google.com, pub-6663105814926378, DIRECT, f08c47fec0942fa0 Mega topic | จัดอันดับ | 10 อันดับ| เรื่องผี| เรื่องสยองขวัญ| ที่สุดในโลก| ดูดวง| ประวัติศาสตร์

เล่าเรื่องสยองขวัญ ทำไมไม่บวชให้

เล่าเรื่องสยองขวัญ ทำไมไม่บวชให้


     

เรื่องราวและเหตุการณ์ทั้งหมดนั้น เป็นประสบการตรงของฟลุ๊คเอง

ย้อนกลับไปเมื่อ 6 ปีที่แล้ว ฟลุ๊คมีเพื่อนอยู่คนหนึ่งชื่อว่าบอย บอยนั้นมีโรคประจำตัวคือโรคหอบ ตอนเด็ก ๆ บอยก็มักจะพกยาพ่นแก้หอบอยู่ตลอดเวลา แต่ว่าพออายุเริ่มเยอะขึ้น บอยเป็นคนขี้อาย ก็เริ่มไม่กล้าพกยาพ่น

ก็มีอยู่วันหนึ่ง ฟลุ๊คชวนบอยไปเล่นฟุตบอลหน้าหมู่บ้าน ปกติก็เล่นกันแทบทุกวันอยู่แล้ว ถ้าเกิดเพื่อนทุกคนเห็นบอยเริ่มไม่ไหว ก็มักจะหยุดเล่นก่อนทันที

วันนั้นบอยลงเล่นฟุตบอลนานมาก นานจนฟลุ๊คคอยถามว่า โห วันนี้ทำไมฟิตจัง ทุกที 10 นาที ก็หอบแล้ว บอยบอกกลับมาว่าแค่นี้สบายมาก แต่ว่าฟลุ๊คนั้นสังเกตได้ว่า วันนั้นบอยไม่ได้พกยาพ่นติดตัวมาด้วย หลังจากที่ทุกคนกำลังเล่นฟุตบอลกันอยู่

สักพักหนึ่งบอยก็รีบวิ่งกลับเข้าบ้านไป โดยที่ไม่ได้ลาเพื่อนเลยสักคน สักครู่หนึ่งบอยก็ยังส่งข้อความมาหาฟลุ๊คว่าขอโทษที่ทำให้ไม่สนุก แต่ว่าฟลุ๊คก็เห็นว่าวันนั้นบอยดูแข็งแรงมากกว่าทุกวันด้วยซ้ำ ก็เลยไม่ได้ห่วงอะไร

แต่ว่าเช้าวันต่อมา ฟลุ๊คก็ไปโรงเรียนตามปกติ แล้วอยู่ ๆ ก็มีเบอร์โทรศัพท์แปลก ๆ โทรเข้ามา เป็นแม่ของบอยเอง แม่บอกกับฟลุ๊คว่าบอยเสียแล้วเมื่อคืนนะลูก แต่ว่าตอนนั้นฟลุ๊คไม่กล้าถามว่าเสียด้วยเรื่องอะไร เนื่องจากฟลุ๊คและเพื่อน ๆ ที่รู้ข่าวตกใจมาก

พอโรงเรียนเลิก ฟลุ๊คก็รีบไปที่บ้านของบอย พอไปถึงฟลุ๊คเห็นบอยนอนไม่รู้สึกตัวอยู่บนเตียง ตอนนั้นฟลุ๊คกลั่นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ ได้แต่ยืนมอง แล้วก็เริ่มร้องไห้ เนื่องจากเป็นเพื่อนรักกันมากตั้งแต่เด็ก

พอแม่บอยออกมาเจอฟลุ๊ค ก็คุยกันก่อน แล้วแม่ก็บอกว่า ถ้าเกิดเป็นไปได้ ฟลุ๊คบวชให้วันงานศพได้ไหมล่ะ แต่ว่าตอนนั้นฟลุ๊คมีสอบปลายภาคพอดี จึงบอกแม่ไปว่าขอโทษจริง ๆ ครับแม่ มีธุระจริง ๆ ตอนนั้นรู้สึกไม่ดีเป็นอย่างมากที่ช่วยอะไรไม่ได้เลย จึงขออาสาเป็นคนยกศพของบอยไปโรงพยาบาลและก็ไปวัด

ในตอนที่ยกศพก็ผ่านหน้าบ้านของฟลุ๊คด้วย พอไปถึงหน้าบ้านของฟลุ๊ค ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร ทำไมศพถึงหนักขึ้น หนักราวกับว่าฟลุ๊คไม่ได้ยกศพแค่ศพเดียว พอรู้สึกหนักแบบนั้น ฟลุ๊คจึงบอกกับเพื่อนอีกคนที่ยกมาด้วยกันว่า วางก่อนได้ไหม ไม่ไหวแล้ว

พอช่วงที่กำลังจะวางศพลงนั้น หลานของบอยที่เดินตามมาด้วย ก็พูดขึ้นมาว่าทำไมมีคนขึ้นไปยืนบนนั้นล่ะแม่ ฟลุ๊คได้ยินแบบนั้นก็รู้สึกตกใจ แล้วก็พยายามจะลองยกขึ้นใหม่ แต่ก็ไม่มีทีท่าว่าจะยกขึ้นได้ง่าย ๆ

หลังจากนั้น ลุงสัปเหร่อที่เดินมารับศพ เขาก็พูดขึ้นมาว่าให้แม่บอกอะไรกับคนตายหน่อย แม่ของบอยจึงพูดออกมาว่าอย่ายึดติดนะลูก ถึงเพื่อน ๆ จะไม่ว่างบวชให้ แต่ว่าทุกคนมาวันนี้ เพราะว่าจะมาส่งหนูนะลูก พูดจบเพียงเท่านั้น ฟลุ๊คกับเพื่อนลองยกขึ้นอีกที คราวนี้ทุกอย่างกลับมาเป็นปกติ พอศพไปที่วัดเสร็จ ฟลุ๊ครวมไปถึงเพื่อน ๆ ก็ได้อยู่ช่วยงานทุกอย่างในงานศพของบอย

จนกระทั่งถึงตอนพระศพ ฟลุ๊คและเพื่อน ๆ กำลังเดินแจกน้ำให้กับผู้ที่มาร่วมงาน ฟลุ๊คเห็นหลานของบอยเล่นอยู่ตรงบริเวณแถว ๆ หน้างาน ฟลุ๊คนั้นเดิมทีก็ชอบเล่นกับหลานของบอยอยู่แล้ว จึงเดินเข้าไปหา แล้วก็พูดว่าทำไมมาเล่นอยู่ตรงนี้เจ้าตัวแสบ แล้วคำตอบที่ฟลุ๊คได้รับกลับมาจากหลานนั้น ทำให้ฟลุ๊คนั้นได้แต่ยืนตัวแข็ง ไม่กล้าขยับไปที่ไหนด้วยซ้ำ หลานบอกกลับมาว่าหนูมายืนเป็นเพื่อนน้าบอย หนูเห็นน้ายืนอยู่ตรงนี้มานานแล้ว แต่ว่าทำไมน้าทำหน้าไม่พอใจก็ไม่รู้ ฟลุ๊คเหลือบไปบอกให้ทุกคนว่าหลานของบอยพูดแบบนี้ ตอนนั้นฟลุ๊ครู้สึกไม่ดี

พองานใกล้จะเลิก ฟลุ๊คจึงขอตัวกลับบ้านก่อน พอถึงบ้านได้ ก็รู้สึกเหนื่อย เนื่องจากวันนั้นทั้งวันไปช่วยงานมาตลอด ฟลุ๊คจึงเผลอหลับไป ตื่นมาอีกทีตอนประมาณเที่ยงคืนกว่า ๆ ฟลุ๊คจึงลุกไปอาบน้ำ

ต้องบอกว่าห้องน้ำของบ้านฟลุ๊คนั้น มันแยกออกจากตัวบ้าน

ระหว่างที่เดินออกไป สายตาของฟลุ๊คก็มองไปเห็นใครสักคนยืนอยู่ที่รั้วหน้าประตูบ้าน ตอนแรกก็คิดว่าน่าจะเป็นเพื่อนคนใดในกลุ่มนี่ล่ะ แวะมาถามว่าทำไมขอกลับก่อน แต่ระหว่างที่ฟลุ๊คยิ่งเดินเข้าไปใกล้ ก็ยิ่งรู้สึกว่าไม่ใช่อย่างที่คิด พอไปถึงในมุมที่พอเห็นหน้ากันเท่านั้น ฟลุ๊คก็เห็นบอยยืนอยู่ด้วยสีหน้าไม่พอใจเป็นอย่างมาก

ตอนนั้นถึงกับขาอ่อน เนื่องจากสีหน้าที่โมโหสุด ๆ ของบอย ฟลุ๊คเดินไม่ได้ ค้างอยู่แบบนั้นประมาณ 3 – 5 นาที อยู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงแม่ตะโกนเรียกว่าไปยืนมองอะไรอยู่หน้าบ้าน ฟลุ๊ครู้สึกตัวหันไปมองแม่ แล้วก็หันกลับมามองที่เดิม ตอนนั้นไม่มีใครอยู่ตรงนั้นอีกแล้ว

เช้าวันรุ่งขึ้น ฟลุ๊คก็รีบตื่นไปใส่บาตรให้กับบอย พอทำอะไรเสร็จ ก็ออกไปนั่งเล่นอยู่กับเพื่อน ๆ คุยไปคุยมา เพื่อนคนหนึ่งในกลุ่มก็ถามกับฟลุ๊คว่า เอ่อ เมื่อวานเนี้ยตอนกลับจากงานประมาณเที่ยงคืน ที่อยู่ดึก เนื่องจากต้องช่วยเก็บทุกอย่างในงาน แล้วก็นั่งคุยอยู่กับพวกญาติ ๆ ของบอย

เพื่อนคนนี้เดินผ่านบ้านของฟลุ๊ค พูดแล้วก็ขนลุก เพื่อนเล่าว่าตอนขากลับกำลังเดินผ่าน ตาก็มองเห็นใครไม่รู้ยืนอยู่หน้าบ้านของฟลุ๊ค ใจก็คิดว่าน่าจะเป็นเพื่อนพวกเราแวะไปหา ก็เลยตัดสินใจเดินเข้าไปใกล้ ๆ แต่พอเดินใกล้เข้าไป กลับเห็นเป็นบอยกำลังยืนนิ่ง มองเข้าไปในบ้านของฟลุ๊ค สีหน้าดูโมโหมาก แต่ว่าเพื่อนคนนี้ก็ต้องผ่านกลับบ้านทางนี้อยู่เป็นประจำ ไปทางอื่นไม่ได้ เลยจำใจเดินไปแบบไม่สนใจ

พอถึงช่วงที่กำลังจะผ่านจุดที่บอยยืนอยู่นั้น รู้ไหมบอยมันเรียกกู แล้วก็พูดว่าพวกมึงมีกันอยู่ตั้งเยอะ ไม่คิดจะบวชให้กูสักคนเลยหรือยังไง เท่านั้นเองเพื่อนคนนี้ก็วิ่งกระจายกลับไปถึงบ้านตัวเอง โดยที่รองเท้าไม่อยู่กับตัวสักด้วยซ้ำ

ต้องบอกก่อนนิดหนึ่งว่า เดิมทีนิสัยของบอยนั้นเป็นคนที่ขี้โมโห ขี้น้อยใจ แล้วก็ยังเป็นคนที่ติดเพื่อนมาก บอยน่าจะน้อยใจพวกของฟลุ๊คเอามาก ๆ ถึงมาโผล่แบบนี้

เรื่องราวทั้งหมดก็จบลงเพียงเท่านี้ ขอขอบคุณเจ้าของเรื่องทำไมไม่บวชให้

เล่าเรื่องสยองขวัญ นั่งซากหวาดผวา ศพล่อเสือ

เล่าเรื่องสยองขวัญ สยองกลางทุ่ง

เล่าเรื่องสยองขวัญ เพื่อนเล่าให้ฟัง

เล่าเรื่องสยองขวัญ ร้านเหล้าผี

เล่าเรื่องสยองขวัญ แถวนี้มีเยอะ

เล่าเรื่องสยองขวัญ 6 ปีไม่เคยลืม

เล่าเรื่องสยองขวัญ บ้านเก่า

เล่าเรื่องสยองขวัญ อยากลองจนเจอดี

เล่าเรื่องสยองขวัญ คุณแม่เล่าให้ฟัง

ตำนานผีญี่ปุ่น คาซาเนะ

ตำนานผีญี่ปุ่น บ้านแห่งจาน

ตำนานผีญี่ปุ่น ผีตระกูลเฮอิเคะ

ตำนานผีญี่ปุ่น กาซาโดคุโร


บทความแนะนำ

10 อันดับการคิดค้นของสัตว์ พระนางเลือดขาว ตำนานรักและคำสาปแห่งเกาะลังกาวี รักต่างวัยของพระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 และ แคทเธอรีน โฮเวิร์ด มองโลกแบบวิกรม ประโยชน์ของมะเฟือง ประวัติของเจ้าพ่อเฟซบุ๊ค กลูต้าไธโอนทำให้ผิวขาวจริงหรือ ย้อนรอยคดีเพชรซาอุ


ดูบทความเมนูอาหารทั้งหมด ดูบทความภัยอันตรายทั้งหมด ดูบทความสุขภาพทั้งหมด ดูบทความวิทยาศาสตร์ทั้งหมด ดูบทความสยองขวัญทั้งหมด ดูบทความชีวิตสัตว์ทั้งหมด ดูบทความประวัติศาสตร์ทั้งหมด ดูบทความจัดอันดับทั้งหมด สารบัญบทความ


เล่าเรื่องสยองขวัญ ร้านเหล้าผี

เล่าเรื่องสยองขวัญ ร้านเหล้าผี


     

เรื่องราวและเหตุการณ์ทั้งหมดนั้น ต้องย้อนกลับไปตั้งแต่ต้นปี 2554 ก่อนที่จะเกิดน้ำท่วม

เพื่อนของผมได้เปิดร้านเหล้า เป็นคูหา 2 ห้อง ติดถนนแถวจรัญสนิทวงศ์ ทำเลนั้นเป็นช่วงทางโค้งพอดี ซึ่งเพื่อนของผมก็ได้เซ้งจากเจ้าของเดิมมาในราคาหนึ่ง

พอวันเปิดร้านวันแรก เพื่อนของผมที่เป็นเจ้าของร้าน ก็ได้ซื้อหวยเลขที่บ้าน เผอิญว่าถูก ก็ได้มีการจัดเลี้ยงกันยกใหญ่ ซึ่งก็มีเพื่อนคนหนึ่งพูดขึ้นมาว่า เฮ้ยมีเจ้าที่ดีนี่หว่า ต่อไปร้านนี้คนเที่ยวคงแน่น

พอเปิดร้านไปได้สักระยะ เข้าสู่เดือนที่ 2 เงียบมาก ตั้งแต่ต้นเดือน นี่ถึงกลางเดือนแล้ว เดือนที่แล้วยังพอมีลูกค้าเข้ามาบ้าง ทุกคนก็คิดกัน หรือว่าเราไม่ได้ไหว้อะไรหรือเปล่า เส้นเจ้าที่เจ้าทางอะไรประมาณนั้น

พอตกเย็นวันหนึ่ง เพื่อนก็ได้ฝากให้ผมช่วยมาเปิดร้านให้หน่อย เนื่องจากตัวเองนั้นจะไปซื้อของมาไหว้ ผมก็รับปากเพื่อน เดินทางไปที่ร้านตั้งแต่ประมาณบ่าย 3 โมง รอช่วงหัวค่ำ เพื่อที่จะเตรียมตัวเปิดร้าน วันนั้นผมไปคนเดียว ระหว่างที่กำลังเตรียมตัวเพื่อจะเปิดร้านอยู่นั้น ก็เริ่มจากเปิดเพลงในร้านแบบเบา ๆ ไฟในร้านนั้นก็ยังไม่ได้เปิด เนื่องจากแสงหน้าร้านก็ยังพอเพียงอยู่บ้าง

ในระหว่างที่กำลังเก็บโน้นเก็บนี่อยู่ภายในร้าน ผมก็บังเอิญได้ยินเสียงเหมือนกับคนกำลังปิดประตูห้องน้ำ ตอนนั้นก็สะดุ้งนิดหน่อย ได้แต่คิดว่าลมคงพัดมาล่ะมั้ง เนื่องจากตอนนั้นอยู่เพียงลำพังคนเดียว พอเพื่อนมาก็จัดแจงข้าวของต่าง ๆ แล้วก็เริ่มลงมือไหว้

พอไหว้เสร็จ เพื่อนที่เป็นเจ้าของร้านนั้นก็บอกว่า เดี๋ยวขอตัวไปอาบน้ำที่บ้านก่อน แล้วจะกลับมาเปลี่ยนเวรกัน เนื่องจากบ้านก็อยู่ไม่ไกลจากร้านนัก

ระหว่างที่กำลังนั่งรอเพื่อน ผมก็เปิดไฟในร้าน พร้อมบริการแล้ว นั่งเล่นอยู่สักพักหนึ่ง โทรศัพท์มือถือของผมก็ดังขึ้น เพื่อนเจ้าของร้านโทรมาถามว่า เฮ้ยลูกค้าเริ่มทยอยเข้าร้านแล้วหรอ น้ำเสียงของเพื่อนนั้นดีใจเอามาก ๆ ผมก็ถามว่าอะไรนะ ลูกค้าที่ไหน เพื่อนก็ยังพูดต่อว่าไม่ต้องมาอำกันเลย เดี๋ยวจะรีบกลับเข้าไปที่ร้าน

หลังจากวางสายโทรศัพท์ไปประมาณสัก 15 นาทีนิดหน่อย เพื่อนก็ขับรถเข้ามาจอดหน้าร้าน สีหน้านั้นไม่สบอารมณ์ เพื่อนที่เป็นเจ้าของร้านได้พูดขึ้นว่าทำไมต้องแกล้งกันด้วย รุ่นพี่ของเพื่อนผมนั้น โทรไปบอกว่าเฮ้ยร้านเองน่ะ ลูกค้ากำลังทยอยเดินเข้าร้านเต็มเลย อย่างกับแจกฟรี เพื่อนก็ได้โทรไปหารุ่นพี่คนนั้น แล้วก็ยืนยันว่ามีลูกค้าจริง ๆ หรือว่าแกล้ง

เรื่องของเรื่องก็คือตอนที่เพื่อนกลับบ้านไปอาบน้ำนั้น มีรุ่นพี่ของเพื่อนเจ้าของร้านนี้ล่ะ ขับรถผ่านหน้าร้าน เห็นคนเข้าเยอะ ก็เลยโทรไปถามเพื่อนว่าวันนี้ร้านขายดีจริง ๆ ว่ะ คนต่อคิวเข้าอย่างกับแจกฟรี แต่พอเพื่อนที่เป็นเจ้าของร้านรีบกลับมาที่ร้านนั้น ไม่มีแขกสักโต๊ะ ก็นึกว่ารุ่นพี่นั้นอำ แต่ว่ารุ่นพี่ก็ยังยืนยันว่าตอนขับรถผ่านนั้น มีคนเต็มหน้าร้านเลย กำลังต่อคิวเข้าร้านด้วยซ้ำ รุ่นพี่ก็พูดยืนยันว่าไม่ได้โกหก

หลังจากวางสายไป เพื่อนของผมก็ได้แต่เดินไปนั่งหน้าร้าน ไม่คุยกับใคร สักพักหนึ่งเพื่อนก็ลุกขึ้นหยิบธูปไปไหว้ที่หน้าร้านอีกครั้งหนึ่ง

เวลาผ่านไปประมาณสัก 4 ทุ่ม มีเพื่อนอีกคนหนึ่งนั่งรถผ่านหน้าร้านไป แล้วก็โทรศัพท์เข้ามาหาเพื่อนว่า ดีใจด้วยเลยเพื่อน นั่งรถผ่านมาเห็นลูกค้าเต็มร้าน แต่ว่าทำไมเอง 2 คนนั่งเฉย ไม่บริการลูกค้าเลย เพื่อนผมที่เป็นเจ้าของร้านได้ยินแบบนั้น ก็หันหน้ามาทางผมด้วยสีหน้าตกใจ แล้วก็พูดว่าเฮ้ยมีเพื่อนเราโทรมา เพิ่งผ่านร้านไป บอกว่ามีลูกค้านั่งอยู่ในร้านเต็มเลย

ผมได้ยินแค่นั้น ก็ถึงกับขนลุกทั้งตัว เนื่องจากตอนนั้นในร้านมีเพียงแค่ผมกับเพื่อนนั่งกันอยู่แค่ 2 คน ไม่มีลูกค้าสักโต๊ะ เรียกได้ว่าวันนี้ทั้งวัน มีคนที่รู้จักผ่านหน้าร้าน มองเห็นในร้านนั้นมีลูกค้าเต็มแทบทุกโต๊ะ สิ่งนี้ทำให้ผมกับเพื่อนเกิดอาการสงสัยและก็กลัวกันพอสมควร

เวลาผ่านไปประมาณสักเดือนกว่า ๆ ก็มีเด็กนักเรียนเทคโนมาแทงกันจนเสียชีวิตหน้าร้านคาที่ เรียกได้ว่ามีแต่เรื่องที่ไม่ค่อยดีนักเกิดขึ้นบริเวณร้าน จนเพื่อนตัดสินใจปิดร้านสักพักหนึ่ง เพื่อไปท่องเที่ยว

หลังจากนั้นพอกลับมา เพื่อนเจ้าของร้านนั้น ก็ได้นักร้องคนใหม่ประจำร้านเข้ามาด้วย แล้วก็มีอยู่วันหนึ่ง วันนั้นนักร้องคนนี้นั้นเมา แล้วเผอิญห้องน้ำในร้านเกิดเต็ม ตัวแกเองทไม่ไหว ก็เลยไปฉี่ข้าง ๆ กระถางธูป ที่เพื่อนนั้นเอาไว้ปักหน้าร้านนั่นเอง

หลังจากนั้นเป็นต้นมา ตัวเขาเอง รวมไปถึงที่ร้าน ก็มักจะพบเจอกับเรื่องราวร้าย ๆ ตลอดมา จนกระทั่งร้านต้องปิดตัวลงไปในที่สุด

ทุกวันนี้ผมและเพื่อนก็ยังคงหาคำตอบไม่ได้ว่า เพื่อนทั้ง 2 คนนั้น เห็นใครในร้าน รวมไปถึงตึกแถวแห่งนี้ได้เกิดอะไรขึ้นหรือไม่ หรือว่าผมและเพื่อนนั้นไหว้เจ้าที่ไม่ถูก ทุกอย่างยังคงไม่แน่ชัด แต่วันนี้คือเหตุการณ์จริงที่ผมกับเพื่อนได้ประสบมา

เรื่องราวทั้งหมดก็จบลงเพียงเท่านี้ ขอขอบคุณเจ้าของเรื่องร้านเหล้าผี จากเดอะช็อคสตอรี่

บทความแนะนำ

เล่าเรื่องสยองขวัญ นั่งซากหวาดผวา ศพล่อเสือ

เล่าเรื่องสยองขวัญ สยองกลางทุ่ง

เล่าเรื่องสยองขวัญ เพื่อนเล่าให้ฟัง

เล่าเรื่องสยองขวัญ ทำไมไม่บวชให้

เล่าเรื่องสยองขวัญ แถวนี้มีเยอะ

เล่าเรื่องสยองขวัญ 6 ปีไม่เคยลืม

เล่าเรื่องสยองขวัญ บ้านเก่า

เล่าเรื่องสยองขวัญ อยากลองจนเจอดี

เล่าเรื่องสยองขวัญ คุณแม่เล่าให้ฟัง

ตำนานผีญี่ปุ่น คาซาเนะ

ตำนานผีญี่ปุ่น บ้านแห่งจาน

ตำนานผีญี่ปุ่น ผีตระกูลเฮอิเคะ

ตำนานผีญี่ปุ่น กาซาโดคุโร


10 สายพันธุ์งูที่น่าทึ่ง 10 พฤติกรรมเมื่อคุณเบื่อแฟน 10 อันดับฆาตกรเด็ก 10 อันดับลายสักยันต์ยอดนิยมของคนไทย 10 อันดับสัตว์ผีดูดเลือด 10 อันดับสัตว์แปลกที่คนไทยนิยมเลี้ยงมากที่สุด แมงมุม 10 อันดับอาหารหม้อไฟของญี่ปุ่น 25 สถานที่ดำน้ำทั่วโลก


ดูบทความเมนูอาหารทั้งหมด ดูบทความภัยอันตรายทั้งหมด ดูบทความสุขภาพทั้งหมด ดูบทความวิทยาศาสตร์ทั้งหมด ดูบทความสยองขวัญทั้งหมด ดูบทความชีวิตสัตว์ทั้งหมด ดูบทความประวัติศาสตร์ทั้งหมด ดูบทความจัดอันดับทั้งหมด สารบัญบทความ


เล่าเรื่องสยองขวัญ แถวนี้มีเยอะ

เล่าเรื่องสยองขวัญ แถวนี้มีเยอะ


     

เรื่องราวและเหตุการณ์ทั้งหมดนั้น เป็นประสบการณ์ตรงของเหมียว เกิดขึ้นตั้งแต่ 3 – 4 ปีที่แล้ว

เดิมทีนั้นเหมียวทำงานอยู่ต่างประเทศ ปีปีหนึ่งจะได้กลับบ้านแค่ 1 เดือน ช่วงเดือนกรกฎาคมจะเป็นช่วงหน้าร้อนของแถบยุโรป ปีนั้นเหมียวก็กลับบ้านตามปกติ ช่วงเวลาระหว่างที่อยู่ประเทศไทย เหมียวก็จะอยู่ที่บ้านแฟน

บ้านของแฟนนั้น ตั้งอยู่ห่างจากอำเภอประมาณสัก 4 กิโลเมตร ทางเข้าบ้านจะเป็นถนนลูกรังอยู่ระหว่างถนนสายหลัก ที่ใช้ขับจากอำเภอนี้ไปอีกอำเภอหนึ่ง ความกว้างนั้น ทางเข้าแค่สำหรับรถกระบะวิ่งได้เพียงคันเดียว บริเวณทางเข้าบ้านจะเป็นคูคลองทั้ง 2 ฝั่ง ซ้ายและขวา พอเลี้ยวตัวรถเข้าทางบ้าน ฝั่งขวาจะเป็นที่ดินเปล่า มีต้นไม้แล้วก็หญ้าสูง ส่วนซ้ายมือนั้นจะเป็นบ่อขนาดใหญ่ มีรั้วลวดหนามกั้น

ปีนั้นเหมียวก็กลับไปเที่ยวบ้าน ด้วยความที่นาน ๆ จะได้กลับที ก็ออกเที่ยวแถบทุกวัน ยิ่งถ้าเป็นวันศุกร์หรือว่าวันเสาร์ จะไปเที่ยวผับอยู่ในอำเภอเมือง ก็ต้องใช้เวลาขับรถไปกลับประมาณสัก 20 – 30 นาที

วันที่เกิดเหตุ เหมียวก็ได้ไปเที่ยวกับเพื่อนตามปกติ ส่วนแฟนนั้นอยู่บ้าน ผับปิดประมาณสักตี 2 เหมียวกับเพื่อนก็แวะทานข้าวต้มก่อนกลับบ้าน พอเสร็จแล้วก็แวะส่งเพื่อน ๆ ตอนนั้นเวลาประมาณตี 3 กว่า ๆ ก็เหลือเหมียวเพียงลำพังขับรถกลับบ้านคนเดียว

ระหว่างทางก็มืดมาก ทางแบบต่างจังหวัดมันมืดอยู่แล้ว ส่วนทางเข้าบ้าน ถ้าเกิดไม่ใช่คนที่อยู่ในซอยนั้น ก็มักจะหาทางเข้าแทบไม่เจอ ดูผ่าน ๆ ก็เหมือนกับไม่น่าจะมีทางเข้าออกอยู่บริเวณนั้นได้ พอเลี้ยวรถลงจากถนนใหญ่ ก็จะต้องขับรถให้ช้ามาก ๆ แค่ปล่อยให้รถนั้นไหล แล้วก็คอยแต่เบรกเอาประมาณนั้นเลย

ทีนี้รถของเหมียวเนี่ยเป็นรถแบบเล็ก 5 ประตู เป็นเกียร์ออโต้ ตอนนั้นก็ปล่อยให้รถนั้นไหล คือไม่ได้เหยียบคันเร่ง แต่ว่ารถนั้นกลับไม่ไป หยุดอยู่กับที่ ตอนกแรกก็คิดว่าน่าจะมีหินติดอยู่ใต้ล้อ ก็เลยเหยียบคันเร่ง ไมล์อยู่หน้ารถนั้นขึ้นไปที่ 30 แต่ว่ารถก็ไม่ไป พักหนึ่งก็มีเสียงดัง ครืด ครืด ครืด อยู่บริเวณ 2 ฝั่งท้ายรถ เหมือนกับเลี้ยงเล็บแมวเวลากระโดดขึ้นรถนั่นล่ะ แต่ว่าเสียงนี้ดังกว่ามาก ตอนแรกดังมาจากบริเวณท้ายรถ

เหมียวมองกระจกข้าง กระจกหลัง ไม่เห็นอะไรเลย เนื่องจากข้างหลังมืดมาก ๆ ตอนนั้นก็ได้แต่คิดน่าจะเป็นพวกต้นไม้เล็ก ๆ ริมทางโดนรถอยู่ ก็เลยเหยียบเบรกให้มีไฟสีแดงขึ้นด้านหลัง พอมองกระจกข้างอีกที ปรากฏว่าก็ไม่มีต้นไม้ หรือว่ามีอะไรที่สามารถเกี่ยวโดยรถเอาไว้ได้เลย จึงตัดสินใจเหยียบคันเร่งขึ้นไปอีกถึง 50 ทีนี้รถเริ่มที่จะไหล ไหลแบบช้า ๆ พร้อมเสียงครืด ครืด ครืด อยู่บริเวณท้ายรถแล้วก็ข้างรถ ตอนนั้นจากที่ง่วง ๆ เริ่มตกใจว่ารถเป็นอะไรหรือเปล่า ก็เลยเร่งเครื่องอยู่ประมาณ 2 – 3 นาที รถก็เริ่มพุ่งตัวออกไปอย่างแรง เกือบจะตกบ่อข้างทาง ดีที่เบรกทัน

ตอนนั้นก็รีบขับรถกลับเข้าบ้าน พอจะเลี้ยวเข้าประตูบ้าน ก็เห็นน้าของแฟนซึ่งอยู่บ้านอีกหลังข้าง ๆ กัน มายืนรออยู่บริเวณหน้าต่าง ซึ่งก็จะเป็นปกติ น้านั้นชอบรอจนกว่าเหมียวจะกลับเข้าบ้านถึงจะไปนอน พอเหมียวขับรถเข้าที่จอดรถในบ้านได้ เปิดประตูรถลงมา ก็เริ่มได้ยินเสียงหมาหอนดังสนั่น แปลกใจมากที่ตอนอยู่ในรถนั้นไม่ได้ยินเลย เพลงในรถก็ไม่ได้เปิด พอลงไปยืนข้างรถ ก็ตะโกนถามกับน้าแฟนว่าทำไมยังไม่นอน รออีกทำไม น้าแฟนก็ตะโกนกลับมาว่า ถ้ากูนอนแล้ว มึงจะเข้าบ้านได้ไหมล่ะ เหมียวก็เลยบ่นเรื่องรถที่ติดอยู่เมื่อกี้ น้าบอกว่ารีบเข้าบ้านไปนอนเลย พรุ่งนี้ค่อยคุยกัน เหมียวก็เลยโอเค เดินกลับเข้าบ้านไปนอน

รุ่งเช้าพอตื่นมา ก็เดินไปดูที่รถ ทุกอย่างเป็นปกติ บริเวณหลังรถไม่มีรอยอะไรเลย ยายของแฟนเห็น ก็เลยเดินมาถามว่ารถเป็นอะไร เหมียวจึงเล่าทุกอย่างให้ยายได้ฟังเมื่อคืนนี้ ยายบอกว่าสมัยก่อนนานมาแล้ว มีรถลิเกเป็นรถบัสขนาดเล็ก ขนคณะลิเก ไม่ทราบว่าจะไปไหน แต่ว่ารถที่ว่านั้น ก็ได้มาเกิดอุบัติเหตุคว่ำอยู่บริเวณคูคลองตรงปากทางเข้าบ้านนี่ล่ะ เสียชีวิตเกือบทั้งคัน

ยายเล่าจบ เหมียวก็เริ่มตกใจ คิดในใจว่าอาจจะไม่ใช่ก็ได้มั้ง แต่ว่าตอนที่เกิดเหตุเมื่อคืนนี้ เหมือนกับมีใครพยายามมายื้อบริเวณท้ายรถเอาไว้ เหมือนกับตะกุย หรือไม่ก็ฉุดกระชากประมาณนั้นเลย

หลังจากนั้น เหมียวก็เจอน้าของแฟนมานั่งอยู่ข้าง ๆ รถ ซึ่งเป็นที่นั่งประจำของน้า น้าก็ทักว่าเป็นไงมึง เอาสักกูแทบไม่ได้นอนเลยนะ เหมียวก็ถามแล้วทำไมไม่นอน น้าบอกว่าหมาหอนเกรียวทั้งคืน ไม่ได้ยินเลยหรือไง เหมียวก็บอกว่าไม่นะ น้าสวนกลับมาว่าพอเองเข้าบ้านไป กำลังจะนอน หมาก็หอนหอนตลอด ยิ่งกว่านั้นยังได้ยินเสียงผู้หญิง มายืนร้องไห้อยู่ข้างบ้านอีกต่างหาก น้าบอกว่ากว่าจะหลับลงเกือบเช้า ตอนท้ายน้ายังบอกอีกว่า ถ้าเกิดยังไม่เข็ด คืนนี้ก็ออกแล้วกลับดึก ๆ อีกสิ น้าพูดแนวขู่ให้กลัว แต่ว่าในตอนนั้นเหมียวก็ไม่เกิดอาการกลัว

คืนนั้นก็เหมือนเดิมออกอีก แต่ว่าคราวนี้เพื่อนมารับ เนื่องจากตั้งใจจะดื่มสักนิดหน่อย คืนนั้นก็ไปนั่งกับเพื่อน จนถึงประมาณสักเที่ยงคืน ร้านอาหารก็ปิด เพื่อนก็ขับรถมอเตอร์ไซค์มาส่ง เนื่องจากทางเข้า ถ้าเกิดไม่ใช่คนในพื้นที่ ขับลงบ่อแน่ ๆ เพื่อนที่มาส่งนั้นมี 2 คน รวมตัวเหมียวด้วยก็เป็น 3 เหมียวนั่งหน้าสุด แต่ว่าไม่ได้เป็นคนขับ ถัดไปเป็นคนขับ แล้วก็คนซ้อนอยู่หลังสุด

ระหว่างทางก็คุยกันไป จนใกล้ถึง เหมียวก็บอกเพื่อนให้เตรียมตัวเบารถหน่อย จังหวะที่เจอทางเข้า แล้วกำลังจะข้ามฝั่ง ก็มีไฟรถที่อยู่อีกเลนส่องมาแบบไม่ไกลมากนัก เหมียวก็ด้วยสัญชาตญาณจะเลี้ยว เลยเหลือบมองกระจกหลัง ปรากฏว่าเห็นใครสักคนเอาหน้าเกยไหล่เพื่อนที่นั่งหลังสุดอยู่ แต่ว่าเพื่อนนั้นหันหน้าไปอีกฝั่งหนึ่ง ตอนนั้นเหมียวตกใจมาก เนื่องจากภาพที่เห็นนั้น มีแต่หัว แต่ว่าไม่เห็นตัว หน้าด้านหลังของเพื่อนนั้น เป็นหน้าซีด ๆ กำลังจ้องมองมาทางกระจกที่เหมียวมองไปพอดี เหมียวตกใจร้องเฮ้ย หันหน้าหลบ จนรถมอเตอร์ไซค์เกือบล้ม เพื่อนต้องดุไว้ให้นั่งนิ่ง ๆ

หลังจากที่เพื่อนส่งเหมียวถึงบ้านแล้ว เหมียวก็กลัวจนไม่กล้าจะพูดอะไรออกไป ได้แต่บอกกับเพื่อนว่าถ้าเกิดถึงบ้าน ให้ส่งข้อความบอกบ้างนะ เนื่องจากเป็นห่วง แล้วเพื่อนก็ถึงบ้านด้วยดี โดยที่ไม่เจอเหตุการณ์แปลกอะไร ตั้งแต่นั้นมา เหมียวก็ไม่ค่อยกลับบ้านดึกอีกเลย

ตอนหลังได้มาคุยกับญาติ ๆ ของแฟน เขาก็บอกกันว่าตั้งแต่อยู่แถวนั้นมา ช่วงกลางวันเนี่ยพอมีรถวิ่ง แต่ตกดึกนั้น ชาวบ้านบริเวณนั้นแทบจะไม่ผ่านสัญจรกันด้วยซ้ำ แล้วก็ยังบอกตามหลังมาว่าแถวเนี้ยมีเยอะ

ขอขอบคุณคุณเหมียว เดอะช็อคสตอรี่

บทความแนะนำ

เล่าเรื่องสยองขวัญ นั่งซากหวาดผวา ศพล่อเสือ

เล่าเรื่องสยองขวัญ สยองกลางทุ่ง

เล่าเรื่องสยองขวัญ เพื่อนเล่าให้ฟัง

เล่าเรื่องสยองขวัญ ทำไมไม่บวชให้

เล่าเรื่องสยองขวัญ ร้านเหล้าผี

เล่าเรื่องสยองขวัญ 6 ปีไม่เคยลืม

เล่าเรื่องสยองขวัญ บ้านเก่า

เล่าเรื่องสยองขวัญ อยากลองจนเจอดี

เล่าเรื่องสยองขวัญ คุณแม่เล่าให้ฟัง

ตำนานผีญี่ปุ่น คาซาเนะ

ตำนานผีญี่ปุ่น บ้านแห่งจาน

ตำนานผีญี่ปุ่น ผีตระกูลเฮอิเคะ

ตำนานผีญี่ปุ่น กาซาโดคุโร


10 อันดับฆาตกรเด็ก 25 แม่น้ำที่ยาวที่สุดในโลก การพบเห็นมนุษย์ต่างดาวในประวัติศาสตร์ โจน ออฟ อาร์ค วีรสตรีที่โลกไม่เคยลืม โรคกระดูกพรุนป้องกันได้ ประโยชน์จากใบเตย 8 สิ่งที่คุณควรต้องทำเมื่อไปนิวยอร์ค 10 วิธีขาวใสไม่พึ่งกลูต้าไธโอน


ดูบทความเมนูอาหารทั้งหมด ดูบทความภัยอันตรายทั้งหมด ดูบทความสุขภาพทั้งหมด ดูบทความวิทยาศาสตร์ทั้งหมด ดูบทความสยองขวัญทั้งหมด ดูบทความชีวิตสัตว์ทั้งหมด ดูบทความประวัติศาสตร์ทั้งหมด ดูบทความจัดอันดับทั้งหมด สารบัญบทความ


Popular Posts