google.com, pub-6663105814926378, DIRECT, f08c47fec0942fa0 Mega topic | จัดอันดับ | 10 อันดับ| เรื่องผี| เรื่องสยองขวัญ| ที่สุดในโลก| ดูดวง| ประวัติศาสตร์

อาหารเช้าของชาวโลก

อาหารเช้าของชาวโลก

English Breakfast
มื้อเช้าตำหรับผู้ดีอังกฤษ ถือเป็นสูตรที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลกประกอบด้วยเบคอน ขนมปังปิ้งเห็ดผัด ไส้กรอก มะเขือย่าง แฮชบราวน์ (มันฝรั่งต้มแล้วผัด) เบคบีน(ถั่วอบในซอสมะเขือเทศ) เมนูไข่เช่น ไข่ดาว ไข่คน เสิร์ฟกับชาร้อนแบบฉบับผู้ดีอังกฤษแท้ๆ ถือเป็นอาหารเช้าที่เน้นการให้พลังงานเต็มแม็ก มื้อเดียวอยู่ท้องไปจนถึงบ่ายได้อย่างสบายๆ

Chinese Breakfast
เนื่องจากจีนเป็นประเทศใหญ่ อาหารเช้าของคนจีนในแต่ละโซนจึงมีความแตกต่างกันค่อนข้างมาก แต่โดยทั่วไปแล้วก็นิยมกินอาหารร้อนๆอย่างข้าวต้มกุ๊ยพร้อมกับข้าวชนิดต่างๆ โจ๊ก ติ่มซำ เกี๊ยว หรืออาหารเส้นอย่างก๋วยเตี๋ยวและบะหมี่



Indian Breakfast
Paratha ถือเป็นเมนูพื้นฐานที่นิยมกินกันในประเทศแถบๆ อินเดียเรียกง่ายๆ ว่าโรตีนั่นแหละ ถ้าเป็นอินเดียทางตอนเหนือจะยัดไส้มันฝรั่งเข้าไปด้วย เรียกว่า Aloo Parathaกินคู่กับ Lassi หรือโยเกิร์ตชนิดหนึ่งบางบ้านอาจกิน Luchi หรือแป้งทอด
คู่กับแกงกะหรี่

Turkish Breakfast
ตุรกีมีทั้งอาหารคำเล็กๆ กินง่ายๆอย่างชีส เนย มะเขือเทศ แตงกวาน้ำมันมะกอก ไข่ และเนื้อสัตว์ แต่ที่น่าสนใจก็คือเมนูที่ชื่อ SucukluYumurta หน้าตาละม้ายคล้ายไข่กระทะบ้านเรา ประกอบด้วยไส้กรอกไข่ กระเทียม และเครื่องเทศ แต่ถ้า
ในชั่วโมงเร่งด่วนก็นิยมกิน Borekลักษณะเป็นแผ่นแป้งบางๆ สอดไส้ด้วยชีส เนื้อสัตว์ หรือผักขม

Japanese Breakfast
คนญี่ปุ่นนิยมกินมื้อเช้าที่เรียบง่ายและมีหน้าตาในแบบที่คนไทยคุ้นเคยอาจเริ่มด้วยข้าวสวย ซุปมิโสะ โดยมีกับข้าวเป็นพวกปลาย่าง สาหร่ายนัตโตะ (ถั่วหมัก) ผักดอง บางครั้งอาจมีโอคายุ (โจ๊กญี่ปุ่น)

American Breakfast
เรียกย่อๆ ว่า ABF เป็นเมนูอาหารเช้าสไตล์อเมริกันที่ปัจจุบันกลายเป็นมาตรฐานอาหารเช้าตามโรงแรมและรีสอร์ตชั้นนำทั่วโลก มันคือเมนูมื้อหนักที่มาแบบครบเครื่องและให้พลังงานเต็มสูบ โดยรวมแล้วคล้ายกับมื้อเช้าสไตล์อังกฤษ แต่มีตัวเลือก
ที่เพิ่มเข้ามาพอสมควร ประกอบด้วยขนมปังทาเนยหรือแยม เบคอน แฮมไส้กรอก แพนเค้ก กาแฟ ชาน้ำผลไม้ และเมนูไข่ต่างๆ ทั้งไข่ดาวไข่เจียว ไข่คน ไข่เบเนดิกต์ ฯลฯ

Thai Breakfast
จะว่าไปแล้ว อาหารเช้าแบบไทยๆ ก็มีความหลากหลายไปตามแต่ละพื้นที่ถ้ามีบ้านใกล้ตลาดก็อาจเริ่มอุ่นเครื่องด้วยปาท่องโก๋ ไข่ลวก กับกาแฟ น้ำเต้าหู้ หรือโอวัลติน แล้วต่อด้วยโจ๊กร้อนๆ บางบ้านอาจกินข้าวเหนียวไก่ทอดหรือหมูปิ้ง ตบด้วย
ขนมครกร้อนๆ คนใต้นิยมกินติ่มซำกับหมูย่าง คนเมืองกินขนมปังและกินแซนด์วิชเพื่อความสะดวก

Continental breakfast
มื้อเช้าแบบภาคพื้นยุโรป จะเป็นมื้อเช้าที่เบาและง่าย ประกอบด้วยขนมปัง ครัวซอง แพนเค้ก มีแยมหรือเนยสำหรับทาขนมปัง อาจมีไข่เพิ่มเข้ามาบ้าง และตบท้ายด้วยชาหรือกาแฟ สรุปง่ายๆ ก็คือการดื่มชาหรือกาแฟในตอนเช้า แล้วมีอะไร
แหย่ให้รู้สึกหนักท้องสักหน่อย



มื้อเช้ายอดนิยมของคนแต่ละอาชีพ

คนใช้สมอง ถ้างานของคุณต้องเน้นหนักในเรื่องของการใช้สมอง ไม่ว่าจะเป็นการคำนวณวางแผน ใช้ไอเดียสร้างสรรค์ ฯลฯ สมควรอย่างยิ่งที่จะต้องกินมื้อเช้าซึ่งมีสารอาหารครบทั้ง 5 หมู่ เช่น มีเนื้อสัตว์ แป้ง พืชผักผลไม้ และมีไขมันนิดหน่อย เพราะร่างกายต้องใช้ในการบำรุงส่วนต่างๆ โดยเฉพาะสมอง ตบท้ายด้วยเครื่องดื่มเย็นๆ เพื่อเรียกความสดชื่น

คนใช้แรง ถ้าการงานของคุณต้องอาศัยการออกแรง ก็ควรเน้นอาหารเช้าที่ให้พลังงานสูงเน้นแป้งและไขมันเข้าไว้ ไม่ว่าจะเป็นอาหารจำพวก ABF แบบจัดหนัก ข้าวแกง ข้าวขาหมูข้าวเหนียวไก่ทอด ข้าวเหนียวหมูปิ้ง ฯลฯ แต่ก็ต้องระวังอย่าให้รสจัดจนเกินไป เพราะอาจไประคายเคืองกระเพาะจนทำงานไม่ไหวเอาได้ ตบท้ายด้วยเครื่องดื่มหวานๆ ที่เน้นปริมาณน้ำตาลให้เยอะเข้าไว้

คนขายหน้าตา ถ้าคุณโชคดีที่เกิดมาหล่อ หุ่นดี มาดเนี้ยบ แถมยังมีอาชีพที่ต้องใช้หน้าตาในการหาเงิน เช่น นายแบบ นักร้อง นักดนตรี เราแนะนำให้เริ่มต้นมื้อแรกของวันด้วยอาหารเช้าที่เน้นโปรตีน เช่น เนื้อสัตว์ ถั่ว ไข่ เพื่อช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ หลีกเลี่ยงอาหารจำพวกแป้งและไขมันเพื่อป้องกันการสะสมเป็นพุงกะทิ เสริมผลไม้ตบท้ายมื้อเพื่อเพิ่มวิตามินบำรุงความสดใสให้ผิวหน้า แล้วอย่างลืมออกกำลังกายอย่างน้อยอาทิตย์ละ 5 วันเพื่อรักษาหุ่นให้เฟิร์มอยู่เสมอ

ผู้ชายจนๆ ทั่วไป แต่สำหรับประชาชนชายไทยจนๆ ทั่วไป ที่เพิ่งเริ่มต้นอาชีพการงานได้ไม่นาน เราแนะนำให้กินอาหารอะไรก็ได้ที่ราคาไม่แพงมากนัก เพื่อเป็นการประหยัดงบประมาณให้สามารถอยู่ต่อได้ถึงสิ้นเดือน กินในปริมาณที่ไม่มากจนเกินไปเพื่อไม่ให้เกิดการสะสมจนเป็นคนที่นอกจากจะจนแล้วยังอ้วนอีกด้วย (มีเยอะนะ อย่าลบหลู่) และบริหารจัดการเงินเดือนให้ดี เพื่อจะได้ไม่ต้องกลายเป็นไอ้ขี้ก้างตอนสิ้นเดือนเพราะไม่มีอะไรจะกิน

ขอขอบคุณที่มาจาก นิตยสาร FHM

อาหารญี่ปุ่น อาหารจีน อาหารไทย
อาหารเวียดนาม อาหารลาว อาหารอาเซียน
ขนมญี่ปุ่น อาหารจานยักษ์ เมนูราเม็ง
อาหารบนรถไฟ ไอติมญี่ปุ่น เมนูสุขภาพ
ราเม็งญี่ปุ่น การทำชีส อาหารบนทางด่วน
ร้านราดหน้า ร้านข้าวขาหมู ร้านบะหมี่เกี๊ยว
ร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อ ร้านกระเพาะปลา ร้านสุกี้
ร้านโจ๊ก ร้านต้มเลือดหมู ร้านกุ้งอบวุ้นเส้น
ร้านข้าวต้มปลา เมนูติ่มซำ กับข้าวญี่ปุ่น
ของไหว้สารทจีน หม้อไฟญี่ปุ่น เมนูซูชิ
ซูชิยอดนิยม อาหารแปลกญี่ปุ่น อาหารแปลกทั่วโลก
ร้านฉวาง โกยซีหมี่ ขนมหวานเยอรมัน
เมนูเครื่องดื่ม ขนมไทยโบราณ ก๋วยเตี๋ยวปากหม้อ
ขนมไทยมงคล ช็อคโกแลตชีสเค้ก เนื้อวากิว
สรรพคุณรากสามสิบ สรรพคุณตะลิงปลิง สรรพคุณอะเซอโรลา
สรรพคุณดาวอินคา สรรพคุณหมามุ่ย สรรพคุณกวาวเครือ
สรรพคุณถั่งเช่า สรรพคุณมะเฟือง สรรพคุณใบเตย
สรรพคุณดอกอัญชัน สรรพคุณเหงือกปลาหมอ สรรพคุณชาเขียว
สรรพคุณเห็ดหลินจือ สรรพคุณพลูคาว สรรพคุณเถาวัลย์เปรียง
สรรพคุณหอมแดง สรรพคุณพริก สรรพคุณฟักข้าว
สรรพคุณสมุนไพร เครื่องดื่มต้านมะเร็ง สรรพคุณมะระ
สมุนไพรครัวเรือน สรรพคุณผักสวนครัว สมุนไพรรักษาโรค
สมุนไพรแก้ปวดเมื่อย สมุนไพรผิวขาว สรรพคุณมะหาด
สมุนไพรแก้มะเร็ง สมุนไพรรักษาสิว สมุนไพรรากสามสิบ

บทความแนะนำ

Mesotherapyรูปร่างสวยสมส่วน ขลิบปลายอวัยวะเพศชายแบบไม่เจ็บด้วย Prepex ถามตอบคำถามการเสริมเต้านม ถามตอบปัญหาผิวหย่อนคล้อย ถามตอบปัญหาริ้วรอยใต้ดวงตากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ฟื้นชีวิตหลังคืนดื่มหนัก ยก Weight ดีอย่างไร หัวเข่ามักจะมีเสียงดัง

บทความเมนูอาหาร บทความภัยอันตราย บทความสุขภาพ บทความวิทยาศาสตร์ บทความสยองขวัญ บทความชีวิตสัตว์ บทความประวัติศาสตร์ บทความจัดอันดับ สารบัญบทความ

โจรสาวอินเดียปลอมเป็นชาย หลอกแต่งงานนานนับปี

โจรสาวอินเดียปลอมเป็นชาย หลอกแต่งงานนานนับปี

แฟนละครไทยเราคงคุ้นกับบทประเภทนางเอกปลอมตัวเป็นผู้ชายมาหลอกพระเอกกัน แต่เราดูแล้วก็บ่นไปว่าพระเอกเชื่อเข้าไปได้อย่างไร แต่เหตุการณ์ปลอมตัวหญิงเป็นชายนี้ขึ้นมาแล้วและหลอกสำเร็จด้วย เมื่อหญิงสาวอินเดียคนหนึ่งแต่งงานมานานถึงหนึ่งปีเต็มก่อนจะพบว่าสามีของเธอเป็นผู้หญิง


ผู้หญิงที่อินเดียมักจะแต่งงานในวัย 20 ต้นๆ หรือถ้าเป็นเด็กสาวในชนบทก็จะเป็นฝั่งเป็นฝาตั้งแต่อายุเพียง 14-15 ปีเท่านั้น ผู้หญิงอายุ 26 ปี อย่างมินาตี คาทัว จึงอยู่ในวัยที่เกือบจะขึ้นคาน ตลอดเวลาที่ต้องตอบคำถามญาติๆ ว่าทำไมยังไม่แต่งงานเสียที มินาตีได้แต่ปลอบตัวเองว่าผู้หญิงทำงานยุคใหม่อย่างเธอมีอะไรให้ทำเยอะแยะ ก็ย่อมต้องแต่งงานช้าเป็นธรรมดา ทว่าลึกลงไปในใจเธอก็อยากได้พบว่าที่เจ้าบ่าว และรีบแต่งงานให้เร็วที่สุดเช่นกัน



แต่ดูเหมือนพระเจ้าจะไม่เข้าข้างมินาตีเอาเสียเลย เพราะเพื่อนชายทั้งหมดที่เธอรู้จักมีคุณสมบัติไม่ต้องตาต้องใจ หรือแม้แต่เฉียดใกล้สเป็คของเธอเลยสักคนเดียว มินาตีจึงต้องเก็บความโสดไว้บนหิ้งต่อไป จนกระทั่งวันหนึ่งเธอแวะไปเยี่ยมน้องสาวที่หมู่บ้านโรเกลลาในเมืองโอริสสา เธอถึงได้รู้ว่าพระเจ้าไม่ได้หลงลืมคำขอของเธอ

ศิทากานต์ ชายหนุ่มวัย 28 ปี เข้ามาแนะนำตัวกับมินาตีด้วยตัวเอง หลังจากเธอกลับจากเยี่ยมน้องสาว เจ้าหนุ่มก็ยังโทรมาหาอีกหลายครั้ง ก่อนที่ทั้งคู่จะเริ่มออกเดทกัน ศิทากานต์แตกต่างจากผู้ชายที่อยู่รอบตัวมินาตีมาก ถึงแม้หน้าตาของเขาจะไม่คมเข้มหล่อเหลา รูปร่างก็ไม่ใหญ่โตผึ่งผายแบบหนุ่มอินเดียทั่วไป แต่มินาตีก็ประทับใจในความสุภาพ อ่อนโยน และเป็นมิตรที่เขามีอย่างเหลือเฟือ ผิดกับผู้ชายขี้โอ่ส่วนใหญ่ชนิดหน้ามือเป็นหลังมือ ความเชื่อมั่นของหญิงสาวถูกตอกย้ำให้หนักแน่นขึ้นไปอีกเมื่อเธอพาชายคนรักไปรู้จักกับครอบครัว พ่อแม่ของเธอประทับใจในตัวศิทากานต์มาก

"ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าฉันไม่มีทางหาเจ้าบ่าวได้ดีกว่านี้แล้ว ไม่เพียงแต่เขาจะพูดจานุ่มนวล มีวาทศิลป์ รู้จักเอาใจผู้ใหญ่ มุมมองความคิดเกี่ยวกับครอบครัวของเขายังน่าทึ่ง เขาบอกว่าผู้ชายควรช่วยภรรยาดูแลลูกๆ ฉันประทับใจมาก ผู้ชายอินเดียไม่มีทางมีความคิดอย่างนี้หรอก"


หากจะมีอะไรมาขวางกั้นไม่ให้ครอบครัวคาทัวรีบตกลงรับศิทากานต์เป็นลูกเขย ก็คงเป็นเพราะเขาไม่เคยพาพ่อแม่ญาติพี่น้องมาทำความรู้จักกับครอบครัวคาทัวเลย แม้ว่าพ่อแม่ของมินาตีจะพยายามเอ่ยเป็นนัยๆ หลายครั้ง เจ้าหนุ่มก็บ่ายเบี่ยงไปทุกครั้ง จนเวลาผ่านไปสองเดือนเต็มนับจากที่หนุ่มสาวทั้งสองเริ่มคบกันเป็นต้นมา  ศิทากานต์ก็จนปัญญาจะบ่ายเบี่ยงอีก เขาจึงนำชายหญิงคู่หนึ่งมาแนะนำว่าเป็นพี่และป้าของเขา จากนั้นทั้งสองฝ่ายก็เจรจาสู่ขอและตกลงเรื่องสินสอดทองหมั้น โดยพ่อแม่ของมินาตียินดีให้รถยนต์ใหม่เอี่ยมหนึ่งคัน เงิน 25,000 รูปี กับเครื่องประดับทองจำนวนหนึ่งเป็นสินสอดแก่ลูกเขย

ในวันแต่งงานซึ่งควรจะเป็นวันที่มีความสุขที่สุดในชีวิตของมินาตี เธอพบด้วยความอัศจรรย์ใจว่าสามีที่อัธยาศัยดีน่ารัก กลับไม่มีเพื่อนฝูงเลยแม้แต่คนเดียว แขกฝ่ายเจ้าบ่าวที่มาร่วมงานแต่งงานของศิทากานต์มีเพียงชายหญิงที่เขาอ้างว่าเป็นพี่และป้าเท่านั้น หลังงานแต่งงานผ่านพ้นไป ศิทากานต์ก็พาเจ้าสาวไปอาศัยอยู่ในหมู่บ้านกัวการ์ ในเขต 5 ห่างจากครอบครัวเธอออกไปหลายร้อยกิโลเมตร ความอัศจรรย์ใจของเจ้าสาวคนใหม่ยิ่งเพิ่มมากขึ้น เมื่อศิทากานต์ไม่ยอมแตะเนื้อต้องตัวเธอในวันเข้าหอ และในอีกหลายวันต่อมา

ศิทากานต์ให้เหตุผลว่าเขากำลังรักษาศีลเพื่อสะเดาะเคราะห์ จนกว่าจะครบกำหนดและได้ทำพิธีชำระบาปในวิหารศักดิ์สิทธิ์ให้เรียบร้อยก่อน ไม่อย่างนั้นเขาจะต้องถือพรหมจรรย์ ห้ามมีเพศสัมพันธ์กับผู้หญิงคนใดแม้แต่กับภรรยา เรื่องนี้ทำเอามินาตีซึ่งอยากมีลูกอดผิดหวังไม่ได้ แต่นอกจากเรื่องนี้แล้วมินาตียอมรับว่าเธอมีความสุขมากกับชีวิตแต่งงาน

"ศิทากานต์เป็นสามีที่ดี เขาไม่เคยตะคอกฉันอย่างที่สามีของเพื่อนๆ ฉันชอบทำ เขาทำกับข้าวเก่งและไม่เอาเปรียบฉัน เราแบ่งงานในบ้านกันทำ ส่วนตอนกลางคืนถึงเราจะไม่มีอะไรกัน แต่เขาก็มีเรื่องสนุกๆ มาเล่าให้ฉันฟังทุกคืน ฉันพอใจมาก" แต่แล้วชีวิตแสนสุขของมินาตีต้องพลิกผันไป เมื่อครอบครัวของเธอพากันมาเยี่ยมลูกสาวและลูกเขย หลังจากทุกคนกลับไป แม่ของเธออยู่เป็นเพื่อนลูกสาวอีกสองเดือน โดยอ้างว่าจะช่วยสอนการบ้านการเรือนให้มินาตี "ม่อยากอยู่ช่วยหลังจากฉันเล่าความลับให้แม่ฟัง ว่าฉันกับศิทากานต์ไม่เคยมีอะไรกัน ฉันเดาว่าแม่คงเริ่มสะกิดใจอะไรบางอย่างแต่ไม่ยอมบอกฉัน" มินาตีเล่า

หลังจากสังเกตกิริยาท่าทางและพฤติกรรมของลูกเขยอย่างใกล้ชิดอยู่ถึงสองเดือนเต็ม แม่ของมินาตีก็กระซิบบอกอะไรอย่างหนึ่งกับลูกสาว และสิ่งนั้นก็ทำให้โลกทั้งใบของมินาตีแตกออกเป็นเสี่ยงๆ นับจากวันนั้นมินาตีก็มองสามีในมุมที่ต่างออกไป และเริ่มพบว่าเขามีท่าทางที่น่าสงสัยจริงๆ เสียด้วย

"แม่บอกว่าศิทากานต์อาจจะเป็นผู้หญิง พอฉันเริ่มสังเกตเขาดีๆ ก็เห็นว่าเขามีส่วนคล้ายผู้หญิงอยู่มาก ฉันไม่เคยเห็นเขาเดินไปเดินมาในบ้านโดยไม่ใส่เสื้อผ้าที่ปกปิดมิดชิด แม้แต่วันหยุดก็ไม่เคยใส่กางเกงขาสั้น ผิวของเขาก็เนียนเกือบเท่าผิวของฉัน และไม่มีขนเลย ทั้งๆ ที่ผู้ชายอื่นมีขนตามหน้าอกและแขนขาดกครึ้มไปหมด"



หลังจากแอบจับผิดสามีอยู่นานนับเดือน มินาตีก็ตัดสินใจพิสูจน์ความจริงให้รู้ดำรู้แดงไปเลยด้วยการบุกเข้าไปในห้องน้ำขณะที่ศิทากานต์กำลังอาบน้ำอยู่ และแล้วสิ่งที่เธอกลัวที่สุดก็เป็นความจริง สามีของเธอเป็นผู้หญิง ทันทีที่ความลับแตก ศิทากานต์ก็ร้องไห้โฮ เธอละล่ำละลักขอให้มินาตียกโทษให้และเสนอว่าจะจ่ายค่าชดเชยให้เธอและครอบครัวจนจุใจ

ความจริงที่เพิ่งได้รู้โหดร้ายเกินไปสำหรับผู้หญิงซื่อๆ อย่างมินาตี เธอช็อคจนคิดอะไรไม่ออกไปครู่หนึ่ง กว่าจะตั้งสติได้เจ้าบ่าวกำมะลอก็เก็บข้าวของหนีหายไปเสียแล้ว วันรุ่งขึ้นครอบครัวของมินาตีรีบมาพาเธอไปหาญาติๆ ของศิทากานต์ ซึ่งอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเดียวกันนั้นเอง พอเธอประกาศว่ารู้ทุกอย่างหมดแล้ว ญาติของเจ้าบ่าวตัวแสบก็หน้าถอดสี นั่นทำให้มินาตีรู้ว่าทุกคนรวมหัวกันหลอกต้มเธอมาตั้งแต่ต้น มินาตียังได้รู้อีกว่าชื่อจริงของเจ้าบ่าวของเธอคือนางสาวสมูติโมยี และพี่ชายกับป้าที่มาเป็นสักขีพยานในวันแต่งงานก็เป็นเพียงตัวละครที่สมูติโมยีจ้างมาบังหน้า หาใช่ญาติโยมอะไร

หลังจากถูกกระชากหน้ากาก ครอบครัวของสมูติโมยีก็เริ่มออกลายอันธพาล วันต่อมามินาตีได้รับโทรศัพท์ข่มขู่จากพี่ชายของสมูติโมยีว่าสั่งห้ามไม่ให้เธแพร่งพรายเรื่องเลวร้ายต่างๆ ให้รู้ไปถึงคนนอก "พี่ชายของเธอโทรมาขู่ฉันอย่างหยาบคาย เขาว่าถ้าฉันบอกคนอื่นว่าสมูติโมยีเป็นผู้หญิง เขาจะฆ่าทั้งฉันและคนในครอบครัว ฉันกลัวมาก มันเหมือนฝันร้ายจริงๆ และในตอนนั้นสมูติโมยีก็หนีไปแล้ว ฉันไม่รู้จะพึ่งใครได้ ในที่สุดพ่อจึงแนะนำให้ฉันไปแจ้งความไว้ก่อน"

การตัดสินใจของมินาตีอาจจะชักช้าไปหน่อย แต่ก็เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง เพราะหลังจากแจ้งความเพียง 3 วัน เธอก็พบว่าเจ้าบ่าวกำมะลอได้คายพิษเอาไว้ก่อนจะดำดินหายไป ด้วยการถอนเงินในบัญชีเงินฝากร่วมกันของทั้งคู่ไปจนหมด และยังใช้ชื่อของมินาตีกู้เงินจากธนาคารไปอีกก้อนหนึ่งด้วย ตำรวจมั่นใจว่าสมูติโมยีต้องวางแผนการทั้งหมดนี้ไว้ล่วงหน้าแล้ว ไม่อย่างนั้นเจ้าบ่าวกำมะลอคงไม่สามารถทำสัญญาเงินกู้และหอบเงินหนีไปได้เร็วขนาดนี้

"แน่นอน เธอต้องรู้อยู่แล้วว่าไม่วันใดก็วันหนึ่งความลับเรื่องเพศที่แท้จริงของเธอต้องถูกเปิดเผย เธอจึงเตรียมการทุกอย่างเอาไว้พร้อม หรือไม่อย่างนั้นเธอก็คงกำลังเตรียมจะหนีไปอยู่แล้ว แต่ความลับมาแตกเสียก่อน มินาตีทำถูกแล้วที่มาแจ้งความกับเรา แต่เธอตัดสินใจช้าเกินไป มาถึงตอนนี้คงยากที่จะตามตัวนักต้มตุ๋นรายนี้ได้แล้วล่ะ" ตำรวจบอก

แม้ว่าอินเดียจะเป็นประเทศที่มีเรื่องแปลกเกิดขึ้นแทบทุกวัน แต่เรื่องของมินาตีเป็นเรื่องที่ใหม่เอี่ยมไม่ซ้ำใครจริงๆ จนน่าหนักใจว่าอาจมีคนร้ายเลียนแบบพฤติกรรมของสมูติโมยีอีกหลายราย "เรากลัวว่าคนร้ายที่ได้ยินข่าวจะใช้วิธีเดียวกับสมูติโมยี ไปหลอกแต่งงานกับพวกผู้หญิง ถึงแม้จะจับตัวคนร้ายรายนี้ได้ แต่ผู้หญิงอีกหลายคนก็ยังคงไม่ปลอดภัยอยู่ดี" ตำรวจสรุป

กษัตริย์เกาหลี จักรพรรดิกวางสี จักรพรรดิปูยี
ตำนานอโดนิส โจนออฟอาร์ค มู่กุ้ยอิง
จักรพรรดิเนโร พระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 อับราฮัม ลินคอล์น
พระเจ้าซุกจง มาตาฮารี เจ้าฟ้าหญิงบุญรอด
ตำนานธอร์ นิกิต้า ครุสชอฟ สงครามเกาหลี
กำแพงเมืองจีน อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ พระนางเลือดขาว
อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ สตีเฟน ฮอว์คิง ลีโอ ตอลสตอย
สตีฟ จ็อบส์ เจ้าพระยาวิชเยนทร์ พระนางมัสสุหรี
สัตว์มีพิษ ไวรัสอีโบลา เอเลี่ยนสปีชี่ส์
กำเนิดจักรวาล กำเนิดดวงอาทิตย์ ระบบสุริยะจักรวาล
ปริศนาของจักรวาล การเดินทางข้ามกาลเวลา สสารและปฏิสสาร
สิ่งมีชีวิตบนดาวอังคาร บิ๊กแบงคืออะไร สัตว์ใกล้สูญพันธุ์
สัตว์น้ำแปลก ปลาแองเกลอร์ สัตว์ดูดเลือด
อันดับงูสวยงาม อนาคอนด้า ตัวอ่อนปลาฉลาม
เห็ดมีพิษ ภัยของยาไอซ์ คลื่นยักษ์สึนามิ
กัญชาปลอดภัย ไวรัสอีโบลา ปรสิตที่น่ากลัว
สาเหตุสึนามิ ทำไมผมร่วง สงครามซีเรีย
ทำลายหลุมดำ โลกของเรา กระแสน้ำทะเล
วิธีทำลายเอกภพ กลไกวิวัฒนาการ ระบบภูมิคุ้มกัน
เล่าเรื่องผี เรื่องสยองขวัญ เรื่องผี
ฆาตกรโหด ฆาตกรต่อเนื่อง ฆาตกรโรคจิต
ผีนานาชาติ ผีปีศาจ พระธุดงค์เจอผี
โจนเบเน็ต คดีเพชรซาอุ เดวิด เบอร์โควิด
ซอว์นี่ บีน ฆาตกรโหดเมืองไทย อลิซาเบธ บาโธรี่
ฆาตกรฆ่าคนมากที่สุด คดีกักขังหน่วงเหนี่ยว คดีวิตถาร
คดีพิศวาสฆาตกรรม ฆาตกรเด็ก คดีฆ่าหั่นศพ
ยโศโฆษาฆาต แจ๊คเดอะริปเปอร์ ฆาตกรต่อเนื่องอินเดีย
เบลล์ กันเนส ยูนาบอมเบอร์ เอล ชาโป
ผีภาคเหนือ ผีภาคอีสาน ผีญี่ปุ่น
เมืองอาถรรพ์ เรื่องเล่าเดอะช็อค มนุษย์กินคน

โจโจ้ซัง แม้เป็นเพียงเกอิชาก็ขอมีรักแท้ กินอยู่แบบนาฬิกาชีวิต พิชิตไวรัสได้อย่างไร โรคไตวายที่ไม่ควรมองข้าม อาการชาจากปลายประสาทอักเสบ โรคกระดูกสันหลังตีบรัดเส้นประสาท ฮาเร็มในเรือนไทย ไฮดี้ คลุม ปิดฉากความรักกับเจ้าชายอสูร 10 อันดับพระผงพิมพ์นิยมที่นักสะสมใฝ่ฝัน

บทความเมนูอาหาร บทความภัยอันตราย บทความสุขภาพ บทความวิทยาศาสตร์ บทความสยองขวัญ บทความชีวิตสัตว์ บทความประวัติศาสตร์ บทความจัดอันดับ สารบัญบทความ

9 วิธีบำรุงตับ

9 วิธีบำรุงตับ

เชื่อไหมว่า "ตับ" คืออวัยวะที่ทำงานหนักที่สุดในร่างกาย ตับมีหน้าที่หลายอย่าง ได้แก่ สร้างระบบภูมิคุ้มกัน ขับของเสียออกจากร่างกาย แถมต้องทำงานหนักไม่หยุดตลอดอายุขัยของเรา มาดู 9 วิธีที่ช่วยบำรุงและดูแลรักษาตับกัน

1. ดื่มกาแฟวันละแก้ว
ถ้าคุณดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ ให้ดื่มกาแฟวันละแก้ว เพื่อลดโอกาสที่จะเป็นโรคตับแข็งได้ 22 เปอร์เซ็นต์ มีงานวิจัยในแคลิฟอร์เนียพบว่า คาเฟอีนจะทำปฏิกิริยากับเซลล์ในตับ เพื่อป้องกันการถูกทำลายจากแอลกอฮอล์



2. นวดกดจุดเท้า
การแพทย์จีนเชื่อว่าการกดจุดบำบัดมีผลต่ออวัยวะภายใน และการกดจุดระหว่างหัวแม่เท้ากับนิ้วชี้จะช่วยเพิ่มความร้อนในร่างกาย ช่วยให้เลือดไหลเวียนและช่วยแบ่งเบาภาระหน้าที่ของตับได้

3. รักษาการนอนกรน
มีงานวิจัยพบว่าภาวะการขาดออกซิเจนตอนนอน ส่งผลให้ตับถูกทำลายไปทีละนิดได้ ใครมีปัญหานอนกรนอยู่ รีบปรึกษาหมอดีกว่านะ

4. ทำ SDP Test
SDP ย่อมาจาก Standard Detoxification Profile คือการตรวจวัดระดับการขับของเสียของตับ โดยตรวจจากปัสสาวะหรือน้ำลาย เพื่อดูว่าตอนนี้ตับเราทำงานได้สมบูรณ์หรือบกพร่องตรงไหนหรือไม่ โดยเฉพาะคนที่ดื่มแอลกอฮอล์หนักๆ หรือมีอาการอ่อนเพลียผิดปกติควรไปตรวจด่วน

5. เดินหนึ่งชั่วโมงให้ได้ทุกอาทิตย์
การออกกำลังกายช่วยเพิ่มการผลิตเอนไซม์ในตับ สำหรับนำไปช่วยกระบวนการย่อยในลำไส้ ไปซ่อมแซมร่างกายส่วนที่สึกหรอ

6.ลดการกินแป้ง
งานวิจัยจากสถาบันการแพทย์เซาธ์เวสเทิร์น ในรัฐเท็กซัสพบว่า เมื่อเราลดการบริโภคคาร์โบไฮเดรต ร่างกายจะดึงเอาไขมันจากตับมาใช้เพิ่มเป็นสองเท่า และลดโอกาสการเป็นโรคตับได้

7. กินหน่อไม้ฝรั่งบ้าง
พืชประเภทหัวหรือหน่ออย่างบร็อคโคลี่ หรือหน่อไม้ฝรั่ง จะหลอกให้ตับปล่อยเอนไซม์ขับพิษออกมามากขึ้น นักวิจัยจากมหาลัยเจจูในเกาหลีใต้ยังพบอีกด้วยว่า เซลล์ตับจะเปิดรับแอลกอฮอล์ลดลงถึง 70 เปอร์เซ็นต์ เมื่อร่างกายได้รับสารอาหารในหน่อไม้ฝรั่ง และยังเพิ่มการขับกรองแอลกอฮอล์ออกจากร่างกายได้มากเป็นสองเท่าอีกด้วย

8. กินอาหารที่มีธาตุสังกะสี
เพราะแร่ธาตุสังกะสีเป็นตัวสำคัญในกระบวนการทำงานของตับ และคนเรามักจะขาดธาตุสังกะสี เพราะร่างกายของคนเราไม่สามารถสังเคราะห์ธาตุสังกะสีได้เอง



9. ลดการดื่มแอลกอฮอล์
ด็อกเตอร์ลาจิฟ ชาลาน ผู้เชี่ยวชาญเรื่องตับในลอนดอนบอกว่า "เมื่อคุณดื่มแอลกอฮอล์เข้าไป มันจะไปทำลายตับทีละนิด เมื่อตับถูกทำลายถึงจุดหนึ่ง ไม่ว่าหลังจากนั้นคุณจะดื่มไวน์วันละ 1 แก้ว หรือ 1 ขวด ตับจะถูกทำลายเท่ากัน ดังนั้นแทนที่จะคิดว่าดื่มวันละนิดไม่เป็นไร คุณคิดผิด พยายามงดดื่มบ้าง เว้นช่วงให้ตับพักผ่อนจะดีกว่า"

สรรพคุณรากสามสิบ สรรพคุณตะลิงปลิง สรรพคุณอะเซอโรลา
สรรพคุณดาวอินคา สรรพคุณหมามุ่ย สรรพคุณกวาวเครือ
สรรพคุณถั่งเช่า สรรพคุณมะเฟือง สรรพคุณใบเตย
สรรพคุณดอกอัญชัน สรรพคุณเหงือกปลาหมอ สรรพคุณชาเขียว
สรรพคุณเห็ดหลินจือ สรรพคุณพลูคาว สรรพคุณเถาวัลย์เปรียง
สรรพคุณหอมแดง สรรพคุณพริก สรรพคุณฟักข้าว
สรรพคุณสมุนไพร เครื่องดื่มต้านมะเร็ง สรรพคุณมะระ
สมุนไพรครัวเรือน สรรพคุณผักสวนครัว สมุนไพรรักษาโรค
สมุนไพรแก้ปวดเมื่อย สมุนไพรผิวขาว สรรพคุณมะหาด
สมุนไพรแก้มะเร็ง สมุนไพรรักษาสิว สมุนไพรรากสามสิบ
อาหารญี่ปุ่น อาหารจีน อาหารไทย
อาหารเวียดนาม อาหารลาว อาหารอาเซียน
ขนมญี่ปุ่น อาหารจานยักษ์ เมนูราเม็ง
อาหารบนรถไฟ ไอติมญี่ปุ่น เมนูสุขภาพ
ราเม็งญี่ปุ่น การทำชีส อาหารบนทางด่วน
ร้านราดหน้า ร้านข้าวขาหมู ร้านบะหมี่เกี๊ยว
ร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อ ร้านกระเพาะปลา ร้านสุกี้
ร้านโจ๊ก ร้านต้มเลือดหมู ร้านกุ้งอบวุ้นเส้น
ร้านข้าวต้มปลา เมนูติ่มซำ กับข้าวญี่ปุ่น
ของไหว้สารทจีน หม้อไฟญี่ปุ่น เมนูซูชิ
ซูชิยอดนิยม อาหารแปลกญี่ปุ่น อาหารแปลกทั่วโลก
ร้านฉวาง โกยซีหมี่ ขนมหวานเยอรมัน
เมนูเครื่องดื่ม ขนมไทยโบราณ ก๋วยเตี๋ยวปากหม้อ
ขนมไทยมงคล ช็อคโกแลตชีสเค้ก เนื้อวากิว

บทความแนะนำ

ฟื้นชีวิตหลังคืนดื่มหนัก ทำไมท่อน้ำดีจึงอุดตัน ทานอาหารล้างพิษ Mesotherapyรูปร่างสวยสมส่วน ขลิบปลายอวัยวะเพศชายแบบไม่เจ็บด้วย Prepex ถามตอบคำถามการเสริมเต้านม ถามตอบปัญหาผิวหย่อนคล้อย ถามตอบปัญหาริ้วรอยใต้ดวงตากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

บทความเมนูอาหาร บทความภัยอันตราย บทความสุขภาพ บทความวิทยาศาสตร์ บทความสยองขวัญ บทความชีวิตสัตว์ บทความประวัติศาสตร์ บทความจัดอันดับ สารบัญบทความ

ขุนศึกหญิงแดนมังกร มู่กุ้ยอิง หวางชิงเอ๋อ และฮัวมู่หลาน

ขุนศึกหญิงแดนมังกร มู่กุ้ยอิง หวางชิงเอ๋อ และฮัวมู่หลาน


มีนักรบชายมากมายถูกจารึกชื่อไว้ในประวัติศาสตร์จีน ว่าเป็นผู้กล้าที่ยอมสละเพื่อชาติ แต่แทบไม่มีใครรู้เลยว่าเบื้องหลังยังมีขุนศึกหญิงที่ทำหน้าที่เป็นลมใต้ปีกช่วยให้พวกเขาเอาชนะศึกอีกหลายคน วีรกรรมของขุนศึกหญิงเหล่านี้ไม่ได้มาจากความต้องการในลาภยศ แต่พวกเธอออกรบก็เพราะรักผู้ชายของเธอเท่านั้น



ในบรรดาจอมทัพหญิงที่โด่งดังและน่าจะถูกจดจำได้มากที่สุด คงต้องยกให้บรรดาแม่ม่ายแห่งตระกูลหยาง นำทีมโดยเสอไช่ฮัว แม่ผัวผู้เก่งกาจ นางเกิดในสมัยที่ราชวงศ์ซ่งกำลังตกต่ำถึงขีดสุด ราชสำนักวุ่นวายเต็มไปด้วยการปัดแข้งปักขาชิงดีชิงเด่น ท้องพระคลังก็ถูกขุนนางโกงกินตอดคนละหนุบละหนับจนพรุน เมื่อส่วนกลางอ่อนแอ ก็เป็นโอกาสให้ศัตรูตลอดกาลอย่างแมนจูและแคว้นเหลียวตง (ชี่ตัน) ยกทัพมาประชิดชายแดนอยู่เสมอ จนต้าซ่งต้องรับทั้งศึกนอกและศึกในเป็นพัลวัน เสอไช่ฮัวเป็นจอมยุทธหญิงแห่งเมืองซีเหลียง แต่วันหนึ่งชีพจรลงเท้าพาให้นางเดินทางเข้าเมืองชายแดนที่หยางเย่แม่ทัพหนุ่มตระกูลหยางดูแลอยู่ พอหยางเย่เห็นเสอไช่ฮัวก็คิดว่าสวยๆ อย่างนี้คงจะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากไส้ศึก เลยเกิดการพะบู๊กันตามธรรมเนียม


ปรากฏว่าแม่ทัพหยางผู้เก่งกาจกลับพ่ายแพ้แม่เสือสาวจนหมดรูป และไม่ได้แพ้แค่ครั้งเดียว แต่ถูกเสอไช่ฮัวเอาชนะไปได้ถึงสามครั้งสามครา เล่นเอาหยางเย่แทบไม่อยากเป็นผู้เป็นคน จึงขอให้เสอไช่ฮัวฆ่าเขาเสีย แต่เสอไช่ฮัวประทับใจในความกล้าหาญ และมีน้ำใจนักกีฬาที่แพ้แล้วไม่พาลของหยางเย่ก็เลยทำเปรี้ยวขอฝากเนื้อฝากตัวเป็นภรรยาเสียเลย

หลังจากเป็นสะใภ้ตระกูลหยางแล้ว เสอไช่ฮัวก็เคียงข้างสามีนำทัพออกรบกับเหลียวตงหลายครั้ง เปิดศักราชผู้หญิงเก่งแห่งแผ่นดินซ่งขึ้นเป็นครั้งแรก แม่เสือสาวยังผลิตลูกเสือให้ตระกูลหยางถึง 7 ตัว จวบจนลูกเสือทั้ง 7 รวมถึงพ่อเสือต่างก็พลีชีพเพื่อชาติกันจนหมด เสอไช่ฮัวก็เป็นเสาหลักของบ้าน ก่อตั้งกองทัพตระกูลหยางขึ้นมา โดยมีลูกสะใภ้ช่วยกันคนละไม้ละมือ

ในบรรดาสะใภ้ม่ายทั้ง 7 ของตระกูลหยาง คนที่โดดเด่นและโด่งดังที่สุดคือมู่กุ้ยอิง ซึ่งชำนาญทั้งเรื่องรบทัพจับศึกและการวางแผนค่ายคูประตูกล ความสามารถของมู่กุ้ยอิงนั้นเรียกว่ากินขาดแม่ทัพชายในสมัยนั้นเลยทีเดียว แม้แต่พวกเหลียวตงซึ่งรบเก่งนักเก่งหนาก็ยังเกรงขามในฝีมือของนาง เพียงแค่ได้ยินว่ามู่กุ้ยอิงนำทัพมาด้วยตนเอง ข้าศึกก็หัวหดหมดอารมณ์รบไปตามๆ กัน

มู่กุ้ยอิงเป็นภรรยาของหยางจงเป่า ลูกชายคนที่สี่ของเสอไช่ฮัวกับหยางเย่ แต่ชาติกำเนิดของนางไม่ค่อยจะเชิดหน้าชูตาสามีเท่าไหร่นัก เนื่องจากนางเป็นลูกสาวของหัวหน้าโจรแห่งค่ายมูเคอ ในเวลานั้นราชวงศ์ซ่งตกอยู่ใต้อิทธิพลของขุนนางกังฉิน ราษฎรที่ทนการขูดรีดของทางการไม่ไหวจึงหนีเข้าป่าไปเป็นโจรกันมากมาย แต่โจรตระกูลมู่พิเศษกว่าหัวขโมยค่ายอื่นตรงที่เป็นโจรโรบินฮู้ด ชอบปล้นคนรวยมาจุนเจือคนจน เป็นที่ศรัทธาของชาวบ้านจนมีคนมาขอพึ่งใบบุญกันไม่ขาดสาย ทำให้ค่ายมูเคอกลายเป็นค่ายโจรที่ทรงอิทธิพลที่สุดแห่งหนึ่ง

ตำนานรักของมู่กุ้ยอิงกับหยางจงเป่าเริ่มขึ้นเมื่อทัพของหยางเย่ถูกทัพเหลียวตงใช้วิชาไสยศาสตร์ล้อมไว้ หยางจงเป่าลอบหนีออกมาเพื่อมาเอาไม้มังกรของวิเศษประจำค่ายมู่เคอไปช่วยหยางเย่ แต่มู่กุ้ยอิงเป็นคนเฝ้าไม้มังกรอยู่ ทั้งสองจึงต่อสู้กัน มู่กุ้ยอิงเป็นฝ่ายชนะ แต่มู่กุ้ยอิงไม่ฆ่าหยางจงเป่าทิ้ง นางยกไม้มังกรให้โดยแลกกับการที่หยางจงเป่าต้องมาเป็นสามีของนาง

ถึงแม้มู่กุ้ยอิงจะเก่งกาจทั้งบู๊และบุ๋นซึ่งโดดเด่นกว่าหยางจงเป่ามาก แต่คลอดเวลาที่สามียังมีชีวิตอยู่ นางกลับทำตัวเป็นช้างเท้าหลัง คอยดูแลบ้านช่องช่วยเหลือหยางจงเป่าอย่างเงียบๆ โดยไม่แสดงความเก่งให้คนออกมาสบประมาทสามีได้เลย จึงเรียกได้ว่ามู่กุ้ยอิงวางตัวได้เหมาะสมกับการเป็นศรีภรรยาอย่างแท้จริง

ตอนปลายราชวงศ์ซ่ง แผ่นดินจีนก็ถูกทหารแมนจูกรีธาทัพเข้ามายึดครอง แล้วเริ่มศักราชราชวงศ์ชิงขึ้นมา ชาวฮั่นซึ่งเป็นเจ้าของแผ่นดินเดิมต้องกลายเป็นพลเมืองชั้นสอง ทุกคนถูกสั่งให้โกนผมครึ่งศรีษระตามวัฒนธรรมแมนจู ทำให้ชาวฮั่นไม่ยอมรับ มีการตั้งกองกำลังใต้ดินต่อต้านราชวงศ์ชิงไปทั่วประเทศ โดยมีกลุ่มกบฏที่แข็งแกร่งที่สุดนามว่า พรรคบัวขาวเป็นหัวหอกสำคัญ

ตอนแรกพรรคบัวขาวประกอบไปด้วยคนหนุ่ม ที่มีฝีมือรบและอุดมการณ์กล้าแข็งจำนวนมาก แต่ต่อมาก็มีจอมยุทธ์หญิงเกิดขึ้นอีกหลายคน เช่น หวางชงเอ๋อ โจวซิ่วอิง เป็นต้น หวางชงเอ๋อเป็นภรรยาของฉีหลิน จอมยุทธหนุ่มผู้เคร่งขรึม และเป็นหนึ่งในลัทธิบัวขาว แต่ชะรอยฉีหลินจะขรึมจริงอะไรจริงมากไป เลยพูดน้อยจนลืมบอกคนรักว่าตัวเองเป็นหัวหน้าผู้ก่อการร้ายที่ทางการกำลังหมายหัวอยู่ กว่าหวางชงเอ๋อจะรู้ก็หลวมตัวแต่งงานเข้าหอกับจอมยุทธฉีหลินไปเรียบร้อยแล้ว

หวางชงเอ๋อเมื่อรู้แล้วก็เข้าใจแต่โดยดีและให้อภัยในความจำเป็นของสามี หลังจากนั้นนางก็รับหน้าที่เป็นครูฝึกกองกำลังใต้ดินให้พรรคบัวขาว เนื่องจากหวางชงเอ๋อมีวรยุทธสูงส่งมาก ขนาดสามีที่ว่าแน่ๆ ยังสู้ไม่ได้ สองผัวเมียเสี่ยงชีวิตทำงานเพื่อชาติอยู่หลายปี จนกระทั่งฉีหลินเสียทีถูกทหารฆ่าตายไป หวางชงเอ๋อจึงสืบทอดอุดมการณ์กอบกู้บ้านเมืองต่อจากสามีเพียงลำพัง

หวางชงเอ๋อกลายเป็นแม่ทัพคนใหม่ของลัทธิ แม้จะเป็นหญิงแต่ประสบการณ์และฝีมือทำให้นางได้รับการยอมรับเทียบเท่าฉีหลินเลยทีเดียว วิธีบัญชาการของหวางชงเอ๋อนั้นเน้นหนักในทางใช้สมองมากกว่ากำลัง โดยใช้กลยุทธแบบกองโจร ลอบปล้นเสบียงบ้าง เผาค่ายทหารบ้าง จนกองทัพต้าชิงระส่ำระสาย อย่างไรก็ตามไม่ว่าหวางชิงเอ๋อจะเก่งแค่ไหนแต่น้ำน้อยก็ย่อมแพ้ไฟเป็นธรรมดา หลังจากตามล้างตามเช็ดกันอยู่หลายปี ในที่สุดทหารชิงก็สามารถกวาดล้างพรรคบัวขาวได้อย่างเบ็ดเสร็จ หวางชิงเอ๋อและพรรคพวกพลีชีพไปในการรบ เหลือไว้เพียงชื่อเสียงและตำนานเล่าขานมาจนถึงปัจจุบัน ถ้าหากนักท่องเที่ยวคนไหนไปเยี่ยมชมอนุสาวรีย์นักรบพรรคบัวขาวที่เมืองซีอาน จะได้เห็นรูปแกะสลักของหวางชิงเอ๋อและฉีหลิน พร้อมเหล่าผู้กล้าในยุคนั้นครบทีม

นักรบหญิงคนสำคัญของแผ่นดินจีนอีกท่านหนึ่ง เป็นวีรสตรีชื่อดังที่ฮอลลีวู้ดยังซูฮกให้ก็คือฮัวมู่หลาน ยอดหญิงนักแปลงโฉมเพราะสามารถปลอมเป็นผู้ชายออกรบได้นานหลายปีโดยที่ผู้ชายแท้ๆ ก็ยังจับไม่ได้ ประวัติของฮัวมู่หลานคลุมเครือกว่าบรรดาสาวๆ ตระกูลหยางตรงที่ไม่มีการบันทึกแน่ชัดว่าเธออยู่ในสมัยใด บ้างก็ว่าราชวงศ์ถังแต่นักประวัติศาสตร์บางคนคิดว่าน่าจะเป็นราชวงศ์สุยแเพราะเป็นช่วงเวลาที่ฮั่นถูกรุกรานจากชนเผ่านอกกำแพงใหญ่บ่อยครั้งที่สุด จนกองทัพต้องระดมพลครั้งใหญ่ และมีคำสั่งให้ราษฎรทุกบ้านต้องส่งผู้ชายไปเป็นทหารหนึ่งคน


ขณะนั้นบิดาของฮัวมู่หลานอายุมากแล้ว ส่วนน้องชายก็ยังเด็ก ฮัวมู่หลานจึงตัดสินใจปลอมตัวเป็นชายไปรายงานตัวกับกองทัพซะเอง นางกินนอนและร่วมรบกับเพื่อนทหารชายอกสามศอกอยู่หลายปี ประกอบวีรกรรมสร้างความดีความชอบไว้ไม่น้อย จวบจนสามารถขับไล่ศัตรูนอกด่านให้ถอยร่นไปได้ ฮัวมู่หลานก็ปลดประจำการกลับไปบ้านตามเดิม



วันหนึ่งพื่อนทหารที่เคยร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่กันมาเกิดอยากจะจัดงานคืนสู่เหย้าก็เลยยกโขยงกันมาเยี่ยมฮัวมู่หลานถึงบ้าน จนได้รู้ความจริงว่าพลทหารฮัวที่คลุกคลีเล่นหัวกันมานั้น แท้ที่จริงเป็นสาวน้อยหน้าใสที่มีหัวใจกล้าแกร่งไม่แพ้ชายชาตรี หลังจากหายตกใจกันแล้วเพื่อนๆ ของฮัวมู่หลานก็เล่าลือกันไปปากต่อปาก จนวีรกรรมและความกตัญญูของฮัวมู่หลานขจรขจายไปทั่วแผ่นดิน

ความรักเป็นสิ่งที่ทรงอานุภาพที่สุดในโลกสำหรับผู้หญิงบางคน ความรักเป็นโลกทั้งใบของเธอก็ว่าได้ มันทำให้พวกเธอไม่กลัวที่จะต้องเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายในสมรภูมิเพื่อเกียรติภูมิของผู้ชายของเธอ เฉกเช่นแม่ทัพหญิงตระกูลหยาง นักรบพรรคบัวขาว และฮัวมู่หลานนั่นเอง

กษัตริย์เกาหลี จักรพรรดิกวางสี จักรพรรดิปูยี
ตำนานอโดนิส โจนออฟอาร์ค มู่กุ้ยอิง
จักรพรรดิเนโร พระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 อับราฮัม ลินคอล์น
พระเจ้าซุกจง มาตาฮารี เจ้าฟ้าหญิงบุญรอด
ตำนานธอร์ นิกิต้า ครุสชอฟ สงครามเกาหลี
กำแพงเมืองจีน อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ พระนางเลือดขาว
อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ สตีเฟน ฮอว์คิง ลีโอ ตอลสตอย
สตีฟ จ็อบส์ เจ้าพระยาวิชเยนทร์ พระนางมัสสุหรี
สัตว์มีพิษ ไวรัสอีโบลา เอเลี่ยนสปีชี่ส์
กำเนิดจักรวาล กำเนิดดวงอาทิตย์ ระบบสุริยะจักรวาล
ปริศนาของจักรวาล การเดินทางข้ามกาลเวลา สสารและปฏิสสาร
สิ่งมีชีวิตบนดาวอังคาร บิ๊กแบงคืออะไร สัตว์ใกล้สูญพันธุ์
สัตว์น้ำแปลก ปลาแองเกลอร์ สัตว์ดูดเลือด
อันดับงูสวยงาม อนาคอนด้า ตัวอ่อนปลาฉลาม
เห็ดมีพิษ ภัยของยาไอซ์ คลื่นยักษ์สึนามิ
กัญชาปลอดภัย ไวรัสอีโบลา ปรสิตที่น่ากลัว
สาเหตุสึนามิ ทำไมผมร่วง สงครามซีเรีย
ทำลายหลุมดำ โลกของเรา กระแสน้ำทะเล
วิธีทำลายเอกภพ กลไกวิวัฒนาการ ระบบภูมิคุ้มกัน
เล่าเรื่องผี เรื่องสยองขวัญ เรื่องผี
ฆาตกรโหด ฆาตกรต่อเนื่อง ฆาตกรโรคจิต
ผีนานาชาติ ผีปีศาจ พระธุดงค์เจอผี
โจนเบเน็ต คดีเพชรซาอุ เดวิด เบอร์โควิด
ซอว์นี่ บีน ฆาตกรโหดเมืองไทย อลิซาเบธ บาโธรี่
ฆาตกรฆ่าคนมากที่สุด คดีกักขังหน่วงเหนี่ยว คดีวิตถาร
คดีพิศวาสฆาตกรรม ฆาตกรเด็ก คดีฆ่าหั่นศพ
ยโศโฆษาฆาต แจ๊คเดอะริปเปอร์ ฆาตกรต่อเนื่องอินเดีย
เบลล์ กันเนส ยูนาบอมเบอร์ เอล ชาโป
ผีภาคเหนือ ผีภาคอีสาน ผีญี่ปุ่น
เมืองอาถรรพ์ เรื่องเล่าเดอะช็อค มนุษย์กินคน

บทความแนะนำ

ยอดนักรบโคตรนักฆ่า 2,746 ศพ เทศกาลตำนานวันปล่อยผี ตัวอ่อนปลาฉลามสุดโหด เป็นนักฆ่าตั้งแต่อยู่ในท้องแม่ ภาพอดีตของคนดังฮอลลีวู้ด เมแกน ฟ็อกซ์ แมลงชีปะขาว ตายเพื่อรัก ภาพพระจันทร์เต็มดวงในสถานที่ต่างๆ ทั่วโลก มาร์กาเร็ต & โคซิโม คู่รักคู่แค้นแห่งทัสคานี ของชำร่วยโชคดีที่สุดต้อง "อัลมอนด์"

บทความเมนูอาหาร บทความภัยอันตราย บทความสุขภาพ บทความวิทยาศาสตร์ บทความสยองขวัญ บทความชีวิตสัตว์ บทความประวัติศาสตร์ บทความจัดอันดับ สารบัญบทความ

Popular Posts