เขาเป็นหนึ่งในฆาตกรที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์อาชญากรรม ว่ากันว่าพ่อของเขาเป็นคนติดเหล้าและไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตามเขาจะเปลื้องผ้าและทุบตีพวกเขาเพื่อสงบสติอารมณ์ ลักษณะทางกายภาพของ Pomeroy เป็นแรงบันดาลใจให้เกิดความกลัว เขาแข็งแกร่งเกินไปสำหรับอายุของเขา ใบหน้าของเขาดูไม่สวยงาม ตาขวาของเขาไม่มีม่านตาหรือรูม่านตาซึ่งทำให้เขาดูน่ากลัว การโจมตีของ Pomeroy มุ่งเป้าไปที่เด็กที่อายุน้อยกว่าเขา เขากระทำการทารุณกรรมและการทำร้ายร่างกายโดยฝังเข็มลงในร่างเหยื่อของเขา เบาะแสในการค้นหาเขาถูกพบอย่างรวดเร็วเพราะดวงตาสีขาวสนิทของเขาทำให้เขาจำได้ง่าย หลังจากที่เขาถูกระบุตัวโดยหนึ่งในเหยื่อของเขาเขาก็ถูกจับกุม เมื่อเขาถูกขอให้อธิบายเขาก็บอกว่า“ ฉันช่วยไม่ได้” คำพิพากษาระบุว่าเขาควรอยู่ในสภาปฏิรูปจนถึงอายุ 18 ปี
แต่เมื่ออายุ 14 ปี Pomeroy ได้รับการปล่อยตัวตามเงื่อนไข จากนั้นการฆาตกรรมที่โหดร้ายของเขาก็เริ่มขึ้น เขาถูกจับอีกครั้งและแม่ของเขาต้องขายร้านเสื้อผ้าของเธอเพราะทุกคนที่รู้เรื่องนี้หลีกเลี่ยงเธอ เมื่อเริ่มปรับปรุงพวกเขาพบศพของหญิงสาวถูกฝังอยู่ในกองขี้เถ้าที่ชั้นใต้ดินของร้าน Pomeroy ถูกตัดสินประหารชีวิตเมื่อวันที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2417 และถูกตัดสินประหารชีวิตด้วยการแขวนคอ แต่ไม่มีผู้ว่าการคนใดกล้าลงนามในคำพิพากษาประหารชีวิตเด็กชายอายุสิบสี่ปี ไม่มีแบบอย่างในประวัติศาสตร์อาชญากรรม เขาได้รับโทษจำคุกตลอดชีวิตในสภาพที่แยกจากกันโดยสิ้นเชิง คนเดียวที่มาเยี่ยมเขาคือแม่ของเขา ในปีพ. ศ. 2460 หลังจากแยกตัวออกไป 43 ปีเขาได้รับอนุญาตให้รวมตัวกับนักโทษคนอื่น ๆ เขาใช้เวลาสองปีสุดท้ายของชีวิตที่เต็มไปด้วยโรคร้ายและความทุกข์ทรมานอย่างแท้จริง เขาเสียชีวิตเมื่อวันที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2475 โดยไม่สำนึกผิดต่ออาชญากรรมที่เขาก่อขึ้น
ฆาตกรต่อเนื่อง Gilles De Rais
ฆาตกรต่อเนื่องหญิง อลิซาเบธ บาโธรี่
หมอฆาตกรต่อเนื่อง เอช. เอช. โฮล์มส์
ฆาตกรต่อเนื่อง Jesse Harding Pomeroy
ฆาตกรต่อเนื่อง แจ็คเดอะริปเปอร์
ฆาตกรต่อเนื่อง คาร์ล กรอสมันน์
ฆาตกรต่อเนื่อง Henri Landru
ฆาตกรต่อเนื่อง Albert Fish
ฆาตกรต่อเนื่อง เบล่าคิส
ฆาตกรต่อเนื่อง Fritz Haarmann
ฆาตกรต่อเนื่อง Peter Kürten
ฆาตกรต่อเนื่อง คาร์ล แพนซ์แรม
ฆาตกรต่อเนื่อง Joe Ball
ฆาตกรต่อเนื่อง Marcel Petiot
ฆาตกรต่อเนื่อง John Reginald Halliday Christie
ฆาตกรต่อเนื่อง เอ็ดไกน์
ฆาตกรต่อเนื่อง John George Haigh
ฆาตกรต่อเนื่อง Josef Mengele
ฆาตกรต่อเนื่อง ฮาร์วีย์กลาทแมนเมอร์เรย์
ฆาตกรต่อเนื่อง Albert DeSalvo
ฆาตกรต่อเนื่อง Juan Vallejo Corona
ฆาตกรต่อเนื่อง Charles Manson
ฆาตกรต่อเนื่อง Andrei Chikatilo
ฆาตกรต่อเนื่อง John Wayne Gacy
ฆาตกรต่อเนื่อง Manuel Delgado Villegas
ฆาตกรต่อเนื่อง เดนนิส เรเดอร์ฆาตกร BTK
ฆาตกรต่อเนื่อง Arthur Shawcross
ฆาตกรต่อเนื่อง เดนนิส นิลเซน
ฆาตกรต่อเนื่อง Harold Shipman
ฆาตกรต่อเนื่อง Peter Sutcliffe
ฆาตกรต่อเนื่อง เท็ดบันดี้
ฆาตกรต่อเนื่อง Ottis Elwood Toole
ฆาตกรต่อเนื่อง เปโดร อลอนโซ โลเปซ
ฆาตกรต่อเนื่อง Ed Kemper นักฆ่า Co-ed
ฆาตกรต่อเนื่อง โรเบิร์ตเบอร์เดลลา
ฆาตกรต่อเนื่อง Gary Ridgway
ฆาตกรต่อเนื่อง Richard Chase
ฆาตกรต่อเนื่อง Kenneth Alessio Bianchi
ฆาตกรต่อเนื่อง Donato Bilancia
ฆาตกรต่อเนื่อง David Berkowitz
ฆาตกรต่อเนื่อง Aileen Carol Wuornos
ฆาตกรต่อเนื่อง Javed Iqbal
ฆาตกรต่อเนื่อง Luis Alfredo Garavito
ฆาตกรต่อเนื่อง José Antonio Rodriguez Vega
ฆาตกรต่อเนื่อง โจเอล ริฟกิ้น
ฆาตกรต่อเนื่อง Anatoly Onoprienko
ฆาตกรต่อเนื่อง Richard Ramírez
ฆาตกรต่อเนื่อง Jeffrey Lionel Dahmer
ฆาตกรต่อเนื่อง Adolfo de Jesús Constanzo
ฆาตกรต่อเนื่อง Thierry Paulin
10 โรงเรียนมัธยมผีสิงมากที่สุด
ตอนที่ฉันเรียนมัธยม ฉันเห็นผี หรืออย่างน้อย ฉันคิดว่าฉันเห็นผี เย็นวันหนึ่ง ทางโรงเรียนกำลังจัดกิจกรรมหาทุน และฉันได้เข้าร่วมกลุ่มเพื่อนร่วมชั้นที่มุ่งหน้าไปยังห้องเรียนชั่วคราวที่อยู่อีกฟากของอาคารเพื่อรับเก้าอี้พับ เมื่อเข้าใกล้ห้องเรียน เราเห็นใบหน้าสีเขียวกดทับด้านในของหน้าต่างบานหนึ่งท่ามกลางแสงสลัวยามค่ำคืน ไม่ต้องพูดเลย เราไม่ต้องเสียเวลาไปไล่มันออกจากที่นั่น วันรุ่งขึ้น หลังจากรวบรวมความกล้าที่จะเข้าห้องเรียนอีกครั้งก่อนระฆังแรกดังขึ้น เราก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา (ส่วนใหญ่โล่งใจ) เมื่อเห็นว่ามันเป็นสีเขียว หน้ากากยางถูกกดทับด้านในของหน้าต่าง แต่บางครั้ง มันไม่ใช่แค่หน้ากากฮัลโลวีนที่น่ากลัว ในรายการนี้มีเรื่องราวหลอนๆ หลอนๆ ในโรงเรียนมัธยม ซึ่งบางเรื่องก็น่ากลัวกว่าเรื่องอื่นๆ ที่ยังคงสร้างข่าวลืออยู่เป็นระยะๆ
วิทยาลัยสตรี Turakina M?ori ประเทศนิวซีแลนด์
ในปี 2015 นักเรียนสองคนขึ้นเครื่องที่วิทยาลัยหญิงทูราคินาเมารีออกจากโรงเรียนและปฏิเสธที่จะกลับมาหลังจากถูกกล่าวหาว่าถูกคุกคามโดยการปรากฏตัวของชายในชุดคลุมสีดำและหมวก ในไม่ช้าก็มีการเปิดเผยว่าผู้บริหารโรงเรียนกล่าวหาว่าเด็กหญิงสองคนสร้างเรื่องราวขึ้นมา ซึ่งทำให้พ่อแม่ของพวกเขาเข้าไปพัวพันและอารมณ์เสียในการจัดการกับเรื่องนี้ ผู้ปกครองบางคนกล่าวว่าผู้บริหารโรงเรียนปฏิเสธเรื่องผี (kehua) ที่หลอกหลอนหอพักของโรงเรียนและยังแสดงปฏิกิริยาอย่างโกรธเคืองเมื่อผู้นับถือในท้องถิ่นแนะนำว่าผีถูกสร้างขึ้นโดยเด็กผู้หญิง อดีตนักเรียนคนหนึ่งเล่าถึงประสบการณ์ของตัวเองที่หอพักแห่งนี้เมื่อ 20 ปีที่แล้ว Kelly Sliepen วัยสามสิบแปดปีบอกกับสำนักข่าวท้องถิ่นว่าเมื่อตอนที่เธอยังเป็นนักเรียน เธอและเพื่อนร่วมชั้นกลุ่มหนึ่งเคยเห็นถ้วยวางบนโต๊ะด้วยตัวมันเองแล้วหล่นลงกับพื้น เธอบอกว่ามีรัฐมนตรีท้องถิ่นคนหนึ่งได้รับเรียกให้อวยพรอาคารนี้ แต่เธอเห็นการปรากฏตัวบนบันไดหลักหลังจากนั้นไม่นาน[1]โรงเรียนปิดตัวลงในปี 2016 หลังจากปัญหาทางการเงินทำให้จำนวนนักศึกษาลดลงจาก 152 คนเหลือเพียง 47 คน
โรงเรียนมัธยมฮิบบิง รัฐมินนิโซตา
Hibbing High ไม่ใช่อาคารเรียนกลองธรรมดาทั่วไปของคุณ ที่นี่ บันไดเป็นหินอ่อน ราวบันไดเป็นทองเหลือง และผนังสไตล์อาร์ตเดโครวมการออกแบบเกือบทั้งหมดในยุคกลางเข้าด้วยกัน หอประชุมจำลองตามโรงละคร Capitol ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวในตัวเอง และเมื่อบ็อบ ดีแลนยังเป็นโรเบิร์ต ซิมเมอร์แมนและเป็นนักเรียนที่ฮิบบิงไฮ เขาได้แสดงบนเวทีหอประชุมระหว่างการแสดงความสามารถ แต่ถึงแม้จะมีนักแสดงดังและการออกแบบที่น่าทึ่ง แต่ที่นั่งเดี่ยวภายในหอประชุมยังดึงดูดความสนใจได้มากที่สุด เรื่องมีอยู่ว่า บิล ผู้จัดการเวทีคนแรกที่ทำงานในโรงเรียนตั้งแต่ปี 2470 ถึงปลายทศวรรษ 1960 เมื่อเขาเสียชีวิตหลังจากโคมระย้าตกลงบนศีรษะของเขา ไม่นานก็มีข่าวลือว่าบิลไม่เคยลุกจากที่นั่งโปรดในโรงละครเลยจริงๆ คือ เจ -47. ในช่วงต้นทศวรรษ 90 ชัค เพอร์รี ซึ่งเคยเป็นผู้จัดการเวทีมาตั้งแต่ปี 2522 ได้ถ่ายภาพชุดของหอประชุมหลังจากที่ผู้หญิงคนหนึ่งรายงานว่ารู้สึกหนาวสั่นขณะที่เธอเดินไปรอบๆ แถว J-47 และดูเถิด หนึ่งในภาพถ่ายที่ถ่ายด้วยกล้องโพลารอยด์ แสดงให้เห็นชายคนหนึ่งนั่งอยู่ใน J-47 สวมเสื้อผ้าเป็นทางการและหมวกทรงสูง โอ้ และคุณสามารถมองเห็นได้ผ่านเขา
Downlands Sacred Heart College, ควีนส์แลนด์, ออสเตรเลีย
โรงเรียนมัธยมศึกษาในทูวูมบาแห่งนี้เคยถูกใช้เป็นบ้านพักทหารในช่วงสงคราม และด้วยเหตุนี้ เรื่องผีหลายเรื่องจึงผุดขึ้นมาเป็นจุดเด่นของโรงเรียน สิ่งเหล่านี้รวมถึงตำนานเมืองของชายที่ถูกไฟไหม้ การสะดุดและกรีดร้องของเขาไปทั่วมหาวิทยาลัย เรื่องราวของบาทหลวงที่ยังคงเดินเตร่อยู่ในโบสถ์ในสถานที่ และการปรากฏตัวของผู้หญิงคนหนึ่งที่ปรากฏตัวในอาคารบริหาร ในปี 2558 ผีในท้องถิ่น กลุ่มล่าสัตว์ได้เผยแพร่ภาพถ่ายชั้นเรียนประวัติศาสตร์ที่ถ่ายที่โรงเรียน ซึ่งพวกเขาเชื่อว่ามีผีอยู่ท่ามกลางกลุ่มเด็กผู้ชาย ร่างที่พร่ามัวที่ด้านขวาบนของรูปถ่ายดูเหมือนจะสวมเครื่องแบบเดียวกันกับนักเรียนคนอื่นๆ สามารถเห็นรูปถ่ายแขวนอยู่บนผนังภายในโรงเรียนและถือเป็นข้อพิสูจน์ของกิจกรรมผี
Old Maui High School, ฮาวาย
ด้วยการมาถึงของมิชชันนารีและเจ้าของไร่อ้อยในเมาอิ การก่อสร้างโรงเรียนมัธยมเมาอิในปี 1913 จึงได้ย้ายโรงเรียนไปในปี 1972 โดยปล่อยให้อาคารเก่าเริ่มเน่าเปื่อยอย่างช้าๆ วันนี้เหลือเพียงเปลือกของโครงสร้างที่เคยโอ่อ่า และเรื่องผีน่าขนลุกจำนวนหนึ่ง ในฮาวาย ความเชื่อทั่วไปคือผู้ที่เสียชีวิตจะกลับไปยังที่ที่พวกเขาเคยไปบ่อยๆ ที่ Old Maui High มีการกล่าวกันว่านักเรียนและครูบางคนยังคงเดินไปตามพื้นที่และบางครั้งก็มีปฏิสัมพันธ์กับคนเป็น มีรายงานว่านักเรียนสำรวจซากปรักหักพังของโรงเรียนเพียงเพื่อจะสำลักชีวิตด้วยมือที่มองไม่เห็น ผู้เยี่ยมชมพื้นที่ยังรายงานว่าได้ยินเสียงสะอื้นของหญิงสาวในห้องน้ำที่เคยเป็นห้องน้ำ
Rizal High School ประเทศฟิลิปปินส์
ฟิลิปปินส์เป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องผี และในปี 2015 มีผู้ถูกกล่าวหาว่าถ่ายภาพในห้องน้ำที่โรงเรียนมัธยม Rizal High School นักเรียนสองคนถ่ายรูปเซลฟี่หน้าอ่างและเดินไปตามทางอย่างสนุกสนาน จนกว่าพวกเขาจะทบทวนเซลฟี่ของตัวเองนั่นก็คือ ขณะที่พวกเขาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับความน่ารักที่พวกเขาดูในภาพ พวกเขาเห็นร่างในพื้นหลังหมอบอยู่ข้างถังขยะ เมื่อตรวจสอบอย่างใกล้ชิด ดูเหมือนเด็กผู้หญิงผมยาวสีดำสวมเสื้อผ้าสีดำจ้องมองเพื่อนซี้สองคน ไม่นานนักเซลฟี่ก็แพร่ระบาด และผู้ใช้โซเชียลมีเดียต่างพากันตะลึงในทันทีว่า "ผี" นั้นดูเหมือน Samara จาก The Ring มาก นักศึกษาปฏิเสธว่าไม่ได้แกล้งทำเป็นภาพถ่าย และนักเรียนจำนวนมากขึ้นก็เริ่มรายงานว่าพวกเขาได้เห็นผีในบริเวณโรงเรียน ฝ่ายบริหารของโรงเรียนในขณะนั้นถือว่าการให้อาคารนี้เป็นพรเพื่อกำจัดผีทั้งหมด
Old Portland High School, มิชิแกน
โรงเรียนมัธยมเก่าในพอร์ตแลนด์ ไอโอเนียเคาน์ตี้ รัฐมิชิแกน เปิดครั้งแรกในปี 2424 ตามตำนานเมืองที่มีมาช้านาน เด็กนักเรียนอายุ 14 ปีถูกทับเสียชีวิตภายใต้กองอัฒจันทร์ยิมที่ถล่มทับเธอในปี 2461 ภารโรง ที่ล้มเหลวในการซ่อมอัฒจันทร์หลังจากรู้ว่าผิดก็หายตัวไป เชื่อกันว่าพ่อของนักเรียนฆ่าภารโรงเพื่อแก้แค้นให้กับการตายของลูกสาวของเขา จากนั้นเขาก็เผาศพและจุดไฟเผาโรงเรียน โรงเรียนสร้างใหม่และเปิดใหม่ในปี 1920 อย่างไรก็ตาม วิญญาณของเด็กสาวและภารโรงยังคงอยู่ หลายทศวรรษต่อมา โรงเรียนได้เปลี่ยนเป็นอาคารพักอาศัยชื่อ Old School Manor มันทำหน้าที่เป็นที่อยู่อาศัยระหว่างปี 1992 ถึงปี 2008 และในช่วงเวลานี้ ผู้เช่าหลายรายรายงานว่าสิ่งของในครัวเรือนของพวกเขาจะหายไป เพียงเพื่อจะพบว่าวางซ้อนกันในอีกห้องหนึ่ง คนอื่นๆ รายงานว่าได้ยินเสียงระฆังของโรงเรียนดังขึ้น และบางคนก็พบวิญญาณของนักเรียนคนนั้นซึ่งถูกกล่าวหาว่าตบที่ด้านหลัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้เช่ารายหนึ่งมีประสบการณ์ที่น่ากลัวกับผีภารโรง เธอกล่าวหาว่าผีจะขู่ขวัญลูกสาววัยสองขวบของเธอและเรียกร้องให้เธอบอกแม่ของเธอว่าพวกเขาต้องย้ายออกจากอพาร์ตเมนต์
โรงเรียนมัธยมไนท์มิวท์ อลาสก้า
แม้ว่าโรงเรียนในอลาสก้าแห่งนี้จะไม่ได้ถูกหลอกหลอน แต่ชื่อนี้ก็น่าขนลุกพอที่จะรับประกันเรื่องที่น่าขนลุกหรือสองเรื่อง และเรื่องราวของเด็กสาวโดดเดี่ยวที่ผู้มาเยือนมักเล่าขานถึงกันมากที่สุด ว่ากันว่าวิญญาณของเด็กสาวคนหนึ่งถูกพบในห้องน้ำของโรงเรียน ซึ่งเธอล้างห้องน้ำหรือทำให้ไฟกะพริบ หากลูกบาสเกตบอลถูกทิ้งไว้ในโรงยิม คุณอาจเห็นพวกมันพุ่งเข้าหาห่วงซึ่งถูกขับเคลื่อนด้วยแรงที่มองไม่เห็น ในชีวิต ผู้หญิงคนนั้นไม่มีเพื่อนและจะเดินย่องไปรอบ ๆ ขอบของการรวมกลุ่มและกลุ่มก่อนที่จะถูกไล่ออก มีข่าวลือด้วยว่ามีการฝังศพใต้ห้อง 106 ซึ่งเป็นสถานที่ซึ่งมักจะพบเห็นผีของหญิงสาวด้วยเช่นกัน
Hwa Chong Institution ประเทศสิงคโปร์
หากคุณกำลังมองหาโรงเรียนผีสิงมากกว่าหนึ่งแห่งในประเทศเดียว อย่ามองข้ามสิงคโปร์ไป มีโรงเรียนผีสิงอย่างน้อย 20 โรง โดยหนึ่งในนั้นมีชื่อเสียงมากที่สุดคือ สถาบัน Hwa Chong ในบูกิตติมา โรงเรียนมัธยมแห่งนี้รายล้อมไปด้วยต้นไม้สูงใหญ่ ต้นไม้ต้นเดียวกันเหล่านี้ต้องหลีกเลี่ยงในตอนกลางคืน และไม่ควรฉายแสงไปทางกิ่งไม้ การทำเช่นนี้จะทำให้ร่างของผู้ที่ถูกสังหารและแขวนคอโดยกองกำลังญี่ปุ่นในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองปรากฏขึ้น และถ้านั่นยังไม่น่ากลัวพอ เชื่อกันว่ารูปปั้นในบริเวณโรงเรียนก็มีผีสิงด้วย เช่น ถ้ามีคนเดินขึ้นหลังรูปปั้นตันคะกีก็จะหันกลับมาถามเวลา รูปปั้นของ Lee Kong Chian ถูกปิดตาหลังจากที่พวกเขาเริ่มส่องแสงในตอนกลางคืน บางคนบอกว่าทุ่งที่โรงเรียนเคยมีรูปร่างเหมือนหลุมฝังศพ และนั่นเป็นเหตุผลเบื้องต้นสำหรับการหลอกหลอนที่นี่
Jeppe High School for Boys, แอฟริกาใต้
ในเมืองเคนซิงตัน เมืองโจฮันเนสเบิร์ก เป็นที่ตั้งของโรงเรียนมัธยมชายเจปเป้ที่มีชื่อเสียง ประวัติของโรงเรียนนี้มีความเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับประวัติศาสตร์ของโจฮันเนสเบิร์กเอง สี่ปีหลังจากการค้นพบทองคำบน Witwatersrand ความจำเป็นในการให้การศึกษาแก่เด็ก ๆ ของคนงานเหมืองในที่สุดก็ส่งผลให้มีการก่อสร้างอาคารเรียนหลังแรกขึ้น อาคารเรียนหลักและอนุสรณ์สถานสงครามที่สร้างขึ้นในบริเวณนี้ได้รับการประกาศให้เป็นอนุสรณ์สถานแห่งชาติในปี พ.ศ. 2529 นอกจากนี้ เจปเป้ บอยส์ ยังเป็นสถานที่ที่ผีเดินตามรอยเท้าของเธอไปตามทางเดินเป็นประจำ ซึ่งทำให้กางเกงของเด็กชายที่อยู่ในนั้นหวาดกลัว - โฮสเทลไซต์ในช่วงเปิดเทอม เป็นที่กระซิบว่าผีของผู้หญิงได้เดินมาที่นี่นับตั้งแต่ที่เธอฆ่าตัวตายหลังจากการตายของสามีของเธอในช่วงสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง อีกเรื่องหนึ่งบอกว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นแม่ของนักเรียนของ Jeppe Boys และเธอเห็นเขาตายในสนามกีฬาหลังจากถูกหอกแทงโดยบังเอิญ เธอฆ่าตัวตายด้วยการกระโดดจากเนินเขาใกล้เคียง เธอถูกตัดคออย่างใดและได้รับการกล่าวขานว่าเดินไปตามทางเดินของโรงเรียนโดยจับศีรษะของเธอไว้ในขณะที่ร้องไห้เพื่อลูกชายของเธอ
โรงเรียนมัธยมลาสเวกัส รัฐเนวาดา
ลาสเวกัสเป็นเมืองที่มีเสน่ห์ ความเย้ายวนใจ เงินทอง และ… ผี มีสถานที่ผีสิงอยู่ไม่กี่แห่งใน Sin City รวมถึงพิพิธภัณฑ์ผีสิงของ Zak Bagans, Westgate และ The Luxor ในปี 1931 Las Vegas Academy of the Arts เป็นที่รู้จักในชื่อ Las Vegas High School เป็นโรงเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายอย่างเป็นทางการแห่งแรกในเมืองและเป็นสถานที่ที่ผีของอดีตครูชื่อนาย Petri สัญจรไปมาหลังจากที่เขาเสียชีวิตในกองไฟลึกลับ แม้ว่าโรงเรียนจะเปลี่ยนเป็นสถาบันศิลปะแล้วก็ตาม ข่าวลือเรื่องการหลอกหลอนยังคงดำเนินต่อไป บางคนรายงานว่าเห็นชายในชุดทักซิโดสีขาวนั่งบนที่นั่งเฉพาะในโรงละคร ในขณะที่คนอื่นๆ รู้สึกอุณหภูมิลดลงอย่างรวดเร็ว และประสบกับความรู้สึกเศร้าและสิ้นหวังอย่างรุนแรงทุกครั้งที่พวกเขาเข้าไปในอาคาร ครูจอห์น มอร์ริสสงสัยเกี่ยวกับเรื่องราวเหล่านี้ แต่เขายอมรับว่ามีประสบการณ์แปลก ๆ ของตัวเอง ครั้งหนึ่งโรงเรียนมัธยมปลายเคยเล่นละครชื่อว่า The Spoon River Project และเวทีถูกสร้างด้วยเครื่องพ่นหมอกและสุสานชั่วคราว ผู้อำนวยการแสดงเข้าหามอร์ริสและบอกเขาว่าเธอเห็นเด็กชายเม็กซิกันเปลือยตัวเล็ก ๆ ยืนอยู่ข้างเธอในระหว่างการผลิต เด็กชายบอกเธอว่าเขาต้องการเสื้อผ้าก่อนที่จะหายตัวไป มอร์ริสกลอกตาและพยายามเกลี้ยกล่อมผู้กำกับให้เชื่อว่าทุกอย่างอยู่ในใจของเธอ ค่ำคืนที่เหลือผ่านไปอย่างไร้ปัญหา และหลังจากที่ทุกคนจากไป มีเพียงมอร์ริสและลูกสาววัย 3 ขวบของเขาเท่านั้นที่ถูกทิ้งไว้ในโรงละคร มอร์ริสทำให้แน่ใจว่าประตูทุกบานถูกปิดและล็อคก่อนที่จะโทรหาลูกสาวเพื่อพวกเขาจะได้กลับบ้าน เธอกำลังเล่นอยู่บนกองหญ้าที่ใช้เล่นละคร และบอกพ่อของเธอว่าเธอยังไม่อยากไป เพราะเธอกำลังเล่นกับเพื่อนอยู่ มอร์ริสไม่เห็นใครเลย และเชื่อว่าเธอกำลังพูดถึงเพื่อนในจินตนาการ เขา ตามใจเธอโดยบอกว่าเธอสามารถเล่นได้อีกสองสามนาที ลูกสาวของเขาพูดว่า “นั่นคือเด็กชายตัวเล็ก ๆ ที่นั่น เขาไม่มีเสื้อผ้าใส่”
ไสยศาสตร์อัศจรรย์วิชาเสือสมิงศาสตร์แห่งไสย
สามเณรครูบาธรรมชัยลำดับความมุ่งมั่นตัดสินใจออกธุดงค์ครั้งนี้นั้นเนื่องจากประสงค์จะดั้นด้นเข้ามาในป่าในเขาก็หวังจะขัดเกลากิเลสให้หมดสิ้นไปเพื่อจะได้ล่วงพ้นกองทุกข์ใหญ่ในกายสังขารนี้เป็นสำคัญ โดยตั้งใจจะสิ้นภพสิ้นชาติไปในชาตินี้ไม่เวียนว่ายตายเกิดมารับทุกข์อีกต่อไปแต่พอมาเจอรอยเท้าเสือเท่านั้นกลับเกิดความรักตัวกลัวตายอย่างไร้สติ
เมื่อคิดได้เช่นนี้สติก็สามารถควบคุมจิตได้ความกลัวเสือ กลัวความตายพันหายไป จิตเกิดความองอาจกล้าหาญสลายความหวาดหวั่นพรั่นพรึงไปจนหมดสิ้นจึงได้นั่งลงพิจารณาความเป็นจริงกลับไปกลับมาเท่าที่ความรู้ในทางธรรมซึ่งครูอาจารย์อบรมสั่งสอนมากำหนดพิจารณาเพียงเป้าหมายเดียวจิตก็รวมตัวเข้าสู่ความสงบดิ่งลงเป็นสมาธิไม่รับรู้อารมณ์อื่นใดทั้งสิ้น
สามเณรครูบาธรรมชัยอยู่ในสมาธินั่นนานจูบจนเวลาเลื่อนไหลไปสู่ช่วงเย็น แดดอ่อนๆสัตว์จากยอดไม้เดนจึงคายออกจากสมาธิจิตมีความปลอดโปร่งปราศจากความวิตกกังวลใดๆมากล้องติดเมื่อเห็นว่าเป็นเวลาอันเหมาะสมจึงเตรียมตัวจะไปส่งน้ำที่ลำห้วยเพื่อชำระร่างกาย
สามเณรเดินจากร่มไม้ตรงไปยังลำห้วยแหล่งน้ำซึ่งอยู่ไม่ไกลนักพอพ้นพุ่มไม้ดกหนาออกไปเต็มตัวก็ประสบเข้ากับภาพที่ไม่คาดฝันว่าจะพบเห็น
ที่นั่นริมห้วยน้ำใส เสือโคร่งตัวมหึมากำลังก้มกินน้ำอยู่ ทันทีที่สามเณรปรากฏตัวเสื้อตัวนั้นก็หันขวับกลับมา เณรตกตะลึงนะจังงังและเสือก็คงตกตะลึงเช่นกันเสือใหญ่เจ้าป่าหมุนตัวย่อขาลงเตียงจู่โจมเข้ากับคุกพลางส่งเสียงคำรามกระหึ่ม ตบะบารมีของเสือสมิงกินคนบีบคั้นกดดันจนสติสามเณรไม่อาจควบคุมได้ ความรักตัวกลัวตายที่สูญหายไปหวนกลับมาในพริบตานั้น เสือใหญ่แผดเสียงสนั่นแล้วกระโจนเข้าตะปบ ด้วยความตกใจ เณรผงะถอยหลังบังเอิญมีรักไม้ขวางอยู่ข้างหลังจึงสะดุดรักไม้ล้มหงายหลังร่างเสือลอยละลิ่วผ่านไปอย่างฉิวเฉียดพอถึงพื้นก็กระโจมแถวเข้าป่าหายไป
ส่วนสามเณรครูบาธรรมชัยยังนอนหงายตัวสั่นเทาด้วยความตกใจกลัวสุดขีดคิดว่าตัวเองคงเป็นเหยื่อให้เสือกินแน่แต่เสือไม่ได้หวนมาขย้ำกลับหายเงียบไป แน่นอนท่าเดิมอยู่พักใหญ่จึงได้สติลุกขึ้นมานั่งพิจารณาจิตของตัวเองด้วยความละอายใจเพราะแท้จริงแล้วจิตของตนก็ยังถูกความหวาดกลัวครอบงำไม่เลิกการที่จิตอ่อนไว้ให้อารมณ์มีอำนาจเหนือกว่าเพราะขาดสติมั่นคงเมื่อขาดสติปัญญาก็พลอยมืดบอดอย่างน่าสังเวช เมื่อพิจารณาได้เช่นนี้สามเณรก็ตัดสินใจจะตามไปหาเสือตัวนั้นอีกครั้งเมื่อจิตมันยังหวั่นไหวกับกิเลสความกลัวก็จะยอมให้เสือฉีกกินเนื้อให้รู้แล้วรู้รอดไปเสีย การที่เณรตัดสินใจมอบกายถวายชีวิตแก่เสือเพราะคิดว่าแค่อารมณ์ความกลัวเพียงเท่านี้ยังตัดไม่ขาดแล้วจะตัดกิเลสอันใหญ่หลวงที่ครอบงำชีวิตได้อย่างไรดังนั้นแทนที่จะส่งน้ำชำระร่างกายสามเณรกับเดินตามรอยเสือซึ่งกระทำไว้บนพื้นดินไปเรื่อยๆหวังเอาไว้ว่าจะเผชิญกับเสืออีกครั้งเพื่อดูว่าจิตมันจะขาดกลัวเหมือนเดิมหรือไม่หากยังไม่สามารถควบคุมสติได้ก็จะให้เสือมันขบกัดจนตายไปเสียเถอะ
คิดเช่นนี้สามเณรก็เดินดุ่มเป็นฝ่ายตามหาเสือเสียเองไม่รอให้เสือมาตามล่าเอาชีวิตเช่นที่ผ่านมาร่องรอยของเสือพอจะเห็นได้ชัดเจนเป็นระยะร้อยนั้นมุ่งตรงไปยังต้นไม้ใหญ่ที่เณรยึดเป็นที่พักภาวนาปฏิบัติธรรมคล้ายกับว่าเสือจะย้อนไปดักรอคอยเพื่อหาโอกาสสังหารเณร เวลานั้นสามเณรครูบาธรรมชัยจิตใจมั่นคงองอาจไม่กลัวตายแม้จะเห็นรอยเท้าเสือบ่ายหน้าไปยังที่พักของตนแต่ความหวั่นไหวสะดุ้งกลัวก็ไม่เคยขึ้นคงเดินแน่วแน่ๆไปยังต้นไม้ใหญ่ซึ่งมีบริการวางอยู่
เมื่อเข้าไปใกล้มองไปข้างหน้าแทนที่จะเห็นเสือใหญ่กลับเห็นเป็นพระธุดงค์รูปหนึ่งนั่งสงบตรงโคนต้นไม้ใหญ่คลังเดินเข้าไปใกล้ก็สังเกตเห็นว่าพระธุดงค์รูปนั้นมีผิวกายคล้ำเกรียมแต่มีสง่าราศีเปล่งปลั่งน่าเลื่อมใสเณรเดินเข้าไปใกล้พอสมควรแล้วทรุดกายลงนอนนมัสการ
"กำลังเดินตามหาเสือ จะให้เสือมันกินหรือเณร"
คำพูดที่พระธุดงค์ทักทายทำเอาเณรนั้นสะดุ้งเพราะประหนึ่งท่านรู้วาระจิตโดยตลอด เณรไม่ตอบคำพูดถึงคำถามนั้นหากย้อนถามท่านไปว่า
"พระคุณเจ้าเคยพบเห็นเสือตัวหนึ่งบ้างไหมขอรับ"
เห็นหรือไม่เห็นก็ไม่ได้มีความหมายสำคัญอะไร พระธุดงค์ตอบ
ใจของเรานั้นสำคัญกว่าสิ่งอื่นภายนอก หากใจ สะอาดบริสุทธิ์มีศีลมีสมาธิมีปัญญาเต็มภูมิแล้ว เสือสมิงหรือสัตว์ใดๆก็จะไม่เข้ามาข้องแวะและประสงค์ร้าย
เณรกราบเรียนถามท่านว่ามีชื่อเสียงเรียงนามว่ากระไรและจำพรรษาอยู่วัดไหน ทว่าพระธุดงค์รูปนั้นก็ไม่ตอบคำถามท่านบอกเพียงแต่ว่าเป็นพระธุดงค์ซึ่งจาริกไปเรื่อยๆเพื่อปฏิบัติธรรม จากนั้น ท่านก็ได้กล่าวแนะนำเข้าทำให้แก่สามเณรครูบาธรรมชัยอีกหลายข้อ รวมทั้งแนวทางการภาวนาและการเดินจงกรมที่ถูกวิธีเพิ่มเติม ข้อสำคัญที่สุดที่พระธุดงค์ลึกลับเมตตาแนะนำก็คือการปฏิบัติธรรมกระทำความเพียรนั้นควรมีครูบาอาจารย์แนะนำสั่งสอนเมื่อใดที่ขัดข้องในข้อธรรมใดใดครูอาจารย์จะได้ช่วยแนะนำให้เข้าใจจนชัดเจนท่านยังชี้แนะอีกว่า
"เณรควรไปนอบน้อมกราบไหว้ฝากตัวเป็นศิษย์ท่านครูบาศรีวิชัย มหาเถรผู้ยิ่งใหญ่แห่งล้านนาเถิด"
เณรก็ก้มกราบรับเอาคำแนะนำทั้งหลายไว้ด้วยความเคารพ เมื่อสนทนาเพียงแค่นี้ พระธุดงค์ลึกลับก็จะไปอย่างเงียบๆโดยไม่รู้ว่าท่านจะไปที่ใดอีก พระธุดงค์รูปนี้จะเป็นผู้สำเร็จวิชาเสือสมิง หรือเสือเย็นใช่หรือไม่ เป็นเรื่องที่ ยากที่จะระบุลงไป แต่ถ้าท่านสำเร็จวิชาดังกล่าวถึงขั้นจำแลงแปลงกายได้จริงๆคงเป็นไปไม่ได้ที่ท่านจะเปลี่ยนรูปไปเป็นเจ้าป่าแล้วออกอาละวาดฆ่าวัวฆ่าควายของชาวบ้านทั้งยังสังหารกินคนให้เป็นบาปกันอันหนักหนาสาหัสเข้าไปอีก
อาจเป็นไปได้ว่ามีเสือจริงบุกรุกเข้ามาคบกับวัวควายของชาวบ้านและสังหารผลาญชีวิตผู้คนบังเอิญมีผู้พบเห็นพระธุดงค์ที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุเลยเหมาเอาว่าเป็นพระธุดงค์ที่มีวิชาเสือสมิงจำแลงแปลงกายแล้วกลายเป็นเรื่องเล่าบอกต่อขยายความจนแพร่หลายไปทั่ว
นี่คือเกร็ดเล็กๆในอรรถประวัติของท่านครูบาธรรมชัยเจ้าอาวาสวัดทุ่งหลวงอำเภอแม่แตงจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งท่านเคยเกี่ยวข้องกับพระธุดงค์ลึกลับรูปหนึ่งที่น่าสงสัยว่าจะสำเร็จวิชาเสือสมิงหรือเสือเย็น
ได้เขียนเล่ากล่าวอ้างเรื่องเสือสมิงมาหลายเรื่องแล้วเพื่อเสนอข้อมูลหลักฐานยืนยันว่าวิชาเสือสมิงน่าจะมีจริงๆและมีผู้เรียนวิชานี้สำเร็จมาแล้วกระนั้นก็ยังมีเรื่องวิชาจำแลงแปลงร่างกายจากมนุษย์ไปเป็นสัตว์ได้ปรากฏอย่างน่าอัศจรรย์ซึ่งเป็นภาวะเหลือเชื่อเหนือโลกจนปุถุชนคนธรรมดายากจะให้เชื่อถือได้อย่างสนิทใจ
ผี ปีศาจและวิญญาณ
คำว่า " วิญญาณ " และ " ผี " มักจะปลูกฝังความกลัวในคนมากมาย แต่เหล่านี้เป็นคนที่เชื่อว่าสิ่งที่เหมือนผีมีอยู่จริง ยังมีคนที่เชื่อมั่นว่าไม่มีสิ่งดังกล่าวเป็นผี วิญญาณและปีศาจนั่นมันเคล็ดลับความคิดและภาพหลอน การอภิปรายได้ไม่รู้จบ
แต่บทความนี้เป็นมากกว่าการอภิปรายนี้ ขอย้ายไปข้างหน้าบนสมมติฐานที่ว่าผีและวิญญาณอยู่ นั้นมีหลายอย่าง เช่น ผี วิญญาณและปีศาจ และพวกเขาทั้งหมด มักจะเห็นหรือได้ยิน กลัวผีเป็นปกติและค่อนข้างสามัญ , ปฏิกิริยา คุณไม่รู้หรอกว่าผีอาจจะทำให้คุณกลัวเรื่องลึกลับเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ แต่ต้องเข้าใจว่า ผีร้าย ขั้นตอนแรกคือการเข้าใจความแตกต่างระหว่างผีและปีศาจ
ผีไม่ค่อยพยาบาท พวกเขามักจะเพียงวิญญาณหลงทาง , ไม่รู้ว่าพวกเขาตาย และต้องการที่จะย้ายไปยังดินแดนอื่น นี้มักจะเกิดขึ้นกับคนที่ตายกระทันหันเพราะอุบัติเหตุ เจ็บป่วย การฆาตกรรมและฆ่าตัวตาย ร่างกายและจิตใจไม่พร้อมสำหรับความตาย ดังนั้นวิญญาณไม่ได้ตระหนักว่าเวลาสำหรับมันที่จะจากโลกนี้ไปแล้ว ยังมีบางคนที่ยังคงเพราะความกังวล หรือสิ่งที่แนบมาสำหรับดวงตาเช่นเก่า คุณยายเสียชีวิต ก่อนที่เธอจะได้มีโอกาสเห็นหลานใครเกิด เดือนต่อมา คนที่มีความปรารถนาสุดท้ายจะไม่สมหวัง หรือใคร ก็ไม่สามารถที่จะปล่อยให้ไปของคนรัก เพราะพวกเขาคิดว่า พวกเขาจะไม่สามารถจัดการกับสิ่งที่ตัวเอง ผีพวกนี้มักต้องการคือให้ที่ความกังวลของพวกเขาจะได้พบ และก็สงบไป
แล้วมีปีศาจ - ตรงข้ามของเทวดา ปีศาจ เทพพยาบาท วัตถุประสงค์ของพวกเขา แต่เพียงผู้เดียวเป็นทรมานคน ปีศาจมักจะถูกเรียกตัวไปยังโลกและเมื่อออกจากสถานที่ที่ถูกต้องของพวกเขาในนรก พวกเขาจะหายไปไม่สามารถกลับไปได้ และในความโกรธ พวกเขาเปิดในมนุษย์ เติมเต็มด้วยความกลัว ความคิดทุจริตและบางครั้งแม้แต่การครอบครองของพวกเขา
มีหลายคนที่ถูกหลอกหลอนจากวิญญาณที่มองไม่เห็น , เสียงและเหตุการณ์ที่พวกเขาต้องการที่จะกำจัด ยังมีอีกหลายคนที่เชื่อว่าปกป้องบ้านของคุณจากผีและปีศาจ มีความคิดที่ดี เพราะแม้ว่าจะไม่เห็นอะไร ปัจจุบัน นี้สามารถเปลี่ยนแปลงเหตุการณ์ขนาดเล็กเป็นอุบัติเหตุทางถนน การวิจัยเป็นอาถรรพณ์มีหลายวิธีที่หนึ่งสามารถใช้เพื่อกำจัดตัวเองและบ้านของคุณของผีและปีศาจ นอกจากนี้ยังมีวิธีที่สามารถช่วยให้คุณสามารถปกป้องตัวเองและบ้านของคุณจากการดึงดูดใด ๆเช่นสุรา ประเด็นคือจะสมบูรณ์ตระหนักถึง เพราะไม่มีใครสามารถบอกได้เมื่อคุณอาจต้องการที่จะรู้เคล็ดลับเหล่านี้
อภินิหาร ณ พระแท่นดงรัง
เมื่อเอ่ยชื่อพระแท่นดงรัง คิดว่าคนไทยโดยเฉพาะพุทธศาสนิกชนคงจะเคยได้ยินชื่อและเคยไปนมัสการหรือไปเที่ยวชมสถานที่แห่งนี้มาแล้วเพราะถือว่าเป็นปูชนียสถานอันทรงคุณค่าของจังหวัดกาญจนบุรี สิ่งที่ควรค่าแก่การเยี่ยมชมเป็นอย่างยิ่งคือ พระแท่นดงรัง ซึ่งสันนิษฐานว่ามีมาตั้งแต่สมัยพระเจ้าบรมโกศโดยพระแท่นดงรังนั้นเชื่อกันว่าเป็นพระแท่นศักดิ์สิทธิ์ที่พระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธปรินิพพานถือเป็นปูชนียสถานจำลองเครื่องหมายแห่งเหตุการปรินิพพานของพระพุทธเจ้าณสาลวโนทยานประเทศอินเดีย โดยลักษณะของพระแท่นบรรทมนั้นเป็นหินแท่งทึบ มีรูปลักษณ์คล้ายแท่นหรือเตียงนอน เริ่มที่มีต้นรังอยู่ริมพระแท่นข้างละต้นโน้มยอดเข้าหากันดูแปลกตา
พระแท่นดงรังตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของเขาถวายพระเพลิงตำบลพระแท่นอำเภอท่ามะกาจังหวัดกาญจนบุรีห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 38 กิโลเมตรหรือถ้านับจากกรุงเทพก็เพียง 100 กิโลเมตรเศษเศษไม่ถึง 110 กิโลเมตรถือว่าอยู่ใกล้ไปมาสะดวกทีเดียวนับเป็นปูชนียสถานที่มีประชาชนนิยมนับถือกันมากแห่งหนึ่งไม่แพ้พระพุทธบาทที่จังหวัดสระบุรี เพราะผู้คนพากันชื่อว่าพระพุทธเจ้าได้เสด็จมาปรินิพพานณสถานที่แห่งนี้ ทั้งนี้เพราะลักษณะภูมิประเทศที่รายล้อมพระแท่นมีลักษณะละม้ายคล้ายคลึงกับสถานที่ที่พระพุทธเจ้าเสด็จเข้าสู่พระนิพพานในประเทศอินเดียเป็นอย่างมาก กล่าวคือมีแท่นบรรทมและต้นรังคู่หน้าวิหารพระแท่นแต่ปัจจุบันนี้ต้นรังที่ว่านั้นไม่มีแล้ว
นอกจากจะมีพระแท่นดงรังประดิษฐานอยู่ในวิหารพระแท่นซึ่งตั้งอยู่เชิงเขาสูงกว่าพื้นดินประมาณ 1 เมตร ด้านในกำแพงแก้วทางมุมตะวันออกเฉียงเหนือของวิหารพระแท่นก็มีวิหารเล็กๆที่เรียกกันว่าวิหารพระอานนท์และในบริเวณใกล้เคียงกันนี้แต่เป็นด้านนอกกำแพงแก้วเป็นที่ตั้งของวิหารพระทรมานกายซึ่งเป็นที่เก็บพระพุทธรูปปางทุกขกิริยา
ด้านหลังของทรัพทย์มีหินลักษณะคล้ายบ่อน้ำกว้างประมาณ 20 cm ลึกประมาณ 75 เซนติเมตรเป็นสถานที่ที่คนทั่วไปเรียกว่าบ้วนพระโอษฐ์ ส่วนที่สูงที่สุดของภูเขาประมาณ 55 เมตรจากระดับน้ำทะเลมีบันไดก่ออิฐถือปูนเป็นขั้นขั้นลาดตั้งแต่เชิงเขาถึงยอดเขานับได้ 94 ขั้นยอดเขามีมณฑป 12 เหลี่ยม กว้างยาวประมาณ 3 วา ยอดมณฑปแหลมคล้ายพระเมรุมีประตู 2 ประตู
ภายในวิหารทางทิศตะวันออกของประเทศมีหินก้อนหนึ่งซึ่งกล่าวกันว่าเป็นที่บดยาถวายพระพุทธเจ้าชาวบ้านที่มานมัสการพระแท่นดงรังจะใช้ก้อนหินนี้เป็นที่บดยารับประทานกันเป็นจำนวนมากบางคนก็นำสมุนไพรมาบดแล้วนำกลับไปฝากญาติพี่น้องก็มี
ภายในป่าต้นรังซึ่งอยู่ห่างจากพระแท่นไปทางทิศใต้ประมาณ 200 เมตรมีบ่อลึกอยู่ 1 บ่ปากบ่อก่อด้วยอิฐโบราณเป็นคันสำหรับกั้นดินพังทับปากบ่อมีเรื่องเล่าต่อมาว่า บ่อแห่งนี้เป็นปล่องพญานาค สำหรับพญานาคที่จะขึ้นมานมัสการเชิงตะกอนที่ถวายพระเพลิงพระพุทธเจ้าบนเขาถวายพระเพลิงแต่ครั้งโบราณ ถ้าท่านได้มีโอกาสไปนมัสการพระแท่นดงรังระหว่างช่วงเทศกาลซึ่งจะจัดประมาณกลางเดือน 4 ของทุกปีคงจะนึกประหลาดใจอยู่มิใช่น้อยที่เห็นผู้คนจากทุกภาคของประเทศหลั่งไหลเข้ามากันบูชาพระแท่นจนดูประหนึ่งว่าคนเหล่านี้จะพากันมาชมงานมหกรรมครั้งมโหฬาร
เพราะเหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น
หากใช้ความสังเกตให้ดีแล้วจะพบว่าโดยส่วนรวมของคนไทยเป็นจำนวนมากยังมีความเลื่อมใสศรัทธาในสิ่งศักดิ์สิทธิ์และของขลัง พระแท่นดงรังก็คงจะไม่พ้นกรณีนี้ไปได้ สาเหตุแห่งความเลื่อมใสศรัทธาของประชาชนน่าจะเกิดขึ้นเพราะเสียงเล่าลือความศักดิ์สิทธิ์ต่างๆดังที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ทรงบันทึกเรื่องอภินิหารของพระแท่นไว้ว่า ชาวอินเดียคนหนึ่งที่มาเที่ยวได้ขึ้นไปนอนเล่นบนพระแท่นและได้ถึงแก่ความตายเพราะเลือดออกทางปากและจมูก
น้ำจากที่บ้วนพระโอษฐ์เป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์สามารถรักษาโรคตาแดงได้
หินบดยาที่อยู่ในศาลานอกกำแพงถ้านำไปบดใบไม้ไม่ว่าจะเป็นใบไม้ชนิดใดก็ตาม ใบไม้ที่บดจะกลายเป็นยาทั้งนั้น
น้ำมันที่ตามตะเกียงในพระวิหารพระแท่นก็เป็นน้ำมันมนต์ไม่ว่าจะทาแผลที่ใดก็เป็นหายหมด
เวลาขึ้นเขาถวายพระเพลิงถ้านับขั้นบันไดได้เท่าใดผู้นั้นก็จะมีอายุเท่ากับขั้นบันไดที่นับได้
หลังมณฑปหลังเขาถวายพระเพลิงจะเป็นบริเวณเมืองลับแลถ้าเดินออกไปแล้วจะหาทางกลับมายังที่เดิมไม่ได้
ปัจจุบันความเชื่อในสิ่งศักดิ์สิทธิ์และของขลังของคนลดน้อยลงแต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าจะมีผลพลอยให้ความศรัทธาของคนลดลงตามไปด้วยจำนวนผู้คนที่พากันไปนมัสการพระแท่นดงรังมีแต่จะเพิ่มมากขึ้นทุกปี ส่วนสาเหตุสำคัญที่ทำให้ปูชนียสถานแห่งนี้ทรงความศักดิ์สิทธิ์อยู่ได้ตลอดมาคงจะเป็นเพราะพระแท่นดงรังนี้สมมุติเป็นเสมือนสถานที่นิพพานของพระพุทธเจ้าที่สามารถน้อมจิตใจพุทธศาสนิกชนให้รำลึกถึงพระพุทธประวัติตอนปัจฉิมมกาญได้เป็นอย่างดี และในประเทศไทยก็มีสถานที่เช่นนี้เพียงแห่งเดียวเท่านั้นก็คือพระแท่นดงรัง
ทำไมเราชอบเรื่องผี
เรื่องผีได้รับรอบเป็นเวลานานเป็นคนมี หรือไม่เราเชื่อในผีเราจะนั่งและฟังปล่อยให้ตัวเองถูกดึงเข้าไปในเรื่องราวและโลกของชีวิตหลังความตาย บางครั้งก็เป็นโลกที่เต็มไปด้วยความกลัวและน่าแปลกใจ แต่ส่วนใหญ่มักจะเป็นหนึ่งในกระดูกหนาวกลัว
มีบางสิ่งบางอย่างที่เราจับขณะที่คนเริ่มที่จะหมุนนิทานสำหรับเราเราจะนั่งเงียบ ๆ ในขณะที่หัวใจของเราเต้นเร็วขึ้นและเร็วขึ้นมากกว่ายินดีที่จะไปพร้อมกับเล่าเรื่องที่ว่าเราเชื่อในผีหรือไม่
ทำไมเรารักเรื่องผี?
เรื่องผีที่มีความสนุกสนานและส่วนใหญ่ของเราเพลิดเพลินไปกับความหวาดกลัวที่ดี สิ่งที่ดีกว่าที่จะทำให้ตกใจเรามีกว่าแรงเรามีพลังงานน้อยกับและมีความเป็นไปได้เพิ่มว่าหลังจากที่เราตายเราอาจจะสนุกกับการใช้พลังงานที่มากเกินไป กลายเป็นผีเป็นความต่อเนื่องของชีวิตนี้เราจะทำอะไรไม่ถูกจะใช้หลักสูตรอื่น ๆ ก็เป็นสิทธิตามธรรมชาติของการเดิน, การเรียนธรรมชาติของสิ่งที่ คุณจะเกิดคุณตายคุณจะกลายเป็นผี ไม่มีอันตรายใด ๆ ไม่มีเหม็นสิ่งที่มากขึ้นอาจเราขอ?
เล่าเรื่องผีเติมความจำเป็นที่เราเป็นมนุษย์ไม่สามารถปฏิเสธความเป็นไปได้ว่าเราไม่ได้เพียงแค่เปิดต่อฝุ่นและจางหายไปจากโลกเมื่อร่างกายของเราไม่ได้มีการใช้งานใด ๆ กับเรา แม้สงสัยมากที่สุดคือการยินดีที่จะนำมุมมองของพวกเขากันถึงแม้ว่ามันจะเป็นเพียงจิตใต้สำนึกและสงสัยว่ามันเป็นไปได้ที่จะกลับมาหลังจากการเสียชีวิตและจ่ายไปเล็กน้อยเพื่อให้คนที่เรารักหรือบางทีคนที่เราไม่เคยชอบมากเกินไป
มันเป็นความลึกลับของที่ไม่รู้จักในเรื่องผีที่เราได้ยินที่ดึงเราให้กับพวกเขา ได้ฟังเรื่องราวจากคนที่มีประสบการณ์บางสิ่งบางอย่างที่เราหวังว่าจะได้ไปเยี่ยมชมมาจากความตาย ถึงแม้ว่าเราอาจจะบอกว่าเราไม่เคยต้องการในส่วนลึกของเราคิดว่าเหลือบเล็ก ๆ จะไม่เป็นเช่นสิ่งที่ไม่ดี
มันเป็น reaffirmation ของโอกาสของชีวิตหลังความตาย มันเป็นแวบเข้ามาในความลึกลับของบางสิ่งบางอย่างที่เรารู้น้อยมากเกี่ยว แต่การเดินทางที่เราทุกคนจะใช้เวลาในที่สุด
สำหรับบางส่วนของเราก็มั่นใจและสำหรับคนอื่น ๆ ที่น่ากลัวอย่างแน่นอน แต่ในท้ายที่สุดเรื่องผีถือเสน่ห์สำหรับเราทุกคนไม่ว่าจะเป็นความจริงหรือนิยายและเราจะยินดีเบียดเสียดรอบเล่าเรื่องที่มีความสนใจปิติยินดีอย่างมากในขณะที่เขาบอกเรามากที่สุดของเขา ประสบการณ์ที่น่าสะพรึงกลัว
ประเภทผี - 6 สายพันธุ์ที่น่าตื่นเต้นของผี
เราพบการแก้ปัญหาหลายของความลึกลับของชีวิตยกเว้นว่าการตายของ เพียงหลักฐานของชีวิตหลังความตายเป็นผี แต่มีอะไรที่จะพิสูจน์ว่าผีมีจริงและไม่ผลิตภัณฑ์ของจินตนาการของมนุษย์
ทั้งๆที่ความจริงที่ปรากฏผีได้รับการพบและบันทึกไว้มานานหลายศตวรรษการดำรงอยู่ของผียังไม่ได้รับการพิสูจน์แล้วและทุกครั้งไม่ว่าจะโดยทางวิทยาศาสตร์หรือสาขาอื่น ๆ ของการศึกษา แม้ว่าทฤษฎีในความอุดมสมบูรณ์ของหลักฐานที่เป็นรูปธรรมต้องพิสูจน์ทฤษฎีเหล่านี้จะขาด บางคนแน่นยกเลิกความคิดของผีเป็นที่ยอดเยี่ยมที่ไม่เป็นจริงและไม่น่าเชื่อ บางคน แต่ไม่เพียง แต่เชื่อในผี แต่ยังได้จำแนกออกเป็นหลายประเภท
นี่คือบางส่วนของประเภทที่นิยมที่สุดของผี
1. แผน
ผีแบบดั้งเดิมประจักษ์ผู้ที่มีปฏิสัมพันธ์กับที่อยู่อาศัยสำหรับหลากหลายเหตุผล พวกเขาซ่อนสิ่งที่น่าเกลียดน่ากลัวคนไม่สงสัยโยนวัตถุหรือขอเพื่อขอความช่วยเหลือ พวกเขาเป็นวิญญาณของคนที่ไม่สามารถเดินหน้าต่อไปเนื่องจากการทำงานบางอย่างที่ยังไม่เสร็จ พวกเขาอาจจะมีดวงวิญญาณของผู้ที่เสียชีวิตทันทีในสถานการณ์ที่โชคร้าย พวกเขาขอความช่วยเหลือจากมนุษย์ในการแก้ปัญหาของพวกเขาเพื่อให้พวกเขาสามารถออกจากแผ่นดินโลกให้เป็นอาณาจักรที่สูงขึ้น วิญญาณเหล่านี้เป็นสิ่งมีชีวิตที่ชาญฉลาดที่ไม่เพียง แต่ตระหนักถึงสภาพแวดล้อมของพวกเขา แต่ยังความจริงที่ว่าพวกเขาจะตาย
2. เจ้าภาพวิกฤติ G
วิญญาณเหล่านี้ใส่ในลักษณะฉับพลันเพื่อเตือนคุณของบางส่วนที่กำลังจะเกิดอันตราย ขณะที่บางส่วนของพวกเขาเป็นของแข็งในลักษณะอื่น ๆ มีความโปร่งใส
3. ผีครบรอบ
spooks เหล่านี้จะปรากฏในวันที่พวกเขาเสียชีวิตหรือได้พบกับอุบัติเหตุที่โชคร้ายอื่น ๆ คุณสามารถมองเห็นพวกเขาในโบราณบ้านผีสิงและปราสาท ที่สุดของพวกเขามีบทบาทสำคัญในตำนานบางทอรอบโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นหลายร้อยปีที่ผ่านมา
4. ร่อซู้ล
Banshees มาอยู่ภายใต้หมวดหมู่นี้ พวกเขาก็จะปรากฏขึ้นที่จะแจ้งให้ครอบครัวเกี่ยวกับการตายของคนอื่นในครอบครัว
5. จิตวิญญาณ
เหล่านี้เป็นผีร้ายที่สร้างเสียงแปลกและเล่นทุกประเภทของแผลงสมาชิกที่ไว้วางใจของครอบครัว มักจะทำให้การใช้งานของวัยรุ่นที่มีปัญหาในการเล่นแผลง ๆ ของพวกเขา
6. คาดเดา
คาดเดาเป็นดวงวิญญาณของคนที่ได้ผ่านออกไปจากชีวิตบนโลก พวกเขามีลักษณะคล้ายลูกกลมปรากฏหลายต่อหลายครั้งและมีรูปแบบของชีวิตที่แยกต่างหากที่เป็นเรื่องยากมากที่จะเห็นเนื่องจากเนื้อเยื่อพลังงานที่ดีพวกเขาจะทำ มีร่างกายใหญ่ของงานเขียนเกี่ยวกับผีคือยังมีอะไรที่สามารถพิสูจน์ได้ว่าผีมีจริง นักวิทยาศาสตร์คลางแคลงและ rationalists ยังคงอ้างว่าผีเป็นผลิตภัณฑ์ของจินตนาการของมนุษย์ผสมกับอารมณ์ความรู้สึกของความกลัว
