด กับครอบครัวต้องมาตายที่เทือกเขาแอลป์อย่างที่เป็นโดยเฉพาะการจากไปของพ่อของนายซาอัด เมื่อ 1ปีก่อนหน้านั้น?!



คนโหด-คนกันเอง!
ภายหลังเหตุการณ์ร้ายผ่านไปหลายเดือนก็ยังไม่มีแววว่าตำรวจจะจับมือใครดมได้ กระทั่งในเดือนเมษายน ที่ผ่านมา ตำรวจก็สามารถระบุได้ถึงรถคันที่มีพยานเห็นวิ่งผ่านไปอย่างรวดเร็วห่างไปจากจุดเกิดเหตุ 2 ไมล์ในเวลาไล่เลี่ยกับที่เกิดเหตุสังหารหมู่ครอบครัวของนายซาอัดตำรวจยืนยันว่า รถคันนั้นเป็นรถบีเอ็มดับเบิลยู X5 แบบโฟร์วีล ไม่สีเทาก็เป็นสีดำ หรือสีเข้ม และตำรวจเชื่อมั่นว่าเจ้าของรถคันนี้จะช่วยคลี่คลายคดีได้แน่ๆแต่ก่อนหน้านั้น จากเบาะแสที่ตำรวจพบว่านายซาอัดเคยมีปากเสียงอย่างรุนแรงกับพี่ชายของเขา-นายซาอิดอัล ฮิลลี วัย 54 ปี ถึงปัญหามรดกของพ่อ ในเดือนมีนาคม นายซาอิดจึงถูกตำรวจนำตัวมาสอบสวนก่อนจะปล่อยตัวไป จนกระทั่งเมื่อวันที่ 24 มิถุนายนที่ผ่านมา นายซาอิดก็ถูกตำรวจบุกไปจับกุมมาจากบ้านที่เชสซิงตัน ในเซอร์รีย์ โดยกล่าวหาว่าเขาคือผู้อยู่เบื้องหลังการตายฆ่ายกครัวน้องชายตัวเอง

“ผมบอกทุกอย่างที่ผมรู้กับตำรวจอังกฤษไปแล้ว และที่ผมทำได้ตอนนี้คือ รอคำตอบจากตำรวจ สำหรับเรื่องนี้ที่มันดูลึกลับไปหมด” นายซาอิดบอกกับนสพ.เดอะเมล์ก่อนหน้าจะโดนจับ นอกจากนั้นยังบอกด้วยว่าการตายของน้องชายและครอบครัว ทำให้เขากินไม่ได้นอนไม่หลับ“มีการเดาไปต่างๆ นานาแต่ผมก็หวังว่าในที่สุดแล้วตำรวจจะหาคนรับผิดชอบได้”ทางด้านตำรวจเหมือนจะมั่นใจหลักฐานที่มีพอสมควรในการรวบตัวนายซาอิดครั้งนี้ เพราะในการสอบสวนพบว่า นายคาดฮิมพ่อผู้ล่วงลับของทั้งคู่ได้ทิ้งทรัพย์สินจำนวนมหาศาลเอาไว้ รวมถึงเงิน 800,000ปอนด์ ในธนาคารสวิส โดย เอริก เมโยด์ หัวหน้าอัยการแอนเนซีแห่งฝรั่งเศส ได้ค้นพบเอกสารมากมายบางส่วนระบุชัดว่า นายซาอัดได้จ้างทนายเพื่อต่อสู้โต้แย้งไม่ยอมรับพินัยกรรมที่เมโยด์ บอกว่า นายซาอิดได้ปลอมแปลงพินัยกรรมให้มรดกตกเป็นของตัวเอง นอกจากนี้ในจดหมายที่นายซาอัดเขียนถึงเพื่อนตั้งแต่สมัยเด็กเมื่อ 1ปี ก่อนหน้าที่เขาจะถูกฆ่า ยังพบข้อความที่นายซาอัดบอกว่า เขากลัวตาย หลังจากมีปัญหาเรื่องพินัยกรรมจนเป็นความขัดแย้งกับพี่น้องของเขา แถมยังพบว่าก่อนไปเที่ยวพักผ่อน นายซาอัดได้เปลี่ยนตัวล็อกปืนของเขาที่บ้านในเซอร์รีย์ อีกด้วย

และที่สำคัญสุดๆ จากเนื้อความ นายซาอัดบอกชัดว่า เขากับพี่ชายไม่ได้พูดกันแล้ว “เขาพยายามอย่างมากที่จะเข้ามาจัดการทุกอย่างตั้งแต่พ่อยังไม่ตาย เขาพยา-ยามยึดทรัพย์สมบัติของพ่อ” นายซาอัด เขียนเอาไว้ คดีโหดลึกลับที่กินความมาร่วมปี จึงอาจจบลงด้วยเหตุพี่น้องฆ่ากันเพื่อแย่งสมบัติเหมือนเรื่องชั่วๆ พรรค์นี้ที่เกิดขึ้นอยู่บ่อยๆ ทั่วโลกก็เป็นได้ เพราะเงินทองมันไม่เคยเข้าใครออกใครและไม่เคยเว้นวรรค แม้จะเป็นสายเลือดเดียวกันก็ตาม!


กษัตริย์เกาหลี จักรพรรดิกวางสี จักรพรรดิปูยี
ตำนานอโดนิส โจนออฟอาร์ค มู่กุ้ยอิง
จักรพรรดิเนโร พระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 อับราฮัม ลินคอล์น
พระเจ้าซุกจง มาตาฮารี เจ้าฟ้าหญิงบุญรอด
ตำนานธอร์ นิกิต้า ครุสชอฟ สงครามเกาหลี
กำแพงเมืองจีน อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ พระนางเลือดขาว
อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ สตีเฟน ฮอว์คิง ลีโอ ตอลสตอย
สตีฟ จ็อบส์ เจ้าพระยาวิชเยนทร์ พระนางมัสสุหรี
สัตว์มีพิษ ไวรัสอีโบลา เอเลี่ยนสปีชี่ส์
กำเนิดจักรวาล กำเนิดดวงอาทิตย์ ระบบสุริยะจักรวาล
ปริศนาของจักรวาล การเดินทางข้ามกาลเวลา สสารและปฏิสสาร
สิ่งมีชีวิตบนดาวอังคาร บิ๊กแบงคืออะไร สัตว์ใกล้สูญพันธุ์
สัตว์น้ำแปลก ปลาแองเกลอร์ สัตว์ดูดเลือด
อันดับงูสวยงาม อนาคอนด้า ตัวอ่อนปลาฉลาม
เห็ดมีพิษ ภัยของยาไอซ์ คลื่นยักษ์สึนามิ
กัญชาปลอดภัย ไวรัสอีโบลา ปรสิตที่น่ากลัว
สาเหตุสึนามิ ทำไมผมร่วง สงครามซีเรีย
ทำลายหลุมดำ โลกของเรา กระแสน้ำทะเล
วิธีทำลายเอกภพ กลไกวิวัฒนาการ ระบบภูมิคุ้มกัน
เล่าเรื่องผี เรื่องสยองขวัญ เรื่องผี
ฆาตกรโหด ฆาตกรต่อเนื่อง ฆาตกรโรคจิต
ผีนานาชาติ ผีปีศาจ พระธุดงค์เจอผี
โจนเบเน็ต คดีเพชรซาอุ เดวิด เบอร์โควิด
ซอว์นี่ บีน ฆาตกรโหดเมืองไทย อลิซาเบธ บาโธรี่
ฆาตกรฆ่าคนมากที่สุด คดีกักขังหน่วงเหนี่ยว คดีวิตถาร
คดีพิศวาสฆาตกรรม ฆาตกรเด็ก คดีฆ่าหั่นศพ
ยโศโฆษาฆาต แจ๊คเดอะริปเปอร์ ฆาตกรต่อเนื่องอินเดีย
เบลล์ กันเนส ยูนาบอมเบอร์ เอล ชาโป
ผีภาคเหนือ ผีภาคอีสาน ผีญี่ปุ่น
เมืองอาถรรพ์ เรื่องเล่าเดอะช็อค มนุษย์กินคน

บทความแนะนำ

ประวัติของเจ้าพ่อเฟซบุ๊ค บทสัมภาษณ์ วิกรม กรมดิษฐ์ ตะลุยเมนูบุฟเฟต์ อย่างมีชั้นเชิง ประวัติของอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ ภัยของยาไอซ์ ฮาเร็ม สวรรค์ของหนึ่งบุรุษหรือทุกข์ของอิสตรี เปิดแฟ้มลับชีวิตรัก อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ (Adolf Hitler) เกรซ มูกาเบ หญิงร้ายแห่งซิมบับเว

บทความเมนูอาหาร บทความภัยอันตราย บทความสุขภาพ บทความวิทยาศาสตร์ บทความสยองขวัญ บทความชีวิตสัตว์ บทความประวัติศาสตร์ บทความจัดอันดับ สารบัญบทความ

Popular Posts