เล่าเรื่องสยองขวัญ ผีปอบที่วัดป่า
ก็คือเริ่มแรกเลยนะคะ คือหนู หนูไปบวชที่วัดนั้นค่ะ คือบวช คือบวช บวชโกนหัวเลยค่ะ บวชวัด
เป็นลักษณะไม่ใช่บวชชีพราหมณ์ใช่ไหม อันนี้คือบวชชีเลย
ช่วงนั้นดวงตกด้วยค่ะ ก็เลยไปบวช
แล้วทีเนี้ยวัดเนี่ยนะคะ เป็นคล้าย ๆ สำนักชีน่ะค่ะ คือมันเป็นวัดป่าที่แบบไม่มีไฟทางนะคะ คือ เอ่อ จะมีเฉพาะที่กุฏิ หรือไม่ก็ที่ศาลาอย่างเนี้ยค่ะ
เวลา เวลาที่เดินทางในวัดนะคะ ในวัดที่เดินจากกุฏิไปศาลาก็ต้องใช้ไฟฉายอย่างเนี้ยค่ะ คือวัดมันกว้างมาก และมันมืดมาก คือน่ากลัวพอสมควรน่ะค่ะ
แล้ววัดนี้มีแม่ชีอยู่ 3 คน แล้วก็มีพระอยู่ 2 คน ที่มาจำพรรษาน่ะค่ะ
แล้วคือแม่ชีอีก 2 คน ก็คือท่านอายุประมาณจะ 80 แล้วค่ะ รวมกับหนูก็เป็น 3 แล้วแม่ชีที่เป็นคนเฝ้าวัดนี้เลย คือท่านท่านบวชนานแล้วค่ะ ทำให้มีคนนับถือท่านเยอะมากค่ะ
เวลาที่มีคนที่ผีเข้า หรือของเข้า ก็จะมา จะมาแก้ที่ท่านอย่างเนี้ยค่ะ
ค่ะแล้วก็มีอยู่ case หนึ่ง ก็คือคนเนี้ยเขาทำพวกเสน่ห์ อาจจะทำหลายอย่างน่ะค่ะ ทั้งตักของใส่ตัว ทั้งอะไรหลายอย่างมากเลยน่ะค่ะ เป็นมหาเสน่ห์อะไรอย่างเนี้ยค่ะ ก็เลยเขารักษาไม่ได้
คือถ้าเป็นทางภาคอีสาน เขาก็จะเรียกว่าขลำไม่อยู่อย่างเนี้ยค่ะ มันจะมีข้อที่ว่าห้าม แล้วเขา เขาห้ามไม่ได้อย่างเนี้ยค่ะ
แล้วคือเขา เขารักษากฎไม่ได้ แล้วเขาก็เลย เอ่อ มีอาการเหมือน นอนบางทีก็ไม่เป็นตัวของตัวเองอย่างเนี้ยค่ะ
แล้วเขาก็เลย ตอนแรกยังไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร ไปรักษาทุกหมอ ไปอะไรก็ไม่หายอย่างเนี้ยค่ะ ก็เลยมารักษาที่คุณแม่ชีที่วัดนี้ ที่หนูได้บวชอยู่น่ะค่ะ
แล้วคุณแม่ชีเขาก็เลยถามว่าได้ไปทำอะไรมาไหม เขาบอกว่าไปทำสักโน่นสักนี่ ลงน้ำมัน ลงอะไรอย่างเนี้ยค่ะ แล้วก็เลยยังไม่แน่ใจว่าของมันเข้าตัว
คือตอนแรกคุณแม่ชียังไม่ทราบเลยค่ะ กำลังหาสาเหตุอยู่ ก็เลยให้พักอยู่ที่วัดนี้ค่ะ
แล้ววัดนี้กุฏิน้อย เพราะว่าพระ เอ่อ พระน้อย ชีพระ อะไรอย่างเนี้ยค่ะ น้อยคนค่ะ ก็เลยให้พักอยู่ในกุฏิกับหนูน่ะค่ะ แล้วเป็นกุฏิ เป็นกุฏิไม้ คือเท่ากับว่านอนต้องนอนกับหนูน่ะค่ะ
แล้วกุฏิน่ะ แต่ละกุฏิมันห่างกันมาก ๆ เลยค่ะ
ค่ะแล้วคือพอมานอน เขาก็เหมือนคนปกติเลยนะคะ พูด ยิ้มแย้มแจ่มใส พูดการศึกษาโน่นนี่นั่น หนูก็ยังไม่คิดว่าเขาจะเป็นอะไรอย่างเนี้ยค่ะ
กุฏิก็เป็น 2 ชั้น เป็นข้างล่างปูน ห้องน้ำ ข้างบนเป็นไม้ค่ะ
แล้วตอนนอนคืนแรกนี้ ยังไม่มีอะไร
แล้วหนูรู้สึกว่ากุฏิมัน มันสั่นน่ะค่ะ กุฏิมันดังตุ้มอย่างนี้ค่ะ เหมือน ๆ มีคนกระโดดบนกุฏิอย่างเนี้ยค่ะ
ค่ะ แล้วหนูก็เลยตื่นขึ้นมา ก็หันไป หันพลิกตัวหันไปดูเขาอย่างเนี้ยค่ะว่า มันเกิดอะไรขึ้น ก็ยังยังปกตินะคะ ยังไม่มีอะไร คือเขาก็นอนอยู่
หนูก็เลย เอ๊ะเสียงอะไร เสียงอะไร มันทำ หรือว่าฝันไปเองอะไรอย่างเนี้ยค่ะ
ก็เลย ก็เลยไม่ได้คิดอะไร อันนี้คือวันแรกนะคะ
แล้ววันที่ 2 น่ะค่ะ หนูก็เลย เป็นเหมือนเดิมเลย มันดังตุ้มอีกค่ะ
หนูก็เลยหันไปมองเขา เขาก็ลืมตานะคะ นอนตะแคงมาทางหนูน่ะค่ะ แล้วก็มองหนู แล้วเขาก็หลับไปอีกค่ะ
หนูก็เลยเริ่มสงสัยแล้วว่ามันคืออะไร
พอเช้ามา หนูก็เลยไปปรึกษาคุณยายอีกทีน่ะค่ะ ค่ะท่านก็เลย ท่านก็เลยบอกว่าถ้ามันเป็นอย่างนี้นะ ท่านให้ไปเตรียมใบพลู ไปเด็ดใบพลู คือหลังกุฏิหนู มันมีใบพลู มี เอ่อ ต้นพลูปลูกไว้น่ะค่ะ ค่ะก็เลยไปเด็ดมาหลายใบเลยค่ะ แบบเผื่อไว้ค่ะ ก็เลย แล้วก็ไปเตรียมไข่มาอีก 3 ฟองค่ะ ไปตักน้ำใส่ถัง เป็นถังเขาหิ้วได้น่ะค่ะ คือทั้งหมดนี้ หนูเตรียมเองหมดเลยนะคะ ไม่มีการเตรียมการอะไรค่ะ
แล้วท่านก็เลยไปเรียกคนทางวัด คือพระกับชีมา แล้วก็เรียกคนหนึ่งที่เป็นคนเนี้ยค่ะ ที่มากับหนู มาด้วย
แล้วคุณยายชีก็เลยบอกว่า เอ่อ เดี๋ยวจะเอาของออกให้นะ เจ็บตรงไหนไหมอะไรอย่างเนี้ยค่ะ คุณยาย
เอ่อ เขาก็เลยบอกคุณยายชีว่าเจ็บตรงคอค่ะ
คุณยายชีเขาก็เลยเอาใบพลูน่ะค่ะแปะไว้ตรงคอเขา แล้วก็เอาไข่หนึ่งฟองน่ะค่ะ มาลูบ ๆ ตรงใบพลูที่แปะไว้น่ะค่ะ
ค่ะ แล้วก็คุณยายชีเขาก็ท่องอะไรก็ไม่ทราบนะคะ คือเหมือนเขาพรึมพรัม ๆ เนี้ยค่ะ
พอท่องเสร็จใช่ไหมคะ คือเขาแบ แบใบพลูออกมาน่ะ หนูเห็นเป็น เป็นเนี่ย ครั้งแรกค่ะ หนูเห็นเป็น เป็นเข็ม เป็นเข็มหัวสีชมพู เข็มหมุดน่ะค่ะ
ค่ะ แล้วเขาก็ทิ้งลงน้ำที่หนูเตรียมมาค่ะ คือหนูตกใจมาก ตั้งแต่หนูเกิดมาหนูยังไม่เคยเจอเลย แบบเคยได้ยินคนเล่าอะไรอย่างนี้ค่ะ แต่หนูไม่เชื่อเลยเรื่องอย่างเนี้ย จนหนูมาเจอกับตัวเอง
คือหนูอะไรของทุกอย่างหนูเตรียมมาเองอย่างเนี้ย มันไม่น่าที่จะเตรียมคนเดียวได้อะไรอย่างเนี้ยค่ะ ก็มีลูกน้องอะไรอย่างนี้ใช่ไหม แต่หนูเตรียมมาเองอย่างเนี้ยค่ะ
โอ้โห อะไรเนี้ย หนูก็ตกใจมากเลย เขาก็เลยทิ้งลงน้ำ เขาบอกอันเนี้ยหรอที่มาปักคออยู่
แล้วผู้หญิงคนนั้นน่ะค่ะเขาก็บอกว่าใช่ค่ะ เพราะว่าตอนที่หนูป่วยน่ะ เริ่มเป็นแรก ๆ หนูไป ไปรักษากับวัดแห่งหนึ่งเหมือนกัน แต่วัดแห่งเนี้ยเป็นพระ แล้วพระพระองค์เนี้ยเหมือนไม่ค่อยมีศีลน่ะค่ะ แล้วเหมือนว่าจะมาเจ๊าะแจ๊ะน่ะค่ะ
แล้วพี่เขาไม่เล่นด้วย เขาก็เลยขอเส้นผมพี่เขาไปน่ะค่ะ แล้วก็ไปม้วนอยู่กับหุ่น แล้วก็เอาเข็มเนี้ยปักไว้ตรงคอค่ะ
เวลาจะอาบน้ำอย่างเนี้ย พี่เขาได้กลิ่นเหมือนเป็นกลิ่นพระองค์นั้นอะไรอย่างเนี้ยค่ะ แล้วเขาก็เลยไม่กล้าอาบเลย ต้องนุ่งผ้าถุงอาบตลอดอย่างเนี้ยค่ะ
บอก อ๋อ แสดงว่าคนนี้เขาทำใส่นะ เขาบอกอย่างเนี้ยค่ะ
แล้วพอครั้งที่ 2 เขาก็ไล่ลงมาเรื่อย ๆ ยันหลังเลยนะคะ ก็เอา เอ่อ คือทำเหมือนเดิมน่ะค่ะ เอาใบพลูแปะ แล้วก็เอาไข่ลูบ ๆ ข้างนอก
ครั้งที่ 2 ออกมาเป็นเส้นผมน่ะค่ะ เป็นปลายเส้นผมเล็ก ๆ เยอะมากเลยค่ะ ออกมากับใบพลู เขาบอกว่าเป็นเส้นผมผีตายโหงไปทำอะไรมานักหนาเนี่ย คุณยายเขาก็ เขาก็เหมือนตกใจด้วยน่ะค่ะ
พอทำมาอีกครั้งเรื่อย ๆ ก็จะเป็น เป็น เอ่อ เป็นน้ำมันบ้างน่ะค่ะ เป็นน้ำมันติดใบพลูมา แล้วก็เป็นสะเก็ดปูน สะเก็ด สะเก็ดหิน อย่างเนี้ยค่ะ
แต่ออกมา แล้วลงน้ำ เราจะเห็นได้เลยว่าน้ำมันขุ่นมาก ๆ
จนลงมาจนบั้นท้ายน่ะค่ะ เป็นเลือดทะลักออกมาจากตัวพี่เขาเลยค่ะ
พี่เขาตกใจเหมือนกันค่ะ บอกมันเลือดอะไรยังไงอย่างเนี้ยค่ะ แบบพุ่งออกมาอย่างเนี้ยเลย ก็เลยโอ้โหทำอะไรมาหนักหนา
แล้วคุณยายเขาก็บอกว่ารู้แล้วว่าเป็นอะไร อืม เนี้ยเหมือนกับว่าของ ของที่เขาทำมามันเข้าตัวเขาอย่างเนี้ยค่ะ ก็ทำให้เขาเหมือนเริ่มจะเป็นปอบน่ะค่ะ น่าจะเรียกปอบน่ะค่ะ แล้วก็คือมันรักษาไม่หายแล้วค่ะ คือมันเป็นทั้งตัวแล้ว
แล้วก็หนูก็เล่าให้คุณยายฟังนะคะ คือหนูก็สงสารเขาน่ะค่ะ เขาก็พยายามเข้าไปปลอบใจเขาอย่างเนี้ย แต่พอหนูโดนตัวเขาปุ๊บ หนูรู้สึกอ่อนแรงเลยน่ะค่ะ เหมือนแบบอยู่ดี ๆ ก็วูบ ไม่มีแรงเลยอย่างเนี้ยค่ะ
คุณยายบอกว่าอย่าไปโดนตัวเขานะ มันเหมือนกับว่ามันจะเอาแสงยิงได้นะ ยิ่งคนดวงตกอย่างเนี้ย แล้วไปนอนกับเขาอย่างเนี้ย
คุณยายเขาก็เลยเอาน้ำมนต์เนี้ยค่ะ เอาน้ำมนต์ให้กิน
คุณยายบอกว่าเนี่ย 2 วันที่ผ่านมาก็สังเกตอยู่นะ คือที่กุฏิอย่างเนี้ยค่ะ บางทีก็สังกะสีกุฏิอย่างเนี้ยค่ะ มันเขย่าน่ะค่ะ คือที่ที่ท่านสังเกตนะคะ ท่านไม่พูดอะไรที่ผ่านมา เพิ่งจะมาพูดวันนี้ คือสังกะสีมันเขย่า ท่านก็ไม่คิดว่าจะมาจากคนเนี้ยค่ะ แล้วก็มาวิ่งทั่ววัดอย่างเนี้ย
คุณยายบอกว่าเขาไม่น่าจะรู้ตัวนะคะ กลางวันมันก็ปกตินะคะ เขาบอกว่าคือมันเป็นช่วงคืนแรก ๆ น่ะค่ะ ก็เลยยังไม่ ยังไม่รู้ตัวเท่าไหร่ แต่ถ้าเกิดเริ่มกินเยอะไปกว่าเนี้ย ก็อาจจะเริ่มรู้ตัวแล้วว่าตัวเองเป็นอย่างเนี้ย
เขาก็ร้องห่มร้องไห้เลยว่า แก้ไม่ได้หรอคะคุณยายอะไรอย่างเนี้ย คุณยายก็บอกว่ามันแก้ไม่ได้แล้ว เพราะว่ามันเริ่มกินแล้วค่ะ มันเริ่มเป็นแล้ว ถ้าก่อนจะเป็นนี้ ยังพอจะแก้ได้อะไรได้ค่ะ
พี่เขาบอกว่าตอนที่เขาทำมาแรก ๆ นะคะ คือไปมีแฟนคนไหนเนี่ย คือเขารักมากเลย ถึงขั้นกับเอาปืนมายิงกัน จนเขาต้องหลบกระสุนน่ะค่ะ
หนูเจออย่างนี้ แล้วหนู หนูอยากจะบอกทุกคนที่ฟังอยู่นะคะว่า อย่าไปทำ อย่าไปยุ่งเกี่ยวกับของอย่างนี้เลยค่ะ มันไม่คุ้มค่ะ
คือหนูเห็นกับตา แล้วพี่เขาบอกว่า เอ่อ ถ้าย้อนเวลาไปได้ ก็ไม่อยากจะทำอย่างเนี้ยค่ะ คือมันสายไปแล้วน่ะค่ะ
แล้วผลสุดท้ายคุณก็ต้องรับผลและกรรมที่คุณได้ทำไป ซึ่งแน่นอนว่ามันจบไม่สวยแน่นอน