10 อันดับสัตว์แปลกที่คนไทยนิยมเลี้ยงมากที่สุด
อันดับที่ 10 แมลง
แมลงที่เป็นที่นิยมสุดๆ ของคนไทยนั้นต้องยกให้แมลงตระกูลด้วง เช่น ด้วงกว่าง ด้วงดอกไม้ และด้วงคีบ สนนราคาที่ซื้อขายกันในท้องตลาดนั้นอยู่ที่ 400 บาท - 3,000 บาท
อันดับที่ 9 สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ
ที่คนไทยนิยมคือกบนานาชนิดจากต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเจ้ากบที่คนเลี้ยงสัตว์แปลกส่วนใหญ่ให้ฉายามันว่า Pacman เนื่องจากปากที่มีขนาดใหญ่กว้างของมันและสามารถกินทุกอย่างที่อยู่ตรงหน้ามัน สนนราคาที่ซื้อขายกันในท้องตลาดนั้นอยู่ที่ 500 บาท - 5,000 บาท ขึ้นอยู่กับขนาดและสีสัน
อันดับที่ 8 แมงมุม
โดยเฉพาะเจ้าแมงมุมดึกดำบรรพ์อย่างทารันทูล่า แมงมุมที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก และมีสีสันสวยงามหลากหลายให้เลือก จึงทำให้พวกมันมีราคาสูงถึงตัวละ 500 บาทไปจนถึงหลายพันบาทเลยทีเดียว
อันดับที่ 7 ตะกวดและสัตว์ในตระกูลตะกวด
ตัวที่กำลังฮิตติดลมบนต้องยกให้เจ้า Black Throat Monitors เจ้าตะกวดคอดำตัวอ้วนจากแอฟริกา ที่ประเทศไทยมีไม่ถึง 20 ตัว จึงนับเป็นสัตว์หายาก ราคาเริ่มต้นที่หลักหมื่นบาทไปจนถึงหลักแสน
อันดับที่ 6 สัตว์ฟันแทะ
ในตระกูลสัตว์ฟันแทะที่มาแรงแซงกระต่ายและหนูแฮมสเตอร์ ต้องยกให้กับเจ้าแพรี่ด็อก ราคาเริ่มต้นตัวละไม่ต่ำกว่า 6,500 บาทเลยทีเดียว แต่ถ้ากลายพันธุ์เป็นสีขาวราคาจะพุ่งไปถึงตัวละ 50,000 บาทเลยทีเดียว นอกจากแพรี่ด็อกก็มีเจ้าหนูชินชิล่าที่มีหางเป็นพู่ ชอบยืนสองขา ตัวอ้วนกลมน่าเอ็นดู สนนราคาอยู่ที่ตัวละ 5,000 บาท ไปจนถึง 20,000 บาทเลยทีเดียว
อันดับที่ 5 เต่าชายน้ำและเต่าน้ำ
สัตว์ในตระกูลนี้นอกจากจะขึ้นชื่อว่ามีอายุยืนที่สุดแล้ว มันยังมีความงามที่เป็นเอกลักษณ์อีกด้วย จุดเด่นก็คือที่กระดองมีรูปร่างและสีสันแตกต่างกันไปในแต่ละชนิด ซึ่งพระเอกของตระกูลเต่าน้ำที่กำลังเป็นที่นิยมก็คือ Aligator Snapping เต่าน้ำที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก โดยตัวที่ใหญ่ที่สุดนั้นมีน้ำหนักถึง 107 กิโลกรัม และผู้ที่สนใจจะเลี้ยงต้องเรียนรู้ทักษะและวิธีจับมัน เพราะถ้าพลาดท่าเพียงนิดเดียว นิ้วของคุณอาจถูกมันกัดขาดได้ง่ายๆ เนื่องจากมันมีแรงกัดมหาศาล สนนราคาของมันอยู่ที่ความยาวโดยเริ่มต้นประมาณนิ้วละ 500 บาท ดังนั้นยิ่งตัวใหญ่ก็ยิ่งแพงมากขึ้น
อันดับที่ 4 สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม
สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่ถูกนำเข้ามาและมีความแปลกจนเป็นที่นิยมในไทยนั้นมีอยู่มากมายหลายชนิด แต่ที่ยังมาแรงไม่มีตกความนิยมต้องยกให้ ชูก้า ไกลเดอร์ หรือที่ผู้นิยมสัตว์แปลกรู้จักกันดีในชื่อว่าจิงโจ้บิน เพราะมันเป็นสัตว์มีกระเป๋าหน้าท้องเหมือนกับหมีโคอาล่าและจิงโจ้ ที่สำคัญมันยังร่อนเพื่อลอยตัวอยู่ในอากาศได้อีกด้วย เหนตัวเล็กๆ อย่างนี้สนนราคาเริ่มต้นอยู่ที่ตัวละ 8,500 บาท แต่ถ้าเป็นตัวที่สีสวยเป็นพิเศษราคาจะพุ่งไปที่ 70,000 - 200,000 บาทเลยทีเดียว นอกจากชูก้า ไกลเดอร์แล้วยังมี ลิงมาโมเซ็ต ลิงขนาดเล็กที่สุดในโลกโดยมีขนาดลำตัวรวมหางยาวเพียง 15 - 20 เซ็นติเมตรเท่านั้น จึงเหมาะกับผู้ที่นิยมของจิ๋วแต่แจ๋วซึ่งสนนราคาเริ่มต้นที่ตัวละ 30,000 บาท
อันดับที่ 3 กิ้งก่า
ในอดีตสัตว์ในตระกูลกิ้งก่าที่ประเทศไทยเรานำเข้ามาเลี้ยงและเป็นที่รู้จักกันดีก็คืออีกัวน่า แต่ปัจจุบันกลุ่มคนรักสัตว์แปลกกลับเทคะแนนให้กิ้งก่าไซส์กะทัดรัด สีสันสวยงามที่เลี้ยงง่ายและแสนเชื่องอย่างเจ้า Beard Dragon ซึ่งมีจุดเด่นที่เป็นที่มาชื่อของมันคือถุงใต้คอที่มีหนามแหลมเหมือนกับเคราของคน ราคาของมันมีตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลักหมื่น ขึ้นอยู่กับสีสันและความแปลกของมัน นอกจากนี้ยังมีเจ้า เตกู กิ้งก่าขนาดใหญ่ที่หน้าตาละม้ายคล้ายตะกวด เมื่อโตเต็มที่ยาวได้ถึงเมตรกว่าเลยทีเดียว ราคาเจ้าเตกูนี้อยู่ที่หลักหมื่น แต่ถ้ามันเป็นสีเผือกราคาจะพุ่งไปที่หลักแสนเลยทีเดียว
อันดับที่ 2 เต่าบก
เต่าบกนั้นไม่สามารถใช้ชีวิตในน้ำได้เพราะกระดองที่ใหญ่และไม่มีพังผืดที่นิ้ว ถ้ามันตกน้ำมันไม่สามารถว่ายน้ำได้และจะจมน้ำตาย
อันดับที่ 1 งูสวยงาม
เจ้าลิ้นสองแฉกที่คนส่วนใหญ่เข็ดขยาดกับพิษของมัน แต่มันเป็นที่นิยมของผู้ที่เริ่มต้นเลี้ยงสัตว์แปลกพวกสัตว์เลื้อยคลานแทบจะทุกคน ด้วยสีสันที่สวยงามกับนิสัยที่เป็นอกลักษณ์ทำให้ผู้เลี้ยงหลงใหล และงูพันธุ์ที่นิยมเลี้ยงในบ้านเราตอนนี้ต้องยกให้กับ Ball Python งูหลามลายสวยจากกาฬทวีป ซึ่งเมื่อมันตกใจมันจะขดตัวเป็นลูกกลมๆ งูที่นิยมอีกชนิดก็คืองูคิงสเนค (King Snake) ที่กินงูด้วยกันเป็นอาหาร และยังมีงูคอร์นสเนค (Corn Snake) ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นงูที่เชื่องและไม่ดุ ราคาของงูสวยงามนั้นก็แตกต่างกันไปตามแต่ละสายพันธุ์ ลวดลายและสีสัน ที่เริ่มต้นตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลักล้านก็มี
บทความแนะนำ